หลังเคยปล่อย WebVR API สำหรับคนทำเว็บไปแล้ว ล่าสุดกูเกิลอัพเดต Chrome Beta เวอร์ชัน 56 บนแอนดรอยด์ให้รองรับ WebVR API สำหรับการเข้าชมเว็บแบบ VR แล้ว
นอกจาก WebVR API ยังมี GamePad API Extension ที่ทำให้นักพัฒนาเว็บสามารถเรนเดอร์การแสดงผลเว็บในแบบ VR ซึ่งรองรับอินพุทจากคอนโทรลเลอร์ของแว่น VR ด้วย โดยทางกูเกิลระบุมีแผนจะขยาย WebVR ไปบนเดสก์ท็อปและ Google Cardboard ในอนาคตด้วย
ที่มา - Chromium Blog
ใน Chrome 55 เวอร์ชันล่าสุด เริ่มปิด Flash เป็นค่าดีฟอลต์ โดยมีข้อยกเว้นเป็นบางเว็บไซต์ ล่าสุดกูเกิลเผยแผนการเลิกใช้ Flash ในระยะยาวแล้ว
แนวคิดของกูเกิลคือมีสองปัจจัยที่ต้องพิจารณาปิด Flash เป็นค่าดีฟอลต์ ได้แก่
กูเกิลออก Chrome 56 Beta ของใหม่ที่สำคัญคือเริ่มแสดงป้ายเตือน Not Secure สำหรับเว็บที่ยังเป็น HTTP ตามที่เคยประกาศไว้ ซึ่งน่าจะช่วยกระตุ้นให้เว็บไซต์ต่างๆ เปลี่ยนมาใช้ HTTPS กันมากขึ้น
ฟีเจอร์อย่างอื่นคือเว็บไซต์สามารถสื่อสารกับอุปกรณ์ Bluetooth LE ได้ผ่าน Bluetooth API ช่วยให้เว็บแอพมีลักษณะเหมือนแอพแบบเนทีฟมากขึ้น ส่วนฟีเจอร์ฝั่งของนักพัฒนาเว็บคือรองรับ CSS position:sticky กำหนดให้วัตถุบนหน้าเว็บสามารถแปะค้าง (sticky) อยู่บนจอ แม้จะเลื่อนไปยังหน้าจออื่นแล้ว
ที่มา - Chromium Blog
Chrome 55 เข้าสู่สถานะ Stable ของใหม่ในรุ่นนี้ได้แก่การปิด Flash เป็นดีฟอลต์ในทุกกรณี ตามที่เคยประกาศไว้ โดยมีข้อยกเว้นเพียง 10 เว็บใหญ่ที่ยังเปิด Flash ให้เป็นกรณีพิเศษ ได้แก่ YouTube.com, Facebook.com, Yahoo.com, VK.com, Live.com, Yandex.ru, OK.ru, Twitch.tv, Amazon.com, Mail.ru
ผู้ใช้ Chrome ยังสามารถใช้ Flash ได้ แต่ต้องคลิกขวาที่ปลั๊กอินเอาเอง (สามารถตั้งค่าให้รันอัตโนมัติได้ถ้าต้องการ)
ส่วน Chrome บน Android เพิ่มฟีเจอร์ดูเว็บเพจแบบออฟไลน์ โดยผู้ใช้ต้องสั่งเซฟก่อนในกรณีที่เป็นวิดีโอ
กูเกิลประกาศในงาน Chrome Dev Summit ว่าตอนนี้มีผู้ใช้ Chrome นับเป็นจำนวนเครื่องเกิน 2 พันล้านเครื่องแล้ว (นับรวมทั้งเดสก์ท็อปและอุปกรณ์พกพา และเป็น active browser คือถูกใช้งานจริง) ถือเป็นความสำเร็จอีกขั้นของ Chrome ถัดจากจำนวนผู้ใช้ทะลุ 1 ล้านคนที่ประกาศไปก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ในงานนี้กูเกิลไม่ได้อัพเดตจำนวนผู้ใช้งาน (active user) ในงานนี้
ตอนนี้กูเกิลมีบริการ 7 ตัวที่มีผู้ใช้เกิน 1 พันล้านคน ได้แก่ Gmail, Android, Chrome, Maps, Search, YouTube, Google Play Store
ที่มา - TechCrunch
Google Chrome for Android มีอัพเดตในวันนี้แก้ไขช่องโหว่ที่เปิดทางให้แฮกเกอร์สามารถสั่งติดตั้ง apk โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้ ทาง Kaspersky คาดว่ามีผู้ถูกโจมตีจากช่องโหว่นี้ไปแล้วกว่าสามแสนราย
ทาง Kaspersky รายงานการโจมตีนี้มาตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมาว่ามีการโจมตีโดยส่ง apk มาทางเครือข่ายโฆษณา รวมถึง AdSense ของกูเกิลเอง ตัวมัลแวร์มีความสามารถในการหลอกล่อผู้ใช้ให้ใส่ข้อมูลส่วนตัว ดักรับข้อความ SMS
Google ได้รายงานว่า ตอนนี้เว็บไซต์ที่โหลดผ่าน Google Chrome บนเดสก์ท็อปนั้น เกินครึ่งเป็น HTTPS ทั้งหมดแล้ว และเมื่อคิดเป็นเวลาที่ผู้ใช้ใช้งานเว็บ HTTPS เหล่านั้น ก็คิดเป็นจำนวนกว่า 2 ใน 3 ของเวลาทั้งหมดที่ผู้ใช้ได้ใช้งานเว็บทั้งหมด
นอกจากนี้ Google ยังบอกว่าทราฟฟิกของโฆษณาใน Google นั้นได้ส่งผ่าน HTTPS เพิ่มขึ้นมากในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น AdWords, AdSense หรือ DoubleClick Ad Exchange ส่วนโฆษณาที่ขายโดยตรงอย่าง DoubleClick for Publishers ยังคงต้องการออกแบบให้เป็นมิตรกับ HTTPS มากขึ้น
ช่วงหลังมานี้ Google เริ่มจะปรับอินเทอร์เฟสของแอพบน Android หลายแอพ โดยย้ายแถบ navigation ลงมาไว้ด้านล่างของจอ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับโทรศัพท์ขนาดใหญ่ โดยตอนนี้การปรับอินเทอร์เฟสนี้ก็เริ่มปรับกับแอพ Chrome บน Android แล้ว
ฟีเจอร์นี้ใช้ชื่อว่า Chrome Home ซึ่งจะอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถย้าย address bar, tab switcher และเมนูการตั้งค่าจากด้านบนหน้าจอมาไว้ด้านล่าง โดยตอนนี้เป็นฟีเจอร์ที่อยู่ใน Chrome Dev Channel โดยจำเป็นต้องใช้ Chrome flags ในการเปิดคือ chrome://flags/#enable-chrome-home
ที่มา - 9to5Google
กูเกิลปรับใช้เทคนิคการรีดประสิทธิภาพในการคอมไพล์ Profile Guided Optimization (PGO) ของไมโครซอฟท์กับ Chrome บนวินโดวส์ ส่งผลให้ประสิทธิภาพของ Chrome ดีขึ้นสูงสุด 15%
การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลกับ Chrome 53 (64 บิต) และ Chrome 54 (32 บิต) บน Windows
ที่มา - Chromium Blog
กูเกิลผลักดันแนวทางให้ CA ทั้งหลายเปิดเผยการออกใบรับรองมาหลายปี ตอนนี้กูเกิลก็ออกมาประกาศว่าภายในเดือนตุลาคม 2017 จะเริ่มบังคับให้ CA ทุกรายต้องเข้ากระบวนการ CT (Certification Transparency กระบวนการที่ CA เปิดเผยรายการใบรับรองที่ออกสู่สาธารณะ) ทั้งหมด ไม่เช่นนั้น Chrome จะไม่เชื่อถือใบรับรองอีกต่อไป
กูเกิลออก Chrome 54 รุ่นเสถียร ฟีเจอร์บนเดสก์ท็อปยังไม่ประกาศว่ามีอะไรใหม่บ้าง การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญไปอยู่ที่ Chrome บน Android ที่มีของใหม่ 3 อย่าง ได้แก่
ที่มา - Chrome Releases (Desktop), Chrome Releases (Android)
กูเกิลประกาศจะเริ่มแจ้งเดือนเว็บที่ไม่ใช้ HTTPS และขอรหัสผ่านหรือข้อมูลสำคัญ เช่นบัตรเครดิตจากผู้ใช้ตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน ตอนนี้ประกาศเริ่มเห็นผลจริงจังเมื่อ Chrome Canary 56.0.2896.0 เปิดฟีเจอร์นี้แล้ว
การแจ้งเตือนช่วงแรกเป็นการแจ้งเตือนสีเทา พร้อมคำอธิบายผู้ใช้ว่าไม่ควรใส่ข้อมูลสำคัญใดๆ ลงในเว็บเหล่านี้
หากไม่มีความผิดพลาดอะไร Chrome 56 ก็จะเข้าสู่เบต้าและออกเป็นตัวจริงในเดือนมกราคมนี้
ที่มา - Severtastic
Google ได้ประกาศเปิดตัว Chrome Canary Channel สำหรับ Android เป็นที่เรียบร้อย เพิ่มเติมจาก Dev, Beta และ Stable โดยจุดประสงค์เพื่อเป็นการเก็บเสียงตอบรับจากผู้ใช้เพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์ใหม่และการแก้บั๊กจนกว่าจะออกเป็นเวอร์ชันเต็ม
สำหรับ Google Chrome Canary บน Android นี้จะอัพเดตทุกวันตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ (และในอนาคตอาจจะมีการอัพเดตในวันเสาร์และอาทิตย์ด้วย)
ที่มา - VentureBeat
ปัจจุบันผู้ใช้ Chrome หลายคนอาจเริ่มบ่นถึงปัญหาการกินแรม ซึ่งตอนนี้ทีม Chromium กำลังพัฒนาเบราว์เซอร์ให้ใช้แรมน้อยลงใน Chrome 55 โดยจะมีการอัพเกรดเอนจิน JavaScript เพื่อให้เว็บไซต์ที่ใช้งาน JavaScript จำนวนมากสามารถโหลดได้เร็วขึ้น และกินแรมน้อยกว่าเดิม
ในการทดสอบของ Google พบว่าเว็บไซต์ทั่วไปอย่าง Imgur, Reddit, Twitter, The New York Times และ YouTube นั้น Chrome เวอร์ชันใหม่มีการใช้แรมน้อยลงโดยเฉลี่ย 50% เมื่อเทียบกับ Chrome 53 ซึ่งถือว่าเป็นการปรับปรุงที่ดีมาก
Chrome OS ออกอัพเดต 53.0.2785.144 แก้ไขชุดช่องโหว่ระดับสูงสุด คือสามารถฝังโค้ดไว้ในเครื่องเมื่อรันจากโหมด guest และโค้ดนี้สามารถใช้งานได้แม้จะบูตเครื่องใหม่แล้วก็ตาม
ปกติแล้ว Chrome OS มีระบบการตรวจสอบความถูกต้องของซอฟต์แวร์ระหว่างการบูตที่แน่นหนาอย่างมาก โครงการให้รางวัลรายงานช่องโหว่ของ Chrome นั้นจัดรางวัลสำหรับช่องโหว่แบบนี้แยกจากช่องโหว่อื่นๆ ให้รางวัลถึง 100,000 ดอลลาร์ ขณะที่ช่องโหว่อื่นมีรางวัลไม่เกิน 15,000 ดอลลาร์เท่านั้น
ดูเหมือนว่าฟีเจอร์ประหยัดพลังงานจะกลายเป็นหนึ่งในสิ่งที่เบราว์เซอร์หลักในตลาดให้ความสำคัญไปซะแล้ว เมื่อดูจากที่ทั้ง Microsoft Edge, Opera และ Google Chrome ต่างก็ออกผลทดสอบซึ่งแสดงความสามารถในการประหยัดพลังงานของเบราว์เซอร์ของค่ายตนเองกันเกือบครบทุกเจ้า
และล่าสุดก็เป็นทางฝั่งไมโครซอฟท์ที่ออกมาโชว์ผลการทดสอบอีกหนเพื่อแสดงผลลัพธ์ที่ได้จากการปรับปรุงการใช้พลังงานของ Microsoft Edge บน Windows 10 Anniversary Update ไปอีกขั้น ซึ่งก็ส่งให้ Microsoft Edge ได้รับตำแหน่งเบราว์เซอร์ประหยัดพลังงานอันดับหนึ่งไปอีกครั้ง
Mozilla ประกาศทำโครงการ Mortar เพื่อให้ Firefox สามารถนำปลั๊กอินบางตัวของ Chrome มาใช้งานได้ เพื่อลดภาระการดูแลโค้ดของทีมงาน Mozilla ลง
ในอดีต เว็บเบราว์เซอร์มีระบบปลั๊กอินที่เรียกว่า NPAPI ที่ใช้กันมานานมากแล้ว (ใช้กันมาตั้งแต่ยุค Netscape) ส่งผลให้ปลั๊กอินยอดนิยมทั้ง Flash หรือ Java ต่างก็สื่อสารกับเบราว์เซอร์ด้วยวิธีนี้ แต่ปลั๊กอินแบบนี้ล้าสมัยและมีปัญหาหลายอย่าง ส่งผลให้ Chrome พยายามผลักดันระบบปลั๊กอินแบบใหม่ PPAPI (หรือ Pepper) มาตั้งแต่ปี 2013 และปัจจุบันปลั๊กอินอย่าง Flash หรือตัวอ่าน PDF ของ Chrome ก็ใช้ระบบ PPAPI ทั้งหมด
Google บอกว่า ปัจจุบันเว็บไซต์ที่ใช้งาน HTTP แบบไม่เข้ารหัสนั้น Chrome จะมีการแสดงเป็นเว็บปกติ ไม่แจ้งเตือนผู้ใช้ ซึ่งไม่สะท้อนความเป็นจริงที่ว่า HTTP มีโอกาสถูกดักฟังได้ตลอด ซึ่ง Google เผยแผนการในอนาคตว่า Chrome จะเริ่มแจ้งเตือนผู้ใช้เมื่อเข้าเว็บ HTTP แบบไม่เข้ารหัสแล้ว
สำหรับในช่วงแรก Chrome จะเริ่มแจ้งเตือนเมื่อผู้ใช้ได้เข้าใช้งานเว็บไซต์ HTTP แบบไม่เข้ารหัส ที่ในตัวเว็บไซต์มีการขอรหัสผ่านหรือบัตรเครดิตก่อนว่าไม่ปลอดภัย (Not Secure) โดยการเปลี่ยนแปลงนี้จะเริ่มใน Chrome 56 ที่จะออกในเดือนมกราคม 2017
หลังจากที่ไมโครซอฟท์ออกมาชูว่า Microsoft Edge เบราว์เซอร์ของตัวเองชนะการทดสอบการใช้พลังงาน ซึ่งหลังจากนั้น Opera ก็ออกมาโต้กลับ ถึงแม้ว่าในภายหลัง จะมีผลการทดสอบออกมาจากคนกลางออกมาก็ตาม แต่ดูเหมือนสงครามจะไม่จบลงง่ายๆ เมื่อ Google เผยว่า ใน Google Chrome เวอร์ชัน 53 ที่เพิ่งออกไปนั้น ได้ปรับปรุงการใช้พลังงาน ให้ประหยัดขึ้นมากกว่าเดิม
ปัญหาผู้ใช้ไม่เข้าใจคำศัพท์เฉพาะด้านความปลอดภัยเป็นปัญหาที่มีมานาน เช่นผู้ใช้ไม่เข้าใจว่า HTTPS คืออะไร ตอนนี้เบราว์เซอร์ Chrome เตรียมจะเพิ่มทางสื่อสารกับผู้ใช้ด้วยการแสดงคำว่า "Secure" ตามหลังรูปกุญแจ
ตอนนี้ฟีเจอร์ในรุ่นปัจจุบันยังไม่ออกมา แต่การแสดงคำว่า Secure เช่นนี้จะแทนที่การแสดงใบรับรองแบบ Extended Validation และจะแสดงชื่อในใบรับรอง EV ด้วยการเคลื่อนเข้าและเคลื่อนออกไป
กูเกิลประกาศ Chrome 53 เข้าสถานะ Stable Channel โดยไม่บอกว่ามีฟีเจอร์อะไรเพิ่ม นอกจากอุดช่องโหว่ความปลอดภัย 33 จุด แต่จากข้อมูลที่เคยประกาศไปแล้ว มีดังนี้
ที่มา - Google Chrome Releases
ฟีเจอร์หนึ่งของ Chrome คือการเอาหน้าเว็บมาเป็น extension ของ browser ที่เรียกว่า Packaged app โดยแอพสามารถใช้ API ของ Chrome ได้ เช่นการเข้าถึง USB หรือ Bluetooth
ล่าสุด Chrome ได้ประกาศเตรียมตัวถอด Chrome Apps ในช่วงต้นปี 2018 นี้แล้ว โดยให้เหตุผลว่า API พิเศษเหล่านี้นั้นกำลังจะเข้าไปเป็นมาตรฐานในยุค Progressive Web Apps อยู่แล้ว และแอพที่เหลือก็สามารถใช้ Chrome extension เสริมความสามารถหน้าเว็บขึ้นไปได้ หรือจะใช้ Electron/NW.js ก็ได้
Chrome จะจำกัดให้แอพใหม่ที่เปิดตัวช่วงปลายปีนี้เป็นต้นไปแสดงผลเฉพาะใน Chrome OS เท่านั้น ในช่วงปลายปี 2017 จะปิดการแสดงผลแอพทั้งหมดบน Web store และถอดการรองรับแอพทั้งหมดในปี 2018
กูเกิลออกมาประกาศแผนว่า Chrome จะลดความสำคัญของเนื้อหาประเภท Flash ไปอีกขั้น ดังนี้
ที่มา - Google Chrome Blog
Google ได้ออก Chrome 52 บน Android โดยทำให้การเล่นวิดีโอลื่นขึ้น, โหลดเร็วขึ้น และใช้แบตเตอรี่น้อยลง เพื่อช่วยปรับปรุงประสบการณ์เล่นวิดีโอให้กับผู้ใช้ Chrome ให้ดีขึ้น
นอกจากนี้ วิดีโอยังสามารถใช้งานผ่าน Data Saver Mode หรือโหมดประหยัดข้อมูลของ Chrome ซึ่ง Google บอกว่าวิดีโอที่ผ่านโหมดนี้มาแล้วจะช่วยประหยัดปริมาณข้อมูลให้ผู้ใช้ได้ถึง 50%
ที่มา - Google Chrome Blog
Ookla ผู้ให้บริการทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตเปิดตัวส่วนเสริมบน Chrome สำหรับการวัดความเร็วอินเทอร์เน็ตโดยไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนหน้าและเข้าเว็บไซต์เต็ม
ความแตกต่างของส่วนเสริมกับหน้าเว็บ มีเพียงการไม่แสดงโฆษณา และบอกความเร็วในการโหลดหน้าเว็บที่กำลังเปิดเท่านั้น
ที่มา - 9to5Google