Apple, Inc.
บริษัท Bharti Airtel Ltd หนึ่งในเครือ SingTel และบริษัท Vodafone ได้เริ่มวางขายไอโฟน 3G แล้วในวันนี้ ในตลาดที่มีความต้องการมือถือที่สูงที่สุดในโลก "ประเทศอินเดีย"
คล้าย ๆ กับเมืองไทย ชาวอินเดียไม่ค่อยคุ้นเคยกับมือถือพ่วงสัญญา ทำให้ต้องเจอราคาจริง ๆ ของไอโฟน โดยรุ่นความจุ 8GB มีราคาที่ 31,000 รูปีหรือประมาณ 25,000 บาท ส่วนรุ่นความจุ 16GB มีราคาที่ 36,100 รูปี หรือประมาณ 28,000 บาท
แม้ว่าจะไม่มีสัญญาทาสพ่วงมาหนึ่งถึงสองปีเหมือนในประเทศอื่น ๆ แต่ไอโฟน 3G ทุกเครื่องในอินเดีย จะถูกล็อกเครือข่าย
ราคาเอง ยังไม่รวมบริการ 3G ซึ่งยังไม่มีการเปิดให้บริการในประเทศอินเดีย เช่นเดียวกับไทย
หากไอโฟน 3G เปิดตัวเมืองไทยจริงละก็ คงพอเดาราคากันได้แล้วสินะ
เชื่อว่าคนอ่านของเราคงรู้จักโฆษณา "I'm PC. I'm Mac" ของแอปเปิลกันดี ไม่ต้องอธิบายเพิ่มนะครับ
ฝั่งไมโครซอฟท์ซึ่งเป็น "ผู้ถูกกระทำ" ตลอดมา ได้ลุกขึ้นเตรียมตอบโต้แล้ว โดยชุดแรกไมโครซอฟท์ได้ปล่อยโฆษณาว่า Vista ดีกว่าที่คิดออกมาเป็นระยะผ่านทางแบนเนอร์ตามเว็บต่างๆ ถัดมาก็ทำการทดลองออกวินโดวส์รุ่นใหม่ชื่อว่า "Mojave" (ซึ่งเป็น Vista แค่เอามาเปลี่ยนชื่อ) และผลปรากฎว่าผู้ทดลองใช้กลับรู้สึกดี ไมโครซอฟท์นำผลการทดลองนี้มาโฆษณาว่า Vista จริงๆ นั้นดี เพียงแต่ว่าข่าวที่ออกมาทำให้คนติดภาพแย่ๆ เท่านั้น (Ars Technica) สองอันนี้ข่าวเก่าแล้ว
จริงๆ แล้ว iPod nano รุ่นแรก (แบบผอม) นั้นมีข่าวว่าแบตเตอรี่มีปัญหาและเกิดระเบิดมานานแล้ว ซึ่งจากการสอบสวนของรัฐบาลญี่ปุ่น (ในญี่ปุ่นมีระเบิดไป 14 เครื่อง) พบว่ารุ่นที่มีปัญหาคือ MA004J/A, MA005J/A, MA099J/A และ MA107J/A ซึ่งวางขายระหว่างเดือนกันยายน 2005-กันยายน 2006 ในญี่ปุ่น
ล่าสุดหลังจาก iPod nano ระเบิดไปอีกสองเครื่องเมื่อวันก่อน ทำให้แอปเปิลตัดสินใจเปลี่ยนเครื่องให้กับเจ้าของ iPod nano ที่มีปัญหา หรือกลัวว่าจะมีปัญหาแล้ว โดยเจ้าของเครื่องสามารถติดต่อ AppleCare ได้โดยตรง
จริงๆ ข่าวออกมาได้สามสี่วันแล้วแต่ยังเป็นที่กล่าวถึงมาก โดยลูกค้าจำนวนหนึ่งที่ใช้ iPhone 3G โทรผ่านเครือข่าย 3G ได้รายงานว่ามีปัญหาสายหลุดบ่อยครั้ง ซึ่งในภายหลังได้ค้นพบว่าเกิดจากชิปเซ็ตส่วนรับสัญญาณ 3G ที่ผลิตโดย Infineon
เว็บไซต์ Mac Rumors ได้อ้างอีเมลตอบจากสตีฟ จ็อบส์ ว่าปัญหานี้เกิดขึ้นกับ iPhone 3G จำนวน 2% ของที่วางขายไป และแอปเปิลกำลังจะแก้ปัญหานี้ในรูปของเฟิร์มแวร์ ทาง Mac Rumors ประมาณการณ์ว่าน่าจะมี iPhone 3G ที่มีปัญหาประมาณ 60,000 เครื่อง
ช่วงนี้หลายบริษัทเริ่มทยอยรายงานผลประกอบการกันอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดหลังจากที่แอปเปิลเผยผลประกอบการไตรมาสที่สามของปีนี้ ที่ผลประกอบการดีขึ้นถึง 33% เมื่อเทียบกับปีก่อน รวมทั้งยอดขายของแมคอินทอชที่มากถึง 2,496,000 เครื่องทำสถิติสูงสุดอีกด้วย
ถึงแม้แอปเปิลจะโม้ว่า App Store ทำยอดเดือนเดียว 30 ล้านดอลลาร์ แต่ทางเว็บไซต์ GigaOm ได้สอบถามข้อมูลไปยังผู้พัฒนารายหนึ่งคือ Pinch Media ซึ่งพัฒนาระบบเก็บสถิติของผู้ใช้ app บน iPhone และมีโปรแกรมจำนวนหนึ่งใช้งานไลบรารีนี้
ผลก็คืออัตราส่วนผู้ดาวน์โหลดต่อผู้ใช้โปรแกรมจริงอยู่ที่ 10:1 เท่านั้น สำหรับค่าเฉลี่ยของโปรแกรมแต่ละตัว จะมีลูกค้าที่ดาวน์โหลดโปรแกรมไปเพียง 20% เท่านั้นที่กลับมาใช้โปรแกรมทุกวัน ระยะการใช้งานเฉลี่ยคือ 5 นาทีต่อวัน และจำนวนครั้งเฉลี่ยที่เรียกโปรแกรมคือ 1.2 ครั้งต่อวัน
แอปเปิลอาศัยช่วงดีก่อนประกาศผลประกอบการในไตรมาศที่ 3 เปิดตัว iPhone 3G ในอีก 20 ประเทศทั่วโลก โดยมี 10 ประเทศในกลุ่มลาตินอเมริกา 2 ประเทศในเอเชีย คืออินเดีย และสิงคโปร์ ที่เหลือเป็นกลุ่มประเทศในยุโรป
ที่น่าสังเกตุคือ มีหลายประเทศที่เปิดขาย iPhone 3G โดยมีผู้ให้บริการมากกว่า 1 บริษัท เช่นที่สาธารณรัฐเช็ก มีผู้ให้บริการ iPhone 3G ถึง 3 รายด้วยกัน (O2, Vodafone, และ T-Mobile)
นอกจากนี้ Softbank ผู้ให้บริการ iPhone 3G ในญี่ปุ่นเตรียมปรับลดราคาค่าบริการรายเดือนลงมา จากเดิมเดือนละ 7,280 เยน เป็น 2,990 เยน (หารด้วย 3.16 เป็นเงินบาท) ซึ่งญี่ปุ่นจัดว่าเป็นประเทศที่มีค่าบริการรายเดือนของโทรศัพท์มือถือแพงที่สุดประเทศหนึ่ง
iLounge รายงานว่า iPod nano รุ่นต่อไปจะมีรูปร่างยาวขึ้น เพื่อที่จะได้เพิ่มความใหญ่ของจอภาพ ทำให้มีขนาดอัตราส่วนเท่ากับ 1.5 ต่อ 1 คล้าย ๆ กับไอโฟนและ iPod touch
โดย iLounge อ้างว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เป็นการเปลี่ยนแปลงจากรูปทรง iPod nano ปัจจุบันที่มีรูปร่างเกือบสี่เหลี่ยมจัตุรัส ถึงแม้ว่าตอนนี้หลาย ๆ คนอาจจะคิดไม่ออกแล้วว่า iPod nano ใหม่จะเล็กและบางลงไปได้กว่านี้อีกหรือไม่ แต่ถ้าหากต้องการจอภาพที่ใหญ่ขึ้นแล้ว ดูเหมือนจะไม่มีทางอื่นนอกเสียจากการทำให้ตัว iPod nano เองมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น
AppleInsider รายงานว่าแอปเปิลได้เลือกที่จะไม่ใช้ชิปเซต Montevina ของอินเทล ในโน้ตบุครุ่นต่อ ๆ ไปแล้ว แต่จะทำการสร้างซิปเซตด้วยตัวเอง หรืออาจจะใช้ส่วนประกอบชิปต่าง ๆ จาก AMD หรือ Via
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ แอปเปิลจะไม่ได้ทำการย้ายจากการใช้ชิพประมวลผลของอินเทลแต่อย่างใด เพราะว่า "ชิปเซต" นั้นเป็นแค่ส่วนสนับสนุนที่ทำให้หน่วยประมวลผลสามารถทำงานร่วมกับส่วนอื่น ๆ ของคอมพิวเตอร์ได้ โดย Montevina (หรือ Centrino 2) ของอินเทลนั้นประกอบไปด้วยหน่วยประมวลผล Penryn ที่มี Bus-speed อยู่ที่ 1066MHz
เป็นบทความพิเศษของ Gizmodo ครับ ชื่อต้นฉบับคือ Why We Still Need the iPhone App Black Market
ใจความสำคัญคือ iPhone SDK นั้นมีข้อจำกัดมากเกินไป ทำให้โปรแกรมดีๆ หลายตัวในยุคก่อน SDK นั้นไม่สามารถใช้งานได้ ข้อจำกัดเหล่านี้ได้แก่
หลังจากเคยมีกรณี "ขายพ่วง" Safari เวอร์ชันบนวินโดวส์ไปกับ iTunes ผ่านตัวอัพเดตซอฟต์แวร์ไปรอบหนึ่งแล้ว ตอนนี้แอปเปิลได้แถมหน้าจอตั้งค่า MobileMe ใน Control Panel ของวินโดวส์ XP/Vista มาพร้อมกับ iTunes 7.7
ถึงแม้ผู้ใช้จะสามารถถอนการติดตั้ง MobileMe ออกไปได้ แต่การยัดเยียดซอฟต์แวร์ที่ผู้ใช้ไม่ต้องการมาให้ถึงสองครั้ง ทำให้แอปเปิลโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากบล็อกเกอร์และเว็บข่าวไอทีชื่อดังจำนวนมาก
ผมรอฟังความเห็นสาวกอยู่นะ
9to5mac อ้างว่าได้ยินข่าวจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือว่าปีนี้ แอปเปิลจะทำการอัพเดทสินค้าตระกูล iPod nano โดยการเปลี่ยนแปลงหลักนั้นจะเป็นการใช้สีมากกว่าหนึ่งสีบนตัวเครื่อง จากที่ปัจจุบันนั้น iPod nano จะใช้สีเดียว
นอกจากนี้แล้วยังได้บอกอีกว่า iPod nano ใหม่นี้จะมีความจุเพิ่มขึ้นสองเท่า และมีความสามารถพิเศษใหม่เพิ่มเข้ามาอีกด้วย
ก่อนหน้านี้แอปเปิลได้ทดลองใช้สีหลายสีในสินค้าชิ้นเดียวใน Flower Power iMac โดยนิตยสาร PCWorld นั้นได้ให้ชื่อว่า Flower Power iMac เป็นสินค้าที่น่าเกลียดที่สุดในประวัติการณ์ของเทคโนโลยี
ที่มา - MacRumors
ในวันพรุ่งนี้ แอปเปิลจะทำการเปิดร้าน Apple Store ที่เป็นร้านขายปลีกสินค้าของแอปเปิลในเขต Sunlitun Entertainment District ในกรุงปักกิ่ง
โดยรองประธานฝ่ายขายปลีกของแอปเปิลได้กล่าวไว้ว่า บริษัทนั้นมีแผนจะเปิดร้าน Apple Store อีกหลายแห่งในประเทศจีน โดยหลัก ๆ ได้อ้างว่าจะมีในกรุงปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ โดยอีกสาขาที่จะเปิดอีกนั้นยังคงอยู่ในกรุงปักกิ่ง ในเขตช็อปปิ้ง Qianmen ทางใต้ของจัตุรัสเทียนอันเหมิน
นอกจากที่จะคงความเป็นแอปเปิลอย่างเต็มตัวคล้าย ๆ กับร้าน Apple Store สาขาอื่น ๆ ทั่วโลกแล้ว เคาน์เตอร์ช่วยเหลือลูกค้า Genius Bar นั้นจะมีพนักงานที่สามารถสื่อสารได้ในหลายภาษา
หลังจากที่ Psystar ได้นำคอมพิวเตอร์ที่สามารถรัน Mac OS X ได้แล้วในชื่อ Open Computer มาค่อนข้างนานพอสมควร ล่าสุด แอปเปิลได้ยื่นฟ้องคดีแล้วในที่สุด
ที่น่าแปลกใจคือ ทำไมใช้เวลานานนักกว่าแอปเปิลจะทำการฟ้อง
การใช้งาน Mac OS X บนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่ใช่ "Mac" ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิด EULA ของ Mac OS X แต่การที่แอปเปิลไม่ได้ทำการตอบสนองใด ๆ มาเป็นเวลานาน ทำให้ผู้ใช้หลาย ๆ คนสงสัยข้อกฏหมายที่เกี่ยวกับ EULA ว่าผู้ใช้จำเป็นต้องทำตามจริงหรือไม่
ที่มา - C|net
วันนี้แอปเปิลได้ประกาศว่า iPhone 3G เครื่องที่หนึ่งล้านนั้นได้ถูกขายไปเรียบร้อยแล้วในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพียงแค่สามวันหลังจากที่มีการเริ่มขายเท่านั้น
หากเทียบกับไอโฟนรุ่นแรกแล้ว แอปเปิลนั้นใช้เวลา 74 วัน กว่าจะทำให้ยอดไอโฟนรุ่นแรกถึงหนึ่งล้านเครื่องได้ โดยแอปเปิลได้หวังไว้ว่าภายในปี 2008 นี้ แอปเปิลจะสามารถขายไอโฟนได้ทั้งหมด 10 ล้านเครื่อง
ในขณะเดียวกันนี้ จำนวนการดาวน์โหลดจาก App Store ที่มีซอฟต์แวร์ของไอโฟนและ iPod touch นั้นได้เกิน 10 ล้านครั้งแล้ว
ที่มา - MacRumors
เนื่องจากโปรแกรมที่ขาย-แจกฟรีใน iPhone App Store นั้นมีเป็นจำนวนมาก และโอกาสที่ผู้ใช้จะโหลดเฉพาะโปรแกรมยอดนิยมที่ได้รับความสนใจจากสื่อ (เช่น โปรแกรมจากเว็บดัง eBay, Facebook หรือโปรแกรมที่เป็นที่รู้จักอยู่แล้วอย่าง Twitterific หรือเกมดังในอดีตอย่าง Pacman) นั้นมีสูงมาก ทำให้นักพัฒนารายย่อยๆ ต้องหาทางแก้ไข
ทางออกของนักพัฒนาเหล่านี้คือเปลี่ยนชื่อโปรแกรมโดยเอาสัญลักษณ์พิเศษ (เช่น ช่องว่าง) นำหน้า เพื่อให้โปรแกรมของตัวเองได้อยู่เป็นอันดับต้นๆ ก่อนตัวเลขหรือตัว A เมื่อเรียงรายชื่อตามตัวอักษร (ซึ่งเป็นวิธีการเรียงมาตรฐานใน App Store) ขณะนี้ App Store ของ iPhone จึงเต็มไปด้วยโปรแกรมชื่อแปลกๆ (ภาพประกอบดูได้ตามลิงก์)
ซอฟต์แวร์ iPhone 2.0 ที่จะรองรับ App Store นั้นนอกจากจะใช้งานจาก iPhone 3G ได้แล้ว ผู้ใช้ไอโฟนรุ่นเดิมยังสามารถใช้งานได้จากการอัพเกรดซอฟต์แวร์เช่นกัน แต่ก็เกิดปัญหาขึ้นทำให้ไอโฟนรุ่นเดิมนั้นไม่สามารถใช้งานใดๆ ได้
ปัญหาเกิดขึ้นจากกระบวนการอัพเดตที่ตัวไอโฟนต้องติดต่อกับ App Store แต่ตัว App Store นั้นไม่สามารถรองรับการเข้าใช้งานจำนวนมหาศาลได้จนการอัพเกรดไม่สำเร็จ
ตัวเลขจำนวนไอโฟนที่ไม่สามารถใช้งานจากปัญหานี้อยู่ที่ประมาณหกล้านเครื่องและกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าบ้านเรามีใครกำลังอัพเดตบ้าง แต่ทุกคนที่คิดจะอัพเดตควรรอไปก่อนจนกว่าจะมีการแก้ไขต่อไป
ที่มา - TechCrunch
หลังจากที่ได้จับได้ลูบได้คลำ iPhone 3G กันถ้วนหน้ากันแล้ว (ผมก็ได้แต่อ่านนะ อ่านไป ก็ลูบจับลูบคลำเมาส์ของผมไป) เว็บต่าง ๆ ก็เริ่มทำรีวิวของ iPhone 3G กันออกมาแล้ว ข่าวจาก MacRumors ในครั้งนี้ได้นำจุดน่าสนใจจากรีวิวต่าง ๆ กันมารวบรวมไว้ครับ
Gizmodo รายงานว่า iPhone 3G นั้นรู้สึก "ราคาตก" ลงจริง ๆ เมื่อได้จับกับตัวเครื่องหากเทียบกับรุ่นแรก แต่ในขณะเดียวกันทำให้การรับสัญญาณต่าง ๆ ดีขึ้น เช่น สัญญาณ Wi-Fi ที่จากการทดสอบนั้นสามารถอยู่ห่างจาก Access Point ได้ถึง 120 ฟุต จากรุ่นเก่าที่ได้เพียง 100 ฟุตเท่านั้น
กรณีพิพาทระหว่างผู้ถือหุ้นและผู้บริหารของยาฮูนั้น ตัวแปรหนึ่งที่ตัดออกไปไม่ได้เลยคือกูเกิลที่เข้ามาทำข้อตกลงกับยาฮูในจังหวะที่ไมโครซอฟท์กำลังต้องการครอบครองยาฮูทั้งหมด
Schmidt ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่าการที่ผู้บริหารยาฮูไม่ตกลงขายบริษัทให้ไมโครซอฟท์นั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เพราะตลาดต้องการการแข่งขัน และกล่าวว่าหลายต่อหลายครั้งที่ข้อเสนอของไมโครซอฟท์นั้นดูดี แต่ไม่ดีเท่าใหร่นักเมื่อได้มองในรายละเอียดของสัญญา
ในวันนี้หลังจากที่เริ่มมีการเปิดตัว MobileMe, Apps Store และ iPhone 3G กันแล้ว หลังจากได้อ่านข่าวของคุณ mk ผมเลยเข้าไปดูใน iTunes เพื่อจะลองดาวน์โหลด Facebook จาก Apps Store มาเล่น ทีนี้ลืม Apple ID ของตัวเอง เลยทำการสมัครใหม่
แล้วพบว่ามันให้เลือกประเทศว่า Billing Address เราอยู่ในประเทศไหน ปรากฏว่าเมื่อผมลองคลิกดูแล้วพบว่ามีประเทศใหม่ ๆ เพิ่มมาเพียบ รวมถึงประเทศไทย!
เลยตัดสินใจกลับมาดูที่หน้าหลัก iTunes Store ของสหรัฐดูอีกครั้ง แล้วลองเลือกประเทศดู ครับ มีประเทศไทยแล้วจริง ๆ
เมื่อเข้าไปแล้วพบว่า มีแต่ Apps Store เท่านั้น เป็น iTunes Store ที่มีเพียงโปรแกรมสำหรับ iPhone และ iPod touch ครับ
เพื่อเตรียมรับการวางขายของ iPhone 3G ในวันพรุ่งนี้ แอปเปิลได้ออกซอฟต์แวร์และบริการต่างๆ ดังนี้
AppleInsider ได้ออกมายืนยันแล้วว่าภาพถาดตัวเครื่องของ MacBook Pro ที่หลุดออกมาจาก "แหล่งข่าวในประเทศจีน" นั้นเป็นภาพของจริง
โดยเมื่อไม่กี่วันทีผ่านมานั้น มีบล็อกหนึ่งจากประเทศจีน ได้ทำการโพสรูปภาพที่เป็นรูปถาดตัวเครื่องทั้งด้านบนของฝาเครื่อง และด้านล่างของตัวเครื่อง MacBook Pro และได้อ้างว่ารูปนี้เป็นรูปจริง
โดยจากการยืนยันของ AppleInsider นั้น ได้รายงานว่า MacBook Pro ใหม่นี้ แบตเตอรี่นั้นจะกินเนื้อที่ 25% ของถาดด้านล่างของตัวเครื่อง โดยจากเดิมมีรูปร่างคล้ายกับสี่เหลี่ยมจัตุรัส ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นสี่เหลื่ยมผืนผ้าอย่างเต็มตัว โดยตัวแบตเตอรี่ใหม่นี้นั้นได้มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อที่จะทำให้การเปลี่ยนฮาร์ดดิสก์นั้นง่ายขึ้น คล้าย ๆ กับ MacBook (ดูภาพได้จากที่มา)
จาก Walt Mossberg แห่ง Wall Street Journal เจ้าเดิม โดยเขาบอกว่าได้ iPhone 3G มาลองใช้งาน "for a couple of weeks" แล้ว
ประเด็นสำคัญ
หลังจากที่ Apple แถลงข่าวเปิดตัว iPhone 3G ในงาน WWDC ไปแล้ว มีคนช่างสังเกตเห็นน็อตเล็กๆ 2 ตัว อยู่ด้านล่างของ iPhone ซึ่งเป็นสิ่งที่แทบจะไม่เคยเห็นกับสินค้าอื่นๆ ของ Apple เลย ปกติแล้ว Apple จะพยายามซ่อนวัสดุยึดจับต่างๆ เอาไว้ไม่ให้มองเห็นเพื่อให้มีรูปร่างของผลิตภัณฑ์ที่สวยงาม มีการคาดเดาว่าน็อตสองตัวมีไว้เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ของ iPhone ได้เอง โดยไม่ต้องนำเครื่องไปเปลี่ยนที่ Apple Store ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า
สำหรับพวกเราชาวไทย ในตอนนี้ เราไม่เคยชินกับหลักการขายโทรศัพท์มือถือที่ถูกชดเชยราคาพร้อมพ่วงสัญญา (Subsidized Mobile Phones) ซักเท่าไหร่ หลังจากงาน WWDC แล้ว สื่อไทยไม่ว่าจะเป็นสื่อชื่อดังขนาดไหนก็ตามกลับเข้าใจผิดไปหมด ก็ออกมาปล่อยข่าวว่า "ไอโฟนนั้นถูกมาก ๆ แค่หกพันกว่าเอง"
บริษัท AT&T ผู้ให้บริการไอโฟนเพียงรายเดียวในสหรัฐอเมริกา เตรียมตัวเปลี่ยนแผนการขายไอโฟน โดยได้เพิ่มทางเลือกใหม่เข้าไปอีก คือการขายไอโฟนเครื่องเปล่าไร้สัญญาในราคา 599 ดอลลาร์ (ราคาเดิมสมัยก่อน) หรือประมาณ 20,800 บาทสำหรับรุ่น 8GB และราคา 699 ดอลลาร์ หรือประมาณ 24,000 บาทสำหรับรุ่น 16GB