Apple, Inc.
แอปเปิลปล่อยโฆษณา iPhone ตัวแรกระหว่างงานประกาศผลรางวัลออสการ์ โดยตัดเอาฉากรับโทรศัพท์ในภาพยนตร์เรื่องต่างๆ (ไม่เว้นแม้แต่การ์ตูนอย่าง Flintstone) มาต่อกัน ก่อนจะตัดมาเป็นรูปของ iPhone
สนใจก็หาดูได้ตามลิงก์ อาจต้องรีบโหลดกันหน่อย เพราะแอปเปิลขึ้นชื่อในเรื่องไล่ปิดเว็บเหล่านี้อยู่แล้ว
ที่มา - Ars Technica
บริษัทวิจัยทางการตลาดออนไลน์ชื่อ Compete Inc. ได้สำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคสหรัฐจำนวน 379 คนเกี่ยวกับ iPhone โดยผู้ถูกสำรวจจำนวน 26% ของ 379 คนนั้นบอกว่าสนใจจะซื้อ แต่ที่น่าสนใจกว่าคือมีแค่ 1% ของ 26% ข้างต้นเท่านั้นที่ยินดีจะซื้อในราคา 499 ดอลลาร์ (iPhone มีรุ่น 499 กับ 599 เหรียญ)
42% ของกลุ่มที่สนใจจะซื้อคิดว่าราคาที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 200-299 เหรียญ ในประเด็นของเครือข่ายมือถือที่ต้องใช้ Cingular เท่านั้น 60% ของกลุ่มสนใจบอกว่าพวกเขายินดีจะย้ายค่ายไปใช้ Cingular เพื่อจะใช้ iPhone
สำหรับบ้านเราที่อยู่ในกลุ่ม "2008" คำถามที่คนจำนวนมากอยากรู้ก็คือ "มันใช้ภาษาไทยได้หรือเปล่า" อันนี้ต้องฝากคนที่รู้จักไปถามแอปเปิลประเทศไทยให้แล้วล่ะ
หลังจากที่เป็นเรื่องกันมานานในเรื่องเครื่องหมายการค้า ชื่อ iPhone ในที่สุด ก็ได้ข้อตกลงที่แปลกมากๆ คือ ทั้งแอปเปิลและ Cisco จะใช้ชื่อ iPhone ร่วมกัน !!
โดยข้อตกลงที่เปิดเผยออกมานั้น มีไม่มาก เพียงแต่คาดกันว่า ทั้งสองอาจจะตกลงในเรื่องของการนำชื่อไปใช้โดยไม่ให้สินค้าทั้งสองไปทับซ้อนในกลุ่มเดียวกัน แต่มันก็คงเป็นเรื่องน่าสับสนไม่น้อยเลย เวลาจะพูดถึง iPhone ในอนาคต อาจจะต้องระบุค่ายตามหลังไปด้วย
ทั้งบิล เกตส์ และสตีฟ จ็อบส์ต่างยืนยันว่าจะขึ้นไปถกเรื่องอนาคตของวงการไอทีบนเวทีเดียวกัน ในงาน D: All Things Digital ที่จัดโดย Wall Street Journal
รูปแบบของงาน D (ปีนี้ครั้งที่ห้าเรียก D5) จะเป็นการสัมภาษณ์สดล้วนๆ นอกจากจะได้สองคนนี้มาเป็นไฮไลต์แล้ว บรรดา CEO ดังๆ ของวงการก็มากันพร้อมหน้า ไม่ว่าจะเป็น John Chambers (Cisco), Steve Case (AOL ใครจำกันได้บ้าง), Steve Ballmer, Eric Schmidt (Google), Jeff Hawkins (คนคิด Palm) หรือแม้แต่ George Lucas
งานยักษ์แบบนี้บัตรขายหมดตั้งนานแล้ว ใครอยากดูคงต้องรอหลังวันที่ 30 พฤษภาคม น่าจะมีวิดีโอ ผมแอบหวังให้เริ่มต้นมาแบบนี้คงเยี่ยม
"Hi, I'm Steve" "Hi, I'm Bill"
กำหนดการสำหรับการประชุมกลุ่มผู้พัฒนาทั่วโลก ของ แอปเปิล ในงาน WWDC ประจำปี 2007 ได้ถูกประกาศขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว โดยจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 11-15 มิถุนายน ในกลุ่มผู้ใช้แมคต่างก็คาดหวังกันว่า ในงาน WWDC ครั้งนี้ จะมีการเปิดตัวระบบปฎิบัติการ Mac OS X รุ่นใหม่จากแอปเปิล ภายใต้ชื่อรหัสว่า Leopard
สำหรับงาน WWDC นั้น กลุ่มผู้เข้าร่วมงาน จะเป็นกลุ่มนักพัฒนาซอฟต์แวร์จากทั่วโลก ซึ่งแตกต่างจากงาน Apple World ที่กลุ่มผู้เข้าร่วมงานจะเป็นกลุ่มผู้ใช้งาน เสียเป็นส่วนใหญ่
ที่มา : Apple
ทุกวันนี้เพลงที่ขายผ่าน iTMS นั้นอนุญาตให้สามารถเล่นได้บนเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ห้าเครื่อง และเล่นบน iPod ได้ไม่จำกัดจำนวน แต่สตีฟ จอบส์ออกมาให้ความเห็นผ่านจดหมายฉบับหนึ่งที่อยู่บนเว็บไซท์ของแอปเปิ้ลเองว่า ถ้าผู้ใช้ช่วยกันกดดันบริษัทเพลง โดยเฉพาะสี่บริษัทใหญ่คือ Universal Sony BMG Warner และ EMI แล้วละก็ สักวันหนึ่ง iTMS อาจจะสามารถขายเพลงที่ไม่มี DRM และสามารถเล่นบนเครื่องเล่น MP3 อันไหนก็ได้
แอปเปิลได้ประกาศว่า สามารถตกลงเรื่องเครื่องหมายการค้ากับ Beatles ได้แล้ว หลังจากที่มีปัญหากับ Apple Corps Ltd (บริษัทที่ดูแลผลงานเพลงของ The beatles และเป็นเจ้าของชื่อ และโลโก้แอปเปิล) มาตั้งแต่เปิดตัว iTMS ที่เป็นการผิดข้อตกลงที่ทำไว้กับ Apple Corps Ltd เมื่อปี 1991 ว่าจะไม่ทำธุรกิจเพลงด้วยชื่อแอปเปิล
ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของการตกลงครั้งนี้ ทราบแต่เพียงว่าแอปเปิล สามารถใช้ชื่อแอปเปิลได้ในทุกธุรกิจ โดยจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้กับ Apple Corps Ltd โดยที่ Apple Corps Ltd ก็ยังสามารถใช้ชื่อนี้ได้ตามเดิม
แอปเปิลได้เตือน ผู้ใช้ไอจูนส์บนวินโดวส์ทุกคน อย่าพึ่งอัพเกรดวินโดวส์เป็นวิสตาในตอนนี้ โดยให้รอไอจูนส์เวอร์ชันใหม่ออกมาก่อน ค่อยทำการอัพเกรด เนื่องจากไอจูนส์เวอร์ชันปัจจุบันคือ 7.0.2 มีปัญหาเรื่อง compatibility กับวิสตาเช่น เพลงทีซื้อมาจาก iTMS ก่อนการอัพเกรดอาจจะเล่นไม่ได้ การแลกเปลี่ยนข้อมูล เพลงระหว่าง ไอจูนส์กับไอพ็อด อาจมีปัญหา Cover Flow animation ทำงานได้ช้าลง เป็นต้น สำหรับผู้ที่ทำอัพเกรดไปแล้ว สามารถดาวโหลด iTunes Repair Tool for Vista 1.0 มาติดตั้งเพื่อ แก้ให้เล่นเพลงทีซื้อมาจาก iTMS ก่อนการอัพเกรดได้
จากคำให้สัมภาษณ์ของเกร็ก โจสเวียก (Greg Joswiak) รองประธานการตลาดของไอพ็อด โดย ITmedia สื่อทางด้านเทคโนโลยีของญี่ปุ่น
โจสเวียกให้สัมภาษณ์ว่าเพราะเหตุที่ iPod shuffle เป็นผลิตภัณฑ์ที่ "สวมใส่ได้" (wearable) ทำให้มีความเกี่ยวเนื่องกับแฟชั่นอย่างมาก เมื่อพูดถึงแฟชั่นก็จะเกี่ยวข้องกับการใช้สีสัน
ส่วนเหตุผลที่เพิ่มสีส้มให้กับ iPod shuffle ก็เพราะสีส้มเป็นสีที่มาแรงในวงการแฟชั่นปีนี้นั่นเอง สีที่ยังไม่ได้เพิ่มขึ้นมานั่นก็คือ สีดำ ซึ่งเป็นสีพิเศษ และสีแดง ที่ใช้ในโครงการ (RED)
แอปเปิลทำการเติมสีสันให้กับ iPod shuffle โดยมีให้เลือกทั้งหมด 5 สี คือ ฟ้า, ชมพู, เขียว, ส้ม และสีเงินต้นตำรับ
iPod shuffle ขนาด 1GB ราคา 79 เหรียญสหรัฐ
ที่มา: playlistmag
ข่าวลือประหลาดครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อพนักงานของบริษัท Mars ผู้ผลิตช็อกโกแลตหลายยี่ห้อเช่น Snickers และ m&m ได้ซื้อขนมที่ไม่ผ่านกระบวนการตรวจสอบ (แต่ยังปลอดภัยสำหรับการกิน) แล้วพบว่า m&m บางเม็ตที่เขาซื้อมานั้นมีโลโก้ของบริษัทแอปเปิลอยู่ ทำให้เกิดคำถามตามมาว่านี่เป็นการโฆษณาแบบใหม่หรือแค่เรื่องบังเอิญ (หรือจะเป็นเรื่องแหกตา?)
ระวังแกะเลย์ถุงต่อไปแล้วมีโฆษณาวิสต้าบนแผ่นนะ..
ที่มา - Gizmodo (ดูรูปที่นี่)
เครื่อง MacBook ที่วางขายในปีที่ผ่านมานั้นมีชิป 802.11n ใส่มาโดยไม่มีใครรู้จนกระทั่งเมื่อต้นเดือนที่แอปเปิลให้บริการเปิดความสามารถนี้ขึ้นมาโดยเก็บค่าบริการ 1.99 ดอลลาร์ (ครั้งแรกประกาศเป็น 4.99 ดอลลาร์) โดยทางแอปเปิลอ้างว่าการเก็บค่าบริการนี้จำเป็นต้องทำเพื่อให้การทำบัญชีของแอปเปิลเป็นไปตามมาตรฐาน (Generally Accepted Accounting Principles - GAAP) แต่วันนี้ Lynn Turner อดีตหัวหน้าฝ่ายบัญชีของคณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์ก็ออกมาให้ความเห็นว่า GAAP นั้นไม่ได้ระบุให้เก็บค่าบริการแต่อย่างใด โดย GAAP นั้นเป็นเพียงมาตรฐานการทำบัญชีไม่ว่าบริษัทจะเก็บหรือไม่เก็บค่าบริการใดๆ
แฟนๆ แอปเปิลในทุกวันนี้จำนวนมากคงซื้อแมคมาเพื่อใช้งานวินโดวส์กันเป็นเรื่องปรกติหลังจากที่มี Bootcamp ออกมาให้ใช้งาน ฟีเจอร์นี้คาดกันว่าจะแถมมากับ Leopard ที่กำลังจะวางจำหน่าย แต่สำหรับคนทีี่ใช้ Tiger แล้วทาง MacScoop ระบุว่ามีรายงานว่าผู้ที่ต้องการใช้ Bootcamp ตัวจริงอาจจะต้องจ่ายเพิ่ม 29 ดอลลาร์เพื่อความสามารถนี้
ก่อนหน้านี้แอปเปิลเพ่ิงประกาศเรียกเก็บเงิน 1.99 ดอลลาร์เพื่อเปิดความสามารถ 802.11n ใน MacBook ของแอปเปิลไปก่อนหน้านี้ ไม่รู้ว่าคนใช้แอปเปิลคิดยังไงกันบ้าง แต่ผมรู้สึกว่าใช้แอปเปิลแล้วถ้าอยากใช้ของถูกลิขสิทธิ์ทั้งหมดนี่ดูค่าใช้จ่ายจะยุ่บยั่บเอาเหมือนกัน
News.com คอนเฟิร์มแล้วว่าแอปเปิลจะปล่อยโปรแกรมอนุญาตให้ผู้ที่ใช้ iMac, MacBook, MacBook Pro รุ่น Core 2 Duo และ Mac Pro สามารถที่จะใช้ AirPort ได้ที่ความเร็วมาตราฐาน 802.11n แทนที่จะเป็น 802.11g enhanced เหมือนเมื่อก่อน โดยจะคิดราคา $1.99
สำหรับจำนวนเงินน้อยแค่นี้ แอปเปิลจำเป็นที่จะต้องเก็บเนื่องจากต้องการให้มีรายได้ทางระบบบัญชีที่ถูกต้องเท่านั้น แหล่งข่าวอื่น ๆ กลับไม่เห็นด้วยกับการเก็บเงินของแอบเปิลครั้งนี้
อีกเรื่องหนึ่งคือตอนนี้ส่วนแบ่งทางตลาดของคอมพิวเตอร์ตระกูลแมคนั้นมากกว่าเดิมครับ จากปลายปี 2005 ที่ 3.6% ของตลาดคอมพิวเตอร์ทั้งหมดในสหรัฐมาอีก 1.1% ขณะนี้อยู่ที่ 4.7%
หลังจากที่แอปเปิลเปิดตัว iPhone ไปไม่ถึงอาทิตย์ ก็มีคนลอกเลียน UI ของ iPhone โดยทำเป็นสกินมาใช้กับ PocketPC มาโพสแจกที่เว็บบอร์ด xda-developers แล้วสมาชิกคนหนึ่งที่เอาตัวสกินนั้น ไปเขียนบล็อกพร้อมทั้งใส่สกรีนช็อต และลิ้งค์กลับมายังหน้าดาวโหลด พอแอปเปิลรู้ จึงสั่งให้ทนาย ส่งจดหมายไปบอกสมาชิกคนนั้น ให้หยุดการเผยแพร่สกินนี้ ซึ่งกรณีแบบนี้เคยเกิดมาแล้ว กับเว็บที่เอาข้อมูลของสินค้าที่จะออกใหม่ ของแอปเปิลมาเปิดเผยก่อน ของ Palm ก็มีแล้วเหมือนกัน แต่ยังไม่โดนอะไร
ที่มา - TechCrunch
หลังจากมีเสียงเรียกร้องกันเข้ามามากเหลือเกินให้ทางแอปเปิลเปิดดาวน์โหลด Keynote ประวัติศาสตร์ในงาน Macworld 2007 นี้ ในที่สุดแอปเปิลก็เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถดาวน์โหลดไปดูที่บ้านได้ฟรีๆผ่านทางไอจูนส์ โดยขนาดของวีดีโอจะอยู่ที่ 1.2 GB ยาว 1 ชั่วโมง 45 นาที
ก่อนหน้าที่จะมีการเปิดให้ดาวน์โหลดในครั้งนี้ ทางแอปเปิลเคยเปิดให้ดู Keynote มาแล้วแต่เป็นในแบบ Stream ซึ่งพบว่ามีจำนวนผู้เข้ามาใช้เป็นจำนวนมาก แล้วส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถนั่งรอความอืดจนเกินทนได้ จนมีหลายต่อหลายคนเริ่มหาช่องทางอื่นไม่ว่าจะเป็น BitTorrent และถึงกับมีการซื้อขายไฟล์วีดีโอนี้เป็นซีดีกันเลยทีเดียว
New York Times สัมภาษณ์สตีฟ จ็อบส์ ได้ใจความว่าเราไม่สามารถเอาโปรแกรมของค่ายอื่นๆ (3rd party) ไปรันบน iPhone ได้ง่ายๆ
จ็อบส์บอกว่าไม่อยากให้คนคิดว่ามันเป็นพีซีย่อส่วน แต่เป็นอุปกรณ์แบบเดียวกับ iPod มากกว่า เขาไม่ต้องการเห็น iPhone ที่ลงโปรแกรมเพิ่มเติมเข้าอีกไป 3 โปรแกรม แล้วทำให้ตัวเครื่องมีปัญหา ใช้งานไม่ได้ อย่างไรก็ตามจ็อบส์อธิบายเพิ่มว่ายังมีโอกาสที่ผู้ใช้จะซื้อซอฟต์แวร์แล้วโหลดลงเครื่องเองอยู่ เพียงแต่ซอฟต์แวร์นั้นจะต้องผ่านการตรวจสอบจากแอปเปิลอย่างเข้มงวดเท่านั้น (ต้นฉบับใช้คำว่า "it has to be more of a controlled environment")
ช่วงนี้ข่าว iPhone เยอะมาก คัดเฉพาะข่าวที่น่าสนใจมาลงละกัน
โฆษกของทั้งแอปเปิลและอินเทลออกมาให้ข่าวว่า iPhone ไม่ได้ใช้ซีพียูอินเทลแต่อย่างใด มีเพียง Apple TV เพียงตัวเดียวเท่านั้นที่ใช้
ข่าวนี้เป็นการหักปากกาเซียนที่ระบุว่าเป็น XScale แน่นอน ในขณะที่ยังไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าเป็นอะไรกันแน่ ทาง Ars Technica ได้วิเคราะห์ว่าเป็น Samsung!
หลังจากที่ Jobs ได้ออกมายืนยันและประกาศตัวอย่างชัดเจนว่าจะใช้ชื่อ iPhone อย่างแน่นอน ล่าสุด Cisco เตรียมยื่นฟ้องร้องข้อหาละเมิดเครื่องหมายการค้าต่อ federal court ในสหรัฐฯ
Cisco อ้างว่า ได้ถือเครื่องหมายการค้านี้มาตั้งแต่ปี 2000 หลังจากซื้อบริษัท Infogear Technology ซึ่งเป็นผู้ลงทะเบียนเครื่องหมายการค้านี้ ก่อนหน้านี้ Cisco ได้ออกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ เมื่อปลายปีที่แล้ว ในชื่อเดียวกัน เพื่อยืนยันการถือครองเครื่องหมายการค้านี้เป็นนัย ๆ
ได้เวลาสนุกแล้วสิ ๆ
[ที่มา: BBC]
หลังจากที่มีการเปิดตัว Apple TV และ iPhone เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมานี้ แอปเปิลได้เปิดรับ preorder ของ Apple TV แล้วที่ Apple Online Store
GizModo รายงานนาทีต่อนาทีจาก MacWorld Expo 2007 มีภาพและรายละเอียดของ IPhone ทะยอยออกมาแล้ว รายงานสดจาก keynote speech ของ Jobs ครับ
ทั่วไป iPhone หน้าตาดีครับ มี WiFi, Bluetooth, Quad band GSM, Edge (no 3G) จอภาพสัมผัสใหญ่ ควบคุมเสียงโดยรูดข้างๆโทรศัพท์ (ไม่แน่ใจครับ) เวลาหมุนตัวโทรศัพท์ UI จะหมุนเองอัตโนมัติ ใช้ connector แบบเดียวกับ iPod จึงใช้ฐาน sync เดิมได้ ฯลฯ
เว็บเบราเซอร์ใช้ Safari ครับ เห็นว่า full feature มี tab ด้วย (จะบ้าตาย จอแค่เนี้ยนะ), E-mail (IMAP or POP), Google Maps, บอกตำแหน่งจากดาวเทียม (GPS), รายละเอียดการจราจร, สภาพอากาศ, ราคาหุ้น เปลี่ยนไปมระหว่าง EDGE กับ WiFi อัตโนมัติ
ตั้งแต่ปี 2002 แล้วที่แอปเปิลได้อัปเดตหน้าแรกของเว็บ apple.com ให้เป็น teaser ของงาน MacWorld San Francisco (MWSF) โดยในปี 2002 นั้นแอปเปิลได้เปิดตัวสินค้าใหม่มากมายในงาน เช่น iMac จอแบน (หรือ G4 iMac), Mac OS X, iBook ขนาด 14 นิ้วและ iPhoto
ในปีนี้แอปเปิลได้ทำการเปลี่ยนแปลงหน้าแรกของเว็บเพื่อต้อนรับงาน MWSF ที่แฟน ๆ ชาวแมครอคอยทุก ๆ ปี โดยในปีนี้ จะจัดขึ้นในวันอังคารที่ 9 ที่จะถึงนี้ ปีนี้แอปเปิลได้ใช้สโลแกนว่า "30 ปีแรกเป็นแค่การเริ่มต้น ยินดีต้อนรับสู่ปี 2007"
MacScoop/MacOSXRumors รายงานว่าภายในเดือนมกราคมนี้ เราจะได้เห็น 8-Core Mac Pro ในส่วน Quad-Core Mac Pro อาจจะวางขายต่อไปในราคาต่ำกว่าในลักษณะ low-end Mac Pro
นอกจากนี้หลังจากที่มีข่าวลือก่อนหน้านี้มาว่าแอปเปิลจะเปิดตัวมอนิเตอร์ใหม่นั้น MacScoop กล่าวว่ารุ่น 23" อาจจะถูกแทนที่ด้วยรุ่น 24" แทน และยังมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะมีรุ่น 50" วางขายอีกด้วย
ที่มา - MacRumors
MacRumors ได้บอกว่าจากแหล่งข่าวต่าง ๆ แอปเปิลจะประกาศเปิดตัวจอภาพชุดใหม่ที่งาน MacWorld San Francisco งานแสดงสินค้าใหม่ ๆ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจากแอปเปิลที่จะจัดอยู่ทุก ๆ ปี โดยคาดว่าจอภาพใหม่นั้นจะมีกล้อง iSight ติดกับตัวจอมาเพื่อทดแทนกับการที่แอปเปิลเลิกขายแยกกล้อง iSight แบบ external แล้ว
งานนี้สาวๆ ที่ใช้แมคอาจจะต้องให้ความสนใจกันหน่อย เพราะมีการพบช่องโหว่ใน Apple OS X 10.4.8 ที่ทำให้เว็บที่วาง Java applet ที่มุ่งร้ายไว้ในเว็บสามารถดึงภาพจากกล้อง iSight ออกไปได้โดยเราไม่รู้ตัว แอปเปิลเลยต้องออกแพตซ์ 2006-008 ออกมาเพื่อปิดการควบคุมกล้องจาก Applet ที่ไม่ไ้ด้รองรับจากทางแอปเปิล
หวังว่างานนี้ทางแอปเปิลคงแก้ออกมาเร็วพอ หรือมีคลิปหลุดออกมาแล้ว????
ที่มา - Apple