FeedBurner เป็นบริการฟีดข้อมูลที่อยู่คู่กับ Google มานานตั้งแต่กระแส web 2.0 ล่าสุด กูเกิลประกาศย้ายระบบ FeedBurner จากโครงสร้างเดิมไปยังโครงสร้างระบบใหม่ที่มีความเสถียรมากขึ้น พร้อมกับยกเลิกบริการสมัครรับข้อมูลผ่านอีเมล ซึ่งเป็นบริการของ FeedBurner ไปพร้อมกันด้วย ทำให้ FollowByEmail ของ Blogger ต้องถูกยกเลิกให้บริการตามไปด้วย โดยกำหนดการยกเลิก คือ เดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้
ทางกูเกิลได้แนะนำเจ้าของฟีดข้อมูลที่ใช้บริการสมัครรับข้อมูลผ่านอีเมลให้ดาวน์โหลดข้อมูลรายการสมาชิกอีเมลและย้ายไปใช้งานบริการรสมัครรับข้อมูลผ่านอีเมลอื่น ๆ แทน ส่วนความสามารถอื่น ๆ ของ FeedBurner ยังสามารถใช้บริการได้อยู่
หลังจากปล่อยอัพเดตครั้งใหญ่ให้กับแอปใน Android เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ล่าสุด Google ได้อัพเดตหน้าเว็บ Blogger ตามมาแล้วโดยเปลี่ยนอินเทอร์เฟสเป็นแบบ Material Design ให้เข้ากับบริการอื่นๆของ Google ทั้งยังปรับให้เว็บไซต์ให้เป็นแบบ Responsive รองรับการแสดงผลตามขนาดหน้าจอ
นอกจากนี้ ยังอัพเดตในแต่ละหน้าเมนูย่อยของ Blogger ดังนี้
เมื่อวานนี้ระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ระบุถึงเว็บไซต์ pulony.blogspot.com ว่าเป็นเว็บไซต์ "แพร่มลทิน ป้ายสีนักสิทธิมนุษยชน นักวิชาการ นักการเมืองผู้ที่ผลักดันประเด็นชายแดนใต้อย่างสันติ" (คำตามทวิตเตอร์อนาคตใหม่) ทางกูเกิลผู้ให้บริการ Blogger (blogspot) ได้ระบุส่งแถลงทางอีเมลถึง Blognone ตอบกลับเรื่องนี้ โดยระบุว่าทางบริการ Blogger มีนโยบายเนื้อหา และหากผู้ใช้เชื่อว่าผิดนโยบาย สามารถกด Report Abuse ได้
เชื่อว่าคนที่อยากมีบล็อกเขียนเรื่องราวของตัวเองน่าจะเคยได้ยินชื่อ Blogger ของกูเกิลผ่านหูกันบ้างแน่ ๆ แต่หลังจากแอพได้รับการอัพเดตไปเมื่อปี 2016 เป็นเวอร์ชั่น 2.1.3 ที่ผ่านมาแล้วโดนกระแส WordPress กับ Medium กลบก็ไม่มีอัพเดตอีกเลยจนกระทั่งวันที่ 14 ตุลาคม 2019 ที่ผ่านมา ทางกูเกิลได้อัพเดทแอพ Blogger เป็นเวอร์ชั่น 3.0.1 แล้ว
ย้อนกลับไป 6 ปีก่อน Google ได้มี Dynamic Views ที่สามารถเลือกเปลี่ยนมุมมองได้ 7 แบบ ให้ผู้ใช้ได้เลือกใช้เพิ่มนอกจากธีมหลักของ Blogger แล้วก็ไม่ได้ออกธีมใหม่ๆอีกเลยในช่วงเวลาที่ผ่านมา จนเมื่อไม่นานมานี้ Google ได้ปล่อยธีมชุดใหม่เพิ่มอีก 4 ตัวในชื่อ Contempo, Soho, Emporio และ Notable
ปีที่แล้ว Blogger รองรับการเชื่อมต่อผ่าน HTTPS แต่ยังต้องให้เจ้าของบล็อกเปิดใช้กันเองก่อน มาวันนี้กูเกิลประกาศเพิ่ม HTTPS ให้กับบล็อกทุกรายที่โฮสต์อยู่บนโดเมน blogspot.com ของกูเกิลเองแล้ว
การเปิดใช้ HTTPS ครั้งนี้จะทำให้บล็อกบน Blogspot มีสองเวอร์ชันคือ http:// และ https:// ซึ่งในทางปฏิบัติแล้วมองว่าเป็นคนละเว็บกัน อย่างไรก็ตาม กูเกิลยังเปิดให้เจ้าของบล็อกสามารถสั่ง redirect หน้าเพจที่เป็น http:// ให้เป็น https:// ทั้งหมดได้ด้วย (อาจมีปัญหาตรงเนื้อหาบางอย่าง เช่น ภาพหรือวิดีโอ ที่ฝังเป็น http อาจไม่แสดงผลบน https)
กูเกิลเปิด HTTPS สำหรับบริการหลักๆ ของตัวเองมานาน แต่บริการ Blogger นั้นกลับไม่รองรับ HTTPS มานาน และวันนี้ทางกูเกิลก็เปิดให้เจ้าของบล็อกเลือกเปิด HTTPS ได้เองแล้ว
กูเกิลระบุว่าตอนนี้ยังเป็นช่วงเริ่มต้นเท่านั้นแต่เปิดให้เจ้าของบล็อคที่สนใจเปิดใช้งานกันก่อน ข้อจำกัดคือการใช้โดเมนส่วนตัวยังใช้งานไม่ได้ และหลายครั้งอาจจะมีปัญหากับโพสเพราะมีการฝังเนื้อหาจากเว็บไม่เข้ารหัสเอาไว้
สามวันหลังกูเกิลประกาศนโยบายใหม่บน Blogger เตรียมปิดโพสที่เป็นภาพเปลือยออกจากระบบ ก็ได้รับคำวิจารณ์จากผู้ใช้จำนวนมาก จนตอนนี้ต้องกลับมาปรับนโยบายเสียใหม่ โดยจะปิดกั้นภาพเปลือยเฉพาะที่เป็นภาพเพื่อการค้า
สำหรับผู้ที่โพสภาพเปลือยด้วยเหตุผลอื่นๆ โดยเฉพาะกลุ่มที่โพสเพื่อแสดงตัวตน (express their identities) จะสามารถโพสได้ต่อไป โดยต้องตั้งค่าเป็นเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อให้กูเกิลแจ้งเตือนผู้เข้าชมได้
ที่มา - Blogger, U-T San Diego
การเปิดแพลตฟอร์มให้ผู้ใช้สร้างเนื้อหาด้วยตัวเองบนอินเทอร์เน็ต ย่อมต้องเผชิญกับผู้ที่นำระบบมาใช้งานด้านภาพโป๊เปลือยหรือเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ ซึ่งก็ขึ้นกับผู้ให้บริการแต่ละเจ้าว่ามีนโยบายรับมือกับเนื้อหาแบบนี้อย่างไร
หลังจากแพลตฟอร์มสร้างบล็อก Blogger เปิดให้โพสต์เนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่มานานหลายปี ล่าสุดกูเกิลก็กลับลำเต็มตัว โดยปรับเงื่อนไขการใช้งานว่าไม่สามารถโพสต์ภาพ/กราฟิก/วิดีโอที่มีเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ได้อีกแล้ว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2015 เป็นต้นไป
สำหรับบล็อกที่สร้างหลัง 23 มีนาคม และมีภาพโป๊เปลือย บล็อกจะถูกลบจากระบบทันที ส่วนบล็อกที่อยู่มาก่อนหน้านั้น กูเกิลจะเปลี่ยนสถานะเป็น private โดยไม่ลบข้อมูลทิ้ง
รัฐบาลรัสเซียเดินหน้าเพิ่มมาตรการเพื่อควบคุมระบบอินเทอร์เน็ตในประเทศให้เข้มงวดยิ่งขึ้น ด้วยกฎใหม่ที่เตรียมบังคับใช้ให้บล็อกเกอร์ลงทะเบียนรายงานตัวต่อรัฐ
ข้อบังคับใหม่ระบุว่าผู้ใดที่มีอำนาจหน้าที่ดูแลบล็อกใดก็ตามในรัสเซีย จะต้องแจ้งชื่อและนามสกุลพร้อมอีเมลให้ทางการได้รับทราบ ยิ่งไปกว่านั้นหากบล็อกส่วนตัวของใครก็ตามมีผู้เข้าเยี่ยมชมมากกว่า 3,000 คนต่อวัน ผู้นั้นจะถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มรายชื่อพิเศษที่มีระเบียบข้อบังคับอื่นที่เคร่งครัดขึ้นในลักษณะเดียวกับสื่อสาธารณะอื่น โดยโทษสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎข้อบังคับใหม่นี้มีทั้งโทษปรับและกักบริเวณ ทั้งนี้กฎที่ว่ามาทั้งหมดไม่มีผลต่อบล็อกเกอร์ที่พำนักอยู่นอกประเทศ
กูเกิลยังคงเดินหน้าหลอมรวมบริการต่างๆ ของตนเองเข้ากับ Google+ อยู่เรื่อยๆ ครับ คิวที่แล้วเป็นคิวของ Google Play ที่หลอม Google Play Profile เข้ากับ Google+ Profile คิวล่าสุดก็กลับมาเป็น Blogger อีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้หลอม Blogger Profile เข้ากับ Google+ Profile ไปแล้ว
โดยส่วนที่กูเกิลหลอมรวมเข้าไปคือส่วนของคอมเม้นท์ครับ โดยระบบนี้ผมคงไม่พูดมาก เพราะหลักการเหมือน Facebook Comment เปี๊ยบ แต่กรณี Google+ ซะอย่างมันก็เลยมีข้อแตกต่างอยู่จุดเดียว คือเวลาที่มีคน Reshare บล็อกออกไป ก็จะขึ้นเป็น History อยู่ใน Google+ Comment ด้วยว่าใครทำอะไรไปบ้าง
แนวทางการเซ็นเซอร์ตามแต่ละประเทศดูเหมือนจะเป็นแนวทางที่กูเกิลเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ จากเดิมที่มีการใช้แนวทางใน YouTube เป็นหลัก ตอนนี้ก็ถึงคราวของ Blogger แล้ว
โดยกูเกิลได้ปรับนโยบายเงียบๆ ว่าจะปรับโดเมนที่ให้บริการไปตามพื้นที่ของผู้เข้าชม เช่นออสเตรเลียนั้นจะถูก redirect ไปยัง [ชื่อบล็อก].blogspot.com.au
แทน URL บล็อกตามปรกติ โดยโดเมนเหล่านี้จะถูกเซ็นเซอร์ตามกฏหมายของแต่ละประเทศ
อย่างไรก็ดีผู้ใช้ทุกคนสามารถเข้าบล็อกผ่าน URL [ชื่อบล็อก].blogspot.com/ncr
เพื่อยืนยันว่าจะเข้าใช้งาน .com แทนโดเมนของประเทศนั้นๆ ได้
มันคือการทำให้เจ้าหน้าที่ของแต่ละประเทศสบายใจว่าได้ปิดเนื้อหาในประเทศตัวเองแล้ว โดยที่ยังมีหนทางในการเข้าอ่านในทางอื่นๆ ได้นั่นเอง
กูเกิลยังเดินหน้าควบรวมบริการต่างๆ เข้ากับ Google+ อยู่เรื่อยๆ
สำหรับบริการฝากบล็อก Blogger ก่อนหน้านี้เปิดให้ใช้ Google+ Profile แทน Blogger Profile มารอบหนึ่งแล้ว วันนี้กูเกิลเดินหน้าไปอีกขั้น เปิดให้เราเลือกได้ว่า ถ้าเขียนบล็อกบน Blogger แล้วกดปุ่ม publish เพื่อเผยแพร่แล้ว จะให้ขึ้นหน้าต่างมาถามว่าจะแชร์บล็อกที่เพิ่งเขียนสดๆ ลง Google+ ของเราเพื่อโปรโมตด้วยหรือไม่
แนวทางการรวมบริการต่างๆ ของกูเกิลเข้าไปยัง Google+ นั้นชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดบริการที่ได้รับความนิยมสูงอย่าง Blogger ก็เป็นบริการต่อมา โดยตอนนี้ผู้ใช้ Blogger draft รุ่นทดสอบสามารถเลือกที่จะผูกบัญชี Blogger เข้ากับ Google+ ได้
การผูกบัญชีกันในตอนนี้ยังไม่มีผลอะไรมากกว่าการเปลี่ยนหน้าโปรไฟล์จากของ Blogger เป็นของ Google+ เท่านั้น ซึ่งจะทำให้ Blogger แสดงชื่อสามัญตามกฏของ Google+ ในตอนนี้ไปด้วย
ทาง Blogger ระบุว่าผู้ที่เข้าร่วมโครงการนี้จะได้รับฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่เกี่ยวกับ Google+ เองโดยอัตโนมัติ
ที่มา - Blogger Buzz
กูเกิลยังเดินหน้า "หลอมรวม" บริการต่างๆ ของตัวเองเข้ากับ Google+ อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเป็นคิวของ Blogger ครับ
ผู้ใช้ Blogger คงคุ้นกันดีว่าเราจะมี "Blogger Profile" ไว้บอกคนอ่านบล็อกว่าเราเป็นใคร เขียนบล็อกอะไรบ้าง ซึ่งตอนนี้กูเกิลเปิดให้เราเปลี่ยนจาก Blogger Profile แบบเดิม มาใช้ Google+ Profile แทนได้แล้ว (ยังอยู่ในโหมดทดสอบบน Blogger in Draft)
กูเกิลเพิ่มลูกเล่นใหม่ "Dynamic Views" ให้ Blogger มันคือการเปลี่ยน "มุมมอง" ของบล็อกได้ทั้งหมด 7 แบบ
ต้องอธิบายอีกนิดว่า Dynamic Views ต่างจากธีม (ซึ่งเป็นส่วนของสไตล์) นะครับ เพราะ Views จะเปลี่ยนโครงสร้างการนำเสนอของบล็อก (หรืออีกนัยหนึ่งคือ layout/structure) ซึ่งผู้ชมเว็บสามารถเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้ระหว่างมุมมองทั้ง 7 แบบ (จึงเรียกว่า "Dynamics") โดยไม่ต้องรอเจ้าของบล็อกเปลี่ยนให้
ถ้ายังนึกไม่ออก ลองดูวิดีโอประกอบ
Blogger ประกาศวันนี้ว่าเว็บได้เริ่มเปลี่ยนแปลงหน้าตาการใช้งานให้เหมือนกับผลิตภัณฑ์อื่นของกูเกิลแล้ว โดยเป็นลักษณะพื้นสีขาว หน้าตาที่โล่งและสะอาดมากขึ้น ตลอดจนความเร็วในการใช้งานที่เพิ่มขึ้น
นอกเหนือจากการปรับปรุงหน้าตาแล้วส่วนการปรับปรุงสำคัญคือในหน้าเขียนบล็อกก็จะมีพื้นที่เพิ่มมากขึ้น ในส่วนหน้า Overview ซึ่งเป็นหน้าแรกนั้นจะแสดงผลสถิติผู้เข้าชมก่อนเลย ผู้ใช้งาน Blogger สามารถเลือกเปลี่ยนมาใช้ UI ใหม่ได้ตั้งแต่วันนี้ครับ
ที่มา: Google Blog
จากข่าวลือวันก่อนว่า กูเกิลจะเลิกใช้แบรนด์ Blogger และ Picasa วันนี้มีข่าวลืออีกสายมาแย้งข่าวลือก่อนหน้านี้ โดยเว็บไซต์ GigaOm อ้างแหล่งข่าวที่สนิทสนมกับฝ่าย Blogger ของกูเกิล ระบุว่าไม่มีแผนจะทิ้งแบรนด์ Blogger แต่อย่างใด
ส่วนตัวแทนของกูเกิลปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องนี้
Evan Williams ผู้สร้าง Blogger (ซึ่งภายหลังก็ไปสร้าง Twitter ต่อ) ให้ความเห็นว่าถ้ากูเกิลทิ้งแบรนด์ Blogger จริง เขาก็คงเศร้า แต่เหตุผลว่าชื่อ Google Blogs ก็สมเหตุสมผลเช่นกัน จุดที่น่าเศร้าที่สุดคือโลโก้ของ Blogger เป็นหนึ่งในโลโก้ที่ดีที่สุดบนเว็บ น่าเสียดายถ้าหากจะทิ้งมันไป
เว็บไซต์ Mashable รายงานข่าววงในว่า กูเกิลจะยกเลิกแบรนด์ Blogger และ Picasa เพราะต้องการเน้นชื่อ "Google" ให้มากขึ้น หลังการเปิดตัว Google+
ตัวบริการ Blogger กับ Picasa จะยังอยู่เหมือนเดิม แต่จะเปลี่ยนชื่อเป็น Google Blogs และ Google Photos ตามลำดับ
ในอดีตกูเกิลเคยซื้อผลิตภัณฑ์หลายตัวและเปลี่ยนชื่อมาแล้ว เช่น JotSpot เป็น Google Sites และ GrandCentral มาเป็น Google Voice
ตามข่าวบอกว่ากูเกิลจะประกาศเรื่องเปลี่ยนชื่อภายใน 1-1.5 เดือนข้างหน้านี้ และมีโอกาสที่ผลิตภัณฑ์ตัวอื่นจะถูกเปลี่ยนชื่อด้วย (แต่ YouTube จะไม่เปลี่ยนชื่อแน่นอน)
ที่มา - Mashable
ข่าวบริการบนกลุ่มเมฆล่มหรือให้บริการไม่ได้ยังตามมาอีกเป็นชุด รอบล่าสุดคนที่โดนคือ Blogger บริการบล็อกจากกูเกิล
ตามรายงานคือวันที่ 12 พ.ค. ตามเวลาสหรัฐ Blogger ก็ล่มจนใช้งานไม่ได้ ซึ่งทางทีม Blogger ได้ตัดสินใจแก้ปัญหาโดยการ roll back ระบบกลับไปอยู่ในสถานะของวันที่ 11 พ.ค. ช่วงเช้า ทำให้บล็อกและคอมเมนต์ที่ถูกโพสต์ระหว่างวันที่ 11-12 พ.ค. หายไปชั่วขณะหนึ่ง
หลังจากนั้น Blogger จะเข้าโหมดอ่านได้อย่างเดียว จนมาแก้ไขสำเร็จในวันที่ 13 พ.ค. ระบบกลับมาใช้ได้เหมือนเดิม และกูเกิลประกาศว่ากำลังนำข้อมูลโพสต์กลับคืนมาให้
Blogger อธิบายว่าสาเหตุเกิดจากการซ่อมบำรุงตอนกลางคืนของวันที่ 11 พ.ค. มีปัญหาข้อมูลเสีย (data corruption) บางส่วน จึงตัดสินใจแก้ปัญหาโดย rollback ระบบกลับมา
ที่งานสัมมนา SXSW กูเกิลได้โชว์รูปโฉมใหม่ของ Blogger บริการเว็บบล็อกรายใหญ่ของโลก
ของใหม่มีหลายอย่าง ได้แก่
กูเกิลยังไม่บอกว่าจะปรับโฉม Blogger เมื่อไร แต่ก็คาดว่าอีกไม่นานจากนี้
ไม่รู้ว่านี่เป็นหนึ่งในแอพที่มีข่าวว่ากูเกิลกำลังระดมสร้างหรือไม่ แต่บริการบล็อกของกูเกิลเองอย่าง Blogger (ซึ่งช่วงหลังเงียบไปมาก) ก็ออกแอพบนมือถือมาแล้ว
Blogger Android App รองรับการล็อกอินแบบหลายบัญชี และใช้งานได้หลายบล็อกพร้อมกัน, สามารถแทรกภาพลงบล็อกโดยกดแชร์จาก Gallery หรือกดถ่ายภาพโดยตรง, แชร์ตำแหน่งของผู้เขียนได้ และแก้ไขบล็อกที่เขียนเอาไว้แต่ยังไม่เผยแพร่ได้
เท่าที่ดูข้อมูลจาก Android Market ระบุว่าต้องการ Android 2.1 ขึ้นไปครับ
ไม่รู้ว่ามาช้าไปหรือเปล่า เพราะผู้ใช้ต้องรอกันถึง 11 ปีหลังจากการเกิดของ Blogger โดยกูเกิลได้เพิ่มบริการเก็บสถิติคนเข้าบล็อกมาให้ในตัวในชื่อ Blogger Stats
ผู้ใช้ Blogger ทุกคนสามารถใช้งานได้ทันที โดยจะมีแท็บ Stats เพิ่มเข้ามาใน Dashboard ส่วนความสามารถก็เท่าเทียมกับบริการเก็บสถิติตัวอื่นๆ เช่น คีย์เวิร์ด เบราว์เซอร์ ประเทศของผู้เข้าชม นอกจากนี้มันยังเก็บสถิติแบบเรียลไทม์ ไม่ต้องรอดูสถิติอีกหนึ่งวันแบบบริการบางตัว
ที่มา - Blogger Buzz
บริการ Blogger ของกูเกิลนั้นช่วงหลังๆ เงียบไปมาก แม้คนจะยังใช้เยอะอยู่แต่ในแง่ฟีเจอร์แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ล่าสุดกูเกิลได้เพิ่มฟีเจอร์ที่หลายๆ คนอาจคิดว่ามันมีตั้งนานแล้ว (แต่จริงๆ เพิ่งมี) นั่นคือ Blogger Template Designer หรือตัวช่วยปรับแต่งธีมของบล็อกนั่นเอง
ฟีเจอร์นี้ยังไม่เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไป ต้องเข้าผ่าน Blogger in Draft ซึ่งเป็นเหมือน Blogger รุ่นทดสอบ เราสามารถใช้ Blogger Template Designer ปรับสี ภาพพื้นหลัง และโครงสร้างของบล็อกเราได้ โดยไม่ต้องเขียนโค้ดแม้แต่น้อย ดูวิดีโอสาธิตการทำงานด้านใน
ไม่รู้ช่วงนี้กูเกิลเป็นอะไร อัพเดตฟีเจอร์และบริการใหม่ๆ เยอะมาก
เขียนบล็อกบน Blogger อยากย้ายไปใช้ WordPress แต่ก็เสียดายบล็อกเก่า ทำยังไงดี?
ปัญหาเหล่านี้แก้ได้ด้วย Google Blog Converters ซึ่งเป็นสคริปต์และไลบรารีภาษา Python สามารถแปลงฟอร์แมตของบล็อกต่างๆ ได้ดังนี้
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์พิเศษสำหรับคนที่อยากไปสั่งแปลงบล็อกด้วย App Engine ก็สามารถทำได้ทันที มีเทมเพลตให้พร้อม
ในอนาคตเค้าบอกว่าจะสนับสนุนฟอร์แมต BlogML และประกาศว่ายินดีรับโค้ดของตัว converter เพิ่มเติม ผมรอของ Exteen อยู่นะ!