อังคารบ้านเราที่ผ่านมา กูเกิลออกแพตช์ความปลอดภัย Android ประจำเดือนกันยายน 2018 แพตช์รอบนี้เป็นแบบตามปกติมี 2 ชุด ได้แก่ชุด 1 ก.ย. สำหรับพาร์ทเนอร์ที่ต้องการอุดช่องโหว่ก่อน ชุด 5 ก.ย. ที่เป็นแพตช์ชุดสมบูรณ์ (แพตช์ตัวนี้จะรวมเอาแพตช์ 1 ก.ย. มาด้วย)

สำหรับแพตช์ 1 ก.ย. แก้ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย 24 จุด (CVE) เป็นระดับร้ายแรง (critical) 5 จุด ซึ่งรอบนี้เป็นเรื่องการได้สิทธิ์ (permission) โดยไม่ได้รับอนุญาต 3 จุด และเป็นเรื่องของ Mediaserver เจ้าเก่า 2 จุด ส่วนแพตช์ 5 ก.ย. แก้เพิ่มอีก 35 จุด ส่วนใหญ่แก้ปัญหาช่องโหว่บนไดรเวอร์ของผู้ผลิตฮาร์ดแวร์อย่าง Qualcomm โดยในจำนวนนี้มีระดับร้ายแรงถึง 6 จุด

จากที่เคยมีข่าวมาตั้งแต่ต้นปี วันนี้ YouTube บนแอนดรอยด์เพิ่มฟีเจอร์ Dark Theme เข้ามาอย่างเป็นทางการแล้ว

การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดที่หลังบ้านของ YouTube ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องอัพเดตแอปใดๆ โดยบางคนอาจได้รับการแจ้งเตือนให้ทดสอบ Dark Theme ขณะที่ใครอยากลองสามารถเข้าไปได้ที่ Setting > General > Dark Theme

ที่มา - XDA

ผ่านไปราว 1 เดือนหลังเปิดตัว Android Pie ซึ่งนอกเหนือจาก Pixel แล้วมีเพียง Essential Phone เท่านั้นที่ได้ ล่าสุดผู้ใช้ OnePlus 6 เป็นกลุ่มล่าสุดที่ได้สัมผัส Android เวอร์ชันใหม่แล้ว แต่ยังอยู่ในรูปของ Public Beta

ก่อนหน้านี้ OnePlus ทดสอบผ่านโครงการ Developer Program ก่อนที่ล่าสุดจะเปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปทดสอบ โดยทาง OnePlus ระบุว่าบางแอปอาจมีปัญหาบ้างกับเวอร์ชันเบต้า รวมถึง Google Pay จะใช้งานไม่ได้และ Google Play Store อาจขึ้นเตือนว่า Device is not Certified by Google

โมโตโรลาเคยเปิดตัวสมาร์ทโฟน Android One ไปแล้วในรุ่น Moto X4 ซึ่งเอ็กคลูซีฟเฉพาะในสหรัฐผ่าน Project Fi ล่าสุดโมโตโรลาเปิดตัว Android One อีก 2 รุ่น พร้อมตั้งชื่อเป็น Motorola One และ Motorola One Power หลังใช้เพียง Moto มาตลอด

Motorola One Power เป็นรุ่นท็อปกว่า หน้าจอขนาด 6.2 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (1080 x 2246) แพแนลเป็น LCD ชิปเซ็ต Snapdragon 636 จีพียู Adreno 509 แรม 4GB ความจุ 64GB พร้อมรองรับ microSD กล้องหลัง 16+5 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 12 ล้านพิกเซล รองรับ Wi-Fi 802.11ac, บลูทูธ 5.0, USB 2.0 Type-C แบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับ TurboPower Charging แอนดรอยด์ 8.1 Oreo ราคา 299 ยูโร (ราว 12,000 บาท)

นอกจากโน้ตบุ๊กตระกูล Yoga รุ่นใหม่ทั้งสี่รุ่นแล้ว Lenovo ยังเปิดตัว Chromebook C330 และ Chromebook S330 หน้าจอระบบสัมผัส, รัน ChromeOS และใช้ชิป MediaTek ทั้งสองรุ่น

ชื่อของ BlackBerry ไม่ได้เงียบหายไปไหน ยังทยอยเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่อยู่เรื่อยๆ โดยล่าสุด BlackBerry เปิดตัว BlackBerry KEY2 LE ที่ยังชูจุดเด่นของตัวเองด้วยแป้นพิมพ์ QWERTY บนตัวเครื่อง แต่สเปกถูกลดลงมาจากรุ่น KEY2 พร้อมกับราคาที่ถูกลง

นโยบายของ Fortnite for Android ที่ไม่ให้ดาวน์โหลดผ่าน Play Store สร้างความกังวลในแง่ความปลอดภัย และล่าสุดก็มีคนค้นพบช่องโหว่ของตัวติดตั้ง Fortnite for Android แถมคนค้นพบก็คือ... กูเกิล

วิศวกรของกูเกิลลองดาวน์โหลด Fortnite Installer จากเว็บไซต์ของ Epic Games และพบว่าตัวติดตั้งดาวน์โหลดไฟล์ APK ของตัวเกมจริงมาไว้ที่ external storage ก่อน จากนั้นค่อยติดตั้งตัวเกมลงในระบบอีกทีหนึ่ง

ปัญหาคือแอพที่สามารถเข้าถึง external storage ได้สามารถสับเปลี่ยนหรือแก้ไขไฟล์ APK ได้ก่อนที่ Installer จะติดตั้งตัวเกม เปิดช่องให้เกิดการโจมตีได้

Scott Huffman รองประธานฝ่ายวิศวกรรมที่ดูแล Google Assistant ได้โพสต์ข้อมูล Insights เกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้งาน Google Assistant ของผู้ใช้ โดยในภาพรวมคือคำสั่งจะอยู่ในรูปแบบของการสั่งงาน (action) มากกว่าการเสิร์ชหรือถามข้อมูล

นอกจากนี้การสั่งงานหรือค้นหาบน Google Assistant มักจะมีรายละเอียดและเป็นบทสนทนา (conversational) มากกว่าเวลาผู้ใช้ค้นหาเองผ่าน Google เช่นเรามักจะถาม what’s the weather today in Chicago at 3pm ขณะที่เวลาเสิร์ชด้วยการพิมพ์ เรามักจะพิมพ์แค่ Chicago weather เท่านั้น

หลังการเปิดตัว Android Pie ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนหลายๆ เจ้าก็เริ่มทยอยอัพเดตรายชื่อสมาร์ทโฟนที่ได้ไปต่อหรือช่วงเวลาที่จะเริ่มปล่อยอัพเดต โดยตอนนี้ในกลุ่มสมาร์ทโฟนที่ได้ทดสอบเวอร์ชันเบต้าพร้อม Pixel มีเพียง Essential Phone เท่านั้นที่ปล่อย Android Pie ไปแล้ว

ล่าสุด Nokia 7 Plus ที่เคยได้ทดสอบเวอร์ชันเบต้ากำลังจะได้รับอัพเดตตามมา เมื่อ HMD Global ประกาศว่าจะอัพเดตให้ในช่วงเดือนกันยายนนี้ ช่วงเวลาอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละประเทศ ส่วนรุ่นอื่นๆ คาดว่าน่าจะทยอยได้รับอัพเดตตามกันมาเรื่อยๆ

วันนี้ HMD Global จัดงานเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่อินเดีย 2 รุ่นได้แก่ Nokia 6.1 Plus และ Nokia 5.1 Plus โดยทั้งสองรุ่นยังคงตามเทรนด์คือกล้องคู่และหน้าจอแหว่ง อยู่ในโครงการ Android One เหมือนรุ่นอื่นๆ และเริ่มวางขายในอินเดียก่อน

Nokia 6.1 Plus มาพร้อมหน้าจอ 5.8 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2280x1080) อัตราส่วน 19:9 ชิปเซ็ต Snapdragon 636 แรม 4GB ความจุ 64GB รองรับ microSD กล้องหลังคู่ 16+5 ล้านพิกเซล กล้องเสริมเป็นกล้อง Monochrome กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล พอร์ท USB-C 2.0 แบตเตอรี่ 3,060 mAh มีพอร์ทหูฟัง รัน Android 8.1 ราคา 15,999 รูปี (ราว 7,500 บาท)

หลังจากที่ปล่อย Android 9 Pie ได้ไม่นานก็เริ่มมีแบรนด์ต่างๆออกมาประกาศมือถือในแบรนด์ตัวเองที่ได้ไปต่อโดยในตอนนี้มี Essential, HTC และ Motorola ที่ประกาศออกมาเป็นทางการ

ถึงคิวของโซนี่ที่ประกาศรุ่นที่จะได้อัพเดตเป็น Android 9 Pie และเป็นแบรนด์ที่ 4 ที่ประกาศออกมาในตอนนี้

Google กำลังปรับปรุง Android เพื่อให้รองรับการจับคู่ใช้งานเครื่องช่วยฟังเข้ากับอุปกรณ์ที่รัน Android ได้ โดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องลงแอพใดๆ เพิ่มเติมสำหรับการใช้งาน

ถึงแม้ว่าหน้าตาและการใช้งานเครื่องช่วยฟังจะละม้ายคล้ายกับหูฟังบลูทูธที่หลายคนคุ้นเคยใช้งานกันเป็นประจำ และการจับคู่หูฟังบลูทูธกับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตจะเป็นเรื่องสะดวกทำง่าย แต่สำหรับผู้ใช้เครื่องช่วยฟังแล้ว เท่าที่ผ่านมายังไม่สามารถเชื่อมต่อเครื่องช่วยฟังเข้ากับระบบ Android ได้โดยตรงและจำเป็นต้องลงแอพที่ผู้ผลิตสร้างมาสำหรับรันบน Android มาช่วยในการใช้งานโดยเฉพาะ แม้ว่าระบบปฏิบัติการ iOS จะรองรับเรื่องนี้มานานแล้วก็ตาม

ในประกาศ Android Pie (Go Edition) กูเกิลยังเผยสถิติของสินค้าที่ใช้ Android Go ว่ามีมากกว่า 200 รุ่น วางขายใน 120 ประเทศทั่วโลก

เกือบทั้งหมดของมือถือ Android Go ที่กูเกิลยกตัวอย่างมา เป็นยี่ห้อในประเทศกำลังพัฒนาที่เราอาจไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน (มีเพียง Nokia 1 เท่านั้นที่ขายในไทย) เช่น Lava, Itel, Mobicell, Symphony, Cherry Mobile, Advan, Blackview, Micromax, Doogee, Starlight เป็นต้น ส่วนราคาขายก็มีตั้งแต่ 30 ดอลลาร์หรือประมาณ 1,000 บาทเท่านั้น

หลัง Android Pie ถูกปล่อยตัวเต็มออกมาเมื่อสัปดาห์ก่อน ก็ถึงคราวน้องเล็กในเวอร์ชัน Go Edition สำหรับสมาร์ทโฟนราคาถูกแล้วว

ด้วยความเป็น Go Edition การเปลี่ยนแปลงจึงมีไม่มากนัก เพราะถูกปรับลดฟีเจอร์ลงเพื่อให้เหมาะสมกับสมาร์ทโฟนแรม 1GB โดยการเปลี่ยนแปลงหลักๆ คือเวอร์ชันนี้จะใช้พื้นที่ในเครื่องน้อยกว่า Android Oreo (Go Edition) อยู่ 500MB ซึ่งค่อนข้างมากสำหรับสมาร์ทโฟนราคาถูก, เวลาบูตเร็วขึ้น, มีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยมากขึ้นอย่าง Verified Boot และแดชบอร์ดสำหรับแสดงผลและติดตามข้อมูลการใช้งานอินเทอร์เน็ตดาต้า

Google บอกว่าสมาร์ทโฟน Android 9 Pie (Go Edition) เครื่องแรกจะวางจำหน่ายภายในฤดูใบไม้ร่วงนี้ (ไม่เกินเดือนพฤศจิกายน)

Motorola เปิดตัวสมาร์ทโฟนระดับกลางซีรีส์ใหม่ Moto P30 ใช้ดีไซน์ยอดนิยม ด้วยหน้าจอที่มากับรอยแหว่ง, กล้องหลังคู่แนวตั้ง พร้อมสีใหม่ Aurora ที่ใช้การไล่เฉดสีฟ้าไปสีม่วง คล้าย Huawei P20

ก่อนหน้านี้เราเห็นข่าวบริษัทด้านอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่ 2 เจ้าแสดงความเป็นห่วงการติดสมาร์ทโฟน/แอปของผู้ใช้ในเวลาไล่ๆ กัน อย่างเฟซบุ๊กที่เปิดตัวฟีเจอร์บอกเวลาที่เราใช้งานแอปและแจ้งเตือนเมื่อใช้เกินลิมิต, ฟีเจอร์ Digital Wellbeing บนแอนดรอยด์จาก Google และ YouTube

ด้วยความที่ Digital Wellbeing เป็นฟีเจอร์บนแอนดรอยด์ที่ในอนาคตน่าจะได้ใช้กัน รวมถึงเป็นตัวช่วยแจ้งเตือนและควบคุมการใช้งานมือถือในภาพรวม ไม่ใช่แค่แอปหนึ่งๆ ประกอบกับเริ่มเปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปทดสอบเวอร์ชันเบต้าแล้ว เลยอยากจะขอเขียนถึงสักเล็กน้อยครับ

หลังจากที่ Android 9.0 Pie ได้ปล่อยออกมาเมื่อตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมาแล้ว ในตอนนี้มี Essential ได้ประกาศเป็นค่ายแรกที่มาพร้อมกับ Pixel จนกระทั้งในวันนี้ก็ได้มีการประกาศจาก HTC ถึงรุ่นที่จะได้ Android 9.0 Pie ผ่านทางทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการของ HTC นับว่าเป็นค่ายที่สองที่ประกาศชื่อรุ่นที่จะได้ไปต่อ

โดยในรุ่นที่จะได้กิน Pie จะมีรุ่น HTC U12+, HTC U11+, HTC U11 และ HTC U11 Life

สิ่งที่น่าสนใจคือรุ่น HTC U Ultra กับ HTC U Play ต่างมีอายุไม่เกิน 2 ปีแต่กลับไม่อยู่ในลิสต์ที่ได้รับการอัพเดต และ HTC Desire 12 ที่มีอายุแค่ 5 เดือนกลับก็ไม่อยู่ในรายการที่ได้รับ Android 9.0 Pie เช่นกัน

ตรงตามข่าวลือก่อนหน้านี้ว่า Epic Games จะใช้เวทีงานแถลงข่าว Galaxy Note 9 เปิดตัวเกม Fortnite for Android ที่รอกันมานาน

Fortnite for Android จะเปิดให้ทดสอบรุ่น Beta กันภายในสัปดาห์นี้ ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนรอได้จากเว็บไซต์ของ Fortnite และต้องติดตั้งไฟล์เอง โดยไม่ใช้ Play Store

ผู้ใช้มือถือ Samsung Galaxy จะได้เล่นก่อน พร้อมได้สกินพิเศษชื่อ Galaxy ในเกมด้วย

ในที่สุดก็ Google ก็ปล่อยแอนดรอยด์ 9.0 ตัวจริงออกมา พร้อมประกาศชื่อว่า Android Pie โดยตอนนี้มีอัพเดตแล้วบน Pixel และ Essential Phone ก่อนที่รุ่นอื่นๆ ที่เข้าร่วมโครงการ Android P Beta อย่าง Nokia 7 plus, OnePlus 6, Oppo R15 Pro, Sony Xperia XZ2, Vivo X21, Xiaomi Mi Mix 2S น่าจะอัพเดตไล่ๆ ตามกันมา

ถึงแม้ Blognone จะเคยรายงานฟีเจอร์ใหม่ๆ บน Android Pie ตอนเปิดตัวในงาน Google I/O รวมถึงตามบทความต่างๆ ไปบ้างแล้วตลอดช่วง Developer Preview ที่ผ่านมา แต่ในเมื่อตัวจริงถูกปล่อยออกมาแล้ว บทความนี้จะขอสรุป 5 ฟีเจอร์เด่นบนแอนดรอยด์รุ่นใหม่นี้อีกครั้งครับ

หลัง Google ปล่อยอัพเดต Android 9.0 Pie ให้กับตระกูล Pixel ไปเมื่อคืนตามเวลาในบ้านเรา ทาง Essential Phone ก็ประกาศอัพเดตแอนดรอยด์เวอร์ชันใหม่ในเวลาไล่เลี่ยกัน นับเป็นสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์รุ่นแรกที่ไม่ได้มาจาก Google และปล่อยอัพเดตเวอร์ชันใหม่ในวันเดียวกับ Google

ที่ผ่านมาในเวอร์ชันเบต้า Essential Phone ก็ปล่อยอัพเดตหลัง Google เพียงหลักชั่วโมงมาตลอด โดยปัจจัยสำคัญก็มาจาก Project Treble ที่ Google ใส่เข้ามาใน Android Oreo ซึ่งความพยายามในการผลักดันผู้ผลิตแอนดรอยด์ OEMs ให้อัพเดตแอนดรอยด์ได้เร็วและง่ายที่สุด เริ่มเห็นผลลัพธ์แล้ว

หลังจากปล่อยหลุดแต่ไม่ต้องรอนาน เพราะกูเกิลประกาศเปิดตัว Android P เวอร์ชัน 9.0 อย่างเป็นทางการแล้วเมื่อคืนนี้ โดยใช้ชื่อรุ่นแบบเรียบง่ายว่า Pie

โดยผู้ใช้สมาร์ทโฟน Pixel จะเป็นกลุ่มแรกที่ได้อัพเดต Android 9.0 Pie ส่วนกลุ่มอื่นจะทยอยได้อัพเดตไปตลอดช่วงฤดูใบไม้ร่วง (ภายในประมาณ 3 เดือนข้างหน้า)

กูเกิลให้คำนิยาม Android 9.0 Pie ว่าเป็นระบบปฏิบัติการที่ใส่ Machine Learning มาเป็นหัวใจสำคัญ ทำให้มันฉลาดขึ้น เร็วขึ้น และมีการปรับแต่งให้เข้ากับผู้ใช้งานดีขึ้นเรื่อย ๆ

หลัง @evleaks ปล่อยข้อมูลว่า Google จะเปิดตัว Android P วันที่ 20 สิงหาคมนี้ ซึ่งชื่อ Android รุ่นใหม่ที่เป็นขนมที่ขึ้นต้นด้วย P ก็แทบจะไม่มีข้อมูลหลุดมาเลย

ล่าสุด Android Police รายงานว่า Google เผลอเผยชื่อออกมาแล้วในชื่อ Android Pie ในหน้านี้ ก่อนที่ Google น่าจะดึงข้อมูลกลับไป ทำให้หน้านี้ขึ้นเป็น Page not found และเป็นเกมให้เล่นแทน

Android Police รายงานด้วยว่าในหน้าดังกล่าว ไม่เพียวแต่ประกาศชื่อ Android Pie แต่ Google ยังชูฟีเจอร์อย่าง App Action และ Adaptive Battery ด้วย

ที่มา - Android Police

ASUS เปิดตัวสมาร์ทโฟนตัวแรกที่รันด้วย Android Go ในชื่อ Zenfone Live

สเปคก็เรียบๆ ตามสไตล์สมาร์ทโฟนราคาถูกที่รัน Android Go ชิปเซ็ตเป็น Snapdragon 425 (น่าสนใจว่าไม่ได้ใช้ MediaTek เหมือน Go รุ่นอื่นๆ) แรม 1GB หน้าจอ 5.5 นิ้ว IPS ความละเอียด HD สัดส่วน 18:9 ความจุ 16GB รองรับ microSD กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล แบตเตอรี่ 3,000 mAh รองรับสองซิม โดยแอนดรอยด์เป็นเวอร์ชัน 8.1 Go Edition

ราคาก็แน่นอนว่าต่ำตามสไตล์ Android Go อยู่ที่ 109.99 เหรียญ หรือราว 3,630 บาท

ที่มา - Android Police

หลัง Google ปล่อย Android P Dev Preview 5 ซึ่งเป็นรุ่นทดสอบรุ่นสุดท้ายออกมา ตอนนี้ก็เหลือแค่การปล่อยตัวจริงออกสู่สาธารณะเท่านั้น

@evleaks นักปล่อยข่าวลือที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงและความแม่นยำได้ทวีตใบ้ว่า Android P ตัวจริงจะถูกปล่อยในวันที่ 20 สิงหาคมนี้ ซึ่งสอดคล้องกับไทม์ไลน์ที่ Google บอกว่าจะปล่อยในช่วง Q3 และหากดูกำหนดการปล่อย Android O ตัวจริงเมื่อปีที่แล้วที่ปล่อยมาวันที่ 21 สิงหาคม ข้อมูลดังกล่าวของ evleaks ก็ดูมีน้ำหนักไม่น้อย

ส่วนชื่อเต็มของ Android P ปีนี้ค่อนข้างเงียบเหงา ไม่มีการบอกใบ้หรือหลุดเลย

ลินุกซ์กำลังออกเคอร์เนลเวอร์ชั่น 4.18 เร็วๆ นี้ ฟีเจอร์หนึ่งที่น่าสนใจคือ กระบวนการเข้ารหัสแบบ Speck จาก NSA ที่จะเป็นตัวเลือกสำหรับระบบไฟล์เข้ารหัส

กระบวนการเข้ารหัส Simon & Speck เป็นโครงการโอเพนซอร์สที่ NSA พยายามผลักดันมานาน โดยมันเป็นกระบวนการเข้ารหัสสำหรับอุปกรณ์ขนาดเล็กมาก เช่น โหนดเซ็นเซอร์ IoT ทั้งหลาย กูเกิลส่งแพตช์เข้าไปยังลินุกซ์ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยยอมรับว่ากระบวนการเข้ารหัส Speck นั้นถูกวิจารณ์อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะเมื่อมันถูกปฎิเสธไม่ให้เข้าเป็นมาตรฐาน ISO อย่างไรก็ตาม ในอุปกรณ์ขนาดเล็กราคาถูก เช่นโทรศัพท์มือถือที่ใช้ชิป ARMv7 กระบวนการเข้ารหัสอื่นๆ กลับทำความเร็วไม่ดีพอ หรือไม่ก็ความปลอดภัยต่ำเกินไป