Digg เว็บดังสำหรับแชร์เนื้อข่าวสารในยุคสมัยเว็บ 2.0 ซึ่งมีการเปลี่ยนมือเจ้าของมาหลายครา และล่าสุดเพิ่งประกาศปิดบริการ Digg Reader สำหรับอ่าน RSS ล่าสุดมีข่าวว่า Digg ได้ขายกิจการให้เจ้าของรายใหม่อีกครั้ง
โดยเจ้าของเดิมนั้นคือ Betaworks ได้ตัดสินใจขาย Digg ให้กับบริษัทชื่อ BuySellAds ซึ่งแค่ชื่อบริษัทก็คงเดาได้ว่าทำธุรกิจโฆษณาออนไลน์ ซึ่งเจ้าของ BuySellAds ยอมรับข่าวดังกล่าวแล้ว และเตรียมแถลงอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้
อย่างไรก็ตามการขาย Digg นี้ เป็นเฉพาะตัวสินทรัพย์และธุรกิจเดิมเท่านั้น แต่ไม่มีการซื้อตัวทีมงานพัฒนาเทคโนโลยีไปด้วย เพราะมีการพบว่าทีมงานฝ่ายนี้ถึง 8 คน ได้ย้ายไปทำงานอยู่สตาร์ทอัพชื่อ Civil ซึ่งเป็นผู้พัฒนาแพลตฟอร์มบล็อกเชน
Digg ประกาศเตรียมปิดให้บริการ Digg Reader แอพอ่าน RSS ที่ Digg พัฒนาขึ้นมาทดแทนหลัง Google Reader ปิดตัวไปเมื่อหลายปีก่อน โดยจะปิดตัวลงในวันที่ 26 มีนาคมนี้
ผู้ใช้งานสามารถเข้าไป export OPML ได้ที่ digg.com/settings เพื่อนำไปใช้กับบริการอ่าน RSS เจ้าอื่นแทน ซึ่งบริการที่ Digg Reader แนะนำประกอบด้วย Inoreader, Feedly, Feedbin, Panda, FeedWrangler, Reeder, Leaf และ NewsBlur
ที่มา: Digg ผ่าน TechCrunch
หลังจาก Digg โฉมใหม่ภายใต้เจ้าของใหม่เปิดให้บริการเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ทางทีมงาน Digg ยังมีบริการเฉพาะเวอร์ชันเว็บและแอพบน iOS เพียงสองช่องทาง
เวลาผ่านไปหนึ่งปีกับอีกหนึ่งเดือน ในที่สุดชาว Android ก็ได้ใช้ Digg ผ่านแอพกับเขาบ้าง (Google Play) ฟีเจอร์ของมันก็ตามมาตรฐานคือรับข่าวสารจาก Digg, ติดตามเนื้อหาเฉพาะจากนักเขียนที่สนใจ, แชร์เนื้อหาผ่านโซเชียล, บันทึกเนื้อหาไว้อ่านทีหลังผ่านแอพพวก Instapaper หรือ Pocket
นอกจากนี้แอพ Digg ยังสามารถติดตามอ่าน RSS โดยเชื่อมโยงกับ Digg Reader บริการอ่านฟีดของ Digg ได้ด้วย
Digg ประกาศวันนี้ว่าจากการประกาศปิด Google Reader นั้น ทีมงานมองว่าการโปรแกรมอ่าน RSS ยังเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ ฉะนั้น Digg จะเร่งโครงการพัฒนาโปรแกรมอ่านฟีดที่เดิมมีแผนจะเปิดตัวในครึ่งหลังของปีนี้ให้ออกมาเร็วขึ้น
Digg หวังว่าโปรแกรมนี้จะยังเก็บคุณสมบัติเดิมของ Google Reader ไว้ได้ครบถ้วนมากที่สุด รวมถึง API ด้วย แต่จะมีการเสริมคุณสมบัติให้เหมาะสมกับพฤติกรรมผู้ใช้งานในปัจจุบัน เช่นการหลอมรวมกับ Facebook หรือ Twitter
ที่มา: Digg Blog
หลังจาก Digg ปรับโฉมเมื่อต้นเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นระบบที่สร้างขึ้นใหม่หมด แยกขาดจากของเก่า ทางต้นสังกัดใหม่คือบริษัท Betaworks ก็สัญญาว่าจะนำข้อมูลของ Digg เวอร์ชันเก่ามาขึ้นเว็บในภายหลัง
ตอนนี้ Digg นำข้อมูลของระบบเดิมมาขึ้นเว็บให้ดาวน์โหลดเก็บไว้เป็นที่ระลึกแล้ว โดยใช้ชื่อว่า Digg Archive ใครที่เคยโพสต์ลิงก์หรือคอมเมนต์บน Digg ก็สามารถดาวน์โหลดประวัติการท่องเน็ตของตัวเองเหล่านี้กลับมาได้ครับ
นอกจากนี้ Digg ยังจับมือกับบริการเก็บลิงก์อื่นๆ อย่าง Kippt และ Pinboard ช่วยให้เราย้ายลิงก์จาก Digg ของเก่าไปยังบริการภายนอกเหล่านี้ได้ด้วย
หลังจากบริษัท Betaworks เข้าซื้อกิจการ Digg และประกาศยกเครื่องเว็บไซต์ใหม่หมด วันนี้เปิดให้บริการแล้วครับ
Digg โฉมใหม่จะหน้าตาคล้ายๆ กับ Pinterest (หรือแอพอ่านข่าวพวก Flipboard) มากกว่า Digg แบบเดิม คือเน้นภาพกราฟิก thumbnail ของบทความมากขึ้น ส่วนระบบขุดหรือ digg ยังมีเหมือนเดิม แต่เพิ่มการคิดคะแนนจากการแชร์ผ่าน Facebook/Twitter เข้ามาด้วย
Digg แบบใหม่ยังไม่มีระบบคอมเมนต์ ซึ่งทีมงานบอกว่าจะเพิ่มเข้ามาในรุ่นถัดๆ ไป แต่ในเบื้องต้นก็มีความเห็นจากผู้ใช้ผ่าน Twitter มาแสดงในหน้าแรกด้วย
บริษัท Betaworks เจ้าของรายใหม่ของ Digg ออกมาเผยแผนแล้วว่าจะเปิดตัว Digg โฉมใหม่ตั้งแต่หัวจรดเท้าในวันที่ 1 สิงหาคมนี้
Digg โฉมใหม่จะถูกพัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมดโดยทีม News.me จำนวน 10 คน เป้าหมายสำคัญของการซื้อกิจการครั้งนี้คือต้องการสร้าง social news ที่เข้ากับยุคสมัย
Digg เวอร์ชันใหม่จะแยกเว็บกับ News.me ไปก่อน แต่ในระยะยาวแล้วสองเว็บนี้จะรวมกันภายใต้แบรนด์ Digg
ที่มา - RethinkDigg
Kevin Rose ผู้ก่อตั้ง Digg ออกมาให้สัมภาษณ์กับ Wall Street Journal หลังข่าว Digg ขายกิจการแล้วด้วยมูลค่า $500,000
Kevin บอกว่าความผิดพลาดของ Digg มาจากการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดเอง ผนวกกับสภาพแวดล้อมในการแข่งขันที่เปลี่ยนไป เพราะ Facebook/Twitter กลายมาเป็นสถานที่ที่คนเข้ามาแชร์ลิงก์และติดตามข่าวแบบเรียลไทม์กันมากขึ้น ทับซ้อนกับตลาดหลักของ Digg นั่นเอง
ส่วนการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดคือการเปิดตัว Digg v4 ในปี 2010 ซึ่งมีปัญหาเรื่องการย้ายโค้ดฐานข้อมูลจาก MySQL เป็น Apache Cassandra ที่ไม่สมบูรณ์ และ Digg เองก็ไม่สามารถตอบสนองความโกรธของผู้ใช้ได้รวดเร็วพอ
Digg อดีตดาวรุ่งบริการเครือข่ายสังคมที่ให้ผู้ใช้งานแชร์ข่าวสารหรือลิงก์ที่น่าสนใจ แต่ระยะหลังไม่สามารถต้านทานกระแส Facebook, Twitter ได้ประกาศขายกิจการ โดยเป็นการขายสินทรัพย์หลักของธุรกิจทั้งหมดให้บริษัท Betaworks เจ้าของ News.me และ Bit.ly ด้วยมูลค่า 500,000 ดอลลาร์
Digg อดีตดาวรุ่งของวงการเว็บที่สถานการณ์ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ ในช่วงหลัง (และผู้ก่อตั้งอย่าง Kevin Rose ก็ลาออกไปแล้ว ตอนนี้อยู่กับกูเกิล) ล่าสุดมีข่าววงในว่าจะเสียทีมเทคนิคไปยกทีม
Digg เว็บแชร์ลิงก์ที่เงียบๆ ไปในช่วงหลัง กลับมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ Digg Newsrooms ซึ่งนำระบบการโหวตมาใช้กับข่าวได้อย่างน่าสนใจ
ระบบปกติของ Digg จะให้ผู้ใช้เป็นคนส่งลิงก์เข้ามา และชุมชนจะคอยคัดเลือกลิงก์ที่น่าสนใจผ่านการโหวตและคอมเมนต์ แต่กรณีของ Digg Newsroom จะต่างออกไป กระบวนการทำงานของมันมีดังนี้
ต่อเนื่องจากข่าว Kevin Rose ลาออกจาก Digg เพื่อไปเปิดบริษัทใหม่ ซึ่งสร้างกระแสวิจารณ์อย่างมากว่าถึงจุดสิ้นสุดของ Digg แล้ว ทางซีอีโอคนปัจจุบัน Matt Williams จึงออกมาเขียนบล็อกหยุดกระแสเหล่านี้
Matt บอกว่า Kevin Rose มีหัวใจเป็นผู้ประกอบการอยู่เสมอ ดังนั้นการที่เขาคิดทำอะไรใหม่ๆ ตลอดเวลาเป็นเรื่องปกติ และ Kevin ก็ยังมีบทบาทฐานะบอร์ดของ Digg อยู่ไม่ได้ไปไหน ส่วนการบริหารงานทั่วไปนั้น Kevin ไม่ได้ทำมา 6 เดือนแล้วตั้งแต่จ้าง Matt เข้ามา
อีกหนึ่งตำนานของ Web 2.0 อาจใกล้สิ้นสุด เพราะ Kevin Rose ซูเปอร์สตาร์แห่งซิลิคอนวัลเลย์ ผู้ก่อตั้งและอดีตซีอีโอของ Digg ได้ลาออกจากบริษัทแล้ว
ตามข่าวบอกว่า Kevin Rose จะออกไปเปิดบริษัทใหม่ แต่เขาก็ได้ทวีตว่าจะยังเป็นกรรมการบริษัทต่อไป และอัดรายการทีวีออนไลน์ Diggnation เช่นเดิม
ต่อจากข่าวใหญ่เมื่อปลายปีที่แล้วว่า ยาฮูจะปิดบริการ Delicious ซึ่งภายหลังแก้ข่าวว่า จะขาย Delicious แทน
Kevin Rose ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Digg ได้กล่าวในรายการทีวีออนไลน์ Diggnation ของเขาเองว่า ยาฮูเคยมาเสนอขาย Delicous ให้กับ Digg ก่อนที่จะมีข่าวปิดบริการ Delicious รั่วออกมาเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน
เว็บไซต์ที่เคยเป็นดาวรุ่งของโลกเว็บ 2.0 อย่าง Digg ช่วงหลังอาการแย่ลงเรื่อยๆ เริ่มจากเปลี่ยนโฉมเป็น Digg v4 แต่กลับถูกผู้ใช้ต่อต้าน ทราฟฟิกลดลง คู่หูลาออกและเปลี่ยนตัวซีอีโอรอบแรก และเพิ่งเปลี่ยนตัวซีอีโอรอบสองไปเมื่อเดือนก่อน
ในช่วงวิกฤต Digg ปรับปรุงเว็บไซต์หลายอย่างเพื่อดึงผู้ใช้กลับคืนมา แต่ก็ยังไม่พอที่จะให้บริษัทดำเนินธุรกิจต่อไปได้ วันนี้ Digg จึงลดพนักงานลงจาก 67 คนเหลือ 42 คน หรือคิดเป็น 37% ของพนักงานทั้งหมด ทาง Matt Williams ซีอีโอคนใหม่คาดว่า Digg จะกลับมาทำกำไรในช่วงกลางปี 2011
ที่มา - TechCrunch
Digg เว็บไซต์ชื่อดังที่หลังๆ เงียบลงไป ประกาศเปลี่ยนตัวซีอีโอของบริษัทแล้ว โดย Jay Adelson ผู้ก่อตั้งและซีอีโอคนปัจจุบัน จะลาออกจากบริษัทไปทำกิจการอื่น เปลี่ยนให้ Kevin Rose คู่หูผู้ก่อตั้งอีกคนหนึ่งขึ้นมารับหน้าที่ซีอีโอแทน
ก่อนหน้านี้มีข่าววงในว่า Kevin Rose กับ Jay Adelson มีปัญหาระหองระแหงกันมานาน ซึ่งฝ่าย Kevin Rose ยอมหลบจากหน้าที่ภายในบริษัท ปล่อยให้ Jay Adelson รับหน้าที่บริหารเพียงคนเดียว แต่ล่าสุดทางบอร์ดบริหารของ Digg ไม่พอใจกับผลงานของ Jay จนทำให้เขาประกาศลาออกไปในที่สุด
ตอนนี้มีข่าวอีกเช่นกันว่า Kevin เตรียมรื้อโครงการในช่วงหลังๆ ของ Digg ทิ้งหมด เราคงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญในเร็วๆ นี้
Blognone เคยเสนอข่าว WeFollow สร้างรายชื่อผู้ใช้ Twitter ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นกิจการทำสนุกของ Kevin Rose ผู้ก่อตั้งเว็บ Digg ตอนนี้มันรวมเข้ากับกิจการของ Digg แล้ว
WeFollow ตอนนี้มีฐานข้อมูลผู้ใช้ Twitter ประมาณ 654,000 บัญชี การรวมกิจการครั้งนี้ไม่เสียเงินซื้อเพราะเจ้าของเป็นคนเดียวกัน Kevin Rose เพียงแค่เปลี่ยนเอกสารความเป็นเจ้าของจากชื่อของตัวเองมาเป็นชื่อบริษัท Digg เท่านั้น
เดิมที WeFollow เรียงลำดับผู้ใช้ตามจำนวน follower แต่อีกไม่นานจะเปลี่ยนอัลกอริธึมในการเรียงลำดับใหม่ให้สนใจความเหมาะสมของ tag มากขึ้น ส่วน Digg ซึ่งเตรียมปรับเว็บให้รองรับประเด็นร้อนแบบเรียลไทม์ก็จะใช้ข้อมูลจาก WeFollow เข้าช่วยเช่นกัน
Digg เปิดสถิติการใช้งาน IE6 ลงใน Digg the Blog พบว่าผู้ใช้ IE6 เข้า Digg มีน้อยลงทุกเดือน
Digg จึงเริ่มซาวเสียงว่าจะเลิกสนับสนุน IE6 สำหรับกิจกรรมที่ทำบน Digg เช่น ส่งเรื่องและโหวต เพื่อให้วิศวกรของ Digg ดูแลเว็บได้ง่ายขึ้น ส่วนการเข้าชมเว็บเฉยๆ อ่านอย่างเดียวยังทำได้เหมือนเดิม
กูเกิ้ลได้ปล่อยปลั๊กอินสำหรับ iGoogle ที่เรียกว่า "What’s Popular" ซึ่งลักษณะการทำงานก็แนวเดี่ยวกับเว็บ Digg ไม่มีผิด หรือแนวคล้ายๆ กันเช่น StumbleUpon, Reddit และ Mixx เป็นต้น โดยใน iGoogle จะโชว์ widget ที่มาจาก youtube หรือของผู้ใช้เองเพื่อให้ผู้ใช้สามารถรวมโหวตลงคะแนนหรือใส่ลิงก์เข้าไปได้ รวมถึงการแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมเข้าไปได้เช่นกัน
Digg เป็นเว็บไซต์ยอดนิยมเวลาพูดถึงไอเดียใหม่ๆ ของเว็บ 2.0 ที่ผู้ใช้เป็นฝ่ายคัดกรองเนื้อหาด้วยตัวเอง ไม่ต้องผ่านระบบบรรณาธิการ แต่ล่าสุดมีการสำรวจข่าวทั้งหมดที่ได้ขึ้นหน้าแรกของ Digg ในรอบ 7 วัน ปรากฎว่า 46% ของข่าวเหล่านี้ มาจากเว็บไซต์ยอดนิยมเพียง 50 เว็บเท่านั้น
Digg มีผู้ใช้ที่ลงทะเบียนเป็นหลักล้าน และมีเรื่องถูกส่งเข้ามายัง Digg มากกว่า 1 หมื่นเรื่องต่อวัน แต่พฤติกรรมของผู้ใช้ Digg (ไม่รวมพวกที่เป็นสแปม ซึ่ง Digg มีมาตรการหลายๆ อย่างเข้ามาจัดการ) นั้นสร้างวัฒนธรรมว่าข่าวจากบางเว็บจะถูกโหวตขึ้นหน้าแรกเสมอ โดยไม่สนใจว่าเป็นข่าวอะไรหรือใครเป็นคนส่งข่าว ตัวอย่างของเว็บ whitelist เหล่านี้ได้แก่ TorrentFreak และ xkcd เป็นต้น
เว็บไซต์ Digg ประกาศปรับตัวสู้วิกฤตเศรษฐกิจ โดยการลดคนในแผนกที่ไม่จำเป็นต่องานหลักของบริษัท ในบล็อกของ Digg นั้นไม่ได้เปิดเผยจำนวน แต่ทาง CNET ได้ตัวเลขมาว่าเป็น 10% อย่างไรก็ตาม Digg มีพนักงานแค่ 75 คนเท่านั้น
ใกล้วันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 4 พ.ย. เข้ามา บรรดาเว็บไซต์ชื่อดังหลายแห่งได้เปิดเซคชั่นที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งกันทั้งนั้น รวบรวมมาบางส่วนครับ
ข่าวต่อเนื่องจาก ข่าวลือว่า Google กำลังจะซื้อ Digg ล่าสุด TechCrunch รายงานว่าล้มโครงการไปแล้ว
ข้อมูลจากสายวงในบอก TechCrunch ว่าหลังจากตกลงราคาที่ประมาณ 200 ล้านเหรียญได้ Google ได้เข้าไปตรวจสอบทรัพย์สิน เทคโนโลยี และระบบภายในของ Digg ซึ่งข่าวสายหนึ่งบอกว่าเป็นปัญหาด้านเทคนิค ส่วนอีกสายบอกว่าเป็นความขัดแย้งส่วนบุคคล ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลอะไรก็ตาม กูเกิลได้ตัดสินใจหยุดเจรจาแล้ว
ที่มา - TechCrunch
ข่าวลือจากทาง TechCrunch ระบุว่ากูเกิลได้บรรลุข้อตกลงในการเข้าซื้อเว็บ Digg.com เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์
ทุกวันนี้รายได้ของ Digg มาจากข้อตกลงโฆษณาจากไมโครซอฟท์เป็นระยะเวลาสามปี ซึ่งข่าวระบุว่าข้อตกลงนี้จะสิ้นสุดลงหลังจากที่กูเกิลเข้ามาครอบครอง Digg อย่างเป็นทางการแล้ว
ย้ำอีกทีว่านี่เป็นข่าวลือโดย TechCrunch อ้างว่าได้ข่าวจากแหล่งข่าวภายใน และยังไม่มีการแถลงอย่างเป็นทางการจากทั้งสองบริษัท
ที่มา - TechCrunch