หลังจากที่ช่วงสัปดาห์ก่อนมีการเปิดตัว Steam beta ที่ใช้ WebKit เป็น layout engine สำหรับแสดงผลในส่วนของ store และมีคนพบไฟล์ที่เกี่ยวข้องสำหรับ Mac OS X ในอัพเดท วันนี้ Valve ก็ได้ส่งภาพ teaser จำนวนหกภาพให้แก่เว็บไซต์ข่าวหกแห่ง โดยไม่ให้ข้อมูลใดๆ เพิ่มเติม
หลังจากที่ Opera ได้ปล่อย Opera 10.50 Beta for Mac มาให้ได้ทดสอบกัน ซึ่งมีจุดเด่นๆ ดังนี้
ตอนนี้ทาง Computerworld ได้ทำการทดสอบ quick JavaScript benchmarks พบว่า Opera 10.50 Beta for Mac สามารถประมวลผลได้เร็วกว่า Safari 4 ที่ราวๆ 10% (ส่วน Nightly Build ช้ากว่าเป็นเท่าตัว) และยังเร็วกว่า Chrome อีกด้วย (ดูภาพประกอบการทดสอบได้จากที่มา)
อย่างไรก็ตาม ส่วนต่างความเร็วนี้อาจจะเห็นได้ไม่ชัดเจนมากนัก
หลังจากที่ปล่อยให้ผู้ใช้แมครอคอยกันมานาน ในที่สุดทางกูเกิลก็ได้ออกเบต้าของ Google Chrome for Mac ให้ดาวน์โหลดกันได้แล้ว โดยมีขนาดดาวน์โหลดประมาณ 17 MB และทำงานบน Mac OS X 10.5 ขึ้นไป ที่ใช้ซีพียูอินเทลเท่านั้น
แม้ว่าการออกแบบหลายๆ อย่างจะเทียบเคียงได้กับ Chrome บนวินโดวส์ แต่เวอร์ชันบนแมคจะไม่มีฟีเจอร์บางอย่างที่ Chrome บนวินโดวส์มี เช่น Gears และในทางกลับกันก็จะมีฟีเจอร์บางอย่างที่บนวินโดวส์ไม่มี เช่นอนิเมชันต่างๆ ที่ใช้ Core Animation, การตรวจการสะกด หรือการเก็บพาสเวิร์ดและเข้ารหัสโดยใช้ Keychain API ของ Mac OS X
ฟีเจอร์หลักๆ ที่ทางกูเกิลนำเสนอ (ซึ่งก็มีบนวินโดวส์หมด) ได้แก่
Ars Technica รายงานว่ามีข่าวลือตามบล็อกต่าง ๆ ว่าแอปเปิลเริ่มการพัฒนาระบบปฏิบัติการตัวต่อไป Mac OS X 10.7 ตั้งแต่วันประกาศเปิดตัว Mac OS X 10.6 หรือ Snow Leopard แล้ว นั่นหมายความว่าแอปเปิลได้พัฒนา Mac OS X 10.7 ก่อนที่ Snow Leopard จะออกมาเป็นเบต้าเสียอีก
โดย MacRumors ได้พบบักที่มีการกล่าวถึงตัวเลข Build Number ของ Mac OS X รุ่น 11A47 โดยปกติแล้วตัวเลขเหล่านี้นอกจากที่จะบอกว่าเป็น Build ที่ใหม่แค่ไหนแล้ว แต่ยังบอกตัวเลขรุ่นของระบบปฏิบัติการอีกด้วย เช่น Mac OS X 10.6 มี Build Number 10A432 และ 10.6.2 มี Build Number 10B504 โดยตัวเลขชุดแรกของ Build Number ก็คือเวอร์ชั่นหลัก เพราะฉะนั้น Build Number 11Axx จะต้องเป็น Mac OS X 10.7 ตามตรรกะนี้
ขึ้นชื่อว่า Kaspersky หลายๆ คนคงรู้จักดีในฐานะโปรแกรมตรวจจับไวรัสที่โด่งดังบนวินโดวส์ และ ณ ตอนนี้เจ้าโปรแกรมนี้ก็ได้ขึ้นฝั่งแมคเรียบร้อยแล้ว
ถึงแม้ว่าผู้ใช้แมคส่วนใหญ่ (รวมทั้งแอปเปิลเอง) มักจะมั่นใจกับระบบปฏิบัติการ OSX ในระดับหนึ่ง แต่จากรายงานของ Kaspersky นั้นพบว่าตั้งแต่ปี 2005 เป็นต้นมานั้นมีรอยรั่วใน OSX หลายจุดที่อาจทำให้ถูกจู่โจมได้โดยง่าย Kaspersky จึงได้ออก Anti-Virus รุ่นสำหรับแมคที่สามารถป้องกันได้ทั้งไวรัส, หนอนอินเทอร์เน็ต และโทรจันไม่แตกต่างไปกับรุ่นที่อยู่บนวินโดวส์ รวมทั้งยังใช้ฐานข้อมูลที่อัพเดตบ่อยทุกชั่วโมงเหมือนกับรุ่นวินโดวส์ด้วย
Simon Aldous ซึ่งดำรงตำแหน่ง Partner Group Manager ของไมโครซอฟท์ กล่าวกับวารสาร PCR ของสหราชอาณาจักร ว่า Windows 7 นั้น ตั้งใจจะทำให้ได้ความรู้สึกแบบเดียวกับ Mac OS ในเชิงของกราฟิก
What we’ve tried to do with Windows 7 – whether it’s traditional format or in a touch format – is create a Mac look and feel in terms of graphics."
สิ่งที่เราพยายามจะทำเกี่ยวกับ Windows 7 ไม่ว่าจะในรูปแบบเดิมๆ หรือแบบสัมผัสก็ตาม ก็คือการสร้างความรู้สึกแบบแมคในเรื่องของกราฟิก
ผู้ใช้แมคทั้งหลายโปรดทราบ MacHeist เว็บขาย Bundle โปรแกรมในราคาถูกคราวนี้มาแจกโปรแกรมสำหรับ Mac OS X ฟรีอีกรอบแล้ว โดยในคราวนี้ให้เวลาในการรีบสมัครและดาวน์โหลดไปใช้ภายในเวลา 6 วัน โดยโปรแกรม 6 โปรแกรมแจกฟรีในครั้งนี้มีมูลค่ารวม 154 ดอลลาร์
โปรแกรมที่แจกในคราวนี้ได้แก่:
ในโปรแกรมตระกูล virtualization บนแมคอินทอช Parallels ถือได้ว่าเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นในตลาด ล่าสุดบริษัทได้ออก Parallels Desktop 5 for Mac ซึ่งมีฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่างการรองรับ Windows 7 แล้ว
หนึ่งในฟีเจอร์ของ Parallels รุ่นก่อนๆ คือ seamless desktop หรือการรันโปรแกรมจากวินโดวส์เสมือนว่าเป็นโปรแกรมอีกตัวของแมคอินทอช ในรุ่นนี้ยังสนับสนุนขอบหน้าต่างใส Aero และการสลับหน้าต่างแบบ Flip 3D อีกด้วย ส่วนเรื่องเกมนั้นรองรับ DirectX 9Ex กับ OpenGL 2.1 แล้ว นอกจากนี้ยังใช้ทัชแพดแบบมัลติทัชกับรีโมทของแอปเปิลกับโปรแกรมที่เป็นวินโดวส์ได้ด้วย
ผู้ที่ใช้งาน Netbook Hackintosh อยู่โปรดทราบ แอปเปิลได้ยกเลิกการสนับสนุน Atom แล้วใน Mac OS X Snow Leopard รุ่นต่อไป เนื่องจาก Build ล่าสุดของ Mac OS X 10.6.2 ที่แอปเปิลได้กระจายให้กับนักพัฒนานั้นไม่สามารถนำไปใช้งานกับเน็ตบุคได้อีกต่อไปแล้ว
นั่นหมายความว่าแอปเปิลอาจจะไม่ทำเน็ตบุคหรือ Tablet ที่ใช้หน่วยประมวลผล Atom เป็นหลักอีกต่อไป แต่ที่แน่ ๆ คือคนที่รัน Netbook Hackintosh ต่อไปนี้คงจะต้องใช้เวอร์ชั่น 10.6.1 ตลอดไปเสียแล้ว
ที่มา - Engadget
อาจจะเป็นเรื่องปกติที่ไม่จำเป็นต้องออกมาเขียนข่าวก็ได้ หากแอปเปิลแค่ทำการเปลี่ยนแปลงอัพเดทสเปคของ MacBook Pro เล็กน้อย แต่จาก Snow Leopard ซีดล่าสุดที่ส่งให้กับนักพัฒนานั้นได้มีไฟล์ .plist พอเป็นหลักฐานบอกว่าแอปเปิลอาจจะเตรียมอัพเดท MacBook Pro ครั้งใหญ่อีกครั้ง
โดยชื่อไฟล์นี้ได้อ้างอิงถึง MacBook Pro รุ่น 6_1 และ 6_2 ที่ยังไม่ได้ทำการเปิดตัวออกมา สำหรับ MacBook Pro ดีไซน์ที่ขายอยู่ทุก ๆ วันนี้เป็นยุคที่ 5 ตามชื่อรุ่น 5_2, 5_3, 5_4 และ 5_5 ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นรุ่นที่ทำการเปิดตัวในกลางปี 2009 นี้เอง
ระบบไฟล์ ZFS ที่ซันพัฒนาขึ้นเพื่อใช้กับ OpenSolaris ถือว่าเป็นระบบไฟล์ล้ำยุคมีความสามารถมากมาย แต่เพราะมันใช้สัญญาอนุญาตแบบพิสดารกว่าชาวบ้าน (ใช้ CDDL) ทำให้ระบบปฏิบัติการโอเพนซอร์สตัวอื่นๆ อย่างลินุกซ์ไม่สามารถนำไปใช้ได้โดยง่าย ส่วนแอปเปิลเป็นอีกค่ายที่มีข่าวออกมานานว่าสนใจ ZFS ถึงขนาดมีเสียงลือกันว่า ZFS นี่ล่ะคือ The Next Big Thing (ที่ภายหลังถูกจงใจลืม) ของ Mac OS X 10.5 Leopard ฝั่ง Jonathan Schwartz ซีอีโอของซันถึงกับ
หลังจากที่ไมโครซอฟท์เปิดตัว Windows 7 ไปหมาดๆ แอปเปิลนั้นก็ได้เปิดหน้าสนับสนุนเกี่ยวกับการใช้ Boot Camp ว่าแอปเปิลนั้นจะสนับสนุนการบูต Windows 7 ผ่านการอัพเดตซอฟต์แวร์ Boot Camp สำหรับ OSX Snow Leopard ภายในก่อนสิ้นปีนี้ครับ
สำนักข่าว CNET ได้เปรียบเทียบประสิทธิภาพของระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ 2 ตัว นั่นคือ Mac OS X 10.6 Snow Leopard กับ Windows 7 (ซึ่งเราจะได้เห็นรีวิวลักษณะนี้อีกมากในอีกไม่ช้า) โดยใช้ MacBook Pro 15" รุ่น Unibody 2.5GHz ซึ่งสามารถติดตั้งระบบปฏิบัติการทั้งสองตัวเป็นเครื่องทดสอบ ระบบปฏิบัติการที่ใช้เป็นรุ่น 64 บิททั้งคู่
ผลการทดสอบ
Engadget รายงานว่าพบปัญหา Snow Leopard ใหม่เมื่อผู้ใช้ได้ทำการล็อกอินเข้าไปใช้งาน Guest account ของระบบอาจจะทำให้ข้อมูลของผู้ใช้ในบัญชีอื่นทั้งหมดถูกลบไปหมดได้
ปัญหาคือเมื่อผู้ใช้คลิกเข้าไปใช้งาน Guest account หลังจากที่ได้ทำการอัพเกรดเครื่องมาเป็น Mac OS X 10.6 แล้ว ทุกอย่างจะค้าง นั่นล่ะ คือช่วงเวลาที่คุณเตรียมลุ้นได้เลยว่าข้อมูลในบัญชีผู้ใช้อื่น ๆ บนเครื่องของคุณจะหายไปทั้งหมดหรือไม่
ณ เวลานี้ แอปเปิลยังไม่ได้แสดงความเห็นหรือทำการแก้ไขแต่อย่างใด และขอแนะนำให้ปิดทิ้งการใช้งาน Guest account บนเครื่องของคุณไปก่อนจนกว่าจะมีอัพเดทตัวต่อไปจากแอปเปิล
เชื่อว่าผู้อ่านหลายๆ ท่านคงคุ้นเคยกันดีกับโฆษณาของแอปเปิลที่บอกว่าระบบ Mac OS X ของตนนั้นมีความปลอดภัยกว่าระบบของ Windows แต่ในข่าวนี้ คุณแฮกเกอร์ออกมาบอกเองเลยครับว่า มันไม่ได้ปลอดภัยไปกว่าของคู่แข่ง โดยเฉพาะ Windows 7 ที่กำลังจะวางจำหน่ายสักเท่าไหร่หรอก
หลังจากก่อนหน้านี้มีข่าวปัญหาเรื่องความปลอดภัยของ Flash (ซึ่งได้รับการแก้ไขแล้ว) ผู้เชี่ยวชาญทางด้านความปลอดภัยยังวิจารณ์จุดอ่อนอื่นๆ อีกเช่น firewall ถูกปิดเป็นค่าเริ่มต้น, ขาดระบบ Full automatic update และ ระบบการป้องกัน phishing ที่อ่อนแอของซาฟารี
บริษัทข้อมูลทางการตลาด NPD ได้ออกมารายงานถึงข้อสังเกตของยอดขาย Snow Leopard ว่าหากนับเป็นจำนวนแผ่นแล้ว ยอดขายของ Snow Leopard ในสัปดาห์ที่ 2 ตกลงจากสัปดาห์แรกเพียง 25% หากเทียบกับสมัย Leopard และ Tiger ที่ตกลงมากกว่า 60%
ทาง NPD วิเคราะห์ว่าปัจจัยหลักน่าจะมาจากราคาและความง่ายในการอัปเกรดที่ทำให้ผู้ใช้ส่วนใหญ่ตัดสินใจซื้อ Snow Leopard ได้อย่างไม่ต้องคิดมากนัก แม้ว่าจะไม่ได้มีฟีเจอร์ใหม่มากมายที่เห็นได้ชัดเหมือนใน Leopard หรือ Tiger โดยหากเปรียบเทียบในช่วง 2 สัปดาห์แรก ยอดขายของ Snow Leopard มากกว่า Leopard 2 เท่า และ Tiger 4 เท่า
เทคโนโลยี Grand Central Dispatch ใน Mac OS X 10.6 Snow Leopard ซึ่งช่วยให้แอพพลิเคชันสามารถใช้ประโยชน์จากซีพียูแบบหลายคอร์ได้ดีขึ้น ตอนนี้ประกาศเป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สแล้ว
ซอฟต์แวร์รุ่นโอเพนซอร์สจะใช้ชื่อว่า libDispatch ใช้สัญญาอนุญาตแบบ Apache ตัว libDispatch มีเฉพาะไลบรารี ส่วนเคอร์เนลของระบบปฏิบัติการที่สนับสนุน Grand Central Dispatch จะไปอยู่ในโครงการ XNU ซึ่งเป็นเคอร์เนลของ Mac OS X ที่แอปเปิลเปิดซอร์สมานานแล้ว
จากข่าว Snow Leopard แถม Flash Player รุ่นที่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัย ตอนนี้แอปเปิลได้ออก Mac OS X 10.6.1 มาแก้ปัญหานี้แล้ว
นอกจากแก้ปัญหาเรื่อง Flash รุ่นเก่า Mac OS X 10.6.1 ยังแก้ปัญหาย่อยๆ อีกหลายจุด เช่น ปัญหาที่บางคนเล่นดีวีดีไม่ได้, ปัญหาของ Mail.app กับการส่งเมลผ่าน SMTP รวมถึงอุดรูรั่วด้านความปลอดภัยอื่นๆ ด้วยครับ
ผู้ใช้ Snow Leopard สามารถติดตั้งได้ผ่าน Software Update ตามปกติ
ที่มา - Ars Technica
ผมได้ไปเจอบทความซีรีส์นึงในเว็บ AppleInsider ซึ่งพูดถึงรายละเอียดต่างๆ ของ Snow Leopard ซึ่งในเวลาที่ผมพิมพ์นี้ได้ออกมาแล้ว 3 ตอนคือ Quicktime X, 64-bit และ GPU Optimization
จนถึงตอนนี้เรายังไม่ทราบเลยว่าแท็บเล็ตของแอปเปิล จะออกสู่สายตาชาวโลกเมื่อไหร่ แต่สำหรับ MacCores เค้าได้เริ่มโครงการที่จะทำแท็บเล็ตที่ใช้ระบบปฏิบัติการแมคอินทอชตั้งแต่ช่วงต้นปี... จนเวลาได้ล่วงเลยไปกว่า 6 เดือน โครงการดังกล่าวก็ออกมาเสร็จสมบูรณ์ในชื่อของ iTab Mini โดยเจ้าแท็บเล็ตดังกล่าวมีรายละเอียดดังนี้
ในที่สุด Mac OS X เวอร์ชั่นต่อไปก็ได้วางจำหน่ายแล้วครับ โดยเลื่อนจากเดือนกันยายนมาเป็นวันนี้ครับ สามารถอัพเกรดได้ในราคา $29 (ถ้าใช้ Tiger ต้องซื้อแพค OS X, iLife, iWork ครับ และไม่รองรับ PowerPC แล้ว)
สำหรับลุกเล่นต่างๆ ดูได้จากรีวิวครับ
ที่มา: Apple Store
Snow Leopard วางขายวันนี้ (28 สิงหาคม) ก่อนวันวางขายหนึ่งวันก็เป็นโอกาสอันดีที่แอปเปิลจะแจก Snow Leopard ให้คอลัมนิสต์และเว็บไซต์ไอทีเมืองนอกเอาไปรีวิวให้ทันก่อนวางขาย
จริงๆ มีรีวิวหลายที่ แต่ผมเลือกมาแค่ 3 คือ Engadget, Gizmodo และ WSJ ครับ
Engadget
ดูเหมือนว่า OS X ตัวต่อไปที่จะวางจำหน่ายวันศุกร์นี้จะมีการเพิ่มระบบป้องกันมัลแวร์ติดมากับตัว OS ด้วย
Intego บริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์แมคอินทอชกล่าวว่า Snow Leopard นั้นอาจจะมีระบบป้องกันมัลแวร์ โดยบริษัทฯ ได้ทำการโพสสกรีนช็อทของ Pop-up ที่เด้งขึ้นมาเตือน (กดอ่านต่อเพื่อดู) เมื่อผู้ใช้พยายามจะดาวน์โหลดโทรจันผ่านทาง Safari
แม้ว่าแอปเปิลได้โฆษณาคอมพิวเตอร์แมคอินทอชว่าเป็นระบบที่ปลอดภัยจากไวรัสทั้งปวง แต่ก็มีรายงานไม่น้อยครั้งว่ามีมัลแวร์หรือโทรจันที่สร้างมาเพื่อโจมตีแมคโดยเฉพาะ แต่ยังไม่มีการตอบสนองโดยตรงจากแอปเปิลมาตลอดจนถึงตอนนี้
ได้มีรายงานออกมาว่า Mac OS X Snow Leopard อาจจะมีฟังก์ชั่นของการตรวจสอบไวรัสอยู่ในตัว
แหล่งข่าวนี้ได้แสดงภาพหน้าจอที่ Mac OS ได้ตรวจจับมัลแวร์ที่มีชื่อว่า OSX.RSPlug.A ซึ่งเป็นโทรจันที่ถูกค้นพบตั้งแต่ปี 2007 ซึ่ง Mac OS X ได้ตรวจเจอในไฟล์ *.pkg ใน *.dmg ที่ดาวน์โหลดจาก Safari