หลังจากร้างราวงการหุ่นยนต์ไปนาน Sony เผยจะกลับมาผลิตหุ่นยนต์แล้ว เตรียมทำ Aibo หุ่นยนต์หมาที่เป็นทั้งเพื่อนเล่นและเป็นศูนย์ควบคุมอุปกรณ์ในบ้านผ่านการสั่งการเสียง
Sony วางแผนจะทำให้เป็นแพลตฟอร์มแบบเปิดเพื่อให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ภายนอกเข้ามาพัฒนาเพิ่มความสามารถต่อได้ Kazuo Hirai ซีอีโอ Sony เคยพูดเป็นนัยไว้เมื่อปี 2016 ว่า จะทำหุ่นยนต์ใช้ในภาคอุตสาหกรรม แต่มีผู้เล่นในตลาดนี้มากและมีเจ้าใหญ่ที่ได้ส่วนแบ่งการตลาดมากอยู่แล้ว Sony จึงจะหันมาเน้นที่หุ่นยนต์ใช้ในบ้าน มองว่ามีโอกาสดีกว่า
The Guardian เผย Elon Musk และ Mustafa Suleyman ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI จาก Google และผู้คนจากองค์กรด้านเทคโนโลยีรวม 116 รายร่วมลงนามในจดหมายเปิดผนึกร้องต่อองค์การสหประชาชาติ (UN) ให้ยุติการใช้อาวุธสังหารอัตโนมัติ (killer robots หรือ lethal autonomous weapons) เมื่อไม่นานมานี้ UN เพิ่งจะมีการโหวตให้เริ่มหารือกันอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ซึ่งรวมทั้งโดรน รถถัง ปืนกลอัตโนมัติ
ดูไบวางแผนจะใช้ตำรวจหุ่นยนต์ หรือ Dubai Police Robot ทดแทนคน 25% ภายในปี 2030 ประชาชนสามารถเข้าไปติดต่อแจ้งความ สอบถามข้อมูลทั่วไป และถือเป็นการทดลองให้หุ่นยนต์สืบสวนคดีทั่วไปแทนคนด้วย อย่างไรก็ตาม หุ่นยนต์จะไม่มีสิทธิ์จับกุมคนและห้ามใช้ปืนอย่างเด็ดขาด
สิ่งที่มนุษย์กลัวเกิดขึ้นแล้ว บริษัท Shentong Express ทำเรื่องการขนส่งทางเรือในจีน แถลงว่าได้เริ่มนำระบบอัตโนมัติ และหุ่นยนต์มาทำงานทดแทนคนในส่วนงานของโกดังแล้ว
สำนักข่าว South China Morning Post เผยแพร่วิดีโอจากโกดังบริษัท Shentong Express เผยให้เห็นหุ่นยนต์ทรงสี่เหลี่ยมสีส้ม ขนาดไม่ใหญ่มาก เคลื่อนย้ายพัสดุจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง โดยบนพื้นราบมีช่องให้หุ่นยนต์ปล่อยสิ่งของลงไป หุ่นยนต์ดังกล่าวผลิตโดยบริษัท Hikvision
ในวิดีโอมีคนช่วยทำงานคือนำสิ่งของวางบนตัวหุ่นยนต์ หลังจากนั้นเป็นหน้าที่ของหุ่นยนต์ทั้งหมด บริษัท Shentong ระบุว่าเพิ่งจะเริ่มใช้หุ่นยนต์ในโกดังสองแห่งเท่านั้น คาดว่าจะยายให้ใช้ในโกดังทั่วประเทศเร็วๆ นี้
Bill Gates เคยเสนอไอเดียให้งานที่ใช้หุ่นยนต์ทำแทนมนุษย์จะต้องเสียภาษี โดยให้เหตุผลว่าช่วยชะลอสังคมที่หุ่นยนต์เป็นแรงงานสำคัญแทนมนุษย์ ไม่ให้มาถึงเร็วเกินไป ให้มนุษย์ได้มีเวลาเตรียมตัว และช่วยให้ผู้ใช้มีเวลามากขึ้นในการทำงานอื่นที่ดีกว่า
ไอเดียที่ว่าสร้างความฮือฮาในสังคมโลกไปช่วงหนึ่ง ล่าสุดไม่เพียง Bill Gates แต่ยังมี Jane Kim นักการเมืองชาวเกาหลีประจำการที่ซานฟรานซิสโกที่อยากรู้ว่าจะเป็นอย่างไรหากให้เสียภาษีหุ่นยนต์ จะสามารถเติมเต็มปัญหาความไม่เท่าเทียมกันได้หรือไม่
ก่อนหน้านี้เราเคยได้ยินข่าวทดลองใช้หุ่นยนต์ให้บริการส่งสินค้าถึงบ้านกันมาบ่อยครั้ง แต่ยังไม่เคยได้ยินว่ามีที่ไหนนำเรื่องนี้เป็นกฎหมายอย่างจริงจัง รอบนี้ รัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐฯ เป็นที่แรกที่ทำเรื่องนี้ เปิดให้ 'หุ่นยนต์ส่งของ' สามารถใช้พื้นที่ทางเท้าในการให้บริการลูกค้าได้ทั่วรัฐอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีผล 1 กรกฎาคมนี้
Ron Villanueva และ Bill DeSteph นักกฎหมายร่วมมือกับบริษัท Starship Technologies ผู้ผลิตหุ่นยนต์ส่งของ ในการผลักดันและร่างกฎหมายดังกล่าว
กฎหมายระบุว่า อนุญาตให้หุ่นยนต์เดินทางเฉพาะทางเท้าและทางม้าลายเท่านั้น การที่ Starship ผลักดันเรื่องนี้ให้มีผลทางกฎหมายเป็นการเปิดทางให้คู่แข่งอย่าง Marble และ Dispatch เข้ามาทำการตลาดในพื้นที่นี้ด้วย
ฮอนด้า ประเทศญี่ปุ่นเปิดแล็บใหม่ในโตเกียว เน้นวิจัยเรื่องปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ และพลังงานโดยเฉพาะ ใช้ชื่อแล็บว่า R&D Center X เริ่มเปิดเดือนเมษายน
ทางแล็บจะเน้นทำการวิจัยเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด ในขณะเดียวกันก็เป็นเทคโนโลยีที่จับต้องได้ ไม่เหนือจริงเกินไป ผลการวิจัยต้องสามารถนำมาใช้ทางการตลาดได้ ทางฮอนด้าระบุว่า การวิจัยหุ่นยนต์เห็นผลแน่นอนในปีหน้า และภายในปี 2020 จะเห็นความคืบหน้าการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ
เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็หันมาสร้างหุ่นยนต์ใช้งานในชีวิตประจำวันกันแล้ว ล่าสุดบริษัท Piaggio Group เจ้าของเดียวกันกับบริษัทรถ Vespa เปิดบริษัทอีกแห่งที่เน้นงานหุ่นยนต์โดยเฉพาะในชื่อว่า Piaggio Fast Forward โดยผลิตภัณฑ์แรกคือ หุ่นยนต์ขนของขนาดเล็กติดล้อ ติดตามเจ้าของไปทุกที่ หรือเรียกเขาว่า Gita (อ่านว่า jee-ta ในภาษาอิตาลีแปลว่า การเดินทางระยะสั้น)
Gita สูงประมาณ 26 นิ้ว จุของได้มากกว่า 40 ปอนด์ มีล้อ เคลื่อนตัวด้วยความเร็ว 22 ไมล์ต่อชั่วโมง ประโยชน์ของมันคือเจ้าของไม่ต้องลากมัน เพราะมันจะตามเจ้าของไปติดๆ เลย ตีวงเลี้ยวได้อย่างอิสระ ออกแบบมาเหมาะสำหรับคนที่ตะเดินไปซื้อของใกล้ๆ วิ่งออกกำลังกาย หรือขับจักรยาน
ทาง Piaggio Fast Forward ยังไม่เปิดเผยราคา บอกแค่ว่าจะเปิดขาย 2 กุมภาพันธ์นี้
หุ่นยนต์ส่งสินค้าของบริษัท Starship สตาร์ทอัพทำหุ่นยนต์โดยเฉพาะ เริ่มให้บริการส่งอาหารในลอนดอนไปเมื่อปีที่แล้ว โดยจับมือกับพาร์ทเนอร์เว็บไซต์ส่งอาหารคือ JustEat
ล่าสุด Starship กำลังเตรียมให้บริการในสหรัฐฯ เนื่องจากได้พาร์ทเนอร์มาเพิ่มคือ DoorDash และ Postmates (ผู้ให้บริการส่งอาหารในสหรัฐทั้งคู่)
ในขั้นแรก Starship จะทดลองให้หุ่นยนต์ลองทำงานในพื้นที่เมือง Redwood City รัฐแคลิฟอร์เนีย และกรุงวอชิงตันดีซีก่อน (พื้นที่ให้บริการของ DoorDash และ Postmates ตามลำดับ)
ManpowerGroup หนึ่งในบริษัทจัดหางานที่ใหญที่สุดในโลกทำรายงาน "The Skills Revolution" ว่าด้วยหุ่นยนต์กับการจ้าง ชี้ให้เห็นว่า หุ่นยนต์ จะเปลี่ยนแปลงการจ้างงานในอนาคตอย่างไรบ้าง
Manpower สำรวจนายจ้างกว่า 18,000 คน ใน 6 สาขาอุตสาหกรรม โดยรวมการจ้างงานในอนาคตระยะสั้นยังสดใส แต่บางประเทศเช่นอินเดีย คนทำงานอาจร้อนๆ หนาวๆ เพราะนายจ้างเล็งจะใช้หุ่นยนต์แทนที่คนมากที่สุด ด้านทักษะความสามารถ คนไอทีคือคนที่อนาคตสดใสที่สุด ที่น่าเป็นห่วงคือการเงินการบัญชี
บริษัท Rewalk Robotics Ltd. ผู้ทำเทคโนโลยีขาเทียมระบบหุ่นยนต์ให้กับทหารสหรัฐฯที่เป็นอัมพาต เผยเทคโนโลยีใหม่ soft exoskeleton ช่วยให้คนอัมพาตครึ่งล่างกลับมาเดินได้อีกครั้ง
soft exoskeleton ประกอบด้วยตัวเข็มขัดน้ำหนัก 8 ปอนด์ สายเคเบิล สายรัด แผ่นประคองเท้า ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีที่คิดค้นโดยสถาบัน Wyss ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ช่วยให้คนอัมพาต (ที่ไขสันหลังยังดีอยู่) กลับมาเดินได้อีกครั้ง และ Rewalk ยังสามารถใช้ได้กับผู้ป่วยโรค MS (โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง) และโรคพาร์กินสันด้วย
Dai Jia-peng ผู้จัดการทั่วไปของ Foxconn เปิดเผยว่าบริษัท มีแผนการจะใช้เครื่องจักรและหุ่นยนต์ในไลน์การผลิตทดแทนแรงงานมนุษย์ในระยะยาว เพื่อลดต้นทุนในระยะยาว
Foxconn ระบุว่าได้แบ่งกระบวนการนี้เป็น 3 เฟส โดยเฟสแรกซึ่งเริ่มไปแล้ว คือการนำหุ่นยนต์ที่ผลิตขึ้นเอง (Foxbot) ราว 40,000 ตัวมาใช้งานในไลน์การผลิตร่วมกับมนุษย์ หรือใช้ทดแทนในบางขั้นตอนเสี่ยงหรืออันตราย ขณะที่เฟสสอง เครื่องจักรทั้งหมดในไลน์การผลิตจะสามารถทำงานได้ด้วยตัวเองทั้งหมด เพื่อลดจำนวนการใช้งานหุ่นยนต์ลงไปด้วย ขณะที่เฟสสุดท้าย ทั้งโรงงานจะสามารถผลิตและทำงานได้ด้วยตัวเอง ขณะที่จะจ้างแรงงานให้น้อยที่สุดและในบางขั้นตอนเท่านั้น อาทิ โลจิสติกส์, กระบวนการทดสอบและการตรวจสอบ