Fitbit เปิดตัวสมาร์ทวอชรุ่นใหม่ Versa โดยมีดีไซน์ที่ทันสมัยกว่า Ionic สมาร์ทวอชรุ่นแรกจาก Fitbit พร้อมทั้งฟีเจอร์ที่คล้าย ๆ กันแต่ราคาถูกลง ซึ่งก็เป็นไปตามข่าวลือก่อนหน้า โดยราคาที่ถูกลงนี้ก็น่าจะเป็นไปตามแผนของ Fitbit ที่ซีอีโอเคยกล่าวไว้ในช่วงแถลงผลประกอบการว่าต้องการทำสมาร์ทวอชที่จับตลาดผู้ใช้กลุ่มใหญ่ขึ้น
ตัวเรือนของ Fitbit Versa จะเน้นที่ความเบา ใช้หน้าจอ 1.34 นิ้ว แบตเตอรี่สามารถอยู่ได้ 4 วันต่อการชาร์จหนึ่งครั้งหากใช้งานในโหมดปกติ รองรับการใช้งานกับมือถือ iOS, Android และ Windows
บริษัทวิจัยตลาด Canalys ออกรายงานตัวเลขประเมินยอดขาย Apple Watch ของปี 2017 ขายได้ 18 ล้านเรือน เพิ่มขึ้นถึง 54% จากปี 2016 ซึ่งมาจากยอดขายของ Series 3 เกือบครึ่งหนึ่ง
Canalys ประเมินว่ายอดขาย Apple Watch เฉพาะในไตรมาส 4/2017 ที่ผ่านมาอยู่ราว 8 ล้านเรือน ขณะที่บริษัทวิจัยอีกค่ายอย่าง IDC ก็ประเมินว่าถ้าเทียบกับยอดขายนาฬิกาจากสวิสแล้ว Apple Watch ขายได้มากกว่าจำนวนที่นาฬิกาสวิสทุกแบรนด์ขายได้รวมกันเสียอีก
ตัวเลขที่น่าสนใจอีกอย่างคือยอดขาย Apple Watch Series 3 แบบ Cellular ซึ่งขายไปได้แล้ว 1.6 ล้านเรือน แม้ตอนนี้จะยังจำกัดตลาดอยู่ แต่น่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นหลังเริ่มจำหน่ายในสิงคโปร์และฮ่องกง รวมทั้งเข้าสู่เทศกาลตรุษจีนพอดี
Michael Kors แบรนด์นาฬิกาหรูในเครือ Fossil ได้เปิดตัวแชทบอทใหม่เพื่อไว้คอยช่วยเหลือเจ้าของนาฬิกาในด้านต่าง ๆ รวมทั้งเปิดตัวสีและสไตล์ใหม่ของ Access Sofie และ Access Grayson สมาร์ทวอช Android Wear ของ Michael Kors ที่เปิดตัวปีที่แล้ว
สำหรับแชทบอทสำหรับสมาร์ทวอชโดย Michael Kors สามารถใช้งานได้ผ่าน Facebook Messenger และ Google Assistant โดยแชทบอทนี้จะมีหน้าที่ช่วยเหลือผู้ใช้นาฬิกา ตั้งแต่การตั้งค่าครั้งแรกไปจนถึงการใช้งานฟีเจอร์ต่าง ๆ โดยตอนนี้บอทจะใช้งานได้กับ Access Sofie ก่อน และทางบริษัทอาจจะขยายความสามารถให้ครอบคลุมนาฬิการุ่นอื่นอีกในอนาคต
Fitbit ได้เข้าซื้อสินทรัพย์จาก Pebble และให้คำสัญญาว่าบริการต่าง ๆ ของ Pebble จะใช้ได้ตลอดปี 2017 ซึ่งล่าสุด Fitbit ก็ได้ขยายการสนับสนุนบริการ Pebble เพิ่มเติมไปจนถึง 30 มิถุนายนปีนี้ เพื่อให้ผู้ใช้ Pebble ยังคงสามารถใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้เหมือนเดิม และให้นักพัฒนาแอพบนแพลตฟอร์ม Pebble มีเวลาในการพอร์ตแอพและคอนเทนต์ต่าง ๆ มาสู่ Fitbit Ionic
Ressence ผู้ผลิตนาฬิกาหรูจากเบลเยี่ยมได้เปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ Ressence Type 2 e-Crown Concept ในงานแสดงนาฬิกา Salon International de la Haute Horlogerie หรือ SIHH 2018 โดย Ressence กล่าวไว้ว่านาฬิการุ่นนี้มี Tony Fadell ผู้พัฒนา iPod และผู้ร่วมก่อตั้ง Nest เป็น tech coach ด้วย
นาฬิการุ่นใหม่นี้มีความพิเศษคือเทคโนโลยี e-Crown คือจะเป็นนาฬิกาแบบกลไกที่รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth โดยเมื่อเชื่อมต่อแล้วจะมีฟีเจอร์เพิ่มเติมคือการปรับเวลาอัตโนมัติตามตามเขตเวลาและ Daylight Savings
พร้อมกับการเปิดตัว Connected Modular 41 TAG Heuer ก็เปิดตัว Connected Modular 45 รุ่นพิเศษ Full Diamonds อย่างเป็นทางการด้วย
ตัวเรือนขึ้นจากทองคำขาว (white gold) 18K และฝังเพชรที่ความบริสุทธิ์ระดับ VVS ทั่วทั้งนาฬิกา ตั้งแต่สาย (495 เม็ด) ขาตัวเรือน (lug, 16 เม็ด) และขอบตัวเรือน (bezel, 78 เม็ด) รวมทั้งสิ้น 23.35 กะรัต ส่วนสเปคอื่นก็เหมือนเดิม (ข่าวเก่า)
หลังจากเปิดตัว Connected Modular 45 ไปเมื่อปีที่แล้ว เมื่อวานนี้ (ตามเวลาในไทย) TAG Heuer แถลงข่าวที่เมืองเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส เปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ Connected Modular 41 อย่างเป็นทางการ (ในข่าวจากนี้จะใช้ 41 แทนชื่อรุ่นใหม่ และ 45 แทนชื่อรุ่นเดิม)
ของใหม่ของ 41 คือขนาดของหน้าปัดที่เล็กลงจาก 45 มม. เหลือ 41 มม. ทำให้คนที่มีข้อมือเล็กสามารถสวมใส่ได้ (ที่ชัดเจนคือสุภาพสตรี) นอกจากนั้นแล้วยังมีการปรับปรุงทั้งหน้าจอ AMOLED กลมที่เพิ่มความละเอียดเป็น 326 ppi (390x390 พิกเซล), เพิ่มความสว่างจอสูงสุดเป็น 350 nits, เพิ่มหน่วยความจำเป็น 8 GB และแรม 1 GB ส่วนที่เหลือยกสเปคเดิมจาก 45 มาหมด
Garmin ได้เปิดตัว Forerunner 645 Music ซึ่งเป็นนาฬิกาสำหรับการใช้วิ่งและออกกำลังกาย ภายในตัวนาฬิกามี GPS และ GLONASS เอาไว้ติดตามการวิ่งและรองรับการใส่เพลงถึง 500 เพลง เพื่อใช้เล่นผ่านหูฟัง Bluetooth
นาฬิการุ่นใหม่ของ Garmin จะมาพร้อมเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจตลอดเวลา, GPS และ GLONASS สามารถติดตามผู้ใช้ขณะออกกำลังกายได้โดยไม่ต้องใช้การเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ, เครื่องมือวัดประสิทธิภาพการวิ่ง, Garmin Pay ระบบจ่ายเงินแบบไร้สัมผัส ให้ผู้ใช้ไม่ต้องพกบัตรเครดิตหรือเงินสดขณะออกกำลังกาย, รองรับการเชื่อมต่อกับ Connect IQ ของ Garmin เพื่อการปรับแต่งหน้าปัดนาฬิกา, วิดเจ็ต, แอพ ฯลฯ
Federal Network Agency จากเยอรมนีเตรียมแบนสมาร์ทวอชสำหรับเด็ก รวมถึงแนะนำให้ผู้ปกครองที่ซื้อสมาร์ทวอชสำหรับเด็กไปแล้วทำลายอุปกรณ์ทิ้ง เนื่องจากเป็นความกังวลด้านความเป็นส่วนตัวที่อาจถูกคุกคามได้จากอุปกรณ์เหล่านี้
ช่วงหลังมานี้อุปกรณ์สวมใส่สำหรับเด็กเริ่มเป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น แต่ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้มี GPS ที่สามารถระบุตำแหน่งได้ และอาจถูกแฮกได้ง่ายจากบุคคลภายนอก
แอปเปิลเปิดตัวนาฬิกา Apple Watch รุ่นที่สาม (Series 3) ที่มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญคือต่อเน็ตผ่าน cellular ได้ในตัวมันเอง ไม่ต้องพึ่งการต่อเน็ตจากสมาร์ทโฟนอีกต่อไป ช่วยให้การใช้งาน Apple Watch มีอิสระขึ้นมาก สามารถโทรศัพท์ได้โดยตรง และสตรีมเพลงจาก Apple Music ได้ด้วย
ในแง่ของฮาร์ดแวร์ แอปเปิลใช้ e-SIM ขนาดเล็กและการออกแบบเสาอากาศขนาดเล็ก เพื่อให้ขนาดของ Apple Watch รุ่นนี้เท่ากับของเดิม มันใช้ซีพียูดูอัลคอร์ตัวใหม่ ทำงานได้เร็วขึ้น 70%, ชิป Apple W2 ช่วยเชื่อมต่อ Wi-Fi และ Bluetooth ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น, เพิ่มเซ็นเซอร์วัดความสูง (altimeter) เข้ามา
ฟีเจอร์อื่นที่เพิ่มเข้ามาคือ Siri สามารถพูดคุยโต้ตอบกับเราได้ด้วยเสียงพูด
ซัมซุงเปิดตัวอุปกรณ์สวมใส่ชุดใหม่ 2 รุ่นคือ Gear Sport สมาร์ทวอทช์ฟิตเนสกันน้ำ ใส่ว่ายน้ำได้ และ Gear Fit 2 Pro สายรัดข้อมือฟิตเนสที่อัพเกรดขึ้นจากเวอร์ชันเดิม ทั้งสองตัวมาพร้อมกับแอพเทรนการว่ายน้ำ Speedo On และมี heart rate monitoring
Gear Sport เป็นสมาร์ทวอทช์สำหรับคนออกกำลังกาย ใช้หน้าจอ Super AMOLED รูปวงกลมขนาด 1.2 นิ้ว ผ่านมาตรฐาน ISO 22810:2010 ลงน้ำลึก 50 เมตร (5 ATM) ใส่ว่ายน้ำในสระหรือในทะเลได้, ผ่านมาตรฐานความทนทาน MIL-STD-810G, ใช้สายนาฬิกาขนาด 20 มม. มาตรฐาน, ซีพียูดูอัลคอร์ 1GHz, แรม 768MB, ความจุ 4GB, ระบบปฏิบัติการ Tizen, มี GPS ในตัว, มี NFC สามารถจ่ายเงิน Samsung Pay ได้, มี 2 สีคือดำและน้ำเงิน
Fitbit เปิดตัวสมาร์ทวอทช์รุ่นแรกในชื่อ Fitbit Ionic โดยยังเน้นความเป็นนาฬิกาสายสุขภาพและออกกำลังกาย มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ตรวจจับ SpO2, มี GPS ในตัว, ปรับข้อมูลระหว่างออกกำลังกาย, ปรับปรุงการตรวจจับชีพจร และกันน้ำได้ลึก 50 เมตร จึงสามารถสวมใส่ขณะว่ายน้ำได้ ขณะที่แบตเตอรี่นั้นอยู่ได้ประมาณ 4 วัน
เพื่อให้เป็นสมาร์ทวอทช์ Fitbit Ionic จึงมีคุณสมบัติด้านซอฟต์แวร์หลายอย่าง โดยตัวนาฬิกาใช้ระบบปฏิบัติการชื่อ Fitbit OS มีคุณสมบัติพื้นฐานอาทิ รองรับการจ่ายเงิน Fitbit Pay โดยเบื้องต้นรองรับธนาคาร 10 แห่ง, ฟังเพลงร่วมกับแอพ Pandora, รองรับแอพออกกำลังกาย Strava, รองรับการแจ้งเตือนของแอพต่างๆ และมี SDK สำหรับนักพัฒนา เพื่อพัฒนาแอพและลวดลายหน้าปัดบน Fitbit App Gallery
James Park ซีอีโอ Fitbit ให้สัมภาษณ์กับ Financial Times พูดถึงแผนการเปิดตัวสมาร์ทวอทช์ของ Fitbit ยืนยันว่าจะมีออกมาแน่ภายในปีนี้ หลังจากที่บริษัทซื้อกิจการทั้ง Pebble และ Vector ไป
เขาบอกว่าสมาร์ทวอทช์จาก Fitbit จะเน้นที่ความทนทานและจำเป็น มากกว่าเน้นใส่ฟีเจอร์ให้เยอะที่สุด โดยจะมีคุณสมบัติที่ควรมีอย่างการกันน้ำ, เซ็นเซอร์ยืนยันตัวตน หรือ GPS แต่จะไม่รองรับ LTE ซึ่งช่วยให้แบตเตอรี่อยู่ได้นานมากขึ้น
ในการให้สัมภาษณ์นี้ Park ไม่ได้พูดถึงระบบปฏิบัติการที่ Fitbit จะใช้บนสมาร์ทวอทช์ โดยมีการคาดกันว่า Fitbit น่าจะมีการสร้างระบบนิเวศคล้ายกับ Pebble ที่ซื้อกิจการมานั่นเอง
Louis Vuitton ได้เปิดตัว Tambour Horizon สมาร์ทวอชระดับพรีเมียมของแบรนด์ ใช้ชิพจาก Qualcomm พร้อมรันระบบปฏิบัติการ Android Wear
สำหรับตัวนาฬิกา Tambour Horizon นี้จะใช้ Snapdragon Wear 2100 เหมือนกับที่พบในนาฬิกาจาก LG, Gameband, Armani, Guess และ Montblanc แรม 521MB และพื้นที่เก็บข้อมูล 4GB แบตเตอรี่ 300mAh สามารถอยู่ได้หนึ่งวัน ตัวเรือนนาฬิกามีขนาด 42 มิลลิเมตร หน้าจอใช้แบบ AMOLED ที่ 390 x 390 พิกเซล แบบสัมผัสขนาด 1.2 นิ้ว
ตัว Tambour Horizon รัน Android Wear 2.0 สามารถทำการแจ้งเตือนข้อมูลต่าง ๆ ได้, นับก้าวเดินได้ และลงแอพเพิ่มเติมได้ พร้อมแอพแบบเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะแบรนด์ Louis Vuitton อย่างเช่น My Flight สำหรับการตรวจสอบเที่ยวบิน, City Guide สำหรับหาจุดสนใจในเมือง
LG Watch Sport นาฬิกาสมาร์ทวอชจาก LG วางขายในสหรัฐฯ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ และเนื่องจากนาฬิการุ่นนี้สามารถเชื่อมต่อ LTE ได้ LG จึงวางขายแยกรุ่น AT&T และ Verizon ซึ่งรุ่นของ AT&T ได้วางขายมาสักพักแล้ว ในขณะที่รุ่นของ Verizon กลับถูกเลื่อนออกมาเรื่อย ๆ
ล่าสุด LG Watch Sport รุ่น Verizon ก็ถูกยกเลิกการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว โดยผู้สั่งสินค้าจะได้รับอีเมลยืนยันการยกเลิก และ Verizon จะมอบส่วนลดการซื้อสินค้านาฬิการุ่นอื่นกับ Verizon ให้ 100 ดอลลาร์ กับผู้ที่ถูกยกเลิกการสั่งสินค้าจากบริษัท
Verily บริษัทในเครือ Alphabet ทำค้นคว้าวิจัยผลิตภัณฑ์อัจฉริยะด้านสุขภาพ เปิดตัวฮาร์ดแวร์เพื่อสุขภาพ นาฬิกา Verily Study Watch อย่างเป็นทางการ หลังจากมีข่าวลือภาพหลุดเรื่องอุปกรณ์ดังกล่าวมานาน จุดเด่นคือแบตเตอรี่ยาวนานและสามารถตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจได้
นาฬืกาสุขภาพโดยทั่วไป มีความสามารถจับจังหวะการเต้นของหัวใจและแคลอรี่ได้ แต่ Verily Study Watch ดูเหมือนจะวางตัวเองให้เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์เสียมากกว่า ทาง Verily ระบุว่าตัวอุปกรณ์สามารถติดตามสัญญาณความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงการเคลื่อนไหวผิดปกติอื่นๆ Study Watch มีเทคโนโลยี ECG หรือ electrocardiography ที่ใช้ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
อนาคตของนาฬิกาอัจฉริยะแบรนด์ Huawei ต่อจากนี้อาจจะยังไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร หลังออกมาแล้ว 2 รุ่น แต่ที่แน่ๆ ไม่น่าจะอยู่ในวิสัยทัศน์ของ Eric Xu Zhijun ซีอีโอเท่าไหร่นัก หลังเจ้าตัวเปิดเผยในงาน Global Analyst Summit 2017 ที่ผ่านมาว่าไม่เห็นประโยชน์ของอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะบนข้อมือเท่าไหร่นัก
ซีอีโอ Huawei ระบุว่าตัวเขาคิดไม่ออกว่าสมาร์ทวอทช์จะมีเอาไว้ทำไม ในเมื่อสมาร์ทโฟนสามารถทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว พร้อมบอกว่าเขาไม่คิดที่จะใส่สมาร์ทวอทช์นี้ด้วย ขณะเดียวกันเขาก็มักจะตั้งคำถามกลับไปยังทีมพัฒนาสมาร์ทวอทช์ของ Huawei ตอนเสนอไอเดียว่า อุปกรณ์แบบนี้มันตอบสนองความต้องการของตลาดจริงๆ น่ะหรือ
แม้สินค้าหลักของ Fitbit จะเป็นสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพ แต่บริษัทก็พยายามปรับสินค้าให้เป็นสมาร์ตวอช เช่น Fitbit Blaze ที่ออกมาปีที่แล้ว และคาดว่าสินค้ารุ่นต่อไปจะกลายเป็นสมาร์ตวอชเต็มรูปแบบเช่นเดียวกับ Apple Watch แต่ตอนนี้ Yahoo! Finance ก็อ้างแหล่งข่าวภายในระบุว่ากระบวนการออกแบบยังมีปัญหามากมาย
ZTE ได้เปิดตัวสมาร์ทวอชรุ่นใหม่คือ Quartz ใช้ระบบปฏิบัติการ Android Wear 2.0 รองรับทั้ง LTE ผ่านเครือข่าย T-Mobile และ GPS โดยจุดเด่นอย่างหนึ่งของนาฬิกา Quartz คือมาพร้อมกับราคาย่อมเยา คือ 192 ดอลลาร์ หรือประมาณ 6,700 บาท
สเปคของ Quartz จาก ZTE คือจะใช้ชิพ Qualcomm Snapdragon Wear 2100 พร้อมแรม 768MB, รอม 4GB, ลำโพงและไมโครโฟนในตัว, แบตเตอรี่ 500mAh สามารถอยู่ได้ทั้งวัน, หน้าปัดเป็นหน้าจอ AMOLED ขนาด 1.4 นิ้ว, กันน้ำตามมาตรฐาน IP67 ส่วนฟีเจอร์ที่หายไปจาก Quartz อย่างเช่น NFC, เซนเซอร์วัดชีพจร และหน้าปัดที่หมุนได้นั้นช่วยทำให้นาฬิกามีราคาที่ถูกลง และทำให้ตัวเครื่องมีขนาดที่บางลงมาก
แม้ที่งาน Baselworld 2017 ปีนี้ หลายบริษัทจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์นาฬิกาอัจฉริยะ (เช่น Montblanc, Movado, Fossil) แต่มีอยู่บริษัทหนึ่งที่หายไปทั้งที่เคยประกาศล่วงหน้าไว้ถึง 3 เดือนก่อนในงาน CES 2017 นั่นก็คือ Swarovski ผู้ผลิตอุปกรณ์แฟชั่นและคริสตัลหรูจากออสเตรีย
เว็บไซต์ข่าวอุปกรณ์ไอทีแบบสวมใส่ Wearable ได้สอบถามไปยังทางบริษัท และได้รับการตอบกลับจาก Robert Buchbauer หนึ่งในคณะกรรมการบริหารของบริษัท โดยระบุแต่เพียงสั้นๆ ว่า บริษัทยัง "ไม่พร้อม" ที่จะแสดงนาฬิกาเรือนนั้น และยังไม่สามารถกำหนดกรอบการเปิดตัวได้ เพราะบริษัทต้องการทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด แต่ยังคงทำงานร่วมกับบริษัทอื่นๆ ต่อไป
ที่มา - Wearable ผ่าน Digital Trends
Movado ผู้ผลิตนาฬิกาจากสวิตเซอร์แลนด์ได้เปิดเผยข้อมูลสมาร์ทวอชแบบหน้าจอสัมผัสรัน Android Wear 2.0 ซึ่งเป็นรุ่นแรกของบริษัท ชื่อว่า Modavo Connect
สำหรับสมาร์ทวอชรุ่นนี้ จะมีหน้าปัดที่แตกต่างกัน 100 แบบ ซึ่งแต่ละแบบจะเป็นดีไซน์แบบ single dot ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ โดยหน้าปัดแต่ละแบบจะแตกต่างกันตามสี, รายละเอียด, complication และหน้าปัดบางแบบจะมีการเปลี่ยนสีตามกลางวันหรือกลางคืนด้วย
Movado Connect จะมีดีไซน์ตัวเรือนเป็นแบบ edge-to-edge crystal ส่วนหน้าจอจะเป็นแบบติดตลอดเวลา และด้วยการเป็น Android Wear ทำให้ตัวนาฬิกาสามารถใช้งานแอพได้นับพัน, รับการแจ้งเตือน, ใช้งาน Google Assistant เหมือน Android Wear ทั่ว ๆ ไปได้
Nick Hayek ซีอีโอของ Swatch Group บริษัทผู้ผลิตนาฬิการายใหญ่สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Bloomberg ว่าทางบริษัทเลือกผลิตระบบปฏิบัติการสำหรับสมาร์ทวอชเอง แทนที่จะเลือกใช้ระบบปฏิบัติการ Android Wear
Hayek กล่าวว่า ระบบปฏิบัติการสมาร์ทวอชจาก Swatch จะใช้พลังงานแบตเตอรี่น้อย ช่วยปกป้องข้อมูลได้ดี โดยจะเริ่มใช้งานกับนาฬิกาที่จะเปิดตัวในปี 2018 ของแบรนด์ Tissot ซึ่งเป็นแบรนด์ในเครือ
หลังจากพยายามเข็น e-Strap ที่เปิดตัวไปเมื่อต้นปี 2015 ล่าสุด Montblanc ผู้ผลิตสินค้าหรูจากเยอรมนี ประกาศว่าเปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะของตัวเองรุ่นแรกอย่างเป็นทางการ ตามรอยบริษัทอื่นๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน โดยได้ชื่อรุ่นว่า Summit (เอาชื่อนาฬิการุ่นเก่ากลับมาใช้)
จุดเด่นที่สุดของ Summit คงอยู่ที่เรื่องของการออกแบบที่ยังคงความเรียบหรูเอาไว้ทุกประการตามสไตล์ของสินค้า Montblanc พร้อมกับการใช้กระจกแซฟไฟร์ รองรับการเชื่อมต่อผ่านทั้ง Bluetooth และ Wi-Fi รวมไปถึงมีตัววัดการเต้นของตัวใจด้วย ใช้ระบบปฏิบัติการเป็น Android Wear 2.0 และใช้หน่วยประมวลผลเป็น Qualcomm Snapdragon Wear 2100
เปิดราคามาที่ 980 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 34,000 บาท) สำหรับรุ่นพื้นฐาน (มีทั้งหมด 4 แบบ) และถ้าต้องการตัวเลือกอื่นๆ ราคาก็เพิ่มขึ้นตามกันไป (เข่น เปลี่ยนสายนาฬิกาเป็นแบบอื่น) เริ่มขายจริงที่สหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรในเดือนพฤษภาคม และจะขยายไปทั่วโลกในเดือนกรกฎาคมนี้
ที่มา - Montblanc, Android Authority
หลังจากเปิดตัวรุ่นแรกไปเมื่อปีที่แล้วและได้รับเสียงตอบรับอย่างดี วันนี้ TAG Heuer แบรนด์นาฬิกาหรูชื่อดังจากสวิตเซอร์แลนด์ ประกาศเปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะของตัวเองรุ่นที่สอง โดยมีชื่อว่า Connected Modular 45 (ในข่าวจะใช้ว่า Modular 45)
Modular 45 ยังคงเป็นนาฬิกาอัจฉริยะที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android Wear เช่นเดิม ไม่ต่างจากนาฬิการุ่นแรก ความแตกต่างในคราวนี้อยู่ที่ว่าสามารถเลือกปรับแต่งนาฬิกาได้ตามที่ผู้ใช้ต้องการในตอนซื้อ มีตัวเรือนให้เลือกถึง 56 แบบ (จะเอาแบบฝังเพชรก็ได้ ตัวเรือนทองชมพู 18K ก็ได้ แบบมาตรฐานในร้านมี 11 แบบ ที่เหลือเป็นการสั่งทำ) และสามารถเลือกตัวเลือกอื่นๆ ประกอบกันได้อีก (ดูได้จากวิดีโอ) โดยยังสามารถกันน้ำได้ลึก 50 เมตร พร้อมคุณสมบัติที่อัดแน่นไว้ไม่เปลี่ยนแปลง เช่น GPS, NFC, หน้าจอแบบ OLED รวมถึงเป็นนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นแรกของบริษัทที่ได้สิทธิใช้คำว่า Swiss Made ด้วย (รุ่นแรกได้เฉพาะคำว่า Swiss Engineered)
TAG Heuer ได้เผยข้อมูลของสมาร์ทวอช Android Wear รุ่นถัดไปจากรุ่นปัจจุบันคือ Connected ออกมาแล้ว และตอนนี้ทางบริษัทก็ได้ประกาศวันเปิดตัวของนาฬิการุ่นดังกล่าวมาแล้วคือวันที่ 14 มีนาคม
การประกาศดังกล่าว TAG Heuer ได้โพสต์ลงบนบัญชี @TAGHeuer บน Twitter พร้อมกับภาพและวิดีโอทีเซอร์ของนาฬิการุ่นถัดไป โดยใช้คำว่า “March 14, Stay Tuned... #ConnectedToEternity”