ช่วงหลังนั้นความนิยมของเบราว์เซอร์ใหม่ๆ มักจะวัดกันด้วยอัตราการดาวน์โหลดในช่วงแรกๆ ไม่ว่าจะเป็น Firefox 3.5 ทำได้ 5 ล้านครั้งใน 24 ชม. หรือ Safari 4 ทำได้ 11 ล้านครั้งใน 3 วัน มาวันนี้ Opera ที่เพิ่งจะออกตัวจริงไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ก็มีสถิติมาโชว์กับเขาเหมือนกันครับ
โฆษกของ Opera ประกาศว่า Opera 10.0 ตัวจริงจะเปิดให้ดาวน์โหลดกันวันนี้ (1 กันยายน) ตามเวลาฝรั่ง (ไม่รู้ฝรั่งไหนอีกเหมือนกันครับ เพราะ Opera อยู่นอร์เวย์)
ฟีเจอร์ใหม่ของ Opera 10 มีดังนี้
นิตยสาร Forbes ได้ออกมาแนะนำกับผู้ใช้งานว่าหากผู้ใช้ต้องการความปลอดภัย ก็หันไปใช้ Opera แทน เนื่องจากว่าบรรดาแฮกเกอร์จะมุ่งโจมตี Windows Internet Explorer และ Mozilla Firefox เสียมากกว่า เนื่องจากว่าทั้งสองเบราว์เซอร์นี้มีส่วนแบ่งการตลาดจำนวนมาก (IE อยู่ที่ราวๆ 60% และ Firefox อยู่ที่ราวๆ 30% - Forbes อ้างอิงด้วย Statcounter)
Forbes ยังยกเรื่องการตรวจพบข้อบบกพร่องของเบราว์เซอร์แต่ละตัวขึ้นมาด้วย ซึ่ง IE มี 31 จุด, Safari มี 32 จุด ส่วน Firefox มี 115 จุด ในขณะที่ Opera มีเพียง 30 จุด ในขณะเดียวกัน ก็พบว่าแฮกเกอร์จำนวนมากนิยมใช้ Opera เช่นกัน (อยู่ที่ราวๆ 27% แต่ก็ยังตาม Firefox ที่ 33%)
วันนี้ Opera ปล่อยบริการใหม่ที่ทาง Opera นั้นเชื่อว่าเป็นการสร้างเว็บในรูปแบบใหม่ ("Reinvented the web") ในชื่อว่า Opera Unite ครับ หลักการของมันคร่าวๆ ก็คือเบราว์เซอร์ Opera 10 รุ่นใหม่ๆ นั้นจะฝังเว็บเซอร์เวอร์ที่ใช้งานง่ายสำหรับผู้ใช้ทั่วไปตามบ้านเข้าไปไว้ด้วยครับ
หลังจากไมโครซอฟท์ได้ประกาศข้อเสนอที่จะปล่อย Windows 7 E ที่ไม่มี Internet Explorer ออกมาจำหน่ายให้กับลูกค่าทั่วไปและผ่านผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งระบบปฏิบัติการจากโรงงาน (OEMs) แล้ว (ดูข่าวเก่า ไปแล้ว ก็มีเสียงตอบรับจากผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น European Commission (EC) หรือกระทั่งหัวเรี่ยวหัวแรงในศึกครั้งนี้อย่าง Opera
เมื่อปลายปีที่แล้ว ทาง Opera Software ASA ได้ออก Opera 10 Alpha มาให้ลองเล่นกัน และคราวนี้ ถึงคิวของ Opera 10 Beta แล้วครับ
ในเวอร์ชั่น Beta มีสิ่งที่เพิ่มเข้ามาดังนี้
Opera เคยเป็นผู้นำด้าน mouse gesture เมื่อหลายปีก่อน ในปีนี้ทางบริษัทพร้อมจะเป็นผู้นำในเรื่อง face gesture หรือการท่องเว็บด้วยใบหน้า อีกครั้งหนึ่ง
ฟีเจอร์นี้จะใช้ได้กับคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งกล้องเท่านั้น ภาพที่ได้จากกล้องจะถูกแปลงเป็น Face Observation Opera Language และเทียบกับคำสั่งที่ใช้ใน Opera ต่อไป เช่น พยักหน้าสองทีคือเปิดแท็บใหม่, ส่ายหน้าคือ reload เป็นต้น ถ้าใครไม่เชื่อว่าข่าวนี้เป็นจริง ก็ดูวิดีโอประกอบได้ด้านใน หรือจะดาวน์โหลด Opera 10a with Face Gestures มาทดสอบด้วยตนเองก็ได้
Opera Mobile รุ่นถัดไป 9.7 จะสนับสนุนฟีเจอร์ที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดบนมือถือในตอนนี้ นั่นคือ Flash นั่นเอง (เป็น Flash Lite นะครับ) นอกจาก Flash ยังตามมาด้วย Google Gears เอาไว้อ่าน Gmail แบบออฟไลน์ได้ และในกรณีที่มือถือของคุณมี GPU (พวก HTC ทั้งหลาย) ก็สามารถใช้ประโยชน์จาก OpenGL ES ให้ช่วยเรนเดอร์เอฟเฟคต์ต่างๆ ได้เช่นกัน
ฟีเจอร์สำคัญอีกตัวคือ Opera Turbo (ดูข่าวเก่า บีบอัดเว็บด้วย Opera Turbo, Opera ออก Opera Turbo ให้ลองเล่นแล้ว) วิดีโอเปรียบเทียบความเร็วของการใช้-ไม่ใช้ Turbo มีให้ดูด้านใน
วันนี้ Opera ออกเบราเซอร์ที่มีคุณสมบัติใหม่ นั่นคือ Opera Turbo ซึ่งเคยเปิดตัวเทคโนโลยีไปเมื่อเดือนที่แล้ว (ลองอ่านข่าวเก่าประกอบ) วันนี้ Opera เปิดให้ลองตัวจริงแล้วครับ สามารถดาวน์โหลดได้ที่ Opera Labs โดยมีทั้งรุ่นสำหรับวินโดวส์, ลินุกซ์ และ OS X นะครับ
ติดตั้งลงไปเหมือน Opera ปกติ โดยรุ่นที่มีให้ดาวน์โหลดนี้คือ 10.00 1 Build 1355 ครับ
Opera เปิดตัวเทคโนโลยี Opera Turbo ซึ่งจะช่วยบีบอัดขนาดของเว็บเพจลงได้สูงสุดถึง 80%
การทำงานจะคล้ายๆ กับพร็อกซี คือเว็บเพจจะต้องผ่านเซิร์ฟเวอร์ของ Opera (เรียกว่า "Opera Turbo Server") ก่อนจะบีบอัดแล้วส่งไปให้ตัวเบราว์เซอร์ที่สนับสนุนความสามารถนี้ ซึ่งได้แก่ Opera Desktop, Opera Mobile และ Opera Devices SDK (เช่น บนทีวีหรือเครื่องเกม)
มีให้ดาวน์โหลดแล้วทั้งวินโดวส์ แมค และลินุกซ์
รายการเปลี่ยนแปลงสำคัญ
ผมยังถามคำถามเดิมว่า แฟนๆ Opera แถวนี้ไม่คิดจะเปิดชุมชนผู้ใช้ Opera กันรึครับ?
ที่มา - Opera
หลังจากที่มีข่าวลือเรื่องแอปเปิลไม่ยอมรับ Opera Mini เข้าใน App Store แล้วปรากฏว่าทาง Opera ยังไม่ได้ส่งเข้าไปใน App Store แต่อย่างใด วันนี้เอง Opera Mini 4.2 beta ก็มีการเปิดให้ดาวน์โหลดรุ่นสำหรับ Android กันแล้ว
แม้ว่าเบราเซอร์ใน Android จะนับได้ว่าเป็นเบราเซอร์ที่ดีมากอยู่แล้ว แต่ Opera Mini ก็ยังมีประโยชน์มากหากต้องการเข้าถึงเว็บให้เร็วขึ้น เนื่องจากการส่งข้อมูลไปยังเบราเซอร์จะใช้ฟอร์แมต OBML ของทาง Opera เองทำให้ส่งข้อมูลได้เร็วกว่า HTML ตามปรกติ
แหล่งข่าวที่ไม่ต้องการถูกเปิดเผยชื่อได้ให้ข้อมูลแก่ John Gruber ว่าจริงๆ ทาง Opera ได้ทำการพัฒนา Opera Mini สำหรับ iPhone เพียงแต่ยังไม่ได้ทำส่งเข้าสู่กระบวนการตรวจรับของทางแอปเปิล ซึ่งทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนว่า Opera Mini ถูกปฏิเสธให้นำเข้าสู่ App Store
Gruber เคยเชื่อว่าปัญหาที่แท้จริงเกิดจากตัวแปลภาษาจาวาสคริปต์ซึ่งขัดกับข้อตกลงการใช้งานของชุดพัฒนาซอฟท์แวร์ แต่แท้ที่จริงแล้วจากการพูดคุยกับแหล่งข่าวทำให้ทราบว่าทาง Opera ไม่ได้ใช้ตัวแปลภาษาใดๆ เลยในซอฟท์แวร์ชุดนี้
หลังจากมีคดีกับนักพัฒนารายย่อยๆ อยู่จำนวนมากพอสมควร แอปเปิลก็มีประเด็นล่าสุดกับ Opera ที่ต้องการขายบราวเซอร์ของตนใน App Store ของทางแอปเปิล โดยให้เหตุผลว่าเป็นการทำความสามารถที่ทับซ้อนกันบราวเซอร์เดิมในไอโฟนอยู่แล้ว
อย่างไรก็ดีเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจนัก เพราะในข้อตกลงกับนักพัฒนานั้นแอปเปิลระบุไว้ชัดเจนว่าจะไม่ยอมรับซอฟต์แวร์ที่ใช้รันซอฟต์แวร์อื่นๆ บนตัวเองอีกขั้นหนึ่ง ในกรณีนี้ตัว Opera Mini นั้นสามารถรันจาวาสคริปต์ได้ นับว่าผิดต่อข้อตกลงนี้ชัดเจน
เอา Android มาแพตซ์แล้วขายเป็นเฟิร์มแวร์รุ่นที่เป็น Opera เลยก็น่าจะได้อยู่นะ
ที่มา - ArsTechnica
เพื่อใช้ในการวิจัยครั้งนี้ Opera ได้สร้างเครื่องมือชื่อ Metadata Analysis and Mining Application (MAMA) เพื่อทำการดึงเว็บมาทำดัชนีและวิเคราะห์เป็นจำนวนกว่า 3.5 ล้านหน้า
โดย HTML แท็กที่นิยมมากที่สุดคือ HEAD, TITLE, HTML, BODY, A, META, IMG และ TABLE ส่วนแท็กที่นิยมน้อยที่สุดคือ VAR, DEL และ BDO (น้อยจริงๆ ผมยังไม่รู้จักเลย) ในส่วนของ Rich Web Content เทคโนโลยีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายก็คือ Ajax ใช้กันประมาณ 3.2% และยังพบว่าเป็นจำนวนถึง 35% ที่ใช้ Adobe Flash หากดูเฉพาะในจีน ใช้ Flash กันมากถึง 67% ส่วน CSS ใช้กันมากถึง 80% โดยมากจะเป็นเรื่องของสีและฟอนต์ และ JavaScript นั้นพบถึง 75%
Jon Hicks ดีไซเนอร์ชื่อดังชาวอังกฤษ ซึ่งผลงานที่โดดเด่นที่สุดคือโลโก้ของ Firefox กับ Thunderbird ได้ประกาศบนบล็อกของตัวเองว่า เขาได้เริ่มงานในตำแหน่ง Senior Designer กับ Opera แล้ว โดยหน้าที่หลักคือ Opera desktop, Widgets และ Mobile/Mini
Opera เปิดตัวเว็บเบราว์เซอร์สำหรับสมาร์ทโฟนตัวใหม่ล่าสุด Opera Mobile 9.5 beta เพื่อรับมือกับความร้อนแรงของ iPhone โดยเบราว์เซอร์ตัวใหม่นี้จะรองรับแพลตฟอร์มทั้ง Windows mobile, Symbian และ Linux โดยมีคุณสมบัติที่เหนือกว่า iPhone คือรองรับ JavaScript, AJAX รวมถึง Flash ด้วย
Opera Mobile 9.5 นี้ยังเร็วกว่าตัวเดิม (Opera Mobile 8.65)และเร็วกว่า IE ถึง 2.5 เท่า โดย Opera ได้ทำการออกแบบ UI ใหม่ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
คุณสมบัติอื่นๆ เช่น การซูมเว็บเพจ, แท็บ, widgets, password manager นั้นมีพร้อมไม่ต่างจากเวอร์ชันบนพีซีอีกด้วย
ใครมีสมาร์ทโฟนสามารถลองโหลดมาใช้ได้ฟรี 30 วัน ที่นี่
Opera 9.5 ออกแล้วทั้งเวอร์ชันวินโดวส์ แมค และลินุกซ์
ฟีเจอร์ใหม่
ที่มา - Opera Press ผ่าน OSNews
หลังจาก Firebug ออกมาให้เหล่าผู้พัฒนาเว็บไซต์ได้ debug เว็บเพจได้ง่ายดายดุจดับเบิ้ลคลิกเม้าส์ ทำให้ชุมชนผู้พัฒนาเว็บไซต์ต่างพากันรองรับไฟร์ฟ็อกซ์เป็นหลักและมักจะพัฒนาให้รองรับ Internet Explorer มาตามหลัง (เพราะโดนผู้ใช้งานส่วนใหญ่กดดัน)
ทำให้เบราว์เซอร์สุดเก๋าอย่าง Opera ไม่ยอมน้อยหน้า ออก Dragonfly สำหรับ Opera 9.5 beta โดยลอกแบบ อุ๊ฟฟไม่ใช่ ....ได้รับแรงบันดาลใจจาก Firebug มาโดยตรงเวอร์ชันนี้ (0.7 alpha) มีความสามารถดังต่อไปนี้....
ไหนๆ Firefox ก็ออก beta 5 มาแล้ว Opera จะอยู่เฉยได้อย่างไร ก็เลยขอแจมออก Beta มั่ง!!
สำหรับคออินเทอร์เน็ต ผู้คลั่งไคล้การเยี่ยมชมเว็บบนโทรศัพท์มือถือ คิดว่าน้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก Opera Mini โปรแกรมเบราว์เซอร์บนโทรศัพท์แบบจาวา สามารถรันได้บนโทรศัพท์ได้แทบทุกรุ่น ที่รองรับ J2ME
ปัจจุบัน Opera Mini ได้ออกมาถึงรุ่น 4.0 แล้ว โดยมีข้อแตกต่างหลักๆ จาก Micro-browser บนโทรศัพท์เป็นความสามารถในการแสดงผล และขนาดของการดาวน์โหลดข้อมูล ซึ่ง Opera Mini ใช้เทคนิค remote transcoder ทำให้ข้อมูลที่ต้องส่งผ่านมีขนาดเล็กกว่าปกติ และไม่ต้องอาศัยพลังในการปะมวลผลที่ฝั่งโทรศัพท์มากนัก
ทีมงานของ Opera ได้เปิดเผยผ่านบล็อก ว่าหลังจากที่ทีมงานทำงานอย่างหนัก ตอนนี้ Opera สามารถผ่านการทดสอบ Acid3 ได้ 100% เป็นเจ้าแรกแล้ว แต่ยังมีสิ่งที่ต้องแก้ไขเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย และอาจจะปล่อยเวอร์ชัน Technical preview ในสัปดาห์หน้า
ส่วน Safari ตามมาติด ๆ ที่ 98% และ Firefox 3 beta 4 อยู่ที่ 71% แต่ยังไม่เห็นชื่อของ IE ในข่าวเลยแฮะ
ที่มา - my.opera.com , SlashDot
Backbase ผู้พัฒนา Rich Internet Application ด้วย Ajax ได้ประกาศผลทดสอบความเร็วของ JavaScript ในเบราเซอร์รุ่นใหม่ๆ รวมทั้งรุ่น beta และบรรดา nightly build
ผลโดยรวมออกมาเป็น Safari, Firefox 3, Opera, Firefox2 ท้ายสุดเป็น IE แต่จากผลทดสอบนี้ Opera ทำไม่ได้ดีในส่วนของ Core JavaScript performance
ตัวเลขอ้างอิง ยิ่งต่ำยิ่งดี หน่วยวัดเป็นมิลลิวินาที
ที่มา: Backbase Developer Network
Cybernet รายงานผลการเปรียบเทียบความเร็วของ JavaScript engine ในเบราเซอร์ต่างๆ ด้วย SunSpider JavaScript Benchmark ของ WebKit.org ซึ่งทดสอบเฉพาะการทำงานของ JavaScript engine ไม่รวม DOM ได้ผลดังนี้
เมื่อวันพฤหัสที่ ๑๓ ธันวาคม ศกนี้ โอเปร่า บริษัทซอฟท์แวร์นอรเวย์ได้ยื่นฟ้อง ไมโครซอฟท์ต่อคณะกรรมาธิการยุโรปว่าการติดตั้ง IE ผนวกรวมกับวินโดวส์ เป็นการ กระทำความผิดตามกฎหมายต่อต้านการผูกขาดของยุโรป
คดีนี้ยื่นฟ้องหลังจากที่ไมโครซอฟท์ได้แพ้คดีครั้งประวัติศาสตร์ในข้อหาผนวกรวมโปรแกรม มีเดียเพลเยอร์กับวินโดวส์ เมื่อเดือนกันยายน ศกนี้ เพียงไม่ถึง ๒ เดือน
ในคดีก่อน ศาลอุทธรณ์ยุโรปได้พิพากษาตามมติของคณะกรรมาธิการยุโรปว่า การติดตั้งโปรแกรมมัลติมีเดียเพลเยอร์ผนวกรวมกับวินโดวส์ เป็นการกระทำความผิด ตามกฎหมายต่อต้านการผูกขาดของยุโรป ให้ไมโครซอฟท์จำหน่ายวินโดวส์ที่ไม่มี โปรแกรมมัลติมีเดียเพลเยอร์ และจ่ายค่าปรับจำนวนมหาศาลเป็นเงิน ๔๙๗.๒ ล้านยูโร หรือเท่ากับ ๗๓๖ ล้านเหรียญสหรัฐ
บริษัท Opera ยื่นเอกสารร้องเรียนต่อคณะกรรมการยุโรป (European Commission) ว่าไมโครซอฟท์ผูกขาดเว็บเบราว์เซอร์ และไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานเว็บ
สิ่งที่ Opera เรียกร้องมี 2 ประการ