The New York Times รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง พูดถึงแผนงานหารายได้ช่องทางใหม่ที่ Netflix เคยเกริ่นไว้ หลังจากผลประกอบการไตรมาสที่ผ่านมาเริ่มชะลอการเติบโต โดยบอกว่าอาจออกแพ็คเกจแบบมีโฆษณา
ข้อมูลบอกว่าเดิมที Netflix ตั้งใจจะออกแพ็คเกจดังกล่าวใน 1-2 ปี ข้างหน้า แต่ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ Netflix กำหนดให้แพ็คเกจดังกล่าวต้องเปิดให้สมัครได้ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ หรือช่วงปลายปี
รายงานยังบอกว่าแผนเก็บเงินสมาชิกที่มีการแชร์รหัสผ่านกัน ก็คาดว่าจะเริ่มมีผลในช่วงปลายปีเช่นกัน
Netflix รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ปี 2022 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 9.8% เทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2021 เป็น 7,868 ล้านดอลลาร์ กำไรสุทธิอยู่ที่ 1,597 ล้านดอลลาร์
ตัวเลขที่สำคัญของ Netflix ในไตรมาสนี้คือจำนวนสมาชิกทั่วโลกมีทั้งหมด 221.64 ล้านราย ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้านี้ 0.20 ล้านราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี (ครั้งสุดท้ายคือปี 2011) ก่อนหน้านี้ Netflix ประเมินว่าไตรมาสนี้จะมีสมาชิกเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านราย แต่จากผลที่ออกมาทำให้ Netflix ปรับประมาณการจำนวนสมาชิกของไตรมาสปัจจุบัน 2/2022 ว่าจะลดลงอีกประมาณ 2 ล้านราย
Netflix ปรับปรุงระบบให้คะแนนคอนเทนต์ของผู้ใช้งานอีกครั้ง โดยมีแนวคิดว่าบางคอนเทนต์คนดูอาจไม่ได้ชอบแบบปกติ แต่ชอบมาก ๆ จนอยากบอกทุกคนรอบตัวเดี๋ยวนั้น ฉะนั้นการมีปุ่มแค่บอกว่าชอบน่าจะไม่พอ
ปุ่มให้คะแนนใหม่ที่เพิ่มเข้ามาก็คือ ยก 2 นิ้วโป้ง หรือ Double Thumbs Up ซึ่งเพิ่มมาเป็นปุ่มที่ 3 ต่อจาก นิ้วโป้งคว่ำ (ไม่ชอบ) และยกนิ้วโป้ง (ชอบ) โดยเริ่มทยอยเพิ่มให้ผู้ใช้งานทุกคนตั้งแต่วันนี้ ทั้งนี้การให้คะแนนคอนเทนต์มีผลในการจัดคัดเลือกเนื้อหาแสดงของแต่ละผู้ใช้งานด้วย (personalized) ซึ่งถ้าผู้ใช้ให้คะแนนคอนเทนต์ไหนเป็นชอบมาก ๆ Netflix ก็จะค้นหาคอนเทนต์ประเภทเดียวกันมาแนะนำ
จากที่ Netflix ประกาศทดสอบระบบใหม่ เพื่อควบคุมการแชร์บัญชีระหว่างกันกับคนที่ไม่อยู่ในบ้านหลังเดียวกัน โดยอาจต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกเล็กน้อย แม้รู้กันอยู่แล้วว่าการหารค่าใช้จ่ายแบบมีอยู่ แต่เราก็ไม่ทราบว่ามีจำนวนมากแค่ไหน จนทำให้ Netflix ต้องประกาศแบบนี้
บริษัทวิจัย Leichtman Research Group ได้ทำการสำรวจเฉพาะผู้ใช้ Netflix ในอเมริกา 4,400 คน เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว พบว่า 33% มีการแชร์บัญชีใช้งานกับคนอื่น, 64% บอกว่าใช้เฉพาะภายในบ้านเดียวกัน ส่วนที่เหลือ 3% ใช้ Netflix ผ่านการพ่วงจากบริการอื่นอีกที
Netflix เพิ่มปุ่มใหม่ “Love this!” พร้อมสัญลักษณ์นิ้วโป้งสองนิ้ว ให้แฟนๆ หนังและซีรีส์ได้แสดงถึงความรักในเรื่องนั้น ที่มากกว่าแค่ชอบเฉยๆ ปัจจุบันปุ่มนี้มีให้กดแค่บนเวอร์ชั่นเว็บไซต์เท่านั้น ส่วนในแอปอาจตามมาในอนาคต
ปัจจุบันสิ่งที่ตัดสินว่าซีรีส์จะได้สร้างต่อหรือหยุดสร้างใน Netflix น่าจะมาจากหลากปัจจัยรวมกัน ทั้งยอดวิว เสียงตอบรับ กระแสบนโซเชียล และคะแนนรีวิวต่างๆ เพื่อนำมาคำนวณว่าการสร้างต่อจะคุ้มกับผลประโยชน์และสมาชิกใหม่ที่ Netflix จะได้รับหรือไม่
Netflix ยังเดินหน้าซื้อสตูดิโอเกมเข้ามาเสริมคอนเทนต์ในสังกัด รอบนี้ซื้อบริษัทที่สามชื่อ Boss Fight Entertainment สตูดิโอเกมจากรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา
Boss Fight Entertainment ก่อตั้งในปี 2013 มีผลงานมาแล้ว 1 เกมคือ Dungeon Boss เกมมือถือแนวเทิร์นเบส RPG ตะลุยดันเจี้ยน
ก่อนหน้านี้ Netflix ซื้อสตูดิโอ Night School Studio ผู้สร้างเกมผจญภัย Oxenfree และ Next Games ผู้สร้างเกม Stranger Things บนมือถือ
Netflix เผยสถิติของปุ่ม Skip Intro ที่ใช้กดข้ามฉากหรือเพลงเปิดตอนของซีรีส์ ว่าหลังเริ่มใช้มา 5 ปี มีคนกดไปแล้ว 136 ล้านครั้ง ช่วยประหยัดเวลาลงได้ 195 ปี
Netflix ยังเล่าเบื้องหลังของปุ่ม Skip Intro ว่าเริ่มจากการคิดปุ่มถอยหลัง 10 วินาที และปุ่มข้าม 10 วินาที กรณีของปุ่มถอยหลังมีประโยชน์จับต้องได้ชัดเจนคือย้อนดูฉากที่ดูไม่ทัน แต่ปุ่มข้ามนั้นไม่มีใครอธิบายได้ว่ามีไว้ทำไม นอกจากใช้กดข้ามฉากเปิดเรื่อง
Netflix เปิดตัวซีรีส์แอนิเมชัน Tekken: Bloodline ที่ดัดแปลงมาจากเกม Tekken โดยนำเนื้อเรื่องช่วงภาค 3 ของ Jin Kazama ทายาทรุ่นที่สามของตระกูล Mishima ที่เติบโตขึ้นมากับแม่ Jun Kazama และไปฝึกวิชากับปู่ Heihachi Mishima เพื่อตามหาพ่อที่หายไปในทัวร์นาเมนต์ The King of Iron Fist
ซีรีส์มีกำหนดฉายคร่าวๆ ว่าภายในปี 2022
ที่มา - IGN
Netflix ประกาศนำซีรีส์ Servant of the People ที่แสดงโดย Volodymyr Zelenskyy ประธานาธิบดียูเครน กลับมาให้ดูกัน
Servant of the People เป็นซีรีส์ปี 2015 แนวล้อเลียนการเมือง ที่ Zelenskyy มารับบทเป็นครูโรงเรียนมัธยม ที่มีโอกาสได้เป็นประธานาธิบดียูเครน หลังซีรีส์นี้ได้รับความนิยมอย่างสูงในยูเครน Zelenskyy จึงตั้งพรรคการเมืองชื่อเดียวกันคือ Servant of the People ลงเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2019 และชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีจริงๆ
ซีรีส์ Servant of the People มีทั้งหมด 3 ซีซัน เท่าที่ลองเช็คดูจาก Netflix ประเทศไทยมีให้ดู 2 ซีซันแรกรวมกัน 46 ตอน (ซีซัน 3 มีเพียง 3 ตอน)
ที่ผ่านมา Netflix มีข้อกำหนดการใช้งานอยู่แล้ว ว่าแต่ละบัญชีสามารถแชร์กันได้ในบ้านเดียวกันเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้เข้มงวดอะไรนัก ล่าสุด Netflix ออกประกาศ ซึ่งพูดถึงกรณีแชร์บัญชีกันแต่อยู่บ้านคนละหลัง พร้อมแนวทางในอนาคต
Netflix จะทดสอบการขึ้นข้อความเตือน หากบัญชีมีการใช้งานในบ้านคนละหลัง โดยให้ผู้ใช้งานสร้างบัญชีล็อกอินใหม่ขึ้นมา และพ่วงการจ่ายเงินกับบัญชีหลักเดิม ข้อดีคือสามารถโอนย้ายโปรไฟล์ ประวัติการชม คอนเทนต์แนะนำ มาได้ทันที
ทั้งนี้ Netflix จะทดสอบระบบใหม่ดังกล่าวใน 3 ประเทศก่อน ได้แก่ ชิลี คอสตาริกา และเปรู
Netflix ประกาศหยุดให้บริการสตรีมมิ่งทั้งหมดในรัสเซียแล้ว กระทบสมาชิกในรัสเซียประมาณ 1 ล้านคน
ธุรกิจของ Netflix ในรัสเซียเป็นการร่วมทุนกับบริษัทสื่อทีวี Nation Media Group ของรัสเซีย โดยเริ่มให้บริการเมื่อปี 2016
ก่อนหน้านี้ Netflix ประกาศหยุดถ่ายทำภาพยนตร์-โปรเจคต์ใหม่ๆ ในรัสเซีย และยกระดับมาตรการขึ้นเป็นการหยุดให้บริการทั้งหมด ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าสมาชิกเหล่านี้จะได้รับเงินคืนหรือไม่
นอกจากนี้ Netflix ยังประกาศนำสารคดี Winter on Fire: Ukraine’s Fight for Freedom ในปี 2015 (เป็นเรื่องของเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างยูเครน-รัสเซียช่วงปี 2014) มาเปิดให้ดูฟรีบน YouTube ด้วย
ที่ผ่านมา Netflix มีคอนเทนต์แบบ interactive ที่ผู้ชมเลือกกำหนดทิศทางเนื้อหาได้ อย่างเช่น Bandersnatch ซึ่งเป็นตอนหนึ่งในซีรี่ส์ Black Mirror ผู้บริหารเองก็บอกว่าจะเพิ่มคอนเทนต์ประเภทนี้ให้มากขึ้น
คราวนี้ Netflix มาด้วยคอนเทนต์ที่ใช้พลัง interactive เต็มรูปแบบซึ่งก็หนีไม่พ้นเกมโชว์ในรูปแบบการ์ตูน ชื่อรายการว่า Trivia Quest โดยจะเผยแพร่วันละตอนตลอดเดือนเมษายน เริ่มตั้งแต่ 1 เมษายน เป็นต้นไป (Netflix เพิ่มเติมว่าไม่ใช่ April Fool’s)
ความคืบหน้าเพิ่มเติมของบริษัทไอทีในประเทศต่างๆ ต่อสถานการณ์ในรัสเซียและยูเครน
Spotify บริษัทสัญชาติสวีเดน ประกาศปิดสำนักงานในรัสเซีย และถอดรายการจากสื่อรัสเซียอย่าง RT และ Sputnik ออกจากแพลตฟอร์ม แต่ยังยืนยันให้บริการสตรีมมิ่งในรัสเซียต่อไป เพื่อให้ผู้ฟังในรัสเซียยังสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลจากนอกรัสเซียได้
Spotify ยังเพิ่มหน้ารวมคลิปเสียงอธิบายสถานการณ์ในยูเครน จากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถืออย่าง BBC, The New York Times, The Wall Street Journal, The Economist ไว้สำหรับคนที่อยากเข้าใจปัญหายูเครนด้วย
Netflix ที่ประกาศยุทธศาสตร์เรื่องเกมอย่างจริงจัง เริ่มเดินหน้าซื้อสตูดิโอเกมเข้ามาอยู่ในสังกัด ปีที่แล้วประกาศซื้อสตูดิโอ Night School Studio ผู้สร้างเกมผจญภัย Oxenfree ล่าสุดซื้อ Next Games จากฟินแลนด์ ในราคา 72 ล้านดอลลาร์
หลังมีข่าว Marvel ถอดซีรีส์ที่ทำร่วมกับ Netflix ออกจาก Netflix หลังสิ้นเดือนนี้ ล่าสุด Disney+ ในแคนาดา ส่งข่าวประชาสัมพันธ์ให้สื่อมวลชน เปิดเผยวันฉายซีรีส์ Moon Knight ของ Marvel พร้อมเปิดเผยว่าซีรีส์ Marvel บน Netflix จะลงฉายใน Disney+ วันที่ 16 มีนาคมนี้
อย่างไรก็ตาม สำหรับ Disney+ Hotstar ในบ้านเรา ยังไม่ชัดเจนว่าจะได้ดูพร้อมกันหรือไม่ แต่ก็มีความเป็นไปได้สูง ส่วนในสหรัฐอเมริกา ผู้ชมน่าจะต้องไปดูในบริการ Hulu แทน เพราะซีรีส์ชุดนี้มีเรทติ้ง TV-MA คือสำหรับผู้ใหญ่ แทนที่จะเป็น TV-14 หรือสำหรับผู้มีอายุ 14 ปีขึ้นไป แบบซีรีส์ Marvel เรื่องอื่นที่อยู่บน Disney+ ในสหรัฐฯ
Netflix ประกาศทำภาพยนตร์คนแสดงจากเกม BioShock ของ 2K/Take-Two โดยยังไม่มีรายละเอียดเรื่องวันฉาย และทีมผู้สร้าง
เกม BioShock ภาคแรกออกขายในปี 2007 เป็นเรื่องของนครใต้น้ำชื่อ Rapture และมีเกมตามมาอีก 2 ภาคคือ BioShock 2 กับ BioShock Infinite
Strauss Zelnick ซีอีโอของ Take-Two ระบุว่าตอนนี้บริษัทมีโครงการ BioShock ทั้งหมด 2 โครงการ คือ เกมภาคใหม่ที่พัฒนาสตูดิโอ Cloud Chamber และภาพยนตร์ที่ทำร่วมกับ Netflix แสดงให้เห็นความจริงจังของบริษัทต่อซีรีส์ BioShock ว่ายังดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง
แฟนๆ Marvel ที่ยังดูซีรีส์ Marvel บน Netflix ไม่ครบ อาจต้องเร่งมือหน่อย เพราะซีรีส์ที่ Marvel ทำร่วมกับ Netflix กำลังจะถูกถอดออกจาก Netflix หลังในวันที่ 1 มีนาคมนี้ แปลว่าวันสุดท้ายที่ดูได้ คือ 28 กุมภาพันธ์
สำหรับ Netflix ประเทศไทย เรื่องที่จะออกมีทั้ง Daredevil, The Punisher, Jessica Jones, Iron Fist, Luke Cage และ The Defenders ส่วนในสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร จะเพิ่มเรื่อง Agents of SHIELD ที่จะหลุดไปด้วย เรียกได้ว่าไปทั้งแผง (ของไทยหลุดไปนานแล้ว)
ออสการ์ รางวัลใหญ่ประจำปีของวงการภาพยนตร์ ได้ประกาศรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัลครั้งที่ 94 เมื่อคืนนี้ โดยแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง Netflix มีผลงานที่ได้รับการเสนอเข้าชิงเป็นจำนวนถึง 27 รางวัล โดยมีภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเข้าชิง 2 เรื่องคือ Don’t Look Up และ The Power of the Dog ซึ่งเรื่องหลัง ได้รับการเสนอชื่อรวม 12 รางวัล มากที่สุดในครั้งนี้ (Dune อยู่ในอันดับสอง 10 รางวัล)
ส่วนสาขาที่เกี่ยวกับนักแสดงเข้าชิง 7 รายชื่อ จากทั้งหมด 20 รายชื่อ ซึ่งรวมทั้ง Jesse Plemons จาก The Power of the Dog และ Jessie Buckley จาก The Lost Daughter’s
Greg Peters ซีโอโอของ Netflix ตอบคำถามในงานแถลงผลประกอบการไตรมาส 4/2021 ว่าจะขยายธุรกิจเกมเพิ่มอีกในระยะยาว โดยใช้ยุทธศาสตร์ทำทั้งสองทางคือ สร้างเกมจากซีรีส์ของ Netflix เอง และพร้อมจ่ายเงินซื้อไลเซนส์เกมดังจากบริษัทอื่นๆ มาอยู่บนแพลตฟอร์ม
นอกจากนี้ บนเว็บไซต์รับสมัครงานของ Netflix ยังประกาศตำแหน่ง Head of Live Services, Games - Operations แสดงให้เห็นว่า Netflix อยากสร้างเกมที่เป็นบริการออนไลน์แบบเดียวกับ Fortnite, Overwatch หรือ Apex Legends และเราน่าจะเห็น Netflix ดึงตัวผู้บริหารจากบริษัทเกมอื่นๆ เข้ามาอีกในไม่ช้า
Netflix รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ปี 2021 มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 16.0% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนเป็น 7,709 ล้านดอลลาร์ กำไรสุทธิอยู่ที่ 607 ล้านดอลลาร์ จำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้น 8.28 ล้านคน จำนวนรวมเป็น 221.84 ล้านคน
คอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมสูงในไตรมาสที่ผ่านมาได้แก่ The Witcher ซีซั่นใหม่ (จำนวนการชม 484 ล้านชั่วโมง), You (468 ล้านชั่วโมง), Emily in Paris (287 ล้านชั่วโมง), Red Notice (364 ล้านชั่วโมง), Don't Look Up (353 ล้านชั่วโมง)
บริการเกมซึ่ง Netflix กำลังทดลองตลาด ตอนนี้มีเกมทั้งหมด 10 เกม และจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดย Netflix บอกว่าเกมช่วยให้บริษัทเรียนรู้ว่าคาแรกเตอร์ และรูปแบบเกมใดที่สมาชิกนิยม ทำให้พัฒนาคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องได้ดียิ่งขึ้น
Don Kang รองประธาน Netflix ฝ่ายคอนเทนต์พูดถึงการลงทุนคอนเทนต์เกาหลีใต้ในปี 2022 ว่ายังไม่สามารถระบุตัวเลขได้ชัด แต่จะไม่ต่ำกว่าปี 2021 ที่ลงทุนไป 550 พันล้านวอนหรือประมาณ 15 พันล้านบาท
ค่าคอนเทนต์นับเป็นต้นทุนก้อนใหญ่ของ Neflix โดยปี 2021 บริษัทเคยประมาณว่าจะต้องจ่ายค่าคอนเทนต์ทั้งหมด 17 พันล้านดอลลาร์หรือประมาณ 563 พันล้านบาท ในเงินลงทุนทั้งหมดนี้แบ่งเป็นการสร้างคอนเทนต์ออริจินัลเองประมาณ 38%
Netflix ประกาศขึ้นราคาค่าสมาชิก มีผลเฉพาะในสหรัฐฯ และแคนาดา โดยราคาแต่ละแพ็คเกจปรับขึ้นจากเดิม 8.99, 13.99 และ 17.99 ดอลลาร์ต่อเดือน เป็นราคาใหม่ 9.99, 15.49 และ 19.99 ดอลลาร์ ตามลำดับ
โฆษกของ Netflix ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าการปรับราคานี้ เพื่อให้ Netflix สามารถนำเสนอความบันเทิงคุณภาพ ในหลากหลายรูปแบบอย่างต่อเนื่อง
Netflix ขึ้นราคาเฉพาะในอเมริกามาก่อนหน้านี้แล้วสองครั้งในปี 2019 และปี 2020 แม้ระยะสั้นอาจเสียสมาชิกไปบ้าง แต่ดูเหมือนเวลาผ่านไปจำนวนสมาชิกก็ยังคงมีจำนวนเพิ่มขึ้น
การแข่งขันของบริการวิดีโอสตรีมมิ่งในอินเดียยังคงรุนแรง ล่าสุด Netflix ประกาศลดราคาทุกแพ็กเกจลง โดยแพ็คเกจราคาต่ำสุด ความละเอียด SD ดูได้ 1 เครื่องเฉพาะมือถือ อยู่ที่ 149 Rs ต่อเดือน หรือประมาณ 65 บาท จากราคาเดิมที่เปิดตัวเมื่อปี 2019 ที่ 199 Rs
ส่วนแพ็คเกจราคาสูงสุดความละเอียด 4K ดูได้พร้อมกัน 4 เครื่อง อยู่ที่ 649 Rs หรือประมาณ 285 บาท
Henry Joost และ Rel Schulman สองคู่หูผู้กำกับภาพยนตร์ (สร้างชื่อจากสารคดีเรื่อง Catfish และภาพยนตร์ไซไฟ Project Power บน Netflix) ประกาศข่าวว่ากำลังพัฒนาภาพยนตร์คนแสดง Mega Man หรือ Rockman เพื่อฉายทาง Netflix
ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดอื่นๆ ของภาพยนตร์ Mega Man เรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการนำเสนอ (ใช้ CG ร่วมกับคนแสดงแบบ Sonic หรือแนวทางอื่น) และกำหนดฉาย
เมื่อปี 2018 Capcom เองก็เคยประกาศว่าจะทำภาพยนตร์คนแสดง Mega Man โดยทีม Henry Joost และ Ariel Schulman ตั้งเป้าฉายในโรงภาพยนตร์ผ่าน 20th Century Fox แต่ข่าวก็เงียบหายไป จนกระทั่งข่าวล่าสุดคือ Netflix รับช่วงต่อไปแทน
Spotify เอาใจแฟนคลับหนังและซีรีส์ Netflix ด้วยการเปิด hub ใหม่ รวมเพลงซาวด์แทรคหนังและซีรีส์ รวมถึงพอดแคสต์เกี่ยวกับ Netfix ไว้ในที่เดียวกัน ผู้ฟังแบบฟรีและพรีเมียมในสหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ และอินเดียสามารถเข้าฟังได้พร้อมกับเนื้อหาพิเศษของ Spotify ด้วย