บริษัทวิจัยตลาด NPD Group รายงานอันดับเกมขายดีประจำปี 2022 ตลอดทั้งปี (เฉพาะตลาดสหรัฐอเมริกา นับรวมทุกแพลตฟอร์ม ทั้งแบบแผ่นและดิจิทัล แต่มีบางเกมนับเฉพาะแผ่นคือ Pokemon ทั้งสองภาค)

อันดับหนึ่งเป็นของ Call of Duty: Modern Warfare 2 ซึ่งไม่น่าแปลกใจนัก เพราะเกม Call of Duty มักเป็นแชมป์เกมขายดีของปีนั้นๆ อยู่แล้ว (NPD เคยออกข่าวนี้มาก่อนแล้ว แต่รอบนี้คือรายชื่อ 10 อันดับแบบเต็มๆ) ส่วน Elden Ring ที่ปีนี้ทำผลงานได้ดีเยี่ยมทั้งเสียงวิจารณ์ รางวัล และยอดขาย ตามมาในอันดับสอง

บริษัทวิจัยตลาด NPD Group รายงานสถิติเกมขายดีประจำปี 2022 ของตลาดสหรัฐอเมริกา แชมป์คือ Call of Duty: Modern Warfare 2 ที่เอาชนะเกมดังอื่นๆ ไปได้แบบไม่ยากเย็นนัก รวมถึงทำยอดขายแซงหน้า Elden Ring ได้เรียบร้อยแล้ว แม้เพิ่งวางขายช่วงปลายเดือนตุลาคมก็ตาม

สถิติของ Activision Blizzard เองก็ประกาศชัดว่า Modern Warfare 2 เป็นเกมที่เปิดตัวแรงที่สุดของซีรีส์ Call of Duty ทำเงินไปได้ 800 ล้านดอลลาร์ในช่วง 3 วันแรก และแตะหลัก 1 พันล้านดอลลาร์ใน 10 วันแรก

ที่มา - VGC

NPD บริษัทวิจัยตลาดชั้นนำ รายงานว่า ยอดใช้จ่ายกับสินค้าฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ อุปกรณ์เสริมและการ์ดเกม ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ก็พุ่งสูงถึง 6.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นถึง 19% จากปีที่แล้ว และสูงที่สุดตั้งแต่ปี 2010 นอกจากนี้เฉพาะเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ยอดใช้จ่ายสินค้าประเภทเกมในสหรัฐ พุ่งถึง 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมากที่สุดในช่วงเดือนเดียวกันนับตั้งแต่ปี 2009 และมากกว่าเดือนมิถุนายนปีที่แล้วถึง 26%

ช่วงกักตัวอยู่บ้าน ทำให้ตลาดเกมในสหรัฐเติบโตกว่าปีที่แล้วมาก โดย NPD Group บริษัทวิจัยทางด้านการตลาดและเก็บข้อมูลสถิติเกี่ยวกับยอดขายสินค้าแห่งสหรัฐอเมริกา เปิดเผยยอดขายเครื่องเกมในเดือนมีนาคม ว่าเพิ่มขึ้นถึง 63% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันและ Nintendo Switch ก็ทำยอดขายได้มากกว่าสองเท่าของเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ทำลายสถิติยอดขายเดิมที่เคยทำไว้เมื่อเดือนมีนาคมปี 2017 หรือเดือนที่เครื่องเปิดตัว ในขณะที่ PS4 และ Xbox One มียอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 25%

บริษัทวิจัยตลาด NPD ออกรายงานเกมที่มียอดขายสูงสุดในปี 2019 (นับเฉพาะตลาดสหรัฐอเมริกา) แชมป์ไม่ผิดจากความคาดหมายนักคือ Call of Duty: Modern Warfare ภาครีบูต

เกมกีฬายังเป็นเกมที่ทำเงินได้ดีต่อเนื่อง โดย NBA 2K20 ตามมาที่อันดับสอง, Madden NFL 20 ที่อันดับสาม และถึงแม้ฟุตบอลอาจไม่ใช่กีฬาที่นิยมในอเมริกามากนัก FIFA 20 ยังติดอันดับ 14 มาด้วย

เกมอื่นที่น่าสนใจคือ Borderlands 3 อยู่ที่อันดับ 4, Mortal Kombat 11 ที่อันดับ 5 ส่วนเกมเก่าบางเกมก็ยังทำรายได้ต่อเนื่อง เช่น GTA V (อันดับ 11), Minecraft (อันดับ 13) และเกมที่ถือว่าแป๊กอย่าง Anthem ยังติดอันดับ 15

บริษัทวิจัยตลาด NPD Group ได้ประมาณการยอดจำหน่ายของสมาร์ทวอชในช่วง 12 เดือน สิ้นสุดในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว โดยพบว่ายอดขายเติบโตขึ้นถึง 61% ในแง่จำนวนสินค้า และ 51% ในแง่จำนวนเงิน และตอนนี้มีผู้ใหญ่ชาวอเมริกันที่มีสมาร์ทวอชใช้งานแล้วราว 16%

NPD ระบุว่า ผู้ซื้อสมาร์ทวอชที่ผลักดันเทรนด์นี้อยู่ที่อายุราว 18-34 ปี โดยกินส่วนแบ่งไปถึง 23% ของทั้งหมด ส่วนกลุ่มผู้ที่อายุมากขึ้นนั้น จะเลือกสมาร์ทวอชที่เน้นสุขภาพอย่าง Apple Watch Series 4 มากกว่า

นินเทนโดเพิ่งนำเครื่องเกมย้อนยุค NES Classic Edition กลับมาขายอีกครั้ง หลังหยุดขายไปพักใหญ่ๆ และการกลับมาครั้งนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะมันกลายเป็นแชมป์เกมคอนโซลขายดีที่สุดของสหรัฐอเมริกา ประจำเดือนมิถุนายน 2018 ไปเรียบร้อย

สถิตินี้มาจากบริษัท NPD ที่เก็บยอดขายเกมเป็นประจำทุกเดือนอยู่แล้ว ในแง่จำนวนเครื่องที่ขายได้ NES Classic เอาชนะได้ทั้ง PS4, Xbox One และ Nintendo Switch อย่างไรก็ตาม ถ้านับเป็นมูลค่าตามราคาเครื่อง แชมป์ยังเป็นของ PS4 อยู่

NPD บริษัทวิจัยตลาดเผยข้อมูลยอดขายเกมและเครื่องคอนโซลในสหรัฐเมื่อเดือนที่ผ่านมา โดย PS4 ทำยอดขายขึ้นมาเป็นอันดับ 1 อีกครั้งหลังต้นปีเสียแชมป์ให้กับ Nintendo Switch ด้าน Xbox One และ Nintendo Switch ยังคงทำยอดขายได้ดีด้วยอัตราเติบโตปีต่อปีที่ 55%

NPD ระบุว่าคอนโซลทั้งสามมีกลุ่มผู้ใช้ที่แตกต่างกัน บ้างก็ทับซ้อนกัน ทำให้ยอดขายคอนโซลในปีนี้เติบโตถึง 79% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดย Mat Piscatella นักวิเคราะห์ของ NPD ระบุด้วยว่า Nintendo Switch ยังคงรักษาสถิติยอดขายเอาไว้ โดยมีผู้ใช้งานมากที่สุดในกลุ่มคอนโซลหลังวางขาย 12 เดือน (Over the first twelve months in market, Nintendo Switch has achieved the highest installed base for a console platform in history)

บริษัทวิจัยตลาด NPD เผยยอดขายเกมคอนโซลในสหรัฐอเมริกา ประจำเดือนมกราคม 2018 มีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ เพราะ Nintendo Switch สามารถโค่น PS4 ขึ้นมาเป็นแชมป์ยอดขายคอนโซลช่วงปีใหม่ได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม ถ้านับรายได้รวมแล้ว Sony ยังเป็นอันดับหนึ่ง (ชนะแบบเฉียดๆ โดยอันดับหนึ่งทิ้งอันดับสามคือ Xbox One ไม่ถึง 3%)

ในเดือนมกราคม ยอดขายของคอนโซลทุกค่ายต่างพุ่งขึ้นถ้วนหน้า ยอดขายรวมทะลุ 1 ล้านเครื่องในเดือนเดียว (นับเฉพาะในอเมริกา) และรายได้รวมของคอนโซลทุกค่ายโตขึ้น 119% จากเดือนมกราคม 2017 เป็น 278 ล้านดอลลาร์

เราจะถือเป็นยุคทองของเกมคอนโซลรอบใหม่ก็ว่าได้ (สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับจากเดือนมกราคม 2011 จังหวะพีคของยุค PS3/Xbox 360/Wii/3DS ทำรายได้รวม 323 ล้านดอลลาร์)

NPD Group รายงานสถิติยอดขายเกมในสหรัฐ ประจำเดือนกันยายน 2017 ปรากฏว่าคอนโซลที่ขายดีที่สุดไม่ใช่ PS4 หรือ Switch แต่เป็นเครื่องเกมย้อนยุค Nintendo SNES Classic Edition

SNES Classic เอาชนะคู่แข่งทุกรายในแง่จำนวนเครื่องที่ขายได้ อย่างไรก็ตาม ราคาของ SNES Classic ขายเพียง 79.99 ดอลลาร์ ถูกกว่าคอนโซลยุคปัจจุบันมาก

เดือนกันยายน 2017 ยังถือเป็นเดือนของนินเทนโด เพราะมียอดขายฮาร์ดแวร์ 3 เครื่อง (SNES Classic + Switch + 3DS) รวมกันคิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของยอดขายคอนโซลทั้งหมด

The NPD Group บริษัทวิจัยตลาดได้ออกรายงานข้อมูลสถิติใหม่ว่า ตอนนี้ Nintendo Switch เครื่องเล่นเกมพกพาจาก Nintendo ได้กลับมาทำยอดขายแซงเกมคอนโซลอย่าง Xbox One และ Sony PlayStation 4 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่โดนแซงไป 2 เดือนติด

Mat Piscatella นักวิเคราะห์จาก NPD กล่าวว่า Nintendo Switch เป็นฮาร์ดแวร์แพลตฟอร์มที่ขายดีที่สุดในเดือนสิงหาคม โดย PlayStation 4 จาก Sony นั้นเป็นแพลตฟอร์มที่ขายดีที่สุดในช่วงเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน แต่ PlayStation 4 ก็ยังคงเป็นฮาร์ดแวร์ที่ขายดีที่สุดนับตั้งแต่ต้นปีอยู่ดี

หลังจากที่ Nintendo Switch ขายดีแบบเทน้ำเทท่าไปทั่วโลกตั้งแต่เปิดตัวมา ล่าสุดในเดือนมิถุนายนยอดขายของ PlayStation 4 ก็สามารถครองอันดับ 1 ในสหรัฐได้อีกครั้ง เป็นเดือนที่ 2 ติด

อ้างอิงจากข้อมูลที่ทาง NPD group ปล่อยออกมา หนึ่งในปัจจัยหลักที่ผลักดันยอดขายของ PS4 คือการเปิดตัวเครื่อง PS4 Slim รุ่นสีทองขนาด 1 TB, เกม Tekken 7, เกม Crash Bandicoot: N. Sane Trilogy และเกม Injustice 2 ส่วนสาเหตุหลักที่ยอดขาย Nintendo Switch ตกเป็นเพราะสินค้าขาดตลาดอย่างที่ทุกคนทราบกันดี

บริษัทวิจัยตลาด NPD ออกรายงานว่ายอดขายพาวเวอร์แบงค์ (portable power pack) ในสหรัฐอเมริกาช่วงระหว่างวันที่ 10-23 กรกฎาคม เติบโตขึ้น 2 เท่าจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นับเป็นจำนวน 1.2 ล้านชิ้น ซึ่งชัดเจนว่าเกิดจากความนิยมใน Pokemon Go

แต่ยอดขายรวมของพาวเวอร์แบงค์ก็สูงขึ้นด้วยเช่นกัน โดยระยะเวลา 12 เดือนล่าสุด (นับถึงสิ้นเดือน มิ.ย. 2016) ยอดขายพาวเวอร์แบงค์เติบโตขึ้น 35%

ที่มา - NPD

บริษัทวิจัยตลาด NPD เผยยอดขายเกมสูงสุด 10 อันดับแรกของปี 2015 (เฉพาะในสหรัฐอเมริกา) ปรากฏว่าเกมตระกูล Call of Duty ยังครองแชมป์ต่อไปอีกหนึ่งปี

NPD บริษัทวิจัยตลาดออกรายงานตลาดพีซีและแท็บเล็ตสำหรับลูกค้าองค์กร (นับรวมลูกค้าธุรกิจ, การศึกษา, และหน่วยงานรัฐบาล) ครึ่งปีแรกของปี 2015 พบว่ายอดขายรวมไม่เปลี่ยนแปลงนัก โดยอยู่ที่ 7.3 ล้านเครื่อง แต่รายงานระบุว่าโครมบุ๊กกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

ตลาดลูกค้าองค์กรในครึ่งปีแรกกูเกิล (นับรวมโครมบุ๊กและแอนดรอยด์) มีส่วนแบ่ง 30.3% เพิ่มขึ้นจาก 23.5% ของช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว โดยรวมจำนวนอุปกรณ์ของกูเกิลเพิ่มขึ้น 29% แต่เฉพาะโครมบุ๊กจะเพิ่มขึ้นถึง 43% ขณะที่แอปเปิลดลง 12% และวินโดวส์ลดลง 9%

หากนับเฉพาะฤดูกาลซื้อคอมพิวเตอร์การศึกษา (31 พฤษภาคม ถึง 18 กรกฎาคม) โครมบุ๊กได้ส่วนแบ่งตลาดองค์กรมากกว่า 50% เทียบกับวินโดวส์ที่มีส่วนแบ่ง 42% และแอปเปิลมีส่วนแบ่ง 6%

บริษัทวิจัยตลาด NPD เผยสถิติยอดขายเกมตลอดทั้งปี 2014 (นับเฉพาะในสหรัฐ) โดยมูลค่าตลาดเกมโดยรวมอยู่ที่ 13.1 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าแค่ 1% เท่านั้น (ถ้านับเฉพาะยอดขายเกมลดลงเล็กน้อยด้วยซ้ำ แต่ได้ยอดขายอุปกรณ์เสริมช่วยดัน)

10 อันดับเกมที่ขายดีประจำปี 2014 นับทุกแพลตฟอร์ม แต่นับเฉพาะยอดขายแผ่น ได้แก่

NPD รายงานตลาดพีซี 5 เดือนแรกของปี 2014 ระบุว่า Chromebook กำลังกินตลาดพีซีอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา โดยห้าเดือนแรกนี้ Chromebook กินตลาดรวม 35% ของโน้ตบุ๊กทั้งหมดจากยอดรวมทุกช่องทางขาย

รายงานระบุว่าในปีนี้เอง Chromebook ยังคงกินส่วนแบ่งตลาดพีซีอย่างต่อเนื่อง หากนับเฉพาะสามสัปดาห์ถึงวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา Chromebook จะกินตลาดโน้ตบุ๊กไปถึง 40%

เมื่อวานนี้ โซนี่เพิ่งออกมาฉลองยอดขาย PS4 แตะ 7 ล้านเครื่อง วันนี้ไมโครซอฟท์ออกมาเผยยอดขาย Xbox One ที่วัดโดย NPD ว่าเกิน 5 ล้านเครื่องแล้ว

เนื่องจาก Xbox One มียอดขายน้อยกว่า PS4 พอสมควร ไมโครซอฟท์จึงใช้วิธีเปรียบเทียบยอดขายกับ Xbox 360 รุ่นเดิมแทนว่า ในเวลาเท่ากัน Xbox One มียอดขายดีกว่า 360 ถึง 60%, อัตราซื้อเกมอยู่ที่ 2.9 เกมต่อคอนโซลหนึ่งเครื่อง

ส่วนยอดขายแผ่นเกม Xbox 360 ยังเหนือกว่าด้วยยอดขาย 2.7 ล้านครั้งในเดือนมีนาคม 2014, Xbox One ตามมาห่างๆ ที่ 1.4 ล้านครั้ง

ที่มา - Xbox Wire

หนึ่งเดือนผ่านมาหลังจากข่าว ยอดขายเครื่องเกมในสหรัฐฯ ธันวาคม 2013: Xbox One ขายดีกว่า PS4, บริษัท NPD ก็เปิดเผยยอดขายเกมประจำเดือนมกราคม 2014 ซึ่ง PS4 สามารถแซงหน้า Xbox One ได้แล้ว

NPD ไม่เปิดเผยจำนวนยอดขายเป็นตัวเลข และทั้งสองบริษัทก็ไม่ประกาศยอดขายฮาร์ดแวร์เช่นกัน แต่ฝั่งไมโครซอฟท์ก็ออกมาข่มว่ายอดขายซอฟต์แวร์เกมของตัวเองเยอะกว่า PS4 โดยขายได้ถึง 2.27 ล้านชุด (อย่างไรก็ตาม ยอดขายซอฟต์แวร์เกมในภาพรวมลดลงเพราะยังมีเกมเด่นออกไม่เยอะนัก)

ซอฟต์แวร์เกมที่ขายได้เยอะที่สุดในสหรัฐในรอบเดือนที่ผ่านมาคือ Call of Duty: Ghosts (นับรวมทุกแพลตฟอร์ม) ตามด้วย NBA 2K14 และ Battlefield 4

บริษัทวิจัย NPD รายงานตลาดคอมพิวเตอร์ที่ไม่นับสมาร์ตโฟนในสหรัฐฯ ได้แก่ แท็บเล็ต, โน้ตบุ๊ก, และเดสก์ทอป ความเปลี่ยนแปลงสำคัญคือ Chromebook จากเดิมแทบไม่มีส่วนแบ่งในตลาด ปีนี้กลับชิงส่วนแบ่งได้ถึง 9.6% และหากนับตลาดโน้ตบุ๊กทั้งหมดจะครองส่วนแบ่งถึง 21% และแท็บเล็ตแอนดรอยด์ที่ชิงส่วนแบ่งเพิ่มถึงเท่าตัวเป็น 8.7%

ตลาดพีซีเดิม ได้แก่ เดสก์ทอปและโน้ตบุ๊กเสียส่วนแบ่ง 4.5% และ 8.6% ตามลำดับ ขณะที่เจ้าตลาดแท็บเล็ตอย่างไอแพดเสียส่วนแบ่งไปเล็กน้อย 1.3% และวินโดวส์แท็บเล็ตได้ส่วนแบ่งมา 2.2%

ความเปลี่ยนแปลงของ Chromebook และแท็บเล็ตแอนดรอยด์ทำให้ซัมซุงขึ้นมาเป็นที่สี่ของผู้ผลิตที่มีส่วนแบ่งสูงสุด ได้ส่วนแบ่งไป 10% จากปี 2012 ที่มีส่วนแบ่งเพียง 1.7% เท่านั้น

สงครามเครื่องเกมยังแข่งยอดขายกันอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้แต่ละฝั่งต่างก็เผยข้อมูลของตัวเองกันมา อย่าง PS4 ที่ขายได้เกิน 2 ล้านเครื่องใน 2 สัปดาห์ และฝั่ง Xbox One ที่ขายได้ 2 ล้านเครื่องใน 18 วัน ผ่านไปครบหนึ่งเดือนแรกมีตัวกลางอย่าง NPD ที่รายงานผู้ชนะยอดขายเกมในเดือนพฤศจิกายนออกมาแล้ว

Xbox 360 เป็นเครื่องเกมคอนโซลขายดีเป็นอันดับหนึ่งของตลาดเกมสหรัฐอเมริกามายาวนาน 32 เดือน แต่ล่าสุดสถิติจาก NPD ระบุว่าแชมป์ประจำเดือนกันยายนเปลี่ยนมือมาเป็น PS3 ของโซนี่แทนแล้ว

เหตุผลสำคัญที่ทำให้ PS3 โค่น Xbox 360 ได้สำเร็จเป็นเพราะความร้อนแรงของเกม GTA V ที่ช่วยฉุดยอดขายของ PS3 ที่ออกรุ่นพิเศษสำหรับเกม GTA V มียอดขายรวมแซงหน้า Xbox 360 ขึ้นมาได้สำเร็จ

Xbox 360 ยังเป็นแชมป์เครื่องเกมขายดีประจำปี 2013 ต่อไป แต่สงครามเกมคอนโซลรอบใหม่ก็ใกล้เริ่มต้นขึ้นเต็มทีแล้วเช่นกัน

ที่มา - GeekWire

NPD ให้ข้อมูลยอดขายเกมคอนโซลในสหรัฐอเมริกา ประจำเดือนมิถุนายน 2013 ถ้านับเครื่องเกมทุกประเภทรวมกัน อันดับหนึ่งยังเป็น Nintendo 3DS ที่ 225,000 เครื่อง ถือว่ายอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 40% จากเดือนมิถุนายน 2012

แต่ถ้านับเฉพาะเครื่องคอนโซล แชมป์เป็นของ Xbox 360 ที่ครองอเมริกาติดต่อกันมาแล้ว 30 เดือน ถึงแม้จะมีรุ่นต่ออย่าง Xbox One มารอคิวแต่ 360 ก็ยังขายได้ที่ 140,000 เครื่องต่อเดือน (แต่ก็ลดลงมาจากช่วงที่ Xbox 360 ขายดีมากๆ อยู่พอสมควร)

Larry Hryb ผู้บริหารฝ่าย Xbox ของไมโครซอฟท์ (รู้จักกันในชื่อ Major Nelson) ให้ข้อมูลว่ายอดสั่งซื้อล่วงหน้าของ Xbox One ตอนนี้สูงกว่ายอดสั่งซื้อล่วงหน้า Xbox 360 ในช่วงก่อนเปิดตัวแล้ว

บริษัทวิจัยตลาด NPD เผยข้อมูลว่า Chromebook ของกูเกิลสามารถกินส่วนแบ่งตลาดโน้ตบุ๊กราคาถูกกว่า 300 ดอลลาร์ในสหรัฐได้แล้วประมาณ 20-25% และถือเป็นคอมพิวเตอร์ไม่กี่รุ่นที่เติบโตสวนกระแสตลาดพีซีหดตัวอยู่ในตอนนี้

NPD บอกว่า Chromebook ค้นหาที่ยืนในตลาดของตัวเองได้สำเร็จ และผู้บริโภคเองก็เริ่มเรียนรู้ความแตกต่างของ Chromebook เมื่อเทียบกับโน้ตบุ๊กสายวินโดวส์ทั่วไป ตลาดที่ Chromebook ไปได้ดีคือตลาดการศึกษาและกลุ่ม early adopter ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีใหม่ๆ

อินเทลในฐานะผู้ผลิตซีพียูสำหรับ Chromebook มีวิศวกรซอฟต์แวร์มากกว่า 1,000 คนที่เกี่ยวข้องกับงานพัฒนา Chrome OS (แม้ว่าจะไม่ได้ทำด้าน Chrome OS แบบเต็มเวลาทั้งหมด) เพื่อให้ซีพียูของตัวเองทำงานกับ Chrome OS ได้ดีที่สุด

บริษัทวิจัย NPD เผยสถิติยอดขายฮาร์ดแวร์ฝั่งวินโดวส์ทั้งหมด (Windows devices ไม่นับรวม Windows Phone) นับตั้งแต่งานเปิดตัว Windows 8 เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2012 (นับถึงวันนี้ประมาณ 4 สัปดาห์)

ผลออกมาว่ายอดขายฮาร์ดแวร์กลับลดลง 21% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2011 ซึ่งทาง NPD วิเคราะห์ว่าต้นเหตุของปัญหาอาจไม่ใช่ตัว Windows 8 เพียงอย่างเดียว แต่ก็เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า Windows 8 ไม่ได้เป็นจุดกระตุ้นยอดขายของฮาร์ดแวร์ฝั่งวินโดวส์ดังที่หลายๆ คนหวังเอาไว้

สถิติอีกตัวที่น่าสนใจคือ Windows 8 ยังมีส่วนแบ่งเพียง 58% ของฮาร์ดแวร์ฝั่งวินโดวส์ที่ขายได้ในช่วงนี้ (ที่เหลือคือวินโดวส์รุ่นอื่นๆ) ซึ่งถือว่าน้อยกว่า Windows 7 ที่ทำได้ 83% ในช่วง 4 สัปดาห์แรกหลังเปิดตัว