Apple, Inc.
ช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนงาน MacWorld ไม่ยากที่จะเห็นข่าวลือเกี่ยวกับแอปเปิลมากมายขนาดนี้ ล่าสุด นาย Craig Berger นักวิจารณ์ที่ทำงานร่วมกับ Friedman, Billings และ Ramsey & Co ได้ออกมารายงานว่าแอปเปิลเตรียมตัวที่จะปล่อยไอโฟนรุ่นใหม่ที่ถูกลง (ใช้คำว่า Lower-cost version of the iPhone)
โดยได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ไอโฟนรุ่นใหม่นี้อาจจะไม่มีวางขายทันทีหลังจากงาน MacWorld แต่ข้อมูลที่ได้รับนี้มาจากผู้ผลิตสินค้าให้กับแอปเปิล โดยรายงานนี้รวมเข้ากับข่าวลือก่อนหน้านี้ อาจจะตรงกับ iPhone nano ที่ลือ ๆ กันอยู่ก็ได้
9to5Mac รายงานว่าแอปเปิลจะใช้เวที MacWorld ครั้งสุดท้ายของแอปเปิลนี้ในการเปิดตัว iWork เวอร์ชั่นใหม่ โดยจะแปลงร่างกลายเป็น Web-based Application แทน ซึ่งหมายความว่า โปรแกรม Numbers, Pages และ Keynote จะทำงานบนเว็บบราวเซอร์แทน
ความเคลื่อนไหวมาทางด้าน Web-based Applications ของแอปเปิลไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร เพราะก่อนหน้านี้แอปเปิลได้เปิดตัวบริการ MobileMe ที่มีโปรแกรม Mail และ Address Book ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับตัว Mail.app ของ Mac OS X เองมาก
ระยะหลังมานี้ ผู้พัฒนาหลาย ๆ คนเริ่มหันมาสนใจการเพิ่มศักยภาพให้กับเว็บมาก เริ่มต้นตั้งแต่ Web 2.0 จนมาถึงหลาย ๆ Web Applications ในตอนนี้
ทาง TechCrunch ได้อ้างว่าได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าว 3 แห่ง ที่ยืนยันว่าทาง Apple กำลังเตรียมที่จะออกเครื่องเล่นที่จะเหมือนกับ iPod Touch แต่มีขนาดหน้าจอใหญ่กว่ามาก (ที่มาบอกไม่ 7 นิ้วก็ 9 นิ้ว) ในฤดูใบไม้ร่วมปีหน้า เครื่องเล่นตัวใหม่นี้ คาดว่าน่าจะใช้โปรแกรมเก่าๆใน App Store ได้ครบถ้วน
ถ้าดูจากข่าวเก่าๆก็พอจะคาดเดาได้ว่า ข่าวนี้ก็พอจะมีความเป็นไปได้อยู่บ้างที้เดียว แต่หน้าจอใหญ่ขนาดนี้ มันก็เ ป็น Tablet ดีๆนี่อง คงไม่ใช่ PDA แล้วหละ (iPod Touch จอ 3.5 แล้วนี่ 7 นิ้ว)
แหล่งข่าวหลาย ๆ แหล่ง (เช่น Cnet และ MacRumors) เชื่อว่าแอปเปิลเตรียมที่จะปล่อยสินค้าประเภทใหม่ คล้ายกับไอพ็อดทัช ที่มีจอภาพขนาดใหญ่ 7 ถึง 9 นิ้วช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2009 นี้ โดยได้อ้างหลักฐานจาก TechCrunch
โดยแหล่งที่มาของข่าวนี้รายหนึ่งได้อ้างว่าได้เห็นกับตัว Prototype ของเครื่องนี้แล้ว โดยแอปเปิลกำลังพูดคุยกับผู้ผลิตในเอเชียเพื่อที่จะเริ่มทำการผลิตสินค้าตัวนี้
9to5mac รายงานว่าแอปเปิลกำลังทำเครื่อง Home Media Server ที่สามารถทำให้สามารถเข้าถึง iTunes และไฟล์ประเภทอื่น ๆ ได้จากทุก ๆ ที่ที่มีอินเทอร์เน็ตอยู่ โดยแหล่งข่าวได้ทำการเปรียบเทียบเจ้า Home Media Server ใหม่นี้ตรง ๆ กับ Media Smart Server จาก HP ที่สามารถทำงานประเภทนี้ได้ รวมไปถึงการแบคอัพและเก็บข้อมูลได้
หากเป็นจริงแล้วละก็ สินค้าตัวใหม่นี้จะช่วยขยายความสามารถของระบบปัจจุบันที่แอปเปิลได้มีอยู่แล้วกับ Time Capsule และยังสามารถนำไปเพิ่มหรือเสริมความสามารถให้กับบริการ MobileMe ของแอปเปิลได้อีกด้วย
หลังจากที่หลายๆ คนได้เฝ้ารอ iPhone อย่างเป็นทางการมานาน วันนี้ Truemove ได้ประกาศขาย iPhone อย่างเป็นทางการแล้ว
โดย iPhone 3G 8 GB ราคาเงินสด 6,999 บาท ค่าบริการรายเดือนเริ่มต้นที่ 1,199 บาท โทรออกได้ 100 นาที SMS 100 ครั้ง GPRS/EDGE 10 ชั่วโมง และ Wifi 10 ชั่วโมง แต่สามารถเลือกรับ iPhone ฟรี แต่ต้องชำระผ่านบัตรเครดิตเท่านั้น ค่าบริการรายเดือนเริ่มต้น 1,399 บาท สัญญาการใช้บริการ 2 ปี หรือ 24 เดือน ทุกแพ๊กเกจ
หลังจากที่ได้พบหลักฐานรูปภาพและจากฐานข้อมูลเว็บผู้ผลิตเคสไอโฟน XSKN เกี่ยวกับ "ไอโฟนนาโน" นั้น คาดว่า หากจะมีไอโฟนนาโนมาจริง ก็คงจะมีการเปิดตัวภายในงาน MacWorld ที่จะถึงนี้อย่างแน่นอน
ภาพล่าสุดที่ได้ถูกส่งมาที่เว็บ MacRumors นั้น อาจจะพออธิบายได้ว่า ไอโฟนนาโนจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามไม่มีทางยืนยันได้ว่าภาพนี้เป็นภาพหลุดจริง หรือภาพปลอม หรือเป็นเพียงแค่คอนเซ็ปท์ดีไซน์เฉย ๆ
สามารถชมภาพได้จากที่มาครับ
ที่มา - MacRumors
จากข่าวเดิม ลาก่อน MacWorld - ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายแล้ว การส่ง Phil Schiller ขึ้นมาพูด keynote แทนนั้นเป็นสัญญาณว่าแอปเปิลกำลังจัดโครงสร้างองค์กรใหม่ โดยทีมผู้บริหารมือรองๆ จะขึ้นมารับหน้าที่ของสตีฟ จ็อบส์แทน
คำถามที่ทุกคนสงสัยคือสตีฟ จ็อบส์ เป็นมะเร็งอีกครั้งหรือไม่? อันนี้คงไม่มีใครตอบได้ แต่สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือดูประวัติการทำงานของทีมบริหารแอปเปิล แล้วพิจารณาว่าถ้าจ็อบส์มีเหตุขัดข้องต้องหยุดทำหน้าที่จริงๆ ใครจะมีสิทธิ์เป็นตัวตายตัวแทนได้บ้าง
Fortune และ CNN Money ได้นำประวัติของผู้บริหารสูงทั้งหมด 11 คนมานำเสนอครับ ผมคัดมาแบบย่อๆ เรียงตามตัวอักษรในนามสกุล
ถ้ายังจำกันได้บริษัท แอปเปิล คอมพิวเตอร์ ก่อตั้งโดยสองสตีฟ (Steve Jobs, Steve Wozniak) และอีกหนึ่งเวน (Ronale Wayne) ต่อมาในปี ค.ศ. 1987 ก็เป็นเวลาที่ Wozniak ลาออกจากการเป็นพนักงานแบบเต็มเวลา (แต่ก็ยังถือหุ้นอยู่) เพื่อไปทำตามความฝันของเขา (อย่างกับโฆษณา “เดินต่อไป” แน่ะ)
รายงานข่าวจากบริษัท Axiotron ผู้ผลิต ModBook ผลิตภัณฑ์ที่เป็นการดัดแปลงเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา MacBook ของแอปเปิลให้ใช้เป็นระบบหน้าจอสัมผัส และผู้รับดัดแปลง MacBook ให้เป็นระบบดังกล่าว แจ้งว่าขณะนี้ทางบริษัทได้แต่งตั้ง Wozniak เป็นหนึ่งในคณะกรรมการที่ปรึกษาของบริษัท ซึ่งคณะกรรมการดังกล่าวประกอบด้วยผู้ชำนาญในด้านการขายและอุตสาหกรรมจากบริษัทมีชื่อหลายแห่ง (ไม่อยากใช้คำว่าชั้นนำเพราะผมไม่รู้จักชื่อบริษัทในข่าว)
หลาย ๆ คนอาจจะคาดว่าการที่แอปเปิลได้ทำการถอนตัวจาก Macworld หลังจากที่จะทำ Keynote ในงานนี้ครั้งสุดท้ายในเดือนมกราคมปีหน้า จะทำให้งาน Macworld นั้นอาจจะต้องจบลงถึงที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อก่อนหน้านี้ ที่แอปเปิลเลิกไปงาน Apple Expo Paris ทำให้งานนั้นต้องปิดตัวลงตลอดไป
บางคนบอกว่า สาเหตุที่แอปเปิลได้ทำการถอนตัวออกจากงานเหล่านี้ เนื่องจากแอปเปิลเชื่อว่าสามารถเข้าถึงตัวลูกค้าด้วยวิธีอื่นอยู่แล้ว แม้กระทั่งไม่มีงานจัดขึ้นเลยก็ตาม หรือไม่แอปเปิลก็อาจจะใช้วิธีเปิดงานแถลงด้วยตัวเอง เหมือนที่ทำมาก่อนเมื่อเปิดตัวชุดโน้ตบุคและไอพ็อดครั้งล่าสุดที่ผ่านมา โดยไม่ต้องพึ่งบริษัทบุคคลที่สามอื่น
เดิมทีโลกไอทีนั้นจับตา keynote อยู่สองอันเป็นประจำทุกปี อันแรกคือ keynote ของสตีฟ จ็อบส์ (ปีละสองครั้งใน MacWorld Expo กับ WWDC) และ keynote ของบิล เกตส์ (ในงาน CES)
บิล เกตส์ พ้นจากตำแหน่งซีอีโอของไมโครซอฟท์ไปแล้วเมื่อกลางปี และล่าสุด สตีฟ จ็อบส์ ไม่ขึ้นเวที MacWorld Expo อีกแล้ว (ข่าวเก่า ส่วน WWDC ยังไม่มีใครทราบ)
ภาระหน้าที่นี้จึงตกมาอยู่ที่มือรองหมายเลขสองทั้งสองคน นั่นคือ สตีฟ บัลเมอร์ (ซีอีโอคนปัจจุบันของไมโครซอฟท์) และฟิล ชิลเลอร์ (รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์ของแอปเปิล) แทน
แอปเปิลได้ออกมาประกาศว่างาน MacWorld ที่จะมีขึ้นในวันที่ 5-9 เดือนมกราคมที่จะถึงนี้ จะเป็นงาน MacWorld ครั้งสุดท้าย และในครั้งนี้จะไม่มี Keynote จาก Steve Jobs อีกด้วย แต่จะเป็นผู้บริหารแอปเปิ้ล Phil Schiller แทน
ทางแอปเปิลได้ประกาศไว้ผ่านทางเว็บว่า:
แอปเปิ้ลได้เข้าถึงผู้ใช้ในหลากวิธีกว่าที่เคยมาก่อน เหมือนหลายๆบริษัท งานนิทรรศการได้กลายเป็นส่วนเล็กๆของการเข้าถึงลูกค้าของแอปเปิล การเพิ่มขึ้นในความนิยมของร้านค้าของแอปเปิลที่มีผู้เข้าชมถึงสัปดาห์ละ 3.5 ล้านคน และเว็บไซต์ Apple.com ทำให้แอปเปิลสามารถเข้าถึงลูกค้ากว่าร้อยล้านคนทั่วโลกในวิธีใหม่ๆ โดยตรง
ประชาชาติธุรกิจรายงานว่า เพาเวอร์บายได้ร่วมกับทรูมูฟ เตรียมคลอด "ไอโฟน 3G" ในไทยก่อนสิ้นปีนี้ โดยคาดว่าจะมีการปล่อยราคาออกมาสัปดาห์หน้านี้
ข้อมูลอื่น ๆ นั้นก็ได้บอกว่าจะมีการปล่อยรายละเอียดโปรโมชั่นและราคาภายในสัปดาห์หน้า ส่วนเพาเวอร์บายเองนั้นก็จะเริ่มทยอยเปิดร้าน iStudio ในตัวร้านของตัวเองที่เซ็นทรัลลาดพร้าว และเซ็นทรัลบางนา
นอกจากนี้แล้ว ที่ Apple Online Store Thailand Hotline ได้มีการเปิด Department ใหม่เอาไว้ เมื่อโทรไปที่เบอร์ 001-800-65-6957 (โทรฟรีจากเมืองไทย) โดยระบบตอบรับอัตโนมัติได้บอกว่า "กด 3 เพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ iPhone" แต่เมื่อกดเข้าไปแล้วยังไม่มีข้อมูลใด ๆ แต่อย่างใด
ไมโครซอฟท์มาแล้ว ใครไม่ใหญ่จริงถอยไป งานนี้ไมโครซอฟท์กระโดดเข้าร่วมวงพัฒนาแอพพลิเคชันสำหรับไอโฟนด้วยแล้ว โดยครั้งนี้มาเป็นแอพพลิเคชันที่ทำหน้าที่ซูมมมม ไม่อั้น จะกี่สิบเท่าร้อยเท่าหรือจะพันเท่าก็ย่อมได้ โดยที่ Seadragon สำหรับเดสก์ทอปนั้นเป็น Silverlight Application แต่เนื่องจากแอปเปิลคงไม่ยอมให้ silverlight ไปลงง่ายๆแน่ เพราะขนาดแฟลชเองทุกวันนี้ยังไม่มีแววจะได้โผล่ไป ดังนั้นเราจึงคาดเดากันได้ไม่ยากว่าน่าจะเป็นเพียง AJAX หรือลูกเล่นที่ไม่พ้นจากนี้มากนัก
ที่มา - Engadget
ถึงสาวกและ zealot ทุกท่าน หลังจากนี้ท่านมีสิ่งที่จะนำไปค้านกับบรรดา Hater ในเรื่องของการ copy & paste ได้แล้ว โดยวิธีนี้ต้องการเพียงบุคมาร์คจาวาสคริปต์สองตัวไว้ และเว็บเซอร์วิสทั่วๆ ไปที่มีที่ให้วางตัวอักษร
จากวิดิโอในที่มาแสดงให้เห็นว่าสามารถใช้จาวาสคริปต์ก็อปปี้เนื้อหาตัวอักษรจาก Safari แล้วนำไปแปะใน Mail ได้เลย ถ้าถามว่านี่เป็นอะไรที่สมบูรณ์แบบหรือไม่ล่ะก็คงตอบได้ว่ายังไม่ดีนัก แต่ถือว่าเป็นก้าวกระโดดสำหรับการพลิกแพลงช่องโหว่ในไอโฟนมาเติมเต็มความต้องการที่ขาดหายไปได้อย่างดี
ที่มา - CrunchGear
รัฐบาลของประเทศอียิปต์นั้นได้ตื่นตัวเกี่ยวกับการใช้งาน GPS มาโดยตลอดเวลา ล่าสุด แอปเปิลได้ถูกเรียกร้องโดยรัฐบาล ให้ยกเลิกฟังก์ชั่น GPS จากไอโฟน 3G ที่จะวางขายในประเทศอิยิปต์ออก โดยได้อ้างว่าฟังก์ชั่น GPS นั้นสงวนไว้สำหรับทางการทหารเท่านั้น
บล็อกเกอร์รายหนึ่งจากอียิปต์บอกว่า การขอถอดฟังก์ชั่น GPS จากไอโฟนออกนั้นไม่ค่อยเป็นเหตุเป็นผลเท่าไหร่นัก ในเมื่อมี Google Maps ที่ใช้ได้อยู่แล้ว ประกอบกับรถยนต์หลาย ๆ ยี่ห้อที่วางขายในประเทศ ที่มาพร้อมกับ GPS ในตัวอยู่แล้ว
เป็นสองข่าวแยกกันนะครับ
ข่าวแรกจากเว็บไซต์ jkOnTheRun ซึ่งได้ทดลองใส่แรม 4GB ลงใน MacBook รุ่นใหม่ โดยแรมที่เค้าใช้เป็นแรมของ Crucial 2GB 2 ตัว ปรากฎว่าเครื่องไม่เสถียร บางครั้งหน้าจอแสดงผลเละ ต้องรีบูตบ่อยๆ และพอใส่แรม 2GB ตัวเดิมที่มากับเครื่อง ปัญหานี้ก็หายไป เขาได้ทดลองใส่แรม 3GB (2+1) ก็ไม่เกิดปัญหานี้แต่อย่างใด มีรายงานว่าเจ้าของ MacBook Pro ที่ใส่แรม 4GB ก็เจอปัญหานี้เช่นกัน และวิศวกรของแอปเปิลได้รับทราบปัญหานี้แล้ว ตัวแก้ไขคงออกตามมาในอีกไม่นาน
เป็นข่าวอย่างต่อเนื่องสำหรับการเปิดตัวไอโฟนในเมืองไทยของ TrueMove ถึงแม้ตัวเครื่องและราคาจะยังไม่ออกมาให้เห็น แต่ก็ได้เปิดตัวโปรแกรมบนไอโฟนรวดเดียว 12 ตัวด้วยกัน โดยบางโปรแกรมสามารถดาวน์โหลดไปลองใช้กันได้แล้ว
โดยโปรแกรมส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับบริการต่างๆ ของ True ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาจุดบริการ Wifi, ค้นหารายการจาก TrueVisions, ดูหนังฟังเพลง หรือแม้แต่ โหวตให้น้องๆ นักล่าฝันเอเอฟคนโปรด
ล่าสุดที่เว็บของแอปเปิลเองก็มีธงชาติไทยและชื่อของ TrueMove ขึ้นมาให้เลือกได้แล้ว
เมื่อเดือนที่แล้ว(พฤศจิกายน)แอปเปิลได้แนะนำให้ผู้ใช้ติดตั้งโปรแกรมแอนตี้ไวรัสบนเครื่องแมค ทำให้บริษัท Intego ใช้โอกาสน้ำขึ้นให้รีบตัก ออกมาป่าวประกาศหวังเพิ่มยอดขายว่า VirusBarrier X5 ของบริษัทตนนั้นเป็นซอฟท์แวร์โปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่แอปเปิลแนะนำ
ตอนนี้แอปเปิลได้ลบคำแนะนำนั้นออกไปแล้ว และได้ส่งโฆษกประจำสำนักผลไม้แหว่ง นายBill Evans ออกมาบอกว่า เราได้ลบคำแนะนำนั้นไปแล้ว เนื่องจากเป็นคำแนะนำที่ให้ข้อมูลไม่ถูกต้อง เพราะผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลได้ถูกออกแบบมาบนพื้นฐานของความปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว แต่การมีโปรแกรมแอนตี้ไวรัสติดตั้งในเครื่องแมคนั้นจะช่วยเสริมความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
แอปเปิลกำลังจะวางขายไอโฟนในร้าน Wal-Mart ทั่วอเมริกาในวันที่ 28 ธันวาคมนี้ เครื่องไอโฟนนี้จะเป็นรุ่นพิเศษที่มีความจุเพียง 4GB เหมือนไอโฟนรุ่นแรกๆที่วางขาย แต่ปัจจุบันมีขายที่ 8GB($199) และ 16GB ($299)เท่านั้น แต่เมื่อความจุน้อยจะขายแพงก็กะไรอยู่ อีกทั้งตั้งขายในร้าน Wal-Mart เป็นที่รู้กันอยู่ว่าร้านนี้ขายของถูกเพียงใด บริษัทชื่อผลไม้จึงเคาะราคาที่ $99 พร้อมติดสัญญาการใช้งานสองปี
งานนี้แอปเปิลคงหวังลดราคามาแข่งกับมือถือจากค่ายอื่นๆ แต่สัญญาจะมีปมอะไรซ่อนอยู่ต้องรอดูกันต่อไป
ว่าแต่ว่า เครื่องที่เอามาขายเป็นเครื่องเก่าค้างสต๊อกไหมนะ
ที่มา - Mac Rumors
ทั้งๆที่คดีของ Psystar ยังไม่จบก็มีเ้จ้าใหม่ขยับเข้ามาถล่มค่ายผลไม้ไม่เต็มลูกด้วย OpeniMac จากประเทศอาเจนติน่า ทำนองเดียวกับ Psystar ที่ใช้ฮาร์ดแวร์ทั่วไปตามท้องตลาดและใช้ OS X เป็นระบบปฏิบัติการ ทำให้เครื่องทำออกมาขายแรงกว่าของของ Apple เปิดตัวอย่างไม่กลัวเกรง เริ่มต้นที่ 2.53GHz ราคา $990 (หรือ $1,330 ถ้าซื้อพร้อมจอ LG 19 นิ้ว), ชุดมาตรฐานติดตั้งหน่วยความจำหลัก 2GB , ฮาร์ดดิสก์ 320GB , ATI Radeon HD PRO 256MB. แต่ถ้านั่นยังไม่พอก็ยังมี OpeniMacPRO ที่พร้อมจะรองรับความต้องการของคุณด้วย 3.0GHz พร้อมจอ 20 นิ้ว กับ หน่วยความจำหลักอีก 2GB
คราวนี้ไม่ทราบว่า Apple จะสงสัยอีกไหมว่าใครอยู่เบื้องหลัง
แล้วจะมีบริษัทไหนในไทยร่วมวงแทะแอปเปิ้ลไหมครับ
จากรายงานในคดีระหว่าง Apple กับ Psystar จากเว็บ Groklaw.net นั้น แอปเปิลเชื่อว่ามีกลุ่มบุคคลที่มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังบริษํท Psystar
ที่น่าสนใจคือ แอปเปิลเชื่อว่ามีบริษัทหรือกลุ่มบุคคลที่อยู่เบื้องหลัง Psystar ซึ่งแอปเปิลอาจจะขอเพิ่มเข้าไปในรายชื่อของจำเลย หากแอปเปิลทราบว่าบุคคลนั้นเป็นใคร
เพราะฉะนั้น จะเห็นได้ชัดว่า แอปเปิลเชื่อว่ามีคนที่กำลังถือหาง Psystar อยู่ นั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่อธิบายได้ว่าทำไมบริษัทกฏหมายยักษ์ใหญ่ต้องมาทำคดีที่น่าจะจบได้ภายในวันเดียวแบบนี้
ผู้เขียนได้อธิบายอีกว่า Psystar ขายเครื่องแมคโคลนได้มากกว่าความสามารถของบริษัทเล็ก ๆ ปกติเป็นอย่างมาก
หลังกจากที่แอปเปิลได้ฟ้อง Psystar ว่าละเมิด EULA (ข่าวเก่า) และ Psystar ได้ฟ้องกลับว่าแอปเปิลผูกขาดตลาด (ข่าวเก่า) และศาลได้ยกฟ้องข้อหาผูกขาดตลาดไปเรียบร้อยแล้ว (ข่าวเก่า) วันนี้แอปเปิลได้ฟ้อง Psystar เพิ่มด้วยกฏหมาย DMCA โดยอ้างว่า Psystar ได้ละเมิด กฏหมาย DMCA โดยการหลีกเลี่ยงระบบป้องกันการทำสำเนา (Copy protection) ของ Mac OS X เพื่อให้สามารถติดตั้งลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้ผลิดโดยบริษัทแอปเปิลได้ นอกจากนั้นแอปเปิลยังได้หว่านแหในคำฟ้องไปถึงบุคคลอื่นที่ไม่ได้ทำงานกับ
จากข่าวเก่าที่บริษัทแอปเปิลได้ตีพิมพ์เอกสารคำแนะนำทางเทคนิคให้ลูกค้าติดตั้งซอฟท์แวร์ป้องกันไวรัส วันนี้แอปเปิลได้ถอนเอกสารดังกล่าวออกจากเว็บไซท์และออกมาให้ข่าวว่า เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารเก่าและไม่ถูกต้อง (old and inaccurate) และยังกล่าวอีกว่าระบบปฏิบัติการของแอปเปิลนั้นถูกออกแบบให้มีความปลอดภัยสูง และสามารถป้องกันโปรแกรมที่จะทำมิดีมิร้ายได้โดยไม่ต้องลงซอฟท์แวร์อะไรเพิ่ม แต่ก็ยังลงท้ายว่าไม่มีระบบใดที่มีความปลอดภัย 100% ดังนั้นการลงซอฟท์แวร์ป้องกันไวรัสก็จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับระบบได้
แอปเปิลเปิดเผยข้อมูลโปรแกรมยอดนิยมของ iPhone ตั้งแต่เปิดร้าน App Store มา โดยวัดจากปริมาณการดาวน์โหลด แบ่งเป็นหมวดๆ และแยกเป็นทั้งแบบฟรีกับเสียเงิน
ผมคัดมาเฉพาะ 5 อันดับแรกของแบบฟรีและเสียเงิน อันดับที่เหลือดูกันเองตามลิงก์ครับ
โปรแกรมเสียเงิน (รวมทุกหมวด)
โปรแกรมฟรี (รวมทุกหมวด)