ความเดิมคือ ไมโครซอฟท์โดนกดดันอย่างหนักเรื่อง WGA แอบส่งข้อมูลในเครื่องกลับไปให้ไมโครซอฟท์ (ข่าวเก่า) แต่ตอนนี้ Mac OS X ก็ไม่น้อยหน้า แอบติดต่อกลับไปแอปเปิลเหมือนกัน
การติดต่อกลับนี้เกิดบน 10.4.7 ขึ้นไป โดย Dashboard จะทำการเช็คว่า Widget ที่คุณกำลังใช้อยู่นั้น เป็นอันเดียวกับที่อยู่บนเว็บแอปเปิลรึเปล่า (เข้าใจว่าป้องกัน Widget แปลกปลอม) วิธีการติดต่อคือมันจะรันโปรเซสชื่อ dashboardadvisoryd ขึ้นมาเป็นระยะ เพื่อส่งติดต่อกลับไปยัง URL ว่า http://www.apple.com/widgets/widgetadvisory
ต้นเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว สตีฟ จ็อบส์ประกาศช็อกโลกกลางเวทีงาน WWDC 2005 ว่าแอปเปิลจะใช้ชิปของอินเทล ตอนนี้เวลาได้ผ่านมาครบ 1 ปีแล้ว ทางนิตยสาร MacWorld จึงมีสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา ซึ่งสรุปว่าแอปเปิลทำได้ค่อนข้างดี
ฝั่งฮาร์ดแวร์นั้นเริ่มด้วย iMac intel และ MacBook Pro ตามมาด้วย Mac mini และ MacBook ซึ่งในสายผลิตภัณฑ์นั้นเหลือแต่ PowerMac เดิม และเซิร์ฟเวอร์ XServe เท่านั้น ส่วนด้านซอฟต์แวร์ก็มี Boot Camp ทำให้เรารันวินโดวส์ได้ แต่ยังขาด Universal Binary ของโปรแกรมสำคัญอีกหลายตัว (เช่น Adobe)
Apple ออก Mac OS X 10.4.7 ดาวน์โหลดได้จาก support website (ใช้ "Software Update..." จาก Apple Menu จะดีกว่าหากไม่แน่ใจว่าจะโหลดอะไร)
ที่มา - จำไม่ได้แล้ว แต่อัพเดตเป็น 10.4.7 ไปแล้ว ยังดูดีอยู่ เดิมทีก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
แอปเปิลได้คอนเฟิร์มแล้วว่าในงาน WWDC 2006 ที่จะจัดในเดือนสิงหาคมนี้ สตีฟ จ็อบส์จะควงผู้บริหารระดับสูงของแอปเปิลขึ้นเวที Keynote เพื่อโชว์ Mac OS X "Leopard" ในวันที่ 7 สิงหาคม วันเปิดงาน โดยยังไม่ระบุรายละเอียดของ Leopard ตามสูตร ข่าวลือก็หาอ่านได้ตามเว็บแอปเปิลทั่วไป
สิ่งที่น่าสังเกตคือใน press release ระบุเพียงแค่ Mac OS X "Leopard" เท่านั้น ไม่ได้บอกเลขเวอร์ชันว่าเป็น 10.5 แต่อย่างใด (หรือว่าลืม?)
ออกตัวก่อนว่าไม่ใช่สาวกแอปเปิล แต่เห็นว่าน่าสนใจดีครับ
นาย Erling Ellingsen ได้ทำ patch สำหรับ Desktop Manager ของ OS X เพื่อให้มันสลับ virtual desktop ทุกครั้งที่ "ตบ" ข้างจอ MacBook ซึ่ง patch ที่ว่า ทำงานโดยอาศัย motion sensor ของตัว MacBook เอง (เพิ่งรู้ว่ามันมีด้วย)
ดูวิดีโอสาธิตแล้วมันเท่จริงๆ
ใครมี MacBook ไว้ในครอบครองและอยากลอง ก็สามารถดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ที่จำเป็นมาติดตั้งได้ โดยดูในส่วน summary ครับ (ในบล็อกมีอธิบายโค้ดด้วย สนใจไปอ่านต่อได้)
เรารู้กันดีว่าถึง Mac OS X จะเป็นระบบปฏิบัติการแบบปิด แต่ตัวคอร์ของระบบปฏิบัติการนั้นแอปเปิลได้นำเคอร์เนลของ BSD มาพัฒนาต่อภายใต้ชื่อโครงการ Darwin และเป็นโอเพนซอร์ส
แต่ตอนนี้ผู้ใช้ไม่สามารถเข้าถึงซอร์สโค้ดของ Darwin เวอร์ชันสำหรับ x86 ซะแล้ว (ของเวอร์ชัน PowerPC ยังเหมือนเดิมครับ) คาดว่ามีสาเหตุมาจากการนำ Darwin ไปช่วยในการแฮกให้เอา OS X ไปรันบนคอมพิวเตอร์ที่ไม่ใช่แมคอินทอช (เนื่องจากการย้ายไปใช้อินเทล)
ออกช้ากว่าตัวจริงอยู่นานโข
ใช้ patch cttex ที่คุณฮุ้ยทำไว้ เหมือนที่ mk ใช้ build 1.5.0.2
Build แบบ Universal Binary บน iBook G4 1.33GHz RAM 1GB ใช้เวลาไป 3 ชั่วโมง 41 นาที
ข้อมูลคร่าวๆ
กระทานาย Jim Louderback แห่ง PC Magazine เขียนลงในคอลัมน์เค้าว่า ความคิดที่จะซื้อเครื่อง Intel Mac เพื่อมาใช้ Boot Camp มารัน Winodws นั้นเป็นความคิดที่ห่วย!!!
เค้ายกตัวอย่างทั้งเรื่อง ของการสนับสนุนฮาร์ดแวร์ที่ไม่รู้ว่าเจ้า Boot Camp จะสนับสนุนรึเปล่า, เรื่องของเสถียรภาพที่ไม่รู้ว่าเจ้า Boot Camp จะนิ่งสักแค่ไหนและไม่รู้ว่า Apple จะมีบริการ Support ให้รึเปล่า, เรื่องของความอิสระในการปรับแต่งฮาร์ดแวร์ต่างๆ (อันนี้ส่วนตัวผมชอบประกอบคอมเอง :P) มีกัดด้วยว่า่ Think Different but all look just the same
สำหรับแฟนๆ Java บนเครื่อง Intel Mac คงได้ดีใจกันถ้วนหน้าเมื่อ Mailing List ของ แอปเปิล ได้ประกาศออกว่าได้ปล่อย Java SE 6.0 Release 1 Developer Preview 1 ออกมาให้ลองเล่นกันแล้ว โดยในตอนนี้ทำของ Intel Mac ออกมาก่อนครับ ส่วนผู้ใช้ Mac ตัวเก่าไม่ต้องน้อยใจครับสำหรับ PowerPC จะออกมาเร็วๆนี้เช่นกัน
แม้ว่าจะช้ากว่าทาง PC อยู่นานโขหน่อย แต่มาช้าก็ยังดีกว่าไม่มาครับ ดาวน์โหลดได้ที่ Connect.Apple.com ครับ
มีข่าวจาก Mailing List ของเวบ OpenSolaris ว่า แอปเปิลสนใจที่จะจับเจ้า ZFS ซึ่งเป็น File System ของ Solaris มาลงใน Mac OS X ครับ
ซึ่งใน OSNews กระแสตอบรับค่อนข้างดีทีเดียว :)
ที่มา - OSNews
ทางเวบ ExtremeTech นำเสนอบทความสำหรับผู้ที่อยากลอง "Switch" ระหว่าง MacOSX กับ Windows XP ครับ ซึ่งมีทั้ง จาก MacOSX ไป Windows และจาก Windows ไป MacOSX และการเรียกใช้โปรแกรมพื้นฐานของแต่ละระบบ
บทความนี้เกิดขึ้นมาก็ด้วยจาก Boot Camp ของ Apple ที่ทำให้ Intel Mac รัน Windows ได้นี่เอง ทำให้ผู้ใช้จากทั้งสองระบบ ได้สัมผัสกับอีกระบบหนึ่งง่ายขึ้นและมากขึ้นด้วย (ถ้าไม่ใช่พวกสาวกชนิด ลัทธินะ) ผมชอบ คำแนะนำตอนจบจัง
กระทาชายนาย John C. Dvorak แห่ง PC Magazine เขียนแนะนำ Apple ในคอลัมน์ของเค้าว่า Apple ควรจะปล่อย Mac OS X เปิดเผยซอร์สโค้ดซะ
ซึ่งทั้งหมดเป็นผลมาจาก Boot Camp ที่ทำให้รัน Windows XP หรือแม้อาจจะกระทั่ง Windows Vista บนเครื่อง Intel Mac ได้ ซึ่งจะทำให้คนสนใจมาซื้อ Mac มากขึ้นเพื่อรัน Windows แทน Mac OS X ซะงั้น
ทางแก้ก็คือทำการเปิดเผยซอร์สโค้ด Mac OS X ซะและทำให้มันรันบน PC ธรรมดาๆ ได้ เพื่อแข่งขันกับระบบปฏิบัติการอื่นๆ
ที่มา - OSNews
Firefox 1.5.0.2 Thai Wordbreak for Mac OS X
ถ้าพร้อมแล้วก็ลุยเลย Firefox 1.5.0.2 Thai Wordbreak for Mac OS X
Boot Camp ได้รับความสนใจจากสื่ออย่างมากเป็นพิเศษ อาจเป็นเพราะมันแสดงสัญลักษณ์การทำงานร่วมกันของอดีตคู่แข่ง (แมคกะวินโดวส์) ถึงแม้ว่าสื่อจะประโคมข่าวว่ามันใช้ง่ายแค่ไหนก็ตาม มันยังมีข้อจำกัดบางจุดที่แก้ได้ในเวอร์ชันถัดๆ ไป
ประเด็นด้านเทคนิคที่สำคัญมี 2 จุด คือ การสนับสนุน NTFS และการคลิกขวา (กรณีที่ใช้ Macbook Pro หรือเมาส์แอปเปิลที่มีปุ่มเดียว) นอกจากนี้ยังมีเรื่องไดรเวอร์เล็กๆ น้อยๆ และคำถามว่า Mac OS X 10.5 Leopard จะรวมความสามารถนี้เข้าไปด้วยหรือไม่
VMWare ได้ยืนยันแล้วว่าจะมีเวอร์ชันสำหรับแมคแน่นอนภายในปีนี้ Diane Greene แห่ง VMWare บอกว่าเวอร์ชันแมคสามารถรันได้ในแล็บเรียบร้อยแล้ว
เวอร์ชันบนวินโดวส์กับลินุกซ์นั้นมี 3 รุ่นคือ VMWare Player, VMWare Workstation และ VMWare Server ส่วนเวอร์ชันแมคนั้นคาดว่าจะออกมารุ่นเดียว ที่เทียบเท่ากับตัว Workstation
วันสองวันที่ผ่านมานี่ มีแต่คนพูดถึง Boot Camp กันเยอะแยะ มาดูข่าวเพิ่มเติมกันบ้าง
อย่างแรกผมเห็นทุกคนจะพูดในทำนองว่ามีไดรเวอร์ของฮาร์ดแวร์แมคมาให้ แต่เอาจริงมีไม่ครบนะครับ สิ่งที่ไม่สามารถใช้ได้บน XP Bootcamp เต็มที่ได้แก่ Apple Remote Control (IR), Apple Wireless (Bluetooth) keyboard or mouse, Apple USB Modem, MacBook Pro's sudden motion sensor, MacBook Pro's ambient light sensor และ built-in iSight camera
ดูข้อมูลแบบเต็มๆ ใน Boot Camp FAQ ของแอปเปิลเอง
ในโอกาสที่จะครบรอบ 30 ปีของแอปเปิลในวันที่ 1 เมษายนนี้ทาง blog.wired.com จึงเอารูปภาพหน้าตาของระบบปฏิบัติการของแอปเปิลมาให้ดูกันว่า มีวิวัฒนาการเป็นอย่างไรบ้าง :)
1978: Apple II DOS 3.0
1983: Lisa
1998: Mac OS 8.5
ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะจัดว่าเป็นข่าวรึเปล่า?
แต่จัดว่ามีประโยชน์ต่อผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นนะครับ
คราวที่แล้วมีข่าวว่า Adobe บอกต้องรอ Photoshop CS3 ถ้าอยากได้ไปรันบนอินเทลแมค สั้นๆ ดื้อๆ ไม่มีเหตุผลอธิบาย
Scott Byre วิศวกรของทีม Photoshop ได้ออกมาอธิบายว่า ถึงแม้บนเวที สตีฟ จ็อบส์จะพูดว่าก็แค่ recompile ก็จะได้ Universal Binary แต่เอาเข้าจริงมันมีเงื่อนไขคือโปรแกรมนั้นต้องเขียนด้วย Xcode ซึ่งเป็น IDE ของแอปเปิล
อันนี้ก็ข่าวต่อเนื่องอีกอันครับ ผมรอมันจบแล้วเขียนทีเดียว
เริ่มจาก ZDNet ได้ลงข่าวการทดสอบความปลอดภัยของ Mac OS X โดยมีชาวสวีเดนคนนึงตั้งเครื่องไว้ให้ลองเจาะเข้าไปดู ปรากฎว่า root ของเครื่องนั้นถูกฉกไปในเวลา 30 นาทีเท่านั้น เรื่องนี้เลยทำให้ความเชื่อมั่นในความปลอดภัยของ Mac OS X สั่นคลอน (ข่าว OSNews)
ที่ Geek Patrol ทำการทดสอบตัว Rosetta โดยใช้ iMac Core Duo spec ดังนี้ครับ
การทดสอบใช้ชุดการทดสอบที่ชื่อ geekbench
ซึ่งผลทดสอบออกมา ตัว Rosetta มีความเร็วประมาณ 40% ถึง 80% ของตัว native บน Power Mac G5 1.6GHz ที่เป็นตัวเปรียบเทียบเลยทีเดียว(ไม่ได้เร็วกว่านะ) โดยเฉพาะ application ที่เป็น single-threaded
ทาง Blognone ได้รายงานข่าวเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2549 ว่า iTMS นับถอยหลังสู่พันล้านเพลง โดยวันนั้นจำนวนเพลงที่ถูกดาวโหลดอยู่ที่ประมาณ 953 ล้านเพลง
อีกสิบหกวันถัดมาหรือก็คือวันนี้ iTMS มีลูกค้าดาวโหลดเพลงไปทั้งหมด 1,000,000,000 เพลง แล้ว (หนึ่งพันล้านเพลง!!!)
แอปเปิ้ลยิ้มร่า ลูกค้าร่าเริง...
John Dvorak เป็นคอลัมนิสต์ของนิตยสาร PC Magazine ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในเรื่องไอเดียแปลกๆ ที่ทำให้ชาวบ้านมาเถียงกันอยู่บ่อยๆ แต่คราวนี้ดูท่าจะแรงมาก เนื่องจากคอลัมน์ตอนล่าสุดของ Dvorak ตั้งข้อสังเกตว่า แอปเปิลมีท่าทีหลายอย่างที่จะเลิกใช้ Mac OS X และเปลี่ยนไปใช้วินโดวส์!
และแล้ว Trojan ที่อาจจะเป็นตัวแรกที่มีเป้าหมายไปยังกลุ่มผู้ใช้ Mac OS X ก็เผยโฉมออกมาแล้ว (พูดเหมือนรอมาเสียนาน อิอิ) โดยมีชื่อว่า Leap-A
เจ้า Leap-A ซ่อนตัวครั้งแรกใน link ในเว็บบอร์ดแห่งหนึ่ง โดยหลอกว่าเป็น Screenshort สำหรับ Leopard (Mac OS X 10.5) แล้วก็กระจายผ่านทาง iChat ในรูปของ compressed file ที่ชื่อ latestpic.tgz ซึ่งผู้รับจะต้อง download ไฟล์ดังกล่าว ถ้าไม่ดาวน์โหลด ก็ไม่ติด พวกบรรดาสาวกเป็ดเขียว Adium อย่างผมก็รอดไป
ถึงแม้จะมีอัตราการกระจายและระดับความรุนแรงต่ำ (เสียจนไม่น่าจะเป็นข่าว) แต่ที่เป็นข่าวเนี่ยก็เพราะดันมาเป็นกับ OS X มากกว่า