หลังจากความร่วมมือทางด้านกลุ่มลูกค้าระดับองค์กรระหว่าง IBM กับ Apple พนักงาน IBM มี Mac เป็นอุปกรณ์ในตัวเลือกแล้ว

ทาง IBM ได้เพิ่มทางเลือกให้กับพนักงานในองค์กรทุกคนสามารถเลือกใช้อุปกรณ์ได้ทั้ง MacBook Pro, MacBook Air และ PC เมื่อต้องการอุปกรณ์ชุดใหม่เพิ่มหรือถึงรอบการอัพเกรดอุปกรณ์ โดยที่อุปกรณ์จะมาพร้อมกับซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัย Wi-Fi และ VPN พนักงานเพียงแค่เชื่อมอินเทอร์เน็ตเพื่อเริ่มตั้งค่าการใช้งานอุปกรณ์ใหม่เหล่านี้ ด้านพนักงานของ IBM มีความรู้สึกที่ดีต่อการเพิ่มทางเลือกครั้งนี้

ปัญหาพนักงานชอบใช้อุปกรณ์ส่วนตัวมาทำงานมากกว่าจะใช้อุปกรณ์ที่หน่วยงานซื้อให้ ในองค์กรกลายเป็นปัญหาที่หลายองค์กรยอมรับ และให้ทางเลือกพนักงานนำเครื่องส่วนตัวมาติดตั้งซอฟต์แวร์ควบคุมเพื่อใช้ในองค์กรได้ แต่ปัญหาล่าสุดของรัฐมนตรีสหรัฐฯ เหนือกว่าปัญหาที่ฝ่ายไอทีเดิมๆ เจอไปอีกขั้น เมื่อฮิลลารี่ คลินตัน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ ตั้งอีเมลเซิร์ฟเวอร์ใช้งานเองขณะทำหน้าที่รัฐมนตรีในรัฐบาลโอบามาสมัยแรก

ฮิลลารี่ใช้โดเมน clintonemail.com แล้วตั้งเซิร์ฟเวอร์ไว้ที่บ้าน โดยให้เหตุผลว่าเธอไม่สามารถติดต่อเรื่องส่วนตัวด้วยอีเมลของรัฐ จึงตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง

หลังจากมีนักวิจัยความปลอดภัยนิรนามออกมาวิเคราะห์ความปลอดภัยของระบบ KNOX ที่เพิ่งได้รับการรับรองให้ใช้งานระดับความลับของรัฐบาลสหรัฐฯ ตอนนี้ทางซัมซุงก็ออกมาชี้แจงบทวิเคราะห์นี้แล้ว

Samsung KNOX นับว่าเป็นบริการจัดการโทรศัพท์มือถือแอนดรอยด์ที่ติดตั้งมาในโทรศัพท์จำนวนมาก แต่ก่อนหน้านี้การใช้งานระบบจัดการคือ KNOX EMM มีค่าบริการถึง 3.6 ดอลลาร์ต่อคนต่อเดือน ขณะที่ KNOX Free ก็เป็นระบบจัดการเครื่องส่วนตัวเท่านั้น ตอนนี้ทางซัมซุงเปิดบริการเพิ่มเติม KNOX Express และ KNOX Premium สำหรับองค์กร

KNOX Express จะเป็นบริการฟรีที่มีฟีเจอร์พื้นฐานให้ เช่น การแยกข้อมูลระหว่างข้อมูลของบริษัทและข้อมูลส่วนตัว, การจัดการแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์ ข้อจำกัดของบริการฟรีส่วนนี้จะใช้งานได้ไม่เกิน 250 เครื่อง

เดลล์เขียนบทความแนะนำ 5 แนวทางการใช้อุปกรณ์โมบายโดยเฉพาะอุปกรณ์ของพนักงานของที่ใช้งานแบบ BYOD ให้ปลอดภัย ได้แก่

Dropbox ประกาศเข้าซื้อบริษัท MobileSpan ที่ทำซอฟต์แวร์ด้านเอกสารองค์กรบนกลุ่มเมฆ ที่เข้ารหัสเพื่อความลับของข้อมูล และสามารถทำงานร่วมกับไฟร์วอลล์ขององค์กรได้ดี (MobileSpan มีทั้งแอพบน iOS/Windows และมีซอฟต์แวร์ติดตั้งที่เกตเวย์ขององค์กร)

MobileSpan เป็นบริษัทที่ก่อตั้งโดยอดีตพนักงานกูเกิลที่อยู่ในทีม Chrome เมื่อปี 2011 ปัจจุบันมีทีมงานทั้งหมด 4 คน ทุกคนจะย้ายไปเป็นพนักงานของ Dropbox และปิดบริการ MobileSpan ในวันสิ้นปีนี้ ผู้ใช้เดิมจะได้รับการย้ายไปใช้ Dropbox for Business แทน

นอกจาก Microsoft Office for iPad ที่เปิดตัวเมื่อคืนนี้ ไมโครซอฟท์ยังเปิดตัวผลิตภัณฑ์สำหรับตลาดองค์กรอีกตัวในชื่อ Enterprise Mobility Suite หรือ EMS

EMS เป็น "ชุด" ของบริการที่อยู่บนกลุ่มเมฆของไมโครซอฟท์ (ไม่มีแบบติดตั้งใช้เองในองค์กร) เป้าหมายเพื่อบริหารจัดการการใช้งานอุปกรณ์พกพาภายในองค์กร (BYOD) โดยประกอบด้วยบริการย่อย 3 ตัวคือ

Elizabeth Palermo แห่ง Business News Daily ได้รวบรวมรายงานด้านความปลอดภัยระดับองค์กรจัดทำโดยบริษัทวิจัย 3 แห่ง พบว่าสาเหตุสำคัญที่สุดมาจากพนักงานในองค์กรนั้นเอง โดยมีรายละเอียดดังนี้

หลังจากมีข่าวว่าเอเซอร์จะควบรวมกิจการกับเอชทีซี เมื่อสัปดาห์ที่แล้วประธานบริษัทเอเซอร์ Stan Shih ให้สัมภาษณ์กับสื่อไต้หวันว่าไม่มีแผนการดังกล่าวและไม่เคยมีความมุ่งหมายที่จะควบรวมกับเอชทีซี

Shih ยังกล่าวว่าในอนาคตบริษัทจะเน้นแพลตฟอร์ม BYOD ของตน และ Jason Chen ซีอีโอคนใหม่จะเปิดเผยกลยุทธ์การดำเนินการใหม่ในสัปดาห์นี้

หากใครจำกันได้ เคยมีข่าวลือว่าเอเซอร์จะควบรวมกิจการกับเอซุสเพื่อความอยู่รอดของทั้งสองบริษัท

ที่มา: DigiTimes

BlackBerry เคยส่งจดหมายถึงลูกค้ามาแล้วหนึ่งรอบ เพื่อยืนยันว่าอนาคตของบริษัทยังสดใส แต่เมื่อเปลี่ยนตัวซีอีโอคนใหม่ ก็ได้เวลาส่งจดหมายอีกรอบครับ

ถ้ายังจำกันได้ BlackBerry มีซอฟต์แวร์ฝั่งเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้บริการจัดการมือถือจากระยะไกลคือ BES (BlackBerry Enterprise Service) ซึ่งใน BES 10 รุ่นล่าสุด ก็ขยายความสามารถให้บริการจัดการอุปกรณ์ Android/iOS ได้ด้วย

วันนี้ BlackBerry ประกาศทำ BES เวอร์ชันโฮสต์บนกลุ่มเมฆแล้ว ทำให้การบริหารจัดการอุปกรณ์ BYOD ในองค์กรไม่จำเป็นต้องมีเซิร์ฟเวอร์ตั้งอยู่ในองค์กรอีกต่อไป ในแง่ฟีเจอร์คงไม่ต่างจาก BES รุ่นปกติมากนัก ส่วนราคาก็ใช้วิธีคิดเป็นต่อเครื่องต่อเดือน ซึ่งทาง BlackBerry ยังไม่ประกาศว่าเท่าไร

ที่น่าสนใจคือ BlackBerry ยังไม่ประกาศชื่อของบริการตัวนี้ ตอนนี้ยังเรียกมันคือว่า "cloud service" ครับ (ดูแนวแล้วอาจไม่ใช้ชื่อ BES เลยด้วยซ้ำ)

นโยบายให้พนักงานนำอุปกรณ์ไอทีของตนเองมาใช้งานในองค์กร (BYOD - bring your own devices) กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น แต่นั่นอาจทำให้ต้นทุนการบริหารจัดการเกี่ยวกับไอทีสูงขึ้นด้วย โดยบริษัทวิจัย Osterman เผยผลการวิจัยในองค์กรขนาดกลาง-ใหญ่ 117 แห่ง พบว่าผลจากการที่องค์กรให้พนักงานนำอุปกรณ์พกพาเข้ามาใช้ในที่ทำงานมากขึ้นนั้น ในปีที่แล้วจะต้องใช้เจ้าหน้าที่ไอทีสนับสนุนเฉลี่ย 2.9 คนต่ออุปกรณ์ 1,000 เครื่อง แต่ตัวเลขในปี 2012 นี้เพิ่มสูงเป็น 3.6 คนต่ออุปกรณ์ 1,000 เครื่อง และคาดว่าปีหน้า 2013 จะเพิ่มเป็น 4 คน

ถ้ายังจำกันได้ ยักษ์สื่อสาร Cisco มีแท็บเล็ตสำหรับตลาดองค์กรชื่อ Cius (ข่าวเก่า) แนวคิดของ Cisco วางแผนให้มันเป็นแท็บเล็ตที่องค์กรสั่งซื้อให้ผู้บริหารและพนักงานใช้ โดยผนวกเอาซอฟต์แวร์สื่อสารในองค์กรอย่าง WebEx หรือ TelePresence มาให้ในตัว

ข่าวนี้เป็นประเด็นที่น่าสนใจสำหรับนโยบายอนุญาตให้พนักงานนำอุปกรณ์ไอทีของตัวเองมาใช้ในที่ทำงาน (bring your own device หรือ BYOD)

ยักษ์ใหญ่อย่าง IBM ที่มีพนักงานทั่วโลกเป็นหลักแสนคน ได้สั่งบล็อคทราฟฟิกของ Siri ไม่ให้ทำงานได้บนเครือข่ายภายในองค์กรแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ Jeanette Horan ซีไอโอของบริษัทให้สัมภาษณ์กับ MIT Technology Review ว่าบริษัทกังวลว่าข้อความเสียงที่ส่งผ่าน Siri จะถูกแอปเปิลเก็บรักษาเอาไว้ที่ศูนย์ข้อมูลภายนอกบริษัท ซึ่งข้อความเหล่านี้อาจมีความลับของบริษัทรวมอยู่ด้วย

จริงๆ แล้วนอกจาก Siri แล้ว IBM ยังห้ามใช้ Dropbox/iCloud และห้ามส่งต่ออีเมลจากบัญชี IBM ไปยังบัญชีส่วนตัวภายนอกบริษัท

สงครามบริการซิงก์ไฟล์ข้ามเครื่องกลายเป็นสงครามที่ระอุมากในช่วงหลัง ทั้งกูเกิล, ไมโครซอฟท์ และผู้แข่งขันรายใหม่ๆ ในตลาดพากันจับจองพื้นที่อย่างแข็งขัน บริษัทที่ครองตลาดการจัดเก็บข้อมูลในองค์กรมาก่อนอย่าง EMC ก็เลือกที่จะเข้าตลาดนี้ด้วยการซื้อบริษัท Syncplicity ที่ทำตลาดอยู่ก่อนแล้ว

Syncplicity เองนั้นมีลูกค้าอยู่ในตอนนี้ 25,000 คน โดยมีจุดเด่นที่ศูนย์ข้อมูลนั้นได้มาตรฐาน SAS70 Type II