Apple, Inc.
หลังจากที่นาย Zucker ประธานและซีอีโอของบริษัท NBC Universal ได้ออกมาพูดถึงกรณีถอนตัวและเริ่มดำเนินการบริการ "iTunes Killer" ของตัวเองแล้วก็ได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันมากมายทำให้ CNET ได้ออกมาเขียนบล็อกเกี่ยวกับเรื่องนี้
สิ่งที่ Tom Krazit แห่ง CNET ได้ออกมาบอกว่าน่าเกลียดนั้นคือหนึ่งในเหตุผลที่ NBC นำมาอ้างในการขอถอนตัวจาก iTunes Store นั่นคือการที่ NBC Universal ต้องการขอส่วนแบ่งรายได้จากการขายไอพ็อดของแอปเปิล โดยก่อนหน้านี้นั้น NBC ได้อ้างสาเหตุหลักว่าเกิดจากการที่แอปเปิลไม่ยอมให้ NBC ขึ้นค่าเพลงสำหรับเพลงที่กำลังเป็นที่นิยมและลดค่าเพลงสำหรับเพลงที่เริ่มไม่เป็นที่นิยม
ลือว่า MacBook ตัวใหม่ที่ถูกขนานนามว่า "MacBook Thin" จะถูกนำมาวางตลาดประมาณเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งในช่วงนี้จะพบเห็นข่าวเรื่องสิทธิบัตรต่างๆ ที่แอปเปิลได้นำไปจดเอาไว้ (คาดการณ์ว่าน่าจะนำไปใช้งานกับ MacBook)
Apple เปิดตัว Leopard มาได้หนึ่งวัน ก็มีผู้ใช้ในเว็บ OSx86 Scene ออกมาเปิดเผยวิธีการทำให้ Leopard รันบนพีซีได้โดยละเอียด ซึ่งสิ่งที่ต้องใช้ก็เพียงแค่
- ซีพียูของอินเทลที่ซัพพอร์ต SSE3
- DVD Image ของ Leopard
- ไฟล์เสริมที่อยู่ในเว็บ
- Thumb Drive เปล่าๆ 1 อัน
หลังจากที่มีข่าวตามเว็บต่าง ๆ กันบ้างแล้ว ล่าสุดแอปเปิลได้ออกมาชี้แจงและประกาศนโยบายใหม่เกี่ยวกับการขายไอโฟนอย่างเป็นทางการ
นับจากนี้เป็นต้นไปแอปเปิลจะไม่ยอมขายไอโฟนให้กับผู้ที่เข้ามาซื้อด้วยเงินสด และจะจำกัดจำนวนไอโฟนเพียงแค่สองเครื่องต่อลูกค้าหนึ่งคนเท่านั้นเพื่อป้องกันการซื้อแล้วนำไปขายต่อในต่างประเทศ
โฆษกหญิงของแอปเปิลกล่าวว่าการลิมิตในครั้งนี้จะทำให้เรามั่นใจว่ามีไอโฟนเพียงพอสำหรับทุก ๆ คนที่ต้องการซื้อไอโฟนให้ตัวเองหรือเป็นของขวัญ และจะขายให้เฉพาะลูกค้าที่ซื้อผ่านการใช้บัตรเครดิตหรือเดบิตเท่านั้นเพื่อที่จะป้องกันการนำไปขายต่อ
ช่วงนี้กระแส Mac OS X v10.5 "Leopard" กำลังได้รับการพูดถึงอย่างมาก (บรรยากาศ Leopard ที่ลอนดอน)
แต่สำหรับคนใช้เครื่องแมค ที่กำลังลังเลว่าจะอัพเดทระบบปฏิบัติการ จาก Tiger ไปเป็น Leopard ดีหรือไม่ หรือต้องการความมั่นใจในการทำงานกับโปรแกรมต่างๆ
ล่าสุดทาง macrumors ได้รายงาน รายชื่อของโปรแกรมที่ยังไม่พร้อมกับ Leopard ในที่นี่รวมโปรแกรมสำคัญของทางอะโดบีด้วย
เมื่อวานเป็นวันแรกที่แอปเปิลวางจำหน่ายระบบปฏิบัติการตัวใหม่ที่มีชื่อว่า Mac OS X v10.5 Leopard เชื่อว่าผู้อ่าน BN ส่วนใหญ่คงรู้รายละเอียดกันหมดแล้ว (ถ้าไม่กด ข่าวเก่า) ฉะนั้นจะขอข้ามไป แล้วมาพาชมบรรยากาศการเปิดจำหน่ายวันแรกของ Leopard ที่ Apple Store ลอนดอนกัน
กำหนดการเปิดจำหน่ายคือเวลาหกโมงเย็น โดยทางร้านขอปิดเพื่อเตรียมการอัพเดท Mac ทุกเครื่องให้เป็น Leopard สองชั่วโมงตั้งแต่สี่โมงถึงหกโมงเย็น (ไหนว่าใช้เวลาอัพจาก Tiger แค่ครึ่งชั่วโมงไง) ผมมาถึงร้านตอนห้าโมงสิบห้าก็เจอกับ
เมื่อวันนี้แอปเปิลได้ทำการเปิดตัว Leopard ระบบปฏิบัติการ Mac OS X เวอร์ชั่นล่าสุดเรียบร้อยแล้ว ในขณะนี้หลาย ๆ ที่ก็ได้ทำการเขียน Review อย่างละเอียด ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ในเมืองไทยคงต้องรออีกซักพักกว่าจะได้ยลโฉม Leopard ตัวจริงจากร้าน iStudio หรือ Pro Solutions
แต่ที่น่าสนใจตอนนี้คือตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมานั้น แอปเปิลได้ทำการปิดไม่ให้ผู้ใช้ Mac OS X 10.4 หรือ Tiger ดาวน์โหลดโปรแกรม Boot Camp ที่ช่วยสร้าง Partition เพื่อที่ให้ผู้ใช้สามารถลงวินโดวส์และไดรว์เวอร์ที่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากว่า Boot Camp ที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้บน Tiger เป็นเพียง Preview Beta เท่านั้น
Silicon Alley Insider ได้ออกมาพูดคุยถึงที่ Gene Muster ได้ประมาณไว้ว่าแอปเปิลมีรายได้จากส่วนแบ่งค่าบริการโทรศัพท์มือถือจากบริษัท AT&T ไว้จำนวน 18 ดอลลาร์ต่อเดือนต่อผู้ใช้ไอโฟนหนึ่งคน โดยแอปเปิลได้ออกมายอมรับไว้แล้วว่าได้มีสัญญาลักษณะนี้กับ AT&T จริงแต่ไม่เคยได้ออกมาบอกตัวเลขที่แท้จริงแต่อย่างใด
ถ้าเราเอาไอโฟน 1.4 ล้านเครื่องมาลบกับ 250,000 เครื่อง (ที่ถูกปลดล็อกไปใช้กับเครือข่ายอื่นที่ไม่ใช่ AT&T) จะพอประมาณได้ว่าแอปเปิลกำลังได้รายได้ 18 x 1.15 ล้านทุก ๆ เดือนหรือเท่ากับ 20.7 ล้านดอลลาร์ต่อเดือนนั่นเอง
กี่ครั้งแล้วที่เราได้ยินเกี่ยวกับความสำเร็จที่แอปเปิลสามารถขาย iPhone ได้ 1.4 ล้านกว่าเครื่อง หรือจะเป็นความสำเร็จของ AT&T ผู้ให้บริการเพียงเครือข่ายเดียวที่สามารถใช้กับ iPhone ได้ในขณะนี้ที่มีกำไรมากขึ้นถึง 41%
ล่าสุดในการประชุม Conference Meeting ของแอปเปิลนั้น COO ของแอปเปิล Tim Cook ก็ได้ออกมาเผยตัวเลขคร่าว ๆ ของ iPhone ที่ถูกซื้อไปเพื่อการปลดล็อกแล้วนำไปใช้กับเครือข่ายอื่นโดยเฉพาะ
"เราเดาว่าประมาณ 250,000 เครื่องจากทั้งหมด 1.4 ล้านเครื่องที่ถูกซื้อไปโดยผู้ที่จงใจจะทำการปลดล็อกเครื่อง โดยส่วนใหญ่ของตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นมาหลังจากการตัดราคา" - Tim Cook กล่าว
แม้ว่าแอปเปิลพยายามที่จะไม่ให้ Leopard หลุดออกไปถึงมือผู้ใช้ก่อนการเปิดตัว แต่ดูเหมือนว่าจะมีหลาย ๆ คนที่ดันได้ตัวเต็มที่หลุดออกมาจากแอปเปิลไปใช้ซะแล้ว หนึ่งในผู้โชคดีที่ได้ใช้ Leopard ก่อนใครเพื่อนนั้นก็ได้ออกมาเผยสิ่งที่เขาประทับใจเกี่ยวกับ Leopard ออกมาบน MacRumors
ความประทับใจแรกกับการใช้ Mac OS X 10.5 Leopard:
แอปเปิลประกาศผลประกอบการไตรมาส 4 ประจำปีงบประมาณ 2007 ผลประกอบการมีรายได้ 6.22 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 217,000 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 29% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่ผ่านมา และคิดเป็นกำไรจำนวน 904 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 31,640 ล้านบาท) สำหรับในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนนั้น รายได้อยู่ที่ 4.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ
แอปเปิลได้ทำวิดีโอแสดงความสามารถที่เพิ่มมาใหม่ใน Leopard ไม่ว่าจะเป็น Stacks, Finder, Spotlight, Time Machine และ Spaces เป็นต้น
ซึ่งคนที่ติดตามข่าวมาตลอด คงจะรู้เกี่ยวกับความสามารถพวกนี้อยู่แล้ว แต่สำหรับผู้ที่สนใจ และขี้เกียจอ่านรายละเอียดความสามารถที่มีเพิ่มมากว่า 300 รายการ วิดีโอความยาว 27.37 นาทีนี้ คงช่วยให้เข้าใจในความสามารถใหม่จริงๆ ได้
วิดีโอนี้สามารถดูได้ที่เว็บของแอปเปิล หรือดาวน์โหลดมาดูก็ได้ (มีไฟล์ 2 ขนาดคือ 108 MB และ 379 MB)
ที่มา - Macworld
แอปเปิลได้อัพเดทหน้าเว็บ Leopard ใหม่โดยได้ใส่ความสามารถใหม่ ๆ กว่า 300 อย่างในเจ้า Mac OS X 10.5 ที่จะออกวางขายอีกเพียงเจ็ดวันข้างหน้านี้
สิ่งใหม่ ๆ ที่น่าสนใจที่แอปเปิลไม่เคยบอกมาก่อนได้แก่
Apple ออกมาประกาศว่าจะปล่อย SDK (Software Development Kit หรือชุดพัฒนาโปรแกรม) ให้นักพัฒนาโปรแกรมภายในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ซึ่งประกาศนี้ได้ถูกโพสต์ไว้ในเว็บของ Apple โดยมาในรูปแบบจดหมายจากสตีฟ จ็อบส์
การออกมาประกาศว่าจะปล่อย SDK ในครั้งนี้ หมายความว่านักพัฒนาโปรแกรมจะสามารถสร้างโปรแกรมของตัวเองไปใช้ใน iPhone ได้ แต่เหตุผลที่จะต้องรอจนถึงเดือนกุมภาพันธ์นั้น สตีฟกล่าวว่าทางบริษัทต้องการจะปกป้องผู้ใช้จากไวรัสและมัลแวร์
หลังจากมีข่าวว่าแอปเปิลจะบุกตลาด iPhone ในฝรั่งเศสโดยจับมือกับค่า Orange แต่ก็เจออุปสรรคกับกฏหมายเข้าให้ จนทำให้แอปเปิลต้องตัดสินใจบุกไม่บุกตลาดฝรั่งเศสดี ล่าสุดมีข่าวออกมาแล้วว่าแอปเปิลจะขายเครื่องสำหรับเครือข่าย Orange ที่ราคา €399 หรือประมาณ $565 และสำหรับรุ่นปลดล๊อกยังไม่แจ้ง แต่มีข่าวลือออกมาว่ามูลค่าอาจสูงถึง €999 (ประมาณ $1418) เลยทีเดียว
ที่มา - Lastest Mobile : iPhone Orange to Cost French 399 Euros
ถ้าวันนี้ใครเปิดดูข่าวร้อนจากแอปเปิลคงได้เจอข่าว "Third Party Applications on the iPhone" ผมเห็นปุ๊ปรีบคลิ๊กเข้ามาอ่านโดยด่วน ความว่า
ทางแอปเปิลวางแผนว่าจะมีชุดพัฒนาสำหรับโปรแกรมบน iPhone ภายในเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ และเหตุผลว่าที่ต้องใช้เวลานานถึงเดือนกุมภาพันธ์เนื่องจาก ทางแอปเปิลต้องทำการตรวจสอบให้แน่ใจว่าโปรแกรมที่พัฒนาจากชุดพัฒนานี้ จะต้องสามารถปกป้องผู้ใช้ iPhone และ iPod touch จากไวรัส, malware หรือ privacy attack ได้ (และน้ำอีกยืดยาวเกี่ยวกับความสำคัญของไวรัสบนมือถือ)
ไม่รู้ว่าชุดพัฒนาตัวนี้จะปล่อยฟรีและมีสำหรับระบบปฏิบัติการไหนบ้าง
ที่มา :
จากข่าวเก่า Leopard ออกวันที่ 26 ตุลาคมนี้ ทางแอปเปิลก็ได้เปิดเผยสเปกฮาร์ดแวร์ที่สามารถรัน Leopard ได้อย่างเป็นทางการบนเว็บไซต์
ส่วนฟีเจอร์ที่บอกว่ามีเพิ่มมากว่า 300 รายการ (ตอน Tiger มีหลัก 200) สามารถอ่านได้ที่นี่ ถ้าใครขี้เกียจอ่านเพราะแอปเปิลเอาฟีเจอร์เก่าๆ ใน Safari 3 หรือ Boot Camp มานับรวมไปด้วย ทาง Ars Technica ได้ทำรายการแยกเฉพาะฟีเจอร์ใหม่จริงๆ มาให้ด้วย อ่านได้ตามลิงก์ ที่ผมว่าเจ๋งมากคือ TextEdit สามารถเปิดไฟล์ OpenDocument ได้แล้ว เย้
และแล้ว ทีมงาน iPhone Dev ก็ได้ฤกษ์ปล่อยซอฟต์แวร์ปลดล็อก iPhone 1.1.1 ชื่อ Anysim 1.1 และวิธีการเมื่อวานนี้ ซึ่งซอฟต์แวร์ตัวนี้ ทางทีมงานคาดว่าจะสามารถปลดล็อกกับ iPhone ที่เป็น 1.02 ได้ด้วย ทำให้ตอนนี้คนที่มี iPhone สามารถใช้ซิมอะไรก็ได้ที่เป็น GSM
จากข่าวเก่าที่มีการคาดการณ์ว่าแอปเปิลจะเปิดตัว Mac OS X Leopard (รุ่น 10.5) ประมาณวันที่ 26 ต.ค. นี้ ปรากฎว่า ภายในเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา (ในเวลาประเทศไทย) เว็บไซต์ Apple Store ได้ทำการปิดปรับปรุงชั่วคราว เพื่อทำการเพิ่ม Mac OS X Leopard เข้าสู่หน้าร้านค้า
ใครที่อิจฉา interface ของ iPod classic ตอนนี้ต้องกระโดดดีใจแล้ว เมื่อมี firmware แฮคให้ iPod รุ่น 5 หรือ 5.5 ของคุณ กลายเป็น iPod ตัวใหม่ได้
โปรแกรมนี้ไม่ได้มีการสนับสนุนจาก Apple แถมต้องใช้ iPodWizard 1.3.7 ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ใช้เฉพาะในวินโดวส์เท่านั้นในการลง firmware ตัวนี้
เมื่อคุณทำแล้วคุณก็จะรู้สึกถึง iPod Classic ในร่าง iPod ตัวเก่าของคุณเอง
ที่มา - Engadget.com Via ilounge.com
จากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้ของ Mac Rumors เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ ทาง Apple ได้ทำการเปิดตัว Mac OS X Leopard (หรือ Mac OS X รุ่น 10.5) ที่มีหมายเลขประจำรุ่น 9A581 เป็นการภายใน โดยรุ่นนี้นั้นคาดว่าจะเป็นรุ่นสุดท้ายก่อนที่ทาง Apple จะประกาศสถานะของมันเป็น Gold Master ภายในสัปดาห์นี้ หากไม่มีการพบปัญหาเพิ่มเติม
สถานะ Gold Master นั้น เป็นสถานะที่ทาง Apple จะมอบให้กับโปรแกรมในรุ่นที่ใช้สำหรับออกวางตลาด ก่อนที่จะนำโปรแกรมส่งไปยังผู้ผลิตเพื่อผลิตแผ่นออกวางขายต่อไป
จากข่าวเก่าที่เพิ่งผ่านมาไม่นาน เรื่อง Jailbreak firmware 1.1.1 ได้ฤกษ์ออกมาให้คนทั่วไปใช้แล้ว ทาง iPhonesimfree ซึ่งเป็นทีมที่ทำการแฮค iPhone ให้สามารถใช้ซิมอื่นได้ ก็ออกมาประกาศว่าได้สามารถทำการปลดล็อก iPhone firmware 1.1.1 ให้สามารถใช้ซิมอื่นได้แล้วเป็นเครื่องแรกของโลก โดยมีขั้นตอนให้ทำตามเว็บของทีม ซึ่งทีมงานจะประกาศขายซอฟท์แวร์ปลดล็อกตัวนี้ สนนราคา 60 ดอลลาร์สหรัฐ
ที่มา - iPhonesimfree.com
ขอแก้ไขราคาเป็น 100 ดอลลาร์สหรัฐครับ
จากข่าวเก่า ตอนนี้ทีม iPhone Dev ซึ่งเป็นเหล่าแฮคเกอร์ได้ออกตัว jailbreak ตัว activation และ 3rd ปาร์ตี้ application ให้กับ iPod touch และ iPhone แล้ว (กดโหลดที่นี่)
ทางทีมงานไม่รับประกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับตัวเครื่อง และเป็นที่คาดว่าอนาคตทาง Apple จะออกตัว firmware อัพเดท แก้ไขปัญหานี้ซึ่งเป็นเกมแมวไล่จับหนูต่อไป แล้วนี้จะเป้นการเพิ่มความซับซ้อนและความยากที่จะแฮคเครื่องต่อไป
แม่เด็กสาวคนหนึ่งในรัฐเท็กซัสตัดสินใจที่จะซื้อไอพ็อดให้ลูกของเธอเป็นของขวัญวันเกิด หลังจากนั้นไม่นานในวันเกิด ลูกสาวของเธอแกะห่อของขวัญพร้อมกับกล่อง "ดีไซน์ในแคลิฟอร์เนีย" แต่แล้วกับพบ... "หิน" ที่มีขนาดและน้ำหนักเกือบเท่าไอพ็อด
คุณแม่ผู้แสนโชคร้ายคนนี้ก็ทำในสิ่งที่แม่อันแสนดีทุกคนควรทำ เธอนำเจ้า "ไอพ็อดหิน" ไปคืนที่ร้าน Target ที่เธอซื้อมาและเธอขอเงินคืน แต่ทว่าเธอนั้นได้ซื้อไอพ็อดหินนี้โดยการใช้เครดิตการ์ดของ Target ทำให้เธอไม่ได้เงินสดคืนมา กลับได้เพียงแค่เครดิตที่สามารถนำไปใช้ในการซื้อครั้งต่อไปที่ Target
ทางเว็บ Engadget.com ได้ออกมายืนยันว่า firmware 1.1.1 ของ iPhone และ iPod Touch ได้ถูกแฮคได้แล้ว โดยแฮคเกอร์ที่ใช้ชื่อว่า Niacin (aka toc2rta) และ Dre และทั้งคู่บอกว่าจะเปิดเผยวิธีในการปลดแฮคสุดสัปดาห์นี้ต่อคนทั่วไป โดยได้ลองกับ iPod Touch และประสบความสำเร็จในการ อ่านและเขียนไฟล์ระบบได้ การแฮควิธีนี้ใช้ช่องโหว่ของ firmware 1.1.1 ผ่านทาง Safari เพื่อเข้าถึงไฟล์ระบบ และเป็นที่คาดเดาว่าทาง Apple ต้องรีบออก patch มาแก้ไขช่องโหว่นี้แน่นอนในอนาคต
ทางเว็บไซด์ Engadget คิดว่าวิธีนี้น่าจะใช้ได้กับ iPhone ด้วย
ที่มา - Engadget.com