เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่เพิ่งผ่านมา เว็บเบราว์เซอร์ Opera ได้ออกอัพเดตเวอร์ชัน 54 โดยได้เพิ่มฟีดข่าวเข้ามาใน Speed Dial ช่วยดึงข่าวสารล่าสุดมาแสดงทุกครั้งที่เปิดเบราว์เซอร์หรือแท็บใหม่ (คล้ายกับหน้าแท็บใหม่ของ Microsoft Edge / Internet Explorer)

และยังได้ปรับปรุงให้สามารถเข้าถึงการอัพเดตและกู้คืนเบราว์เซอร์ได้ง่ายขึ้นด้วยการแยกเมนูใหม่ให้ใช้งานโดยเฉพาะ สำหรับรายละเอียดทั้งหมดพอสรุปได้ดังนี้

มีคนค้นพบว่า Stylish ส่วนขยายของเว็บเบราว์เซอร์ที่มีคนดาวน์โหลดถึง 2 ล้านครั้ง แอบส่งข้อมูลของผู้ใช้งานกลับไปยังบริษัทแม่ SimilarWeb ล่าสุดโดน Chrome, Firefox, Opera ถอดออกจาก Store แล้ว

Stylish เป็นส่วนขยายที่เปิดให้ผู้ใช้ปรับแต่ง CSS ของเว็บไซต์ได้เอง และแจกจ่ายให้คนอื่นใช้งานได้ผ่านเว็บไซต์ userstyles.org ตัวส่วนขยายถูกพัฒนาขึ้นตั้งแต่ปี 2005 แต่ขายให้กับ SimilarWeb บริษัทรวบรวมข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ในปี 2016

ล่าสุดมีคนพบว่า Stylish แอบส่ง URL ของเว็บไซต์ที่เราเข้าชมกลับไปยัง SimilarWeb โดยเวอร์ชัน Chrome เริ่มทำมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2017 และเวอร์ชัน Firefox เริ่มในเดือนมีนาคม 2018

วันนี้ในงาน Opera R2 มีการประกาศเปิดตัวเบราเซอร์ตัวใหม่ที่ชื่อว่า Opera Touch ใช้งานได้บน Android โดยเป็นการออกแบบมาให้เหมาะสำหรับใช้งานมือเดียว และใช้งานร่วมกับเบราเซอร์ Opera บนคอมพิวเตอร์ได้ด้วยฟังก์ชั่นที่ชื่อว่า Flow มาพร้อมกับตัวบล็อกโฆษณา และป้องกันเว็บไซต์ที่ขุดเหรียญดิจิตอลโดยจะมีฟังก์ชั่นใหม่ๆ มีดังนี้

Opera เปิดตัวเว็บเบราว์เซอร์ใหม่ Opera Touch เป็นเบราว์เซอร์สำหรับอุปกรณ์พกพาที่ถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด, Opera บนเดสก์ท็อปที่อัพเดตใหม่ และฟีเจอร์ Opera Flow สำหรับการซิงค์ข้อมูลระหว่างเดสก์ท็อปและอุปกรณ์พกพาในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ R2 ที่จัดขึ้นในวันนี้

สำหรับ Opera Touch นั้น ทางทีม Opera ออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยเน้นที่การใช้งานให้เหมาะสมกับการใช้งานแบบมือเดียว ฟังก์ชันสำคัญ ๆ ของเบราว์เซอร์สามารถใช้นิ้วหัวแม่มือเข้าถึงได้ทั้งหมด เพื่อให้ใช้งานเว็บเบราว์เซอร์ได้ขณะที่อีกมือไม่ว่าง โดยมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจ เช่น

Opera ได้ประกาศจัดงาน Opera R2 ในวันพุธที่ 25 เมษายนเวลา 10 นาฬิกาในเวลา Central European Time (CET) หรือตามเวลาในไทยคือ 16 นาฬิกา ข้อมูลรายละเอียดของงานนั้นยังไม่มีข้อมูล ตอนนี้มีแค่หัวข้องานคือ Save the date! และภาพปริศนาที่ถูกโพสต์บน Product Hunt โดย Maciej Kocemba ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ Opera คาดว่าจะเป็นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์บางอย่างที่อาจจะเกี่ยวข้องกับ Opera Neon

เมื่อเกือบ 2 ปีก่อน Opera เปิดตัวแอพ "Opera VPN" สำหรับผู้ใช้อุปกรณ์รัน iOS ซึ่งผู้ใช้สามารถท่องอินเทอร์เน็ตผ่าน VPN ได้โดยไม่จำกัดปริมาณข้อมูล ก่อนที่ภายหลังก็จะมีแอพสำหรับอุปกรณ์ Android ตามมา (เวอร์ชั่นสำหรับ Android ใช้ชื่อว่า "Opera Free VPN - Unlimited VPN") แต่เมื่อถึงตอนนี้ Opera ได้ประกาศข่าวว่าจะหยุดให้บริการแอพทั้งคู่ตอนสิ้นเดือนนี้

แต่การยกเลิกแอพนี้ไม่ได้หมายความว่า Opera จะไม่ให้บริการแก่ผู้ใช้อุปกรณ์พกพาอีกต่อไป เพราะ Opera ตั้งใจจะชักจูงคนให้หันมาใช้บริการ VPN ของ SurfEasy ซึ่งเป็นบริษัทที่ถูก Opera เข้าซื้อกิจการตั้งแต่ปี 2015

Samsung ส่งแอพใหม่ Samsung Max มาเพื่อแทนที่ Opera Max แอพบีบข้อมูลเพื่อประหยัดทราฟฟิกของอินเทอร์เน็ต และรักษาความเป็นส่วนตัวให้ผู้ใช้ โดย Opera เปิดตัวแอพ Opera Max นี้มาตั้งแต่ปี 2013 และเพิ่งประกาศหยุดพัฒนาเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจาก Opera จะไปเน้นโฟกัสที่เบราว์เซอร์และบริการอื่น ๆ ของบริษัทแทน

แอพใหม่ Samsung Max นี้เป็นหนึ่งในโครงการที่พัฒนาแอพเพื่ออินเดีย ซึ่งเป็นตลาดเกิดใหม่จึงทำให้ความสามารถในการให้บริการอินเทอร์เน็ตยังมีความเร็วจำกัด โดยแอพ Samsung Max จะมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจ เช่น

เว็บเบราว์เซอร์ Opera ออกอัพเดตเวอร์ชัน 51 โดยได้ปรับปรุงประสิทธิภาพของตัวโปรแกรมไปอย่างมาก จนสามารถทำความเร็วแซง Firefox ที่กำลังเดินหน้าปรับปรุงและชูจุดเด่นด้านประสิทธิภาพเช่นกัน

นอกจากนี้อัพเดตดังกล่าวยังมาพร้อมกับการปรับปรุง UI และการใช้งานในหลายๆ ส่วน รายละเอียดทั้งหมดพอสรุปได้ดังนี้

• ปรับปรุงประสิทธิภาพตัวเบราว์เซอร์ โดยได้เปลี่ยนคอมไพเลอร์ไปใช้ Clang (สำหรับบน Windows) ส่งผลให้ประสิทธิภาพดีขึ้นกว่าเดิม โดยผลจากการวัด benchmark ด้วย Speedometer 2.0 แสดงให้เห็นว่า Opera 51 เร็วกว่า FireFox 58 ถึง 38%

เว็บเบราว์เซอร์ Opera ออกเวอร์ชัน 50 เมื่อต้นเดือนมกราคมโดยได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจเข้ามาอย่างตัวป้องกันสคริปต์ขุดเงินดิจิทัล (ที่ถูกทดสอบบนเวอร์ชันเบต้ามาซักพักแล้ว), ฝังความสามารถสตรีมภาพไปยัง Chromecast มาในตัวเบราว์เซอร์, รวมถึงสามารถบันทึกเว็บเพจเป็นไฟล์ PDF เก็บไว้อ่านในภายหลัง

และยังได้อัพเกรดการให้บริการ VPN พร้อมปรับปรุงความสามารถเดิมไปอีกหลายรายการ (ครั้งนี้ยาวมาก) รายละเอียดต่างๆ พอสรุปได้ดังนี้

เบราว์เซอร์ Opera ออกเบต้าเวอร์ชัน 50 RC โดยเพิ่มฟีเจอร์สำคัญที่น่าสนใจคือตัวป้องกันสคริปต์ขุดเงินดิจิทัล ซึ่ง Opera เรียกฟีเจอร์นี้ว่า NoCoin ที่ช่วยป้องกันไม่ให้คอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ทำงานหนักจนผิดปกติ

กระบวนการทำงานของตัวป้องกันสคริปต์นี้ก็คล้ายกับตัวบล็อกโฆษณา โดยผู้ใช้งานสามารถกำหนดเปิดการทำงาน NoCoin ได้ใน Settings

ที่มา: Opera ผ่าน ZDNet

Opera Software ASA บริษัทสัญชาตินอร์เวย์ผู้ผลิตเว็บเบราว์เซอร์ชื่อดัง Opera ได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Otello Corporation ASA อย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากที่ได้ตกลงขายธุรกิจเบราว์เซอร์ Opera Software AS ให้กลุ่มทุนจีน Golden Brick Capital Private Equity Fund ไปตั้งแต่ปี 2016

Lars Boilesen ซีอีโอของ Opera Software ASA อธิบายว่าการเปลี่ยนชื่อบริษัทครั้งนี้เป็นเหตุผลด้านกฎหมาย เนื่องจากเบราว์เซอร์ Opera ถูกกลุ่มทุนจีนซื้อไป ทำให้สิทธิในการใช้แบรนด์ Opera ตกเป็นของเจ้าของใหม่ด้วยเช่นกัน โดยในตอนนั้น Opera Software ASA ตกลงจะเปลี่ยนชื่อบริษัทหลังจากการขายกิจการเสร็จสิ้น

เว็บเบราว์เซอร์ Opera ออกอัพเดตเวอร์ชัน 49 ซึ่งได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่อย่าง ตัวแก้ไขภาพสกรีนช็อตที่สามารถถ่ายรูปเซลฟี่และแปะอีโมจิสติกเกอร์ไปกับภาพได้, เพิ่มตัวเล่นวิดีโอ 360 องศารองรับแว่น VR, เพิ่มเมนู Easy Setup ช่วยให้สามารถเข้าถึงการตั้งค่าที่ใช้งานบ่อยได้อย่างรวดเร็ว

และยังได้ปรับปรุงความสามารถเดิมรวมถึง UI ของเบราว์เซอร์ไปหลายอย่าง รายละเอียดทั้งหมดพอสรุปได้ดังนี้

เว็บเบราว์เซอร์ Opera ออกอัพเดตเวอร์ชัน 48 ซึ่งมากับของใหม่อย่าง ตัวช่วยจับภาพสกรีนช็อต ตัวช่วยแปลงหน่วยวัด/โซนเวลา และยังได้ปรับปรุงตัวเบราว์เซอร์ไปหลายอย่างทั้งด้านการใช้งานจนไปถึงหน้า UI รายละเอียดทั้งหมดพอสรุปได้ดังนี้

• ตัวช่วยจับภาพสกรีนช็อต ฟีเจอร์ที่ถูกหยิบมาจาก Opera Neon เรียกใช้ได้ผ่านเมนู, ไอคอนรูปกล้องบน sidebar หรือคีย์ลัด Ctrl + Shift + 5 โดยผู้ใช้จะสามารถกำหนดบริเวณที่ต้องการจับภาพได้ด้วยการลากกรอบของเฟรมไปยังตำแหน่งที่ต้องการ และระหว่างนั้นก็ยังสามารถเลื่อนหน้าเว็บเพื่อกำหนดเฟรมให้ครอบคลุมบริเวณที่เคยลากไปไม่ถึงได้ด้วย หรือจะจับภาพทั้งหน้าจอเฉยๆ ก็ทำได้เช่นกัน

เว็บเบราว์เซอร์ Opera ออกเวอร์ชัน 47 ซึ่งกลับมาพร้อมความสามารถในการ export บุ๊คมาร์ค ฟีเจอร์เดิมที่หายไปตั้งแต่เปลี่ยนเอนจินมาใช้ Chromium และยังได้ปรับปรุงการเล่นวิดีโอ, เพิ่มตัวเลือกตั้งเวลารีเฟรชหน้าอ่านข่าว จนถึงการปรับแต่งดีไซน์ ให้มองเห็นส่วนต่างๆ ของ UI ได้ชัดเจนขึ้น รายละเอียดทั้งหมดพอสรุปได้ดังนี้

• เพิ่มฟีเจอร์ export บุ๊คมาร์ค สามารถ export บุ๊คมาร์คทั้งหมดรวมถึงบุ๊คมาร์คที่อยู่ภายใต้ Speed Dial, แถบ bookmarks bar ออกมาเป็นไฟล์ HTML ช่วยอำนวยความสะดวกเมื่อต้องการย้ายบุ๊คมาร์คไปใช้กับเบราว์เซอร์อื่น

Opera ประกาศยุติการพัฒนา Opera Max แอพบน Android ที่เปิดตัวช่วงปลายปี 2013 และเน้นฟีเจอร์เรื่องบีบอัดข้อมูลเพื่อประหยัดทราฟฟิกอินเทอร์เน็ต

Opera ให้เหตุผลว่า Opera Max มีคุณประโยชน์แตกต่างไปจากเบราว์เซอร์ตัวอื่นๆ ของบริษัทค่อนข้างมาก บริษัทจึงอยากโฟกัสที่เบราว์เซอร์และบริการอื่นๆ แทน จากนี้ไป Opera Max จะไม่ถูกพัฒนาต่อและถอดออกจาก Play Store แล้ว ส่วนผู้ใช้งานเดิมจะสามารถใช้งานต่อได้อีกระยะหนึ่ง

ที่มา - Opera

Opera เคยเปิดตัวโปรเจคปรับปรุงเบราว์เซอร์ใหม่ในขื่อว่า Reborn ซึ่งตอนนี้ฟีเจอร์ที่พัฒนาในโปรเจคดังกล่าวก็เริ่มนำมาใช้กับเบราว์เซอร์เวอร์ชันจริงบ้างแล้ว ได้แก่

Opera เปิดตัวโปรเจ็กต์ Reborn โครงการปรับปรุงเบราว์เซอร์ Opera Desktop ครั้งใหญ่ ซึ่งแม้ว่าทาง Opera เองก็ยังไม่ได้เผยรายละเอียดออกมา แต่ก็ได้ปล่อยอัพเดตให้กับ Opera Desktop ในสาย developer ซึ่งมากับ UI ดีไซน์ใหม่และฟีเจอร์ชุดใหม่ที่อยู่ภายใต้โปรเจ็กต์ Reborn ให้ได้ทดลองใช้งาน

โดยในส่วนของ UI แบบใหม่ Opera ได้นำเสนอดีไซน์ที่เรียบหรูขึ้น ใช้ชุดกราฟฟิกคุณภาพสูงซึ่งอิงกับระบบปฏิบัติการแต่ละแพลตฟอร์มน้อยลง เพิ่มลูกเล่นอนิเมชั่นให้กับ Speed Dial และ sidebar และยังได้ยืมแนวคิด sidebar แบบใหม่จาก Opera Neon ซึ่งจะแสดงผลอยู่กับหน้าเบราว์เซอร์หลักตลอดเวลาช่วยให้สามารถเข้าถึง บุ๊คมาร์ค, ประวัติการเข้าเว็บ, ฟีดข่าว และส่วนเสริมต่างๆ ได้ในคลิกเดียว (ใครไม่ชอบก็สามารถปิดให้อยู่แต่ใน Speed Dial แบบเดิมได้)

Opera ได้เปิดตัวเบราว์เซอร์ใหม่ที่เรียกว่า Neon เป็นเบราว์เซอร์ที่เรียกว่า concept browser เพื่อทดสอบดีไซน์ที่ไม่เคยใช้ทดสอบมาก่อน

หน้าโฮมเพจของ Neon จะเป็นทางลัดสำหรับเข้าถึงเว็บไซต์ที่บุ๊คมาร์กไว้ หรือเว็บไซต์ที่เข้าบ่อย ๆ โดยมาเป็นลูกกระจายอยู่, ใช้ไอคอนลูกบอลไว้ทางขวาแทนแท็บด้านบน, รองรับการ split-screen ในการดูเว็บ, แถบเครื่องมือจะอยู่ทางซ้ายของเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ Opera Neon ค่อนข้างเล่นกับอนิเมชั่นเยอะไปหน่อย และเนื่องจากเป็นเบราว์เซอร์คอนเซปต์ จึงอาจจะไม่เหมาะกับการใช้งานจริงมากนัก แต่ถ้าใครสนใจจะลองก็สามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ Opera Neon ซึ่ง Opera ก็ได้ทำวิดีโอโปรโมตมาด้วย สามารถดูได้ท้ายข่าว

Opera ได้ออกรุ่นรุ่นล่าสุดคือ Opera 42 เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 20 ปีของเบราว์เซอร์ โดยมีฟีเจอร์ใหม่ดังนี้

• เพิ่มตัวแปลงค่าเงินเข้ามาในเบราว์เซอร์ รองรับ 32 ค่าเงิน เพื่ออำนวยความสะดวกการช้อปปิ้งออนไลน์ เพียงเอาเมาส์ลากคลุมค่าเงินไว้ก็จะแปลงเป็นค่าเงินท้องถิ่นให้ทันที สามารถปรับค่าเงินที่จะให้แสดงได้ในการตั้งค่าของเบราว์เซอร์ ค่าเงินที่ใช้ในการคำนวณอิงจากธนาคารกลางยุโรปโดยเป็นค่าเงินในวันนั้น
• เปิดเบราว์เซอร์ได้ไวขึ้น โดย Opera ใช้วิธีนับว่าแท็บใดที่ใช้บ่อยที่สุดก่อนผู้ใช้จะปิด Opera และจะเลือกโหลดแท็บนั้นขึ้นมาก่อนในตอนเปิดเบราว์เซอร์อีกครั้ง
• เพิ่มการอ่านฟีดข่าวจากเว็บไซต์ (หลังจากที่เปิดให้ทดสอบไปสักพัก) ถ้าเว็บไหนที่รองรับ ปุ่มหนังสือพิมพ์จะปรากฏบน address bar เมื่อคลิกก็จะเปิดฟีด หากฟีดใดที่ใช้งานบ่อย ผู้ใช้สามารถกดปุ่ม Add to my Sources เพื่อให้ Opera บันทึกไว้ เมื่อข่าวเข้ามาในฟีด Opera จะเตือนโดยมีจุดฟ้าปรากฏบนปุ่มหนังสือพิมพ์
• รองรับการติดตั้งโดยใช้ network installer สำหรับรุ่น 64-bit คือ Opera จะดูระบบเครื่องของผู้ใช้ และจะเลือกให้ว่าจะติดตั้ง 32-bit หรือ 64-bit รวมถึงผู้ใช้ที่ใช้งานเวอร์ชัน 32-bit ก็สามารถอัพเกรดเป็น 64-bit ได้ด้วย โดยเมื่ออัพเกรดเสร็จเวอร์ชัน 32-bit จะถูกลบออกจากเครื่องอัตโนมัติ แต่ข้อมูลของผู้ใช้จะยังอยู่เช่นเดิม

ที่มา - Opera

Opera ได้ออกอัพเดตแอพ Opera Mini สำหรับ Android โดยรอบนี้มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่สองอย่าง ได้แก่

• download manager ใหม่ มีมิเตอร์วัดความเร็วการดาวน์โหลดที่กำลังใช้อยู่ในปัจจุบัน และเวลาที่เหลืออย่างละเอียด รวมถึงมีการแจ้งเตือนเมื่อดาวน์โหลดเสร็จ
• search suggestions ที่ฉลาดขึ้น

แอพ Opera Mini เวอร์ชันใหม่บน Android สามารถดาวน์โหลดได้แล้วทาง Google Play

Opera Max เป็นแอพสำหรับ Android ที่ช่วยบีบทราฟฟิกเว็บเพื่อประหยัดปริมาณข้อมูลได้ออกอัพเดตเวอร์ชันใหม่ โดยเพิ่มความสามารถที่ช่วยคุ้มกันความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เรียกว่า privacy mode ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้มีใช้แล้วใน Samsung S Secure ของ Galaxy J5 Prime และ Galaxy J7 Prime

สำหรับฟีเจอร์ด้านความเป็นส่วนตัวใน privacy mode สำหรับ Opera Max นั้นจะมี 3 อย่าง ได้แก่

เว็บเบราว์เซอร์ Opera ออกอัพเดตเวอร์ชัน 41 ที่ได้เน้นไปยังการปรับปรุงด้านประสิทธิภาพ ทั้งด้านความเร็วขณะเปิดโปรแกรม, ลดการใช้พลังงานขณะ video conference, ลดการใช้งานซีพียูของ video pop-out และยังได้ปรับปรุงหน้าอ่านข่าวให้ใช้งานง่ายขึ้นอีกด้วย

สำหรับการปรับปรุงความเร็วขณะเริ่มโปรแกรมซึ่งเป็นไฮไลท์ของการอัพเดตในครั้งนี้ Opera ใช้วิธีจัดลำดับความสำคัญของขั้นตอนการเปิดโปรแกรมใหม่ ด้วยการเลือกเปิดแท็บที่ผู้ใช้งานน่าจะอยากเห็นขึ้นมาก่อน ตัวอย่างเช่นแท็บที่ถูกปักหมุดไว้หรือแท็บที่ใช้งานล่าสุดก่อนจะปิดหน้าต่าง Opera ไป (เป็นค่าตั้งต้นของ Opera ที่จะช่วยเปิดแท็บทั้งหมดที่ถูกเปิดค้างไว้ขณะปิดโปรแกรมคราวก่อนกลับขึ้นมาให้)

ดูเหมือนว่าฟีเจอร์ประหยัดพลังงานจะกลายเป็นหนึ่งในสิ่งที่เบราว์เซอร์หลักในตลาดให้ความสำคัญไปซะแล้ว เมื่อดูจากที่ทั้ง Microsoft Edge, Opera และ Google Chrome ต่างก็ออกผลทดสอบซึ่งแสดงความสามารถในการประหยัดพลังงานของเบราว์เซอร์ของค่ายตนเองกันเกือบครบทุกเจ้า

และล่าสุดก็เป็นทางฝั่งไมโครซอฟท์ที่ออกมาโชว์ผลการทดสอบอีกหนเพื่อแสดงผลลัพธ์ที่ได้จากการปรับปรุงการใช้พลังงานของ Microsoft Edge บน Windows 10 Anniversary Update ไปอีกขั้น ซึ่งก็ส่งให้ Microsoft Edge ได้รับตำแหน่งเบราว์เซอร์ประหยัดพลังงานอันดับหนึ่งไปอีกครั้ง

เว็บเบราว์เซอร์ Opera ได้ออกอัพเดตเวอร์ชัน 40 ให้กับผู้ใช้ทั่วไปแล้ว โดยรอบนี้มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่มากมาย ซึ่งฟีเจอร์ที่สำคัญที่สุดและหลายคนต่างก็รอคอยก็คงจะเป็น VPN ฟรีแบบไม่จำกัดปริมาณข้อมูล

สำหรับฟีเจอร์ VPN ฟรีแบบไม่จำกัดปริมาณข้อมูลใน Opera นี้ เริ่มเปิดให้ใช้มาตั้งแต่ Opera 38 ในรุ่นนักพัฒนา รวมทั้งออกแอพ Opera VPN และใน Opera 40 ก็ได้เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปได้ใช้ VPN กันแล้ว โดยวิธีเปิด VPN ก็ให้ไปที่ Settings (หรือ Preferences บน Mac) เลือก Privacy & Security และกดปุ่มเปิด VPN ไอคอน VPN ก็จะแสดงขึ้นมา โดยผู้ใช้สามารถสั่งเปิดหรือปิด VPN รวมถึงเลือกประเทศได้จากไอคอนนี้

Opera ได้เผยว่าทางบริษัทตรวจพบการบุกรุกเข้าไปในระบบ Opera Sync บริการซิงค์ข้อมูลและการตั้งค่าเบราว์เซอร์ของ Opera โดยตอนนี้กำลังสอบสวนอยู่ และเชื่อว่าผู้บุกรุกน่าจะได้ข้อมูลซึ่งมีชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านไปด้วย