พบกันอีกแล้วสำหรับข่าวลือสินค้าแอปเปิล โดยคราวนี้มาจากนักวิเคราะห์แห่ง TF International Securities คุณ Ming-Chi Kuo คนเดิม ซึ่งว่าด้วย iPhone SE 2 ล้วน ๆ

รายงานระบุว่าแอปเปิลจะออก iPhone SE 2 รุ่นต่อของสมาร์ทโฟนที่ลดสเป็กและทำราคาให้ถูกที่สุด วางจำหน่ายในช่วงต้นปีหน้า สอดคล้องกับรายงานของ Nikkei ก่อนหน้านี้

อาจจะเป็นสิ่งที่หลายคนรอคอย แต่ก็ยังไม่มาเสียที ล่าสุด Nikkei รายงานว่าแอปเปิลมีแผนจะเปิดตัว iPhone รุ่นราคาถูก ที่จะเป็นรุ่นต่อของ iPhone SE ในช่วงต้นปีหน้า โดยขนาดหน้าจอจะใหญ่ขึ้นเป็น 4.7 นิ้ว ส่วนราคานั้นยังไม่มีข้อมูล

รายงานบอกว่าขนาดหน้าจอ 4.7 นิ้วนั้น ทำให้ iPhone SE รุ่นใหม่ จะนี้มีขนาดใกล้เคียงกับ iPhone 8 ส่วนหน้าจอเป็นแบบ LCD ทำให้ขายได้ในราคาที่ไม่สูง และเนื่องจากใช้รูปแบบจาก iPhone 8 ก็เป็นไปได้ว่าจะไม่มี Face ID รวมทั้งใช้ Touch ID อยู่

ปัจจุบันแอปเปิลไม่ได้จำหน่าย iPhone SE โดยตรงแล้ว (เพิ่มเติม: มีเฉพาะการจำหน่ายผ่านตัวแทนที่ได้รับการแต่งตั้ง) โดยมี iPhone รุ่นราคาถูกสุดที่ยังทำตลาดคือ iPhone 7

เป็นไปตามรอบการออกสินค้าของแอปเปิล เมื่อมีของใหม่มา ของเก่าก็ลดราคาหรือเลิกขายไป โดยหลังการเปิดตัว iPhone Xs และ XR ในหน้าเว็บไซต์ของแอปเปิลก็ได้หยุดจำหน่าย iPhone 6s และ iPhone SE ซึ่งถือเป็นสองรุ่น iPhone ที่ราคาถูกที่สุดเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ยังทำให้ iPhone จอเล็กที่สุดที่แอปเปิลยังขายอยู่คือ 4.7 นิ้ว (ของ iPhone 7 และ 8 ส่วน SE จอ 4 นิ้ว)

ราคาสินค้าของ iPhone 7 และ 8 ยังมีการปรับราคาลงมาดังนี้

มีรายงานข่าวจาก Economic Daily News ระบุว่าแอปเปิลจะเปิดตัว iPad รุ่นใหม่ แทนที่ iPad Pro รุ่นจอ 10.5 นิ้วเดิม ด้วยวิธีลดขนาดขอบหน้าจอลงอีก ทำให้ขนาดเครื่องเท่าเดิม แต่พื้นที่จอเพิ่มขึ้นเป็น 11 นิ้ว

นอกจากนี้แอปเปิลจะออกรุ่นอัพเกรดของ iPad Pro จอ 12.9 นิ้วด้วย ซึ่งทั้งหมดจะเปิดตัวในงาน WWDC 2018 เดือนมิถุนายนนี้ สำหรับข้อมูลสเป็กนั้นก็ไม่ผิดคาดนัก โดยมาพร้อมกับ Face ID, ตัดปุ่มโฮม, ซีพียูรุ่นใหม่ที่เร็วขึ้น

ในรายงานยังบอกว่าแอปเปิลจะไม่เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ในครึ่งปีแรก ทำให้ข่าวลือว่า iPhone SE จะออกรุ่นอัพเกรด อย่างน้อยก็ต้องรอช่วงครึ่งปีหลัง

American Customer Satisfaction Index (ACSI) สำรวจความพึงพอใจต่อโทรศัพท์มือถือในสหรัฐอเมริกาในรอบปีที่ผ่านมา ปรากฎว่า iPhone SE สมาร์ทโฟนจอเล็กราคาถูกจากแอปเปิลได้รับคะแนนนำมาเป็นอันดับ 1 ถึงแม้สมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่จะกำลังเป็นเทรนด์ก็ตาม

iPhone SE ได้คะแนนถึง 87 จาก 100 คะแนน ส่วนอันดับสองคือ Galaxy S6 Edge+ ที่ 86 คะแนน ส่วนอีก 18 อันดับที่เหลือ ล้วนเป็นสมาร์ทโฟนจากแอปเปิลและซัมซุงทั้งสิ้น (ท็อป 20 มีสองแบรนด์)

ACSI สำรวจจากผู้บริโภคกว่า 36,194 คนระหว่างเดือนพฤษภาคม 2016 ถึงเมษายน 2017 ที่ผ่านมา

ที่มา - MacRumors

Nomura บริษัทด้านการเงินจากญี่ปุ่น ออกรายงานวิจัยตลาดเกี่ยวกับ iPhone SE โดยระบุว่าแม้จะทำยอดขายได้มาก แต่ในตลาดประเทศที่พัฒนาแล้ว iPhone SE อาจจะแข่งขันและกินตลาดของ iPhone 6s ไป

Jeffery Kvaal นักวิเคราะห์ของบริษัทระบุว่า iPhone SE แม้จะประสบความสำเร็จในตลาดซึ่งสมาร์ทโฟนยังมีโอกาสโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ใช้รายใหม่ในประเทศจีน แต่ในตลาดประเทศพัฒนาแล้ว iPhone SE จะเข้าแย่งลูกค้าของ iPhone 6s โดยในรายงานระบุว่า Apple อาจเลือกใช้แนวทางที่อนุรักษ์นิยม (conservative view) สำหรับการผลิต iPhone รุ่นใหม่ เพื่อให้สินค้าคงคลังเหลือน้อยลงกว่าเดิม

ทั้งนี้ Nomura ระบุว่ายอดขาย iPhone SE ประมาณกึ่งหนึ่งมาจากยอดขายในสหรัฐฯ และจีน โดยคาดการณ์ว่าอาจขายได้มากกว่า 30 ล้านเครื่องภายในปีแรก

iPhone SE เป็นไอโฟนรุ่นราคาต่ำที่สุดในตอนนี้เปิดราคาในต่างประเทศมาน่าสนใจที่ 399 ดอลลาร์เท่านั้น ตอนนี้แอปเปิลก็เปิดราคาในไทยแล้วอยู่ที่ 16,800 บาทสำหรับรุ่น 16GB และ 20,800 บาทสำหรับรุ่น 64GB

แม้ว่าทั้งสองรุ่นจะแพงกว่าราคาในสหรัฐฯ มาก แต่เมื่อเทียบกับแถบเอเชียแล้วก็ยังนับว่าอยู่ที่กลางๆ เพราะฮ่องกงราคาอยู่ที่ 3,488 ดอลลาร์ฮ่องกงสำหรับรุ่น 16GB หรือประมาณ 15,800 บาท ส่วนสิงคโปร์อยู่ที่ 658 ดอลลาร์สิงคโปร์หรือประมาณ 17,100 บาท ในแง่นี้ราคาในไทยก็ยังกลางๆ อยู่

ที่มา - Apple Store TH

โดย iPhone se รุ่นความจุ 16 GB ราคา 16,800 บาท
ส่วน iPhone se รุ่นความจุ 64 GB ราคา 20,800 บาท
ทั้งนี้ยังไม่ประกาศวันเริ่มจำหน่ายแต่อย่างได

หลังจาก iPhone SE ได้วางขายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว iFixit จอมแงะก็ได้เวลาจัดแจงหาเครื่องมาแกะเพื่อดูชิ้นส่วนภายในและให้คะแนนการซ่อม

จากรายงานบอกว่า iPhone SE นั้นมีชิ้นส่วนที่ใช้กับ iPhone รุ่นอื่นๆ เยอะมาก เช่น จอ, ลำโพง, ถาดซิม, มอเตอร์สั่นเป็นชิ้นส่วนที่เหมือน iPhone 5s โดย iFixit ได้ทดลองเอาชิ้นส่วนเหล่านี้จาก iPhone 5s มาใส่ใน iPhone SE พบว่าทำงานได้เหมือนกัน รวมถึงการออกแบบภายในของตัวเครื่องและ logic board นั้นก็เหมือนกับ iPhone 5, 5s

ฝั่งชิ้นส่วนที่เหมือนกับ iPhone 6s มักจะเป็นชิพต่างๆ เช่น ชิพ Apple A9, ชิพ NFC รุ่น NXP66V10, แรม, หน่วยความจำแบบ NAND Flash ยี่ห้อ Toshiba ส่วนกล้อง iSight 12 ล้านพิกเซลที่ตัว module เหมือนกันแต่ถูกนำมาดัดแปลงเล็กน้อย

หลังจากเมื่อวันที่ 21 มีนาคม Apple ประกาศเปิดตัว iPad Pro 9.7 นิ้ว และ iPhone SE วันนี้ก็เป็นวันแรกที่เริ่มวางขายอย่างเป็นทางการ ผมจึงถือโอกาสไปลองจับผลิตภัณฑ์ทั้งสองตัวแบบคร่าวๆ และถ่ายทอดออกมาเป็นลองจับสั้นๆ ให้ผู้อ่านครับ

Cho Ju-no ประธานฝ่ายธุรกิจมือถือของ LG ให้สัมภาษณ์ว่ามือถือเรือธงตัวล่าสุด LG G5 สร้างความแตกต่างให้กับลูกค้าได้มากกว่าผลิตภัณฑ์ของคู่แข่ง

เขาพูดถึง iPhone SE ว่าเป็นการออกสินค้าใหม่โดยใช้เทคโนโลยีเก่า ซึ่ง LG จะไม่มีวันทำแบบนี้

Cho ยังเล่าแผนการเปิดตัว LG Pay ว่าจะเปิดตัวในครึ่งแรกของปีนี้ ส่วนแนวคิดเรื่องโมดูลของ LG G5 ที่ถอดเปลี่ยนได้ บริษัทยังไม่ตัดสินใจว่าจะใช้กับมือถือรุ่นอื่นๆ ในอนาคตด้วยหรือไม่

สื่ออเมริกันหลายเจ้าเริ่มได้ iPhone SE ไปรีวิวกันแล้ว ผลการรีวิวของ Wall Street Journal มีดังนี้

• WSJ เทียบขนาด iPhone จอเล็ก-ใหญ่ เหมือนกับการเลือกรองเท้า ที่ต้องดูขนาดให้เหมาะสมกับตัวเราด้วย
• พอได้จับ iPhone SE ครั้งแรกรู้สึกว่าเล็ก เพราะคุ้นกับมือถือขนาดใหญ่ไปแล้ว ส่วนหน้าตาเหมือนกับ iPhone 5s มาก ถึงขนาดใส่ในเคสของ iPhone 5s เดิมได้เกือบหมดทุกกรณี แต่นอกจากสี rose gold แล้วก็ไม่มีอะไรแตกต่างจากเดิม
• กล้อง 12MP มีฟีเจอร์สมัยใหม่ครบครัน แต่ถ่ายรูปในที่แสงน้อยก็เป็นรอง Galaxy S7
• จุดที่โดดเด่นคือแบตเตอรี่ที่พัฒนาขึ้นมาก รันชุดทดสอบแล้วอยู่ได้นาน 10 ชั่วโมง นานกว่า iPhone 6s ถึง 2 ชั่วโมง
• จุดด้อยคือหน้าจอของ iPhone SE มีพิกเซลน้อยกว่า และอัตราคอนทราสต์น้อยกว่า iPhone 6s และไม่รองรับ 3D Touch
• iPhone SE รุ่นล่างสุด 16GB กดราคาให้ถูก แต่ความจุระดับนี้เริ่มไม่พอใช้งานแล้ว ถ้าเลือกได้ซื้อรุ่น 64GB ดีกว่า

Walt Mossberg คอลัมนิสต์แห่งเว็บไซต์ The Verge เขียนข้อเขียนถึงแอปเปิล แสดงความคาดหวังต่อไอโฟน 7 โดยกล่าวว่าไอโฟน SE นั้นสมเหตุสมผลในทางธุรกิจ แต่ไม่มีก้าวกระโดดทางเทคโนโลยี

คุณ Mossberg กล่าวถึงคู่แข่งอย่างซัมซุง โดยเฉพาะกาแล็กซี S7 ว่าระยะห่างระหว่างผลิตภัณฑ์จากทั้งสองค่ายกำลังลดลงเรื่อย ๆ เหลือเพียงประเด็นหลักของซัมซุง คือ เรื่องซอฟต์แวร์ หากจะรักษาตำแหน่ง “มือถือที่ควรซื้อที่สุด” แอปเปิลควรจะมีพัฒนาในหลายๆ ด้าน

การเปิดตัว iPhone SE เมื่อวานนี้ เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย แต่แอปเปิลไม่พูดสักคำว่าตัวย่อ "SE" หมายถึงอะไร

ตอนนี้หายคาใจกันได้แล้ว เพราะ Jason Cipriani ผู้สื่อข่าวของ Fortune โพสต์ข้อความว่าเขาถาม Phil Schiller ผู้บริหารของแอปเปิลในเรื่องนี้ และได้รับคำตอบว่าหมายถึง "Special Edition" ครับ (ส่วน Special Edition กันอย่างไรก็สงสัยกันต่อไป)

ที่มา - Neowin

แอปเปิลเปิดตัว iPhone SE รุ่นหน้าจอ 4 นิ้ว ตรงตามข่าวลือทุกประการ มันคือ iPhone 6s ในร่าง iPhone ขนาด 4 นิ้ว มีฟีเจอร์ทัดเทียมกันทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นซีพียู Apple A9, Touch ID, Apple Pay, กล้องคุณภาพสูง

แอปเปิลอธิบายว่า iPhone ขนาด 4 นิ้วได้รับความนิยมสูง เพราะคนกลุ่มหนึ่งชอบมือถือขนาดเล็กพกพาสะดวก อีกกลุ่มหนึ่งคือซื้อ iPhone เป็นครั้งแรกในช่วงนั้นพอดี

iPhone SE มีให้เลือก 4 สี (มีสี Rose Gold ยอดนิยม) ราคาขายอยู่ที่ 399 ดอลลาร์สำหรับรุ่น 16GB และ 499 ดอลลาร์สำหรับรุ่น 64GB, เริ่มเปิดจองวันที่ 24 มีนาคมนี้ และเริ่มขายก่อนใน 10 ประเทศ (ยังไม่มีไทย) ก่อนจะขยายไปขายใน 110 ประเทศ ช่วงเดือนพฤษภาคม