หลายวันก่อน Opera Software ได้ปล่อย Opera 10.60 Alpha มาให้ผู้ใช้ทดสอบการทำงานกันแล้ว โดยใน 10.60 มีการปรับปรุงจากเดิมในหลายจุด รวมถึง Carakan ที่โฆษณาว่าเร็วกว่าเดิมถึง 75% (ใน Choose Opera บอกว่า เร็วกว่าทั้งสาย 10.5x และมันฝรั่ง!)
รายการอัพเดทที่พอจะเห็นได้ชัด มีดังนี้ครับ
Opera ลงมาร่วมถกประเด็น HTML5 vs Flash แล้ว โดย Phillip Grønvold นักวิเคราะห์ของ Opera ให้ความเห็นว่า อินเทอร์เน็ตทุกวันนี้ขาด Flash ไม่ได้ ถ้าเราเอา Flash ออกไป มันก็ไม่ใช่อินเทอร์เน็ต ทาง Opera มองว่าภายใน 18 เดือนข้างหน้า Flash จะยังเป็นสิ่งสำคัญอยู่ ไม่ได้หายไปไหน
แต่เขาก็บอกว่าอนาคตของเว็บคือมาตรฐานเปิดอย่าง HTML5 และมองว่า Adobe ควรตอบสนองกระแสนี้ให้เร็ว โดยรีบประกาศ Flash ให้เป็นเทคโนโลยีเปิด
เขาบอกว่า Flash มีงานที่เหมาะสำหรับมัน นั่นคือเนื้อหาแบบไดนามิก แต่เขาก็วิจารณ์ Flash ในเรื่องการกินซีพียูและแบตเตอรี่ โดยบอกว่าคุณสามารถต้มไข่ได้บนอุปกรณ์ที่รัน Flash เลยทีเดียว
หลังจากที่แอปเปิลอนุมัติให้ Opera Mini เข้าสู่ App Store หลังจากนั้นไม่นาน Opera Mini ก็มียอดดาวน์โหลดทะลุล้านครั้งตั้งแต่ในวันแรกที่เปิดให้ดาวน์โหลด และก้าวขึ้นอันดับหนึ่ง ใน App Store ในหลายๆ ประเทศอย่างรวดเร็ว
ประเทศใดที่ตอนนี้ Opera Mini ขึ้นอันดับหนึ่ง ลองไปดูได้ที่นี่
Lars Boilesen ผู้เป็น CEO ของ Opera Software กล่าวว่า "วันนี้ผู้ใช้ iPhone มีตัวเลือกแล้ว และจากที่ตัวเลขแสดงออกมา พวกเขาต่างอยากที่จะลองการเข้าเว็บด้วยทางที่ใหม่และเร็วกว่าเดิมบน iPhone โดยเฉพาะช่วงที่มีการใช้งานเว็บอย่างหนักหน่วง"
Opera ได้ออกมารายงานแล้วว่าเว็บเบราว์เซอร์ของตัวเอง Opera Mini สำหรับไอโฟนนั้นได้ผ่านการตรวจสอบจากทีมงาน App Store ของแอปเปิลแล้ว และจะเปิดให้ดาวน์โหลดภายใน 24 ชั่วโมงนี้
ก่อนหน้านี้มีเสียงจากหลาย ๆ กลุ่มที่คาดเดากันเองว่าแอปเปิลอาจจะไม่ให้ผ่าน Opera Mini เพราะว่าหากดูจากสาเหตุที่แอปเปิลเคยให้กับนักพัฒนาอื่น ๆ โปรแกรมต่าง ๆ ที่มีความสามารถใกล้เคียงกับโปรแกรมที่มีอยู่แล้วโดยแอปเปิลนั้น จะไม่ถูกให้ผ่านและไม่สามารถเปิดให้ดาวน์โหลดบน App Store ได้
ผมเห็นมันอยู่บน App Store แล้วนะครับ โหลดมาใช้ได้เลย ข่าวร้ายคือตัดคำภาษาไทยไม่ได้ตามเคย สกรีนชอทหลังเบรคครับ
เป็นเวลากว่า 20 วัน ที่ Opera ส่ง Opera Mini ไปให้แอปเปิลพิจารณาเข้าสู่ App Store และตอนนี้มันก็ผ่านเข้าสู่ App Store เป็นที่เีรียบร้อยแล้ว ซึ่ง Opera Mini จะเข้าสู่ App Store และให้ดาวน์โหลดกันได้ฟรีภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากนี้ครับ
ใครเบื่อหน้า Safari แล้วก็เชิญเฮกันดังๆ ครับ
ที่มา - Opera Press Release
ระหว่างที่รอ Opera Mini ให้ผ่านเข้า App Store วันนี้ทาง Opera ก็เปิดตัว Opera Space Edition มาให้เราลองใช้กันแล้วครับ
Opera Space Edition นั้นถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อทดสอบการใช้อินเตอร์เน็ตระหว่างดวงดาว ภายใต้โครงการ Future Opera Operations in Lunar Surroundings ซึ่งมีฟีเจอร์หลักๆ 3 อย่างดังนี้
เมื่อสักครู่นี้ Opera เพิ่งจะส่ง Opera Mini ไปให้ Apple พิจารณาเข้าสู่ App Store ไปหมาดๆ พร้อมเปิดหน้าจับเวลาให้ได้ดูกัน ว่าตั้งแต่ที่ส่งโปรแกรมเข้าไป (ณ เวลา 13:00 CET หรือ 14:27 GMT) จะใช้เวลานานเท่าไหร่ กว่า Opera Mini จะได้รับการอนุมัติเข้าสู่ App Store
พร้อมกันนี้ Opera ยังเปิดให้สมาชิก My Opera เดาว่าจะใช้เวลาเท่าไหร่ ที่ Opera Mini จะได้รับการอนุมัติผ่านเข้าสู่ App Store ของ Apple โดยมีรางวัลคือ iPhone 3GS ให้กับผู้ที่ตอบถูก หรือตอบเข้าใกล้กับเวลาจริงมากที่สุด (เล่นกันระดับวินาทีเลยทีเดียว)
Opera ชนะผลทดสอบชุดทดสอบ Sputnik ของกูเกิลด้วยเบราเซอร์รุ่นใหม่ๆ ทั้งหมด โดย Opera 10.50 นั้นไม่ผ่านเพียง 78 ชุดทดสอบ ขณะที่ WebKit 4.0.4 ไม่ผ่าน 158 ชุด, Chrome 4.0 ไม่ผ่าน 218 ชุด, Firefox 3.6 ไม่ผ่าน 259 ชุด, ส่วน IE8 ยังรั้งท้ายด้วยการไม่ผ่าน 463 ชุด
นับแต่วันที่ 1 มีนาคมเป็นต้นมา ไมโครซอฟท์ถูกบังคับให้วินโดวส์ที่ขายในสหภาพยุโรปต้องมีหน้าจอเลือกเบราว์เซอร์ แทนที่การลง Internet Explorer เช่นเดิม ผลคือยอดดาวน์โหลด Opera เพิ่มขึ้นถึง 153% ทันที
ประเทศที่ยอดเพิ่มขึ้นมากๆ ได้แก่ โปแลนด์เพิ่มขึ้น 328%, สเปนเพิ่มขึ้น 215%, อิตาลีเพิ่มขึ้น 202%, เดนมาร์กเพิ่มขึ้น 198% และเนเธอแลนด์เพิ่มขึ้น 157% ทำให้ผู้บริหาร Opera ออกมาให้ข่าวเรื่องนี้ทันทีว่านี่เป็นการยืนยันว่า เมื่อผู้ใช้มีทางเลือก ผู้ใช้จะไม่ยึดติดกับเบราเซอร์หลักๆ เช่นเดิม
เรื่องน่าสนใจคือหน้าจอนี้จะโผล่ขึ้นมาในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งใหม่ ส่วนเครื่องที่ติดตั้งแล้วก็จะถูกเรียกโปรแกรมเลือกเบราว์เซอร์นี้ผ่านทาง Windows Update อีกด้วย
เว็บไซต์ Tom's Hardware ได้ทดสอบความเร็วของเว็บเบราว์เซอร์ทั้ง 5 ยี่ห้อ หลังจาก Opera ออกรุ่น 10.5 ที่โฆษณาว่า "เร็วที่สุดในโลก" เพื่อทดสอบว่าคำอ้างนี้เป็นจริง หรือเป็นเพียงคำโฆษณาเกินจริง
การทดสอบแบ่งเป็นหลายส่วน ทั้งหมดทดสอบบนวินโดวส์ ผมคัดมาเฉพาะสรุปผลผู้ชนะในแต่ละส่วนนะครับ
หลังจากที่ Desktop Team บ้าระห่ำปล่อย RC ออกมาถึง 5 RC ภายใน 2 วัน วันนี้ก็ได้ออก Opera 10.50 ตัวเต็มเวอร์ชั่นสำหรับ Windows มาแล้วครับ (ส่วนระบบปฏิบัติการอื่นๆ รอกันไปก่อนครับ)
โดยรวมแล้วสิ่งที่เปลี่ยนไปต่างๆ ก็คือตามที่ได้เสนอไว้แล้วในข่าวเก่า (1, 2, 3) สามารถสรุปออกมาได้ดังนี้
หลังจากที่เพิ่งออกตัว Beta ไปได้ไม่นาน (Beta 2 นั้นเพิ่งออกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว) วันนี้ Opera ก็ได้ปล่อยตัวจริงของ Opera 10.50 สำหรับ Windows มาให้ใช้กันแล้วครับ โดยสามารถไปดาวน์โหลดได้จากหน้า Download ครับ
รุ่นสำหรับ Mac/Linux นั้นยังไม่คลอดตัวเต็มแต่คาดว่าคงรอกันอีกไม่นาน ทบทวนกันอีกทีในรุ่น 10.50 นี้มีคุณสมบัติหลักๆ คือ
หลังจากที่ Opera ได้ปล่อย Opera 10.50 Beta for Mac มาให้ได้ทดสอบกัน ซึ่งมีจุดเด่นๆ ดังนี้
ตอนนี้ทาง Computerworld ได้ทำการทดสอบ quick JavaScript benchmarks พบว่า Opera 10.50 Beta for Mac สามารถประมวลผลได้เร็วกว่า Safari 4 ที่ราวๆ 10% (ส่วน Nightly Build ช้ากว่าเป็นเท่าตัว) และยังเร็วกว่า Chrome อีกด้วย (ดูภาพประกอบการทดสอบได้จากที่มา)
อย่างไรก็ตาม ส่วนต่างความเร็วนี้อาจจะเห็นได้ไม่ชัดเจนมากนัก
เมื่อไม่นานมานี้ Opera เพิ่งจะปล่อย Opera 10.50 Beta มาให้ลองใช้กัน วันนี้ Opera ยังคงฟิตไม่เลิก ได้ปล่อย Opera 10.50 Beta 2 มาให้ทดสอบกันแล้วครับ
ใน Beta 2 สิ่งที่เปลี่ยนไปเด่นๆ มีดังนี้
เบราว์เซอร์หลักแต่ละตัวในตลาดตอนนี้ ต่างก็มี Developer Tools เป็นของตัวเอง ซึ่ง Opera ก็มี Developer Tools ของตัวเองเช่นกัน ในชื่อว่า Dragonfly
ไม่กี่วันก่อน Opera ได้ออกมาประกาศโอเพนซอร์สให้กับ Dragonfly เป็นที่เรียบร้อย โดยใช้สัญญาอนุญาตแบบ BSD ผู้ที่สนใจสามารถใช้ Mercurial เชื่อมต่อเข้าไปยัง Opera Dragonfly STP-1 repository ได้ทันที ส่วนเอกสารประกอบสามารถหาอ่านได้ใน Wiki
ที่มา : Opera Dragonfly
จากข่าวเก่า Opera เปิดตัว Opera Mini for iPhone และได้โชว์เดโมของจริงในงาน Mobile World Congress ทีมงานของ Engadget ไปลองจับมาแล้ว และพบว่ามันเร็วกว่า Mobile Safari ของ iPhone ถึง 5 เท่าตัว (เว็บที่ทดสอบคือหนังสือพิมพ์ The New York Times)
สูตรลับของความเร็วเกิดจากการประมวลผลเว็บเพจที่เซิร์ฟเวอร์ของ Opera ก่อน ซึ่งเป็นวิธีเดียวกับที่ใช้ใน Opera Mini บนมือถือรุ่นอื่นๆ อย่างไรก็ตามมันยังไม่รองรับการซูมแบบสองนิ้วมัลติทัชที่มีใน Safari
สืบเนื่องจากที่ Opera เปิดตัว Opera 10.5 Pre-Alpha ไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ตอนนี้ทาง Opera ก็ได้ออกตัว beta ให้ได้ทดสอบกันแล้วครับ โดยหลักๆที่มีการเปลี่ยนแปลงก็คือการปรับปรุงเรื่องเสถียรภาพของการใช้งานและกำจัดบั๊กต่างๆ รวมถึงยังแต่งหน้าทาปากเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย ที่น่าสนใจก็คือ ทาง Opera ได้กลับมาใช้สโลแกนเดิม "The fastest browser on Earth" หลังจากที่เคยเสียตำแหน่งแชมป์ให้กับ Firefox และ Chrome ไป โดยตอนนี้สามารถดาวน์โหลดได้จากหน้าเว็บโอเปร่าเลยครับ
วันนี้ Opera ได้ปล่อย Developer Build เวอร์ชั่นล่าสุดออกมาให้ใช้กันแล้ว นั่นคือ Opera 10.50 Pre-Alpha นั่นเอง ในเวอร์ชั่นนี้มาพร้อมกับอะไรใหม่ๆ อีกเพียบ (แน่นอน รวมถึง Carakan ด้วย!) คร่าวๆ ก็มีดังนี้ครับ
เมื่อเดือนมิถุนายน ทาง Opera ได้เปิดตัวฟีเจอร์ Opera Unite เว็บเซิร์ฟเวอร์ภายในเว็บเบราว์เซอร์ และเรียกเสียงฮือฮาได้พอสมควร อย่างไรก็ตามตอนที่ Opera 10 ออกเมื่อเดือนกันยายน ฟีเจอร์นี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์พร้อมออกในรุ่นจริง
หลังจากที่ปล่อย Opera Mini 5 Beta ออกมาให้ลองใช้กันพักใหญ่ๆ วันนี้ก็ถึงคิวของ Opera Mobile 10 Beta บ้างแล้วครับ สิ่งที่เปลี่ยนแปลงหลักๆใน Opera Mobile 10 Beta มีดังนี้
เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ใช้บริการ My Opera ได้มียอดแตะถึง 3 ล้านคนแล้ว
สัปดาห์ที่แล้ว ทาง My Opera จึงออกมาจัดกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเพิ่มจำนวนผู้ใช้ให้มากขึ้น โดยประกาศออกมาว่า เมื่อมีผู้ใช้งานรวมจนถึง 3.5 ล้านคน ทาง My Opera จะทำการเพิ่มพื้นที่ใช้งานให้ผู้ใช้ทั้งหมดขึ้นเป็น 2GB
อนึ่ง My Opera เป็นบริการ Social Network ของทาง Opera ซึ่งภายในจะมี blog, photo album และพื้นที่เก็บไฟล์รวมทั้งหมด 1GB ให้กับสมาชิกทุกคน
ที่มา : My Opera
ป.ล. มีใครใช้บ้างหรือเปล่า ?
เมื่อวานนี้ ทาง Opera Software ได้ปล่อย Opera Mini 5 Beta ออกมาให้ผู้ใช้ทั่วไปทดสอบกันแล้ว
ใน Opera Mini 5 Beta มีการปรับปรุงและพัฒนาขึ้นมาในหลายๆ จุด ซึ่งมีส่วนที่สำคัญดังนี้
ช่วงหลังนั้นความนิยมของเบราว์เซอร์ใหม่ๆ มักจะวัดกันด้วยอัตราการดาวน์โหลดในช่วงแรกๆ ไม่ว่าจะเป็น Firefox 3.5 ทำได้ 5 ล้านครั้งใน 24 ชม. หรือ Safari 4 ทำได้ 11 ล้านครั้งใน 3 วัน มาวันนี้ Opera ที่เพิ่งจะออกตัวจริงไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ก็มีสถิติมาโชว์กับเขาเหมือนกันครับ
โฆษกของ Opera ประกาศว่า Opera 10.0 ตัวจริงจะเปิดให้ดาวน์โหลดกันวันนี้ (1 กันยายน) ตามเวลาฝรั่ง (ไม่รู้ฝรั่งไหนอีกเหมือนกันครับ เพราะ Opera อยู่นอร์เวย์)
ฟีเจอร์ใหม่ของ Opera 10 มีดังนี้
นิตยสาร Forbes ได้ออกมาแนะนำกับผู้ใช้งานว่าหากผู้ใช้ต้องการความปลอดภัย ก็หันไปใช้ Opera แทน เนื่องจากว่าบรรดาแฮกเกอร์จะมุ่งโจมตี Windows Internet Explorer และ Mozilla Firefox เสียมากกว่า เนื่องจากว่าทั้งสองเบราว์เซอร์นี้มีส่วนแบ่งการตลาดจำนวนมาก (IE อยู่ที่ราวๆ 60% และ Firefox อยู่ที่ราวๆ 30% - Forbes อ้างอิงด้วย Statcounter)
Forbes ยังยกเรื่องการตรวจพบข้อบบกพร่องของเบราว์เซอร์แต่ละตัวขึ้นมาด้วย ซึ่ง IE มี 31 จุด, Safari มี 32 จุด ส่วน Firefox มี 115 จุด ในขณะที่ Opera มีเพียง 30 จุด ในขณะเดียวกัน ก็พบว่าแฮกเกอร์จำนวนมากนิยมใช้ Opera เช่นกัน (อยู่ที่ราวๆ 27% แต่ก็ยังตาม Firefox ที่ 33%)