กูเกิลเผยว่า มีบั๊กใน Google Photos ช่วงวันที่ 21 - 25 พ.ย. ปี 2019 ที่ผ่านมา พบว่าระบบส่งข้อมูลวิดีโอส่วนตัวที่ผู้ใช้สำรองไว้บนคลาวด์ไปให้ผู้ใช้คนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลยผ่านฟีเจอร์ Download your data
กล่าวคือ เมื่อผู้ใช้ทำการดาวน์โหลดข้อมูลของตัวเองออกมา จะติดเอารูปภาพและวิดีโอที่ไม่ใช่ของตัวเองเข้ามาด้วย กูเกิลระบุว่าได้แก้ไขบั๊กตัวนี้แล้ว กูเกิลแนะนำผู้ใช้ที่ export ข้อมูลของตัวเองออกไปในช่วง 21 - 25 พ.ย. ปีที่ผ่านมาให้ลอง export ใหม่อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม กูเกิลไม่ได้บอกว่ามีผู้ได้รับผลกระทบกี่ราย บอกเพียงว่ามีผู้ได้รับผลกระทบ 0.01% ของจำนวนผู้ใช้งาน Google Photos
Google Photos ทดลองบริการใหม่เป็น subscription รายเดือน ให้กูเกิลปรินท์รูปที่ดีที่สุดของเราให้เดือนละ 10 รูป โดยมีค่าใช้จ่ายเดือนละ 7.99 ดอลลาร์หรือราว 250 บาท โดยผู้ใช้งานจะได้รูปขนาด 4x6 นิ้ว หรือขนาดโปสการ์ด พิมพ์บนกระดาษด้านมีเส้นขอบ
ตัวบริการมี 3 ธีมให้เลือกคือ รูปคนและสัตว์เลี้ยง, รูปวิวทิวทัศน์, รูปรวมๆ ทั้งคน สัตว์เลี้ยงและวิว ตัวรูปจะใส่มาในซองสีน้ำตาล ซึ่งกูเกิลระบุว่ารูปที่ได้สามารถนำไปตกแต่งห้อง หรือส่งต่อเป็นของขวัญให้คนอื่นได้ บริการนี้ยังทดลองเฉพาะผู้ใช้งานบางส่วนในสหรัฐฯ
Data Transfer Project (DTP) ที่เป็นความร่วมมือระหว่าง Facebook, Google, Microsoft และ Twitter ในการสร้างเฟรมเวิร์คโอเพนซอร์สสำหรับถ่ายโอนข้อมูลระหว่างแพลตฟอร์มเปิดตัวมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ล่าสุดโครงการนี้มีความคืบหน้ามากขึ้นและ Facebook ก็ออกมาอธิบายเพิ่มเติมแล้ว
Facebook บอกว่าการทำงานของ DTP มีอยู่ 3 ส่วนคือ (1) กลุ่มข้อมูลที่แชร์ร่วมกันระหว่างแพลตฟอร์ม แบ่งตามประเภทเช่นรูป, ข้อมูลผู้ติดต่อ (2) อแดปเตอร์สำหรับการยืนยันตัวตน (ใช้ OAuth) และการแปลงข้อมูล (import/export) จากกลุ่มข้อมูลในข้อ 1 และ (3) เฟรมเวิร์คที่รันกระบวนการทั้งหมด โดย DTP มีความยืดหยุ่นสูงและสเกลได้ รันได้ไม่ว่าจะบนคลาวด์หรือหลังบ้านขององค์กร
Google Photos ออกแบบการแชร์รูปให้เพื่อนใหม่ จากเดิมที่ส่งรูปให้เพื่อนได้เฉยๆ ล่าสุด เพิ่มการแชทแบบ built in เข้ามาในช่องทางแชร์รูปด้วย
เมื่อผู้ใช้เลือกรูปหรืออัลบั้มที่อยากส่งให้เพื่อนได้แล้วก็กดปุ่ม share ที่อยู่ซ้ายล่าง เลือกเพื่อน ส่งให้เพื่อนได้และแชทคุย หรือพูดความรู้สึกเกี่ยวกับรูปภาพที่ส่งไปให้เพื่อนได้ด้วยประสบการณ์เทียบเท่ากับการใช้แพลตฟอร์มแชทเลย
Facebook ประกาศออกเครื่องมือใหม่ DTP (Data Transfer Project) ซึ่งมาจากโครงการโอเพ่นซอร์สเพื่อสร้างเครื่องมือ ที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถโอนย้ายข้อมูลข้ามแพลตฟอร์มได้ ซึ่งปัจจุบันมี Google, Facebook, Microsoft, Twitter และ Apple เข้าร่วมในโครงการ
โดยในเบื้องต้น DTP ของ Facebook จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถโอนย้ายรูปภาพทั้งหมดของตนบน Facebook ไปไว้บน Google Photos ได้สะดวกง่ายดายมากขึ้น ผ่านการล็อกอินและโอนย้าย จากเดิมที่ต้องดาวน์โหลดข้อมูลออกมาจัดการต่อเอง
ก่อนหน้านี้ ระบบแท็กรูปภาพของ Google Photos จะเป็นระบบที่ตรวจจับใบหน้าอัตโนมัติและจัดเข้ากลุ่มให้ ซึ่งจะทำให้ง่ายต่อการแท็กรูปมากยิ่งขึ้น แต่ Google Photos เองก็ขาดความสามารถในการแก้แท็กคนในรูปมาโดยตลอด
ล่าสุด Google ยืนยันว่าได้เพิ่มฟีเจอร์นี้ให้ Google Photos แล้ว ผู้ใช้สามารถแก้แท็กคนในภาพเองได้ โดยกดเข้าไปที่รูปแล้วกดสามจุด จะเห็นแท็บ Photos ที่มีดินสอปรากฏขึ้นมา กดแล้วสามารถแก้แท็กคนในภาพได้ทันที
ฟีเจอร์นี้ก็ยังมีข้อจำกัดที่ว่า การจะแท็กรูปเพิ่มเองได้นั้น Google Photos จะต้องตรวจจับเจอเท่านั้น หมายความว่าหากภาพนั้นไม่มีหน้าคนเลย หรือเป็นรูปคนในรูปแบบที่ AI ของ Google Photos ตรวจจับไม่เจอก็ยังไม่สามารถแท็กได้
จากประเด็นที่มีคนไปค้นพบว่า Google Photos สามารถอัพโหลดไฟล์ชนิด HEIC/HEIF จาก iPhone แบบไม่จำกัดพื้นที่ ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับ Pixel 4 ไม่ได้สิทธิอัพโหลดรูปไม่จำกัดอีกแล้ว ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ขึ้นมาว่าทำไมกูเกิลยอมให้ทำแบบนี้ได้
โฆษกของกูเกิลชี้แจงผ่านเว็บไซต์ Android Police สั้นๆ ว่าเรื่องนี้เป็นบั๊ก และกำลังแก้บั๊กนี้อยู่
ตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า กูเกิลแก้บั๊กอัพโหลด HEIC แล้วจะมีผลอย่างไรบ้างกับรูปที่อัพโหลดไปแล้วก่อนหน้านี้
9to5Mac รายงานโดยอ้างโพสต์จากผู้ใช้ Reddit stephenvsawyer พบว่าผู้ใช้ iPhone โดยเฉพาะรุ่นใหม่ ๆ ที่กำหนดค่าการเก็บภาพถ่ายไว้ในฟอร์แมต HEIC/HEIF เป็นค่าเริ่มต้น (เริ่มใช้ตั้งแต่ iOS 11) จะได้พื้นที่เก็บรูปบน Google Photos แบบออริจินัล โดยไม่ถูกคำนวณพื้นที่ เท่ากับว่าได้ใช้พื้นที่ฟรีไม่จำกัด
จุดขายอย่างหนึ่งของมือถือตระกูล Pixel คือสิทธิการอัพโหลดรูปภาพขึ้น Google Photos ที่ความละเอียดเต็ม (original quality) แบบไม่จำกัดพื้นที่
แต่กรณีของ Pixel 4 ก็น่าเสียใจว่ากูเกิลยกเลิกสิทธินี้แล้ว โดยในหน้าเพจของ Pixel 4 เขียนระบุไว้ชัดเจนว่าสิทธิการอัพโหลดขึ้น Google Photos แบบไม่จำกัดพื้นที่ เหลือเพียงความละเอียดระดับ high quality เท่านั้น ซึ่งก็เป็นสิทธิระดับที่ผู้ใช้ Google Photos ทุกคนได้ใช้งานอยู่แล้ว
ตามคำนิยามของกูเกิล high quality คือรูปขนาด 16MP และวิดีโอความละเอียด 1080p
Google Photos ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ในชื่อว่า Memories ที่จะนำภาพถ่ายและวิดีโอเก่า ๆ มาแสดงในรูปแบบเดียวกับ Stories บน Snapchat หรือ Instagram
ภาพที่แสดงใน Memories ของ Google Photos นี้จะไม่ได้นำทุกภาพมารวมกัน แต่ Google จะใช้อัลกอริทึมในการเลือรกูปที่ดีที่สุดจากสัญญาณต่าง ๆ ดังนั้นผู้ใช้จึงสามารถเลือกดูรูปภาพได้จาก Memories โดยไม่ต้อง scroll ไล่ดูทีลภาพทั้งหมด โดย Memories นี้จะแสดงอยู่เหนือแกเลอรี่รูปภาพ ซึ่งเปรียบเสมือนโซเชียลมีเดียส่วนตัว สำหรับผู้ใช้ในการย้อนดูช่วงเวลาดี ๆ ในอดีต
มีผู้พบฟีเจอร์ใหม่ใน Google Photos ซึ่งต่อมาบัญชีทวิตเตอร์ของ Google Photos ก็ออกมายืนยัน โดยผู้ใช้งานสามารถเสิร์ชค้นหาข้อความที่ปรากฏอยู่ในรูปได้แล้ว จึงเหมาะกับการค้นหาหน้าเอกสาร
นอกจากจะค้นหาได้ เมื่อได้รูปที่ต้องการ ยังสามารถเลือก Lens เพื่อไฮไลท์ข้อความที่ต้องการ แล้วคัดลอกออกมาเป็นตัวหนังสือ เพื่อนำไปวางต่อในแอปอื่นได้อีกด้วย
ฟีเจอร์นี้เริ่มเปิดใช้งานแล้วบนอุปกรณ์ Android บางส่วน ส่วน iOS ยังไม่มีกำหนดว่าจะมีให้ใช้งานเมื่อใด
ที่มา: Gizmodo ภาพ @hunterwalk
Google Photos ถือเป็นบริการของกูเกิลตัวที่ 9 ที่มียอดผู้ใช้แตะ 1 พันล้านคน (นับจำนวนผู้ใช้จริง ไม่ใช่ยอดดาวน์โหลด) นับเป็นเวลา 4 ปีหลังเปิดตัวครั้งแรกในงาน Google I/O 2015
รุ่นพี่ของ Google Photos ที่อยู่ในสมาคมพันล้านก่อนหน้านี้ ได้แก่ Android, Chrome, Gmail, Google Drive, Google Maps, the Google Play store, YouTube, Google Search (ไม่เรียงลำดับ)
จุดเริ่มต้นของ Google Photos ถือว่าน่าสนใจ เพราะมันถือเป็นผู้สืบทอดของบริการฝากรูปออนไลน์ Picasa ที่กูเกิลซื้อมาในปี 2004 และเริ่มจากการเป็นบริการหนึ่งของ Google+ ซึ่งปิดตัวไปแล้ว แต่ Google Photos ที่ถูกจับแยกออกมาจาก Google+
ในงานกูเกิลที่ไนจีเรียวันนี้ กูเกิลได้เปิดตัว Gallery Go แอปจัดการอัลบั้มรูปภาพที่ออกแบบมาให้ทำงานออฟไลน์ โดยใช้ Machine Learning ช่วยจัดการและปรับแต่งภาพให้ออกมาสวยงาม เจาะกลุ่มผู้ใช้งานที่เพิ่งมีสมาร์ทโฟน และอยู่ในพื้นที่ซึ่งอินเทอร์เน็ตไม่เร็วมาก
อาจอธิบายได้ว่าแอปนี้ก็ทำงานเหมือน Google Photos เพียงแต่ออกแบบมาเพื่อจัดการกับรูปในโทรศัพท์ และไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ตที่เร็ว
กูเกิลประกาศหยุดการซิงก์รูปภาพจาก Google Photos ไปเก็บเป็นไฟล์บน Google Drive โดยอัตโนมัติ (และในทางกลับกันด้วยคือไฟล์รูปจาก Drive ไปขึ้นใน Photos) อีกทั้งการลบไฟล์บน Photos จะไม่กระทบไฟล์บน Drive และในทางกลับกันด้วยเช่นกัน
เหตุผลของกูเกิลคือผู้ใช้สับสนระหว่างการเก็บไฟล์สองที่แล้วซิงก์กัน และมีปัญหาลบไฟล์ที่หนึ่ง แล้วไฟล์อีกที่หนึ่งหายไปด้วย
Google เปิดให้อัพโหลดภาพถ่ายและวิดิโอแบบถูกบีบอัดขึ้นบน Google Photos ได้ฟรีไม่จำกัดมาหลายปี ล่าสุด Google ปรับเงื่อนไขการอัพโหลดวิดิโอโดยระบุว่าสนับสนุนแค่บางสกุลเท่านั้น และหากไม่อยู่ในกลุ่มนี้ก็จะไม่เข้าข่ายอัพโหลดได้แบบไม่จำกัด
สกุลไฟล์วิดิโอที่ Google Photos ระบุว่ายังสนับสนุนอยู่มีแค่ .mpg, .mod, .mmv, .tod, .wmv, .asf, .avi, .divx, .mov, .m4v, .3gp, .3g2, .mp4, .m2t, .m2ts, .mts, และ mkv
ที่มา - Android Police
มาถึงตอนนี้คงต้องยอมรับกันว่า Google Photos เป็นบริการฝากรูปที่มีผู้ใช้งานอย่างแพร่หลาย (สถิติที่กูเกิลเปิดเผยครั้งล่าสุดคือ 500 ล้านคนในปี 2017) ล่าสุดกูเกิลจึงเปิด Google Photos Library API เพื่อให้แอพภายนอกเข้ามาเรียกใช้งานรูปภาพในไลบรารีของผู้ใช้ได้ด้วย
การเปิด API ครั้งนี้ทำให้แอพสามารถเข้าถึงรูปภาพในไลบรารี ค้นหารูปภาพตามเงื่อนไขที่ต้องการ ใส่ฟิลเตอร์ให้รูปภาพ และแชร์ออกไปยังบริการอื่นๆ ตัว API เป็น RESTful ที่ส่งข้อมุลเป็น JSON และยืนยันตัวตนผ่าน OAuth 2.0
Google Photos Library API เปิดให้บริการฟรีแบบจำกัดปริมาณ 10,000 รีเควสต์ต่อวัน (ไม่นับปริมาณทราฟฟิก) และถ้าเป็นแอพยอดนิยมที่ต้องการใช้งานเพิ่ม ก็สามารถสมัคร partner program กับกูเกิลได้
Google Photos ประกาศเพิ่มคุณสมบัติ 2 รายการ โดยมี 2 ปุ่มใหม่ ได้แก่ ดาว และ หัวใจ
ถึงแม้จะเป็นอัพเดตเล็ก ๆ แต่ปุ่มแนวแสดงการถูกใจก็ถือเป็นคุณสมบัติสำคัญของ social network ที่กูเกิลพยายามครั้งแล้วครั้งเล่า ปุ่มดาวจะเริ่มปรากฏกับผู้ใช้งานในสัปดาห์นี้ ส่วนปุ่มหัวใจบอกว่าจะออกมาเร็ว ๆ นี้
ที่มา: TechCrunch
Sundar Pichai เผยในงาน Google I/O ว่า AI จะเข้ามามีบทบาทในแอพพลิเคชั่นต่างๆ มากขึ้น หนึ่งในนั้นคือ Google Photos เช่น
ฟีเจอร์ดังกล่าวจะสามารถใช้ได้ภายใน 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า
กูเกิลประกาศปล่อยฟีเจอร์ใหม่ของ Google Lens เนื่องในวันสัตว์เลี้ยงแห่งชาติ (National Pet Day) ซึ่งฟีเจอร์นี้เคยประกาศในงาน Mobile World Congress เมื่อต้นปีไปแล้ว ซึ่งอยู่ใน Google Photos มีรายละเอียดดังนี้
Google Lens ฟีเจอร์ค้นหาข้อมูลจากภาพได้เปิดให้ใช้งานบน Google Photos สำหรับผู้ใช้ iOS แล้ว จากที่ก่อนหน้านี้ได้เปิดให้ผู้ใช้ Android มาแล้ว
Google แจ้งว่าตอนนี้ได้เริ่มทยอยปล่อยฟีเจอร์ Lens ให้ผู้ใช้ iOS แล้ว โดยวิธีใช้งาน Lens คือเลือกภาพจากในแอพ Photos แล้วกดที่ไอคอน Lens จากนั้น Google ก็จะทำความเข้าใจภาพและให้ข้อมูลที่จำเป็นออกมา
สำหรับผู้ใช้ที่ยังไม่ได้อัพเดต ให้อัพเดต Google Photos ได้ทาง App Store ซึ่งฟีเจอร์นี้ Google จะทยอยปล่อยให้ผู้ใช้ทีละกลุ่ม ดังนั้นอาจจะยังไม่ได้ใช้พร้อมกันทุกคน
Google ปล่อยฟีเจอร์ทำความเข้าใจภาพเพื่อการค้นหาข้อมูล Lens ให้ผู้ใช้ Google Photos บน Android ทุกคนได้ใช้แล้ว หลังจากที่ประกาศไว้เมื่อเดือนที่แล้ว
Google แจ้งไว้ว่า สำหรับผู้ใช้ Android ที่มี Google Photos เวอร์ชันล่าสุด สามารถใช้งาน Lens ได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์อย่างการเลือกรูปแลนด์มาร์กเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม, สร้างนามบัตร, หาข้อมูลร้านอาหารด้วยการเลือกรูปหน้าร้าน ฯลฯ
Google Photos ได้เริ่มทำ Smile of 2017 วิดีโอรวมภาพจาก Google Photos ทั้งหมดที่ผู้ใช้บันทึกในรอบปี โดยวิดีโอนี้ Google Photos จะทำให้ผู้ใช้โดยอัตโนมัติ และแจ้งเตือนให้ผู้ใช้ทราบเมื่อวิดีโอได้ทำไว้สำหรับผู้ใช้เรียบร้อยแล้ว โดยวิดีโอจะปรากฏในส่วน Assistant ของ Google Photos ทั้งบนแอพและเว็บเดสก์ท็อป
วิดีโอรวมภาพจาก Google Photos นี้จะมีความยาวระหว่าง 40-60 วินาที รวมภาพทั้งหมดที่ผู้ใช้บันทึกลงบน Google Photos ตลอดทั้งปี และรวมเข้ากับวิดีโอเพลงตัวอย่างของ Google Photos ให้อัตโนมัติ
ที่มา - Engadget
Google Photos นั้นรองรับการแสดงผลภาพแบบ Live Photo ของ iOS มาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ทั้งนี้ผู้ใช้ก็ต้องเปิดดูผ่านแอพด้วยอุปกรณ์ iOS เท่านั้น หากดูผ่านแอพบน Android หรือผ่านเว็บ ภาพ Live Photo จะกลายเป็นวิดีโอสั้นแทน ซึ่งไม่ตรงตามแนวทางของ Live Photo หรือหากเปิดด้วยแอพอื่นอาจเป็นไฟล์ GIF แทน
ล่าสุดเมื่อกูเกิลเปิดตัว Pixel 2 พร้อมกับฟีเจอร์ถ่ายภาพแบบเคลื่อนไหวสั้นๆ ชื่อเรียกว่า Motion Photo ก็ทำให้ Google Photos ทำการปรับฟีเจอร์เก็บภาพแนวนี้ และเปลี่ยนวิธีแสดงผลให้ทำงานประสานกันได้ โดยตั้งแต่นี้ Google Photos จะแสดงผลภาพประเภทดังกล่าวในชื่อ Motion และสามารถดูข้ามอุปกรณ์ได้ทั้งหมด ทั้ง iOS, Android และผ่านหน้าเว็บ
Google Photos เพิ่มคุณสมบัติใหม่ จากเดิมที่สามารถจัดกลุ่มใบหน้าเป็นรายคนได้ คราวนี้สามารถแยกใบหน้าสัตว์เลี้ยงได้แล้ว
โดยในหน้า Albums หัวข้อ People ได้ถูกปรับปรุงเป็น People & Pets เวลาผู้ใช้จะค้นหาสัตว์เลี้ยงก็สามารถกำหนดชื่อเรียกจากรูปที่จัดกลุ่มมาให้แล้วได้ ทำให้ไม่ต้องค้นด้วยการเสิร์ชว่า Dog หรือ Cat แบบที่ผ่านมา
นอกจากนี้ Google Photos ยังเพิ่มการค้นหาสัตว์เลี้ยงตามสายพันธุ์ หรือจะเสิร์ชด้วยอีโมจิ ? ? ก็ทำได้
ที่มา: Google Blog
จุดขายหนึ่งของสมาร์ทโฟน Pixel ของกูเกิล คือการให้พื้นที่แบ็คอัพรูปและวิดีโอบน Google Photos แบบไม่ลดความละเอียดอย่างไม่จำกัด อย่างไรก็ตามสำหรับ Pixel 2 นั้น กูเกิลได้เพิ่มเงื่อนไขว่าสามารถใช้ได้ไม่จำกัดจนถึงปี 2020 หรือใน 3 ปีข้างหน้าเท่านั้น หลังจากนั้นจะเป็นความละเอียดเหมือนผู้ใช้อื่น แต่ยังเข้าถึงไฟล์เก่าที่ไม่ลดความละเอียดได้ แตกต่างจากตอน Pixel รุ่นแรกที่ให้โดยไม่จำกัดช่วงเวลา
ตัวแทนของกูเกิลอธิบายเหตุผลเรื่องนี้ไว้ว่า เงื่อนไขนี้เป็นสิ่งใหม่ที่เพิ่มเข้ามา เนื่องจากกูเกิลทราบว่าคนมักเปลี่ยนโทรศัพท์ทุก 2-3 ปีอยู่แล้ว ฉะนั้นเงื่อนไขที่ให้กับ Pixel 2 ก็ถือว่าสอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้งานอยู่แล้ว
ที่มา: Engadget