ในอดีตอันไกลโพ้น (รึเปล่า?) เมื่อพูดถึง "ทีวี" เราคงนึกถึงแบรนด์ "โซนี่" กันเป็นอันดับแรก แต่ในวันนี้สถานการณ์กลับกัน เพราะธุรกิจทีวีของโซนี่ย่ำแย่ติดต่อกันมาหลายไตรมาสแล้ว สาเหตุสำคัญมาจากการแข่งขันที่รุนแรง โดยเฉพาะจากซัมซุงและผู้ผลิตทีวีราคาถูกอย่าง Vizio นอกจากนี้ตลาดทีวีในประเทศพัฒนาแล้วก็เริ่มอิ่มตัว
วันนี้โซนี่จึงประกาศยุทธศาสตร์ใหม่ที่หวังว่าจะมากอบกู้ธุรกิจทีวีของบริษัท โดยจัดโครงสร้างองค์กรใหม่ แบ่งฝ่ายธุรกิจทีวีออกเป็น 3 ส่วน เพื่อให้การทำงานคล่องตัวมากขึ้น ผังองค์กรใหม่มีผลบังคับใช้ในวันนี้
ผู้ผลิตจอ LCD จากญี่ปุ่นเริ่มประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนักในช่วงหลัง อันมีเหตุมาจากการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดจอภาพ (โดยเฉพาะจากฝั่งเกาหลีและจีน) ล่าสุดบริษัทญี่ปุ่นที่ขาดทุนในตลาดนี้ 3 รายประกาศควบรวมกิจการผลิตจอ LCD เข้าด้วยกันแล้ว
บริษัท 3 รายนี้ได้แก่ โซนี่ โตชิบา ฮิตาชิ จะควบรวมกิจการจอภาพเข้าด้วยกันเป็นบริษัทใหม่ชื่อ Japan Display โดยคาดว่าจะควบกิจการเสร็จช่วงกลางปี 2012 และเข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี 2016
ผู้ผลิตจอภาพทั้ง 3 รายจะมีหุ้นใน Japan Display รายละ 10% ส่วนที่เหลืออีก 70% จะลงทุนโดยกองทุน Innovation Network Corp of Japan (INCJ) ของรัฐบาลญี่ปุ่น คิดมูลค่าการลงทุน 2 แสนล้านเยนหรือ 2.6 พันล้านดอลลาร์
เป็นเรื่องที่หลายคนอยากรู้และเป็นเรื่องที่ถกเถียงกัน ทั้งฝ่ายชื่นชอบ iPhone, ฝ่ายชื่นชอบ Android และฝ่ายชื่นชอบ Samsung ว่า Retina Display ที่ Jobs อ้างว่าคุณภาพดีกว่า OLED นั้นคุณภาพเป็นอย่างไร จน Samsung เองออกมาบอก Retina Display สู้ AMOLED ไม่ได้อยู่ดี ตอนนี้เว็บไซต์ Engadget ได้นำเครื่อง iPhone 4 และ Samsung Galaxy S มาเทียบเรื่องหน้าจอกันชัดๆ ทั้งภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหว โดยปรับความสว่างสูงสุด ประเด็นที่หลายคนอยากรู้ มีดังนี้
แม้ว่าสตีฟ จ็อบส์ได้ออกมาพูดในงาน WWDC10 เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ว่าจากสายตาของแอปเปิลพวกเขาเห็นจอ IPS เป็นเทคโนโลยีที่เหนือกว่า OLED แต่จากผู้ผลิตจอรายใหญ่ยักษ์ของโลกอย่างซุมซังแล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องจริง
โดยซํมซุงได้ออกมาบอกว่า จอ IPS ความละเอียดสูงที่แอปเปิลได้ตั้งชื่อให้ว่า Retina Display นั้นมีความคมชัดมากกว่าจอภาพของ Samsung Galaxy S Super AMOLED เพียงแค่ 3-5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่กลับใช้พลังงานมากกว่าถึง 30% ด้วยกัน
นอกจากนี้ซัมซุงยังเชื่อว่าจอ AMOLED ของพวกเขามี Contrast และ Viewing-angle ที่ดีกว่า และบอกตามหลักของเทคโนโลยีแล้ว IPS LCD ไม่มีทางสู้กับ AM-OLED ได้อย่างแน่นอน
ที่งาน SID 2010 (งานแสดงเทคโนโลยีของผู้ผลิตจอภาพ) ซัมซุงได้โชว์จอ LCD ขนาด 18.5" ความสามารถพิเศษของมันคือกินไฟต่ำมาก 6.3 วัตต์ และสามารถใช้ไฟเลี้ยงด้วยสาย USB 2.0 เพียงเส้นเดียว (แต่ต่อสองหัวนะครับ)
ซัมซุงบอกว่าเทคโนโลยีนี้เป็นไปได้ เพราะปรับปรุงประสิทธิภาพของการแสดงผล และประสิทธิภาพของ backlight ที่ช่วยส่องสว่าง แต่บริษัทก็ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดอื่นมากไปกว่านี้ บอกเพียงแค่ว่าจะวางขายจริงได้ในปี 2011
อีกไม่นาน สายต่อจอจะมีเพียงแค่สายเดียว?
ในช่วงต้นปี 2010 กระแสของ Avatar ทำให้งาน CES 2010 เต็มไปด้วยทีวีที่แสดงภาพสามมิติได้ ตอนนี้ผลิตภัณฑ์ที่เคยโชว์ใน CES ใกล้ได้ฤกษ์วางขายจริง แน่นอนว่ามันมาพร้อมกับ "ราคา" ที่ไม่ธรรมดา
ทีวีสามมิติรุ่นที่ถูกที่สุดของซัมซุงคือ UN40C7000 หน้าจอ 40" เริ่มต้นที่ 1,999 ดอลลาร์ (65,000 บาท) แต่ทีวีอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีเครื่องเล่น Blu-ray สามมิติ เริ่มต้นที่ 399.99 ดอลลาร์ และถ้ายังไม่มีระบบโฮมเธียเตอร์ที่บ้าน จะโดนอีก 899.99 ดอลลาร์ สงสัยซัมซุงคงเห็นว่าราคาทีวี+เครื่องเล่นที่ 2,400 ดอลลาร์ (80,000 บาท) จะแพงไปสำหรับลูกค้า เลยแถมแว่นสามมิติให้ 2 อัน และแผ่นหนัง Monsters vs Aliens ฉบับสามมิติให้ไปลองเครื่อง
ทาง Korea Times มีรายงานจากแหล่งข่าวหนึ่งได้ระบุว่า iPhone รุ่นถัดไปของแอปเปิลจะใช้จอ OLED, มีฟังก์ชันการสนทนาด้วยวีดีโอ, ใช้ซีพียูที่มีสองคอร์ และน่าจะถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้
แหล่งข่าวนี้ระบุว่า แอปเปิลน่าจะเปิดให้ลูกค้าองค์กรใช้อุปกรณ์นี้ก่อนในช่วงเดือนเมษายนเพื่อทดสอบ ก่อนที่จะขายให้กับบุคคลทั่วไปในช่วงเดือนมิถุนายนซึ่งเป็นเวลาออกรุ่นใหม่ของ iPhone ตามปกติ
ถ้าข่าวนี้เป็นจริง มีความเป็นไปได้สูงที่ iPhone จะใช้ซีพียูสถาปัตยกรรม Cortex-A9 จาก ARM ที่มีขีดความสามารถในการเพิ่มสัญญาณนาฬิกาสูงสุดที่ 2GHz
ทางเว็บไซต์ AppleInsider ได้มีรายการเกี่ยวกับสิทธิบัตรของแอปเปิลที่มีการจดไว้ตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2008 ที่มีชื่อว่า "Display with Dual-Function Capacity Elements" ซึ่งเป็นการรวมเอาตัวเก็บประจุเข้าไปไว้ในส่วนแสดงผลของแต่ละจุดบนหน้าจอ LCD และสามารถทำงานแยกกันได้ตามปกติ
เทคนิคนี้จะสามารถทำให้ผลิตอุปกรณ์ที่มีจอภาพสัมผัสแบบประจุ (capacitive) ได้บางขึ้น เบาขึ้น และสว่างมากขึ้น เพราะเป็นการเปลี่ยนจากการใช้จอ LCD แยกกับแผงเซนเซอร์สัมผัสแบบเดิมที่ใช้กันอยู่ทั่วไป ซึ่งสิทธิบัตรนี้สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับผลิตภัณฑ์หลักๆ ของแอปเปิลได้เกือบทั้งหมด
โนเกียฟ้องร้อง Samsung กับ LG และผู้ผลิตจอภาพรายอื่นๆ เช่น AU Optronics รวมเจ็ดบริษัท โทษฐานรวมกันปั่นราคาจอ LCD ให้มีราคาแพงขึ้น
เมื่อเดือนที่แล้ว บริษัท AT&T ก็ได้ยื่นฟ้องข้อหาเดียวกันนี้กับบริษัทผู้ผลิตจอ LCD เช่นกัน และก่อนหน้านี้ช่วงต้นปี กระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้เข้าไปสอบสวนการคงระดับราคาจอของบริษัทผลิตจอภาพหลายแห่ง และ Hitachi Displays, LG, Sharp โดนปรับกันถ้วนหน้าไปแล้วรอบหนึ่ง
ฝั่ง LG บ้างครับ ผลิตภัณฑ์แปลกๆ ที่น่าสนใจคือ GD910 ซึ่งเป็นโทรศัพท์มือถือในร่างของนาฬิกาข้อมือ สนับสนุนเครือข่าย 3G แบบ HSDPA, มี Bluetooth และลำโพงในตัว, สนับสนุน video calling (เจ๋งจริงๆ), มีระบบสั่งงานด้วยเสียง, จอสัมผัสขนาด 1.43 นิ้ว และเล่นไฟล์มัลติมีเดียได้ในตัว วางขายในยุโรปภายในปีนี้ ภาพดูได้ด้านใน วิดีโอแสดงการคุยผ่านนาฬิกามือถือดูได้จากลิงก์นี้บน Viddler (Engadget)
ส่วนมือถือจริงๆ ทาง LG เองก็ได้นำมาโชว์กันชุดใหญ่ ทั้งรุ่นใหม่และรุ่นที่เคยออกมาก่อนหน้านี้แล้ว ประกอบด้วย
ผลิตภัณฑ์หลักของโตชิบาในรอบนี้คือทีวีแอลซีดีแบรนด์ Regza อีก 3 ซีรีย์คือ XV645, ZV650, SV670 ซึ่งจะออกขายจริงได้ในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม ฟีเจอร์ไม่มีอะไรใหม่มากนักเป็นการปรับปรุงเรื่องสี ความละเอียด ความสว่าง จำนวนพอร์ต ฯลฯ อย่างที่ทีวีรุ่นใหม่ในท้องตลาดควรจะมี (Engadget, Gizmodo)
สิ่งที่น่าสนใจกว่าคือโตชิบาประกาศว่าในครึ่งหลังของปี 2009 โตชิบาจะพัฒนาให้ผลิตภัณฑ์ของตัวเองมีความสามารถในการเชื่อมต่อ ซึ่งใช้ชื่อว่า Network Player ประกอบด้วย
ในงาน Keynote ของ Samsung บนเวที CES 2009 ที่ลาสเวกัสในปีนี้ พระเอกคือเครื่องเล่นมัลติมีเดียพกพา (PMP) รุ่นใหม่ที่มีข่าวออกมาสักระยะแล้ว นั่นคือ Samsung P3 ซึ่งมี
ภาพอยู่ด้านใน
มีแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้เปิดเผยว่า Apple กำลังซุ่มทำโทรทัศน์ LCD อยู่ โดยโทรทัศน์ดังกล่าวน่าจะมีคุณสมบัติคล้าย Apple TV คือมี Wireless N ที่สามารถส่งข้อมูลหนังและเพลงจากโปรแกรม iTunes ที่อยู่บนเครื่องคอมพิวเตอร์อื่นได้, สามารถเช่าหนังผ่านรีโมตได้และสนับสนุนความละเอียดระดับ HD
ปกติแล้ว Apple ว่าจ้าง LG-Philips ในการผลิตจอ LCD ยี่ห้อตัวเองอยู่แล้ว ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้จึงน่าจะใช้ผู้ผลิตเดียวกัน
เราเห็นข่าว Qosmio G55 โน้ตบุ๊กพลัง Cell ของโตชิบากันไปแล้ว คราวนี้มาเป็นทีวี LCD พลัง Cell กันบ้าง
จอ LCD ซีรีย์ ZF ของโตชิบาจะใช้ซีพียู Cell ในการแปลงสัญญาณภาพแบบ Standard Definition (SD) มาเป็น HD (หรือที่เรียกกันว่า upscaling) แบบเดียวกับใน PS3 แต่เป็นเทคโนโลยีที่โตชิบาพัฒนาขึ้นมาเองโดยไม่ต้องผ่านเครื่องเล่นตัวกลาง ทำในจอโดยตรง ชื่อทางการค้าของเทคโนโลยีนี้เรียกว่า Resolution+
โตชิบาเปิดตัวจอสองรุ่นในยุโรป โดยมีแบบ 40" กับ 46" นิ้วให้เลือก ยังไม่มีข้อมูลเรื่องราคาและวันวางจำหน่าย
ที่มา - Engadget
ช่วงนี้ราคาจอภาพแบบ LCD กำลังดิ่งตัวลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายๆ คนแถวๆ นี้คงกำลังมองหาจอภาพขนาดใหญ่ๆ ไว้ดูหนังหรือกระทั่งอ่าน e-Book กัน วันนี้ผมไปดูที่ฟอร์จูนมาพบว่าจอภาพขนาด 27" นั้นขายกันอยู่ที่ 34,000 บาท
แต่ข่าวนี้อาจจะทำให้หลายๆ คนชะลอการซื้อเอาไว้ได้อีกพัก เมื่อบริษัท VIZIO ได้เปิดตัวจอภาพรุ่นใหม่สองรุ่นที่งาน CES คือรุ่น VP322 และ VP422 ที่มีขนาด 32" และ 42" ตามลำดับ หน้าจอเป็นแบบพลาสมาทำให้ได้เปรียบเรื่อง Contrast Ratio เป็นจุดเด่นคือ 30000:1 แต่จุดด้อยคือความละเอียดของภาพเพียงแค่ 720p (ซึ่งผมก็ว่าละเอียดพอแล้วนะ)
วางจำหน่ายแล้ววันนี้ผ่านทาง Wal-Mart ราคารุ่น VP322 คือ 599 ดอลลาร์ และ VP422 อยู่ที่ 799 ดอลลาร์ หรือประมาณ 25,000 บาทเท่านั้น
ข่าวใหญ่ประจำเว็บ gadget ช่วงนี้คงไม่มีอะไรเกินจอภาพสุดแกร่ง LS201 จาก Asus ซึ่งโฆษณาว่ามีวัสดุปกป้องหน้าจออย่างดี ป้องกันรอยขีดข่วน (อันนี้ฟังดูธรรมดา)
สาเหตุที่เป็นข่าวเพราะว่ามีรายการโทรทัศน์ของยูเครนรายการหนึ่ง ทำการทดสอบความแกร่งของจอภาพนี้โดยการเอาค้อนทุบ, ตอกตะปู และที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือยิงด้วยหน้าไม้ (ซึ่งผลลัพธ์คือยิงไม่เข้า แถมหัวของลูกศรงอ) ผมไม่แน่ใจว่าจริงแท้แค่ไหน ให้ลองเองก็คงจะไม่ แต่ถ้าดูเอาสนุก อยู่บน YouTube
ปัจจุบันเทคโนโลยีการแสดงผลมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเมื่อจอภาพมีความละเอียดสูง การส่งข้อมูลปริมาณมากๆ ไปยังจอภาพเพื่อแสดงผลมีความจำเป็น ซึ่งเทคโนโลยีการเชื่อมต่อปัจจุบันไม่ว่าจะเป็น VGA หรือแม้แต่ DVI อาจจะไม่เพียงพอต่อความต้องการ