ในการแถลงผลประกอบการณ์ประจำไตรมาสของ Barnes & Noble บริษัทได้ประกาศว่ามีส่วนแบ่งตลาดอีบุ๊กสหรัฐ 25% แล้ว ถือว่าเยอะกว่าส่วนแบ่งตลาดหนังสือที่ขายบนเว็บ BN.com ด้วยซ้ำ
ตัวเลขนี้เติบโตขึ้นมาจากปีก่อนที่มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 20% ส่วนเจ้าตลาดอย่าง Amazon ที่เคยมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 70-80% ยังไม่เปิดเผยข้อมูลว่ามีส่วนแบ่งตลาดเหลือเท่าไร
ในส่วนของการขายหนังสือตามร้าน เมื่อคู่แข่งอย่าง Borders ประกาศล้มละลาย และปิดร้านประมาณ 30% ของสาขาทั้งหมด ทาง Barnes & Noble ก็เตรียมเปิดร้านขนาดเล็กขึ้นทดแทนในบริเวณใกล้เคียงกับร้านของ Borders ที่ปิดไปด้วย
ไตรมาสล่าสุดนี้ Barnes & Noble มีรายรับดีขึ้น 7% แต่กำไรลดลง 25%
Nook Color เป็นเครื่องอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์จอสีของ Barnes & Noble ที่ใช้ Android 2.1 Eclair เป็นระบบปฏิบัติการ แต่เป็นรุ่นดัดแปลงที่ต่ำกว่ามาตรฐานซึ่งอาจทำให้หลายๆ คนขัดใจเวลาใช้งาน และต่อมาทางผู้ผลิตเองได้มีการประกาศว่าจะอัพเกรดเฟิร์มแวร์ให้เป็น Android 2.2 Froyo โดยมีความสามารถตามที่ควรจะเป็นอย่างครบถ้วน (ประกาศว่าจะเริ่มอัพเกรดกันเดือนมกราคมของปีนี้)
แต่มาถึงตอนนี้ ข่าวการอัพเกรดเป็น 2.2 อาจไม่น่าตื่นเต้นพอเสียแล้ว เมื่อมีคนพอร์ตเอา Android 3.0 Honeycomb มาใส่ใน Nook Color ได้แล้ว ทำให้เจ้า Nook Color กลายเป็น Android Tablet ที่ราคาถูกมาก (ราคาเพียง 249 ดอลลาร์สหรัฐ)
เมื่อ Amazon เพิ่งออกมาบอกว่า Kindle 3 กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุดตลอดกาลของตน คู่แข่งในธุรกิจจำหน่ายหนังสืออย่าง Barnes & Noble ก็ออกมาบอกเช่นกันว่าอุปกรณ์อ่าน e-Book ของค่ายตนเองอย่าง Nook ได้กลายเป็นสินค้าขายดีที่สุดในรอบ 40 ปีแล้ว
บริษัทกล่าวว่า Nook Color เป็นสินค้าขายดีเหนือความคาดหมายอย่างมาก นอกจากนี้ความสำเร็จของ Nook ยังส่งผลให้ยอดจำหน่าย e-Book ทางเว็บสูงกว่าหนังสือแบบเป็นเล่มแล้ว (Amazon เคยพูดแบบนี้เมื่อกลางปี)
เมื่ออุปกรณ์อ่านขายดีขนาดนี้ ปีหน้าการแข่งขันของ e-Book น่าจะสนุกยิ่งขึ้น
ขณะที่กระแส e-Book บ้านเราอาจจะเริ่มคืบคลานเข้ามาช้าๆ แต่ค่าย Barnes and Noble ที่มี Nook และ Nook Color นั้นดูจะไม่ได้รับความสนใจนัก แต่การประกาศอัพเกรด Nook Color ก็อาจจะทำให้ความสนใจต่อชาว Blognone มีมากขึ้น เมื่อผู้ผลิตได้ออกมาประกาศแล้วว่า เมื่อ Nook Color ได้รับอัพเกรดเป็น Android 2.2 Froyo นั้นมันจะมีความสามารถตาม Android อย่างครบถ้วน
ก่อนหน้านี้ Nook Color ใช้ Android 2.1 รุ่นดัดแปลงที่มีความสามารถต่ำกว่า Android ปรกติอย่างมากทำให้ขาดความน่าสนใจทั้งที่จริงแล้วมันเป็น Android Tablet ที่ใช้ชิป ARM Cortex A8 800MHz, หน่วยความจำ 512MB, หน่วยความจำแฟลชภายใน 8GB และหน้าจอ IPS คุณภาพสูง ที่สำคัญคือมันราคาเพียง 249 ดอลลาร์ หรือ 7,500 บาทเท่านั้น
เว็บไซต์ Engadget มีรีวิว Nook Color เครื่องอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์จอสีของ Barnes & Noble ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนก่อน
หลายคนอาจสงสัยท่าทีของ Barnes & Noble ที่เลือกใช้จอ LCD แทนจอ E Ink ใน Nook รุ่นเดิม จากรีวิวของ Engadget ผลปรากฎว่าออกมาดีกว่าที่คาดกันไว้
ฮาร์ดแวร์
หลังจากที่ข่าวลือทาง Barnes & Noble จะออก Nook จอสี ที่มีชื่อว่า Nook Color นั้น ล่าสุดได้มีการแถลงเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วในวันนี้ที่ร้าน Union Square ในนิวยอร์ก
ข้อมูลโดยสรุปของตัว Nook Color มีดังนี้
สำนักข่าว CNET รายงานข่าววงในว่าเครื่องอ่านอีบุ๊ก Nook ของบริษัท Barnes & Noble รุ่นถัดไปจะเป็นจอสีทั้งจอแล้ว จากเดิมที่เป็นจอสีครึ่งขาวดำครึ่งในรุ่นปัจจุบัน
ตามข่าวบอกว่าเครื่องรุ่นใหม่จะใช้ชื่อ Nook Color หน้าจอ 7" ราคา 249 ดอลลาร์ จะเปิดตัวในวันที่ 26 ตุลาคมนี้
ที่มา - CNET
แฟนๆ ของ NOOK อาจเสียกำลังใจกันนิดหน่อย เพราะ Leonard Riggio ประธานของ Barnes & Noble ให้สัมภาษณ์ว่าเขายังชอบอ่านหนังสือจริงๆ มากกว่า NOOK และไม่ได้พกเครื่องอ่านติดตัว โดยเขาให้เหตุผลว่าเขาแก่และยุ่งเกินกว่าจะอ่านหนังสือในรูปแบบใหม่ๆ แล้ว
เครื่องอ่านอีบุ๊กอาจยังสู้หนังสือไม่ได้ แต่ถ้าไปถาม Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง Amazon เราอาจได้คำตอบที่ต่างออกไป
ที่มา - Engadget
Barnes & Noble ร้านหนังสือรายใหญ่ของสหรัฐ เดินตามรอย Amazon Kindle แทบทุกก้าว โดยล่าสุดส่งโปรแกรม NOOK for Android หลังจากที่มีเวอร์ชัน iPhone/iPad แล้ว
ลูกค้า NOOK สามารถซื้อและอ่านหนังสือจากโปรแกรมไหนก็ได้ เช่นเดียวกับ Kindle แต่ที่พิเศษกว่าคือเราสามารถแชร์หนังสือให้เพื่อนอ่านด้วยเป็นเวลา 2 สัปดาห์
นอกจากนี้ Barnes & Noble ยังรีแบรนด์สินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับ e-book ทั้งหมดของตัวเอง ให้อยู่ภายใต้ชื่อ NOOK เพื่อความสม่ำเสมอของแบรนด์ด้วย
ที่มา - TechCrunch
สงครามเครื่องอ่าน e-book กำลังดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ จากการเปิดตัวของ Kindle และการเข้ามาของ iPad ล่าสุดมวยรองอย่าง Barnes & Noble NOOK ก็ต้องเปิดสงครามราคาด้วยการลดราคาลงเหลือ 149 ดอลลาร์ในรุ่นที่ตัด 3G ออกไปเหลือแต่ Wi-Fi ทำให้มันเป็น eInk ที่มีราคาต่ำกว่า 5,000 บาทแล้วในตอนนี้
สำหรับรุ่น 3G นั้นก็ลดราคาลงมา 60 ดอลลาร์เหลือ 199 ดอลลาร์ ถูกกว่า Kindle ที่มี 3G และยังทำราคาอยู่ที่ 259 ดอลลาร์
Barnes & Noble เตรียมเปิดตัว "PubIt!" เว็บท่าให้สามารถอัพโหลดและขายอีบุ๊กหรือดิจิทัลคอนเทนต์บนเครื่องอ่านอีบุ๊ก Nook รวมถึงพีซี แมค ไอแพด ไอโฟน แบล็คเบอร์รี่ และอุปกรณ์อื่นๆ (โดยใช้ซอฟต์แวร์ eReader เข้าไปซื้ออีบุ๊ก) ได้ด้วยตัวเองในช่วงฤดูร้อนของปีนี้ สำหรับรูปแบบค่าตอบแทนที่เจ้าของคอนเทนต์จะได้รับนั้น B&N จะประกาศในเร็วๆ นี้
ใครสนใจต้องการก็สามารถไปขอ invitation ได้ที่เว็บไซต์ B&N
ห้องสมุดหลาย ๆ แห่งในสหราชอาณาจักรได้เริ่มให้บริการยืมหนังสือที่แตกต่างไปจากเดิมนัก โดยเริ่มแจกให้สมาชิกหรือผู้มีสิทธิใช้ห้องสมุดในท้องที่นั้นดาวน์โหลด eBook ไปใช้แทน
ที่เจ๋งคือผู้ใช้ไม่ต้องที่จะไปห้องสมุดอีกต่อไป ส่วนเรื่องลิขสิทธิก็ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะว่าตัวหนังสือเองจะทำการลบตัวเองภายใน 14 วัน โดยหนังสือ eBook เหล่านี้สามารถนำไปใช้งานได้บนหลายแพลตฟอร์ม ตั้งแต่ Sony Reader ไปจนถึง Nook ของ Barnes and Noble ที่เพิ่งเปิดตัวไปนี้
ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ผู้ใช้ Kindle ก็คงต้องเศร้าต่อไป เมื่อทราบว่าจะไม่มีส่วนร่วมในครั้งนี้ เนื่องจาก Kindle เป็นระบบปิด