Facebook ปรับกฎ Platform Policy ใหม่ใน 2 ประเด็นสำคัญ
สำหรับกรณีหลัง Facebook ระบุว่าต้องการให้คนไลค์เพจเพื่อติดตามข่าวสารของแบรนด์หรือสินค้านั้นๆ มากกว่าไลค์เพราะต้องการผลประโยชน์ชั่วครั้งคราว
นโยบายนี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2014
เนื่องจากทางทีมเรา ต้องการสร้าง Social Network ที่สนุกกว่าเดิมและสามารถอัพเดตข่าวสารแวดวงเพื่อน หรือคนที่เราน่าจะรู้จัก ได้แบบง่ายดายมากขึ้น พร้อมทั้งบอกเหตุการณ์ที่น่าสนใจรอบตัวเราได้ จึงคิดโปรเจคนี้ขึ้นมา ชื่อว่า Hola
Hola จุดเด่นหลักคือ Social Network ที่เป็น Realtime + Location Base ผู้ใช้สามารถดูว่าแถวนี้ หรือบริเวณนั้นๆ เกิดอะไรขึ้น เช่น โปรโมชั่น หรือ งานแสดงต่างๆ หรือพูดคุยกับคนบริเวณใกล้ๆ และสามารถเพิ่มเพื่อนของคุณ อัพเดตว่าเพื่อนทำอะไรอยู่แถวไหนตอนนั้น พร้อมทั้งดูสถานที่และกิจกรรมต่างๆ ข้อความสถานะที่ต้องการได้อีกด้วย
จุดเด่น
เราเห็นข่าว สถิติ Twitter ฟุตบอลโลก 2014 ไปแล้ว คราวนี้มาดูสถิติของฝั่ง Facebook บ้างครับ (สถิตินี้เฉพาะนัดชิงชนะเลิศเท่านั้น)
ฟุตบอลโลก 2014 ปิดฉากลงอย่างสมบูรณ์แล้ว ก็ได้เวลารวบรวมสถิติต่างๆ ของโลก Twitter มาเผยแพร่ครับ
LinkedIn เริ่มใช้ประโยชน์จากข้อมูลในเครือข่ายสังคมของตัวเอง โดยออกแอพใหม่ชื่อ LinkedIn Connected (ตอนนี้ยังมีเฉพาะบน iPhone) หน้าที่ของมันก็ตรงตามชื่อคือเอาไว้หาคอนเนคชั่นโดยเฉพาะ
Path สังคมออนไลน์แบบจำกัดจำนวนเพื่อนออกอัพเดตแอพเวอร์ชันใหม่ทั้งบน iOS และ Android โดยแยกระบบแชทออกไปเป็นแอพใหม่ Path Talk
Path ได้กล่าวว่าหลังจากซื้อกิจการและให้ทีมงานทำงานร่วมกับ TalkTo แอพสำหรับส่งข้อความ ตอนนี้ทาง Path ได้ทำแอพสำหรับส่งข้อความมาเป็นแอพใหม่ชื่อ Path Talk ซึ่งมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจ ดังนี้
หลังจาก Facebook เผลอหลุดปล่อยแอพ Slingshot ก่อนกำหนด วันนี้แอพเปิดตัวอย่างเป็นทางการสักทีครับ
เดิมทีเราพูดกันว่า Slingshot เป็นคู่แข่งของ Snapchat แต่เอาเข้าจริงแล้วมันก็ต่างไปพอสมควร โดยไอเดียแล้วมันคือแอพแชร์ภาพ-วิดีโอให้เพื่อนหรือคนรู้จัก แต่มีลูกเล่นเพิ่มเข้ามาตรงที่ว่าก่อนผู้รับจะดูภาพที่เราส่งให้ จะต้องแชร์บางอย่างกลับมาก่อน (ภาพจะถูกเบลอเอาไว้)
สำหรับมหกรรมการแข่งขันฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในโลกคราวนี้ ช่องทางในการติดตามข่าวของทีมโปรดของตัวเองนอกจากจะผ่านทางแอพ FIFA World Cup หรือสื่อสังคมออนไลน์อย่าง Twitter และ Facebook ยังสามารถอัพเดตข่าวฟุตบอลโลกจากช่องทางอื่นๆ ได้ด้วย เช่น Telegraph, Fourfourtwo, Goal, Skysport, ESPN
Twitter เกาะกระแสฟุตบอลโลก 2014 โดยมีของเล่นใหม่ๆ ให้ผู้ใช้งานหลายอย่างด้วยกัน ที่ลงข่าว Blognone ไปแล้วคือ แสดงไอคอนธงชาติหลัง hashtag ตามชื่อย่อของทีมชาติแต่ละทีม
ฟีเจอร์ถัดมา Twitter ช่วยให้แฟนบอลของแต่ละทีมปรับหน้าโพรไฟล์ของตัวเองได้ง่ายๆ โดยมีภาพโพรไฟล์ (profile image) และภาพพื้นหลัง (cover image) สำหรับแต่ละทีมเตรียมไว้ให้เสร็จสรรพ ใครที่อยากแสดงตัวว่าเชียร์ทีมไหนแต่ขี้เกียจนั่งหารูปภาพเอง ก็สามารถใช้ภาพมาตรฐานที่ Twitter เตรียมไว้ให้ได้เลย (ลองเล่นได้ที่ลิงก์นี้)
ช่วงขวบปีที่ผ่านมา ทางเฟซบุ๊กได้มีการปรับอัลกอริทึมให้การแสดงโพสต์ของเพจบนนิวส์ฟีดผู้ใช้ลดลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแน่นอนว่าก่อให้เกิดผลกระทบกับผู้ประกอบการรายเล็กๆ ที่ใช้เฟซบุ๊กเป็นหน้าร้าน และเป็นการบีบให้เพจเหล่านั้นไปซื้อโฆษณาเพื่อเพิ่มผลการแสดงโพสต์
ล่าสุด Brian Bolan หัวหน้าทีมการตลาดผลิตภัณฑ์ของเฟซบุ๊กได้เปิดเผยถึงสาเหตุที่ปรับการเข้าถึง (reach) ลง พร้อมทั้งยืนยันว่าไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อให้เพจซื้อโฆษณาแต่อย่างใด
พ.อ.ณัฐวัฒน์ จันทร์เจริญ รองโฆษกกองทัพบก ได้ออกมายืนยันว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ไม่มีการออกคำสั่งให้บล็อกการใช้งาน Facebook แต่อย่างใด หลังผู้ใช้งานในไทยจำนวนมากไม่สามารถใช้งานได้ และกล่าวว่าหากมีการบล็อกจริงก็จะออกคำสั่งออกมาก่อน
ด้านพ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ก็ยืนยันเช่นกันว่าคสช. ไม่ได้สั่งระงับ Facebook เพราะเข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชน
Facebook เริ่มนำระบบความสัมพันธ์ของวัตถุหรือ Open Graph มาใช้งานตั้งแต่ปี 2011 (ข่าวเก่า) โดยแอพในระบบของ Facebook สามารถโพสต์ "กิจกรรม" ของผู้ใช้ลงหน้า Timeline ได้อัตโนมัติ (เช่น แอพอาหารสามารถโพสต์ว่าผู้ใช้คนนี้กำลังกินข้าวเมื่อเช็คอินที่ร้านอาหาร หรือ แอพดนตรีสามารถโพสต์ว่าผู้ใช้ฟังเพลงไหนทุกครั้งที่เปลี่ยนเพลง)
นโยบายข้างต้นของ Facebook ถูกวิจารณ์ว่ามันทำให้ข้อมูลใน News Feed รกเกินกว่าที่ควรจะเป็น และล่าสุด Facebook ก็ยอมปรับนโยบายนี้แล้ว โดยแอพที่โพสต์สถานะแบบอัตโนมัติ (แอพโพสต์ให้แทนผู้ใช้) จะถูกลดความสำคัญลงจากเดิม
นอกจากประกาศคสช. ฉบับที่ 12/2557 ที่มีผลโดยตรงกับคนออนไลน์แล้ว ทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือ คสช. ก็ได้ออกประกาศคสช. ฉบับที่ 18/2557 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เพื่อควบคุมการนำเสนอข่าวสารอีกครั้ง
โดยจุดสำคัญของประกาศคสช. ฉบับที่ 18/2557 ฉบับนี้ก็คือสั่งห้ามมิให้สื่อต่างๆ ได้แก่ สถานีกระจายเสียงทุกสถานี ทั้งที่เป็นของราชการและเอกชน สถานีโทรทัศน์ภาคพื้นดิน สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม เคเบิล โทรทัศน์ระบบดิจิตอลและโทรทัศน์อินเทอร์เน็ตทุกสถานี หนังสือพิมพ์ วารสาร หรือสื่อสิ่งพิมพ์อื่นๆ รวมทั้งผู้ให้บริการด้านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภทอันรวมถึงการสื่อสารทางสังคมสื่อออนไลน์ มีการนำเสนอข่าวสารหรือข้อความดังต่อไปนี้
หลังการประกาศรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติเมื่อเวลา 16:30 น. ของวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ในเวลา 0.01 น. ของวันนี้ คสช. ได้ออกประกาศฉบับที่ 12/2557 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 โดยขอความร่วมมือจากสื่อสังคมออนไลน์อีกครั้งครับ
สำหรับเนื้อหาของประกาศฉบับนี้ ยังคงมีส่วนที่เหมือนกับ คำสั่ง กอ.รส. ฉบับที่ 8/2557 ลงวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 นั่นคือขอความร่วมมืองดการเผยแพร่ข้อความปลุกระดม ยั่วยุให้เกิดความขัดแย้งสร้างความรุนแรง ความไม่น่าเชื่อถือและไม่เคารพกฎหมาย รวมถึงข้อความที่แสดงถึงการต่อต้านหรือขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยประกาศฉบับนี้ยังคงยึดบทลงโทษเดิม ก็คือดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้กระทำผิดครับ
ตามที่ทราบกันว่าในวันนี้กองทัพบกได้ประกาศใช้กฎอัยการศึก ให้มีผลตั้งแต่เวลา 3.00 น. ของวันที่ 20 พฤษภาคมเป็นต้นไป ไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ล่าสุดเมื่อเวลา 19:00 น. กองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ กอ.รส. ได้ออกคำสั่งฉบับที่ 8/2557 เรื่องขอความร่วมมือกับสังคมออนไลน์ ห้ามเผยแพร่ข้อความปลุกระดม ยั่วยุให้เกิดความขัดแย้งสร้างความรุนแรง ความไม่น่าเชื่อถือและไม่เคารพกฎหมาย มิฉะนั้นจะเข้าดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้หากยังมีข้อขัดแย้งตามข้างต้นดำเนินการอยู่ ทาง กอ.รส. จะมีสิทธิ์สั่งระงับการใช้งานสื่อดังกล่าวทันที และจะนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายครับ
ในอนาคตอันใกล้ เราอาจได้เห็นระบบซอฟต์แวร์ที่จะวิเคราะห์และประเมินได้ว่าข้อความใดบนเครือข่ายสังคมออนไลน์เป็นเรื่องจริง หรือเรื่องโกหกหลอกเล่น
ทีมนักวิจัยจากหลายประเทศได้ทำงานร่วมกันมานานกว่า 3 ปีในการพัฒนาโครงการ Pheme (ตั้งตามชื่อเทพีแห่งข่าวลือและเรื่องซุบซิบของกรีก) ซึ่งเป็นผลงานจากการผลักดันสนับสนุนเงินทุนโดยคณะกรรมการยุโรป ร่วมกับบุคลากรจาก 5 มหาวิทยาลัยในยุโรป กับบริษัทเอกชนอีก 4 ราย โดยเป้าหมายเพื่อให้มีระบบตรวจสอบข้อเท็จจริงของข้อความใดๆ ที่ถูกส่งต่อกันบนโลกเครือข่ายสังคมออนไลน์ เพื่อประเมินว่าเนื้อหาดังกล่าวมีความน่าเชื่อถือเพียงใด
App.net บริการไมโครบล็อกที่เคยวางตัวว่าเป็นทวิตเตอร์ที่ไม่มีโฆษณาแต่อาศัยค่าสมาชิกจากผู้ใช้ แม้จะมีผู้ใช้ที่ยอมจ่ายเงินจำนวนหนึ่งแต่ทางทีมงานก็ออกมาแถลงว่าค่าใช้จ่ายไม่พอจ้างพนักงานเต็มเวลาอีกต่อไป
ตอนนี้รายได้ของ App.net จึงนำมาใช้ให้บริการเป็นหลัก การซัพพอร์ตจะใช้พนักงานสัญญาจ้างเข้ามาให้บริการแทน
สำหรับการพัฒนาโค้ดของโครงการ App.net เปิดหน้าโอเพนซอร์ส นำโค้ดจำนวนมากที่ให้บริการอยู่มาเป็นโครงการโอเพนซอร์ส
ที่มา - App.net, The Register
Aditya Khosla นักศึกษาปริญญาเอกจาก MIT ได้ทำการวิจัยภาพจาก Flickr จำนวน 2.3 ล้านภาพ โดยเขียนอัลกอริทึมวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ ของภาพ เช่น สีสัน องค์ประกอบ แท็ก จำนวนไลค์ การเข้าชม หรือแม้แต่การแชร์รูปภาพ เพื่อดูว่าปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลให้ภาพนั้นมียอดวิวที่สูงกว่าปกติ
Khosla สรุปผลการวิเคราะห์ไว้ดังนี้
เดิมแท็บ explore จะเป็นการแสดงภาพหรือวีดีโอของคนที่เรามักจะไม่รู้จัก แต่ได้รับความนิยม เป็นรูปที่มีคนกดไลค์มากๆ แท็บ explore จึงเป็นแท็บที่แสดงภาพที่คนอื่นชอบมากกว่าภาพที่เราชอบ
การปรับผลการแสดงรูปในแท็บ explore ครั้งนี้ จึงเน้นไปที่ความสนใจของผู้ใช้งานมากขึ้น เป็นการดึงเอาข้อมูลจาก social graph ของผู้ใช้งาน โดยจะดูว่าผู้ใช้ชอบรูปภาพแนวไหน สไตล์ไหน จึงจะแสดงรูปภาพแนวนั้นๆ เช่นหากคุณติดตามศิลปินเยอะๆ แท็บ explore จะแสดงภาพเขียนต่างๆ นอกจากนั้น ยังแสดงรูปภาพและคลิปวิดีโอที่คนที่เราติดตามไปกดไลค์ และสิ่งที่กำลังเป็นที่นิยม ณ ขณะนั้นอีกด้วย
ที่มา - TechCrunch
เมื่อวานนี้ (22 เมษายน) Pavel Durov ผู้ได้รับการขนานนามว่าเป็น "Mark Zuckerberg แห่งรัสเซีย" ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ VKontakte (ย่อสั้นๆว่า VK) ซึ่งเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์อันดับหนึ่งในรัสเซียและกลุ่มประเทศสหภาพโซเวียตเดิม ได้ออกมาเผยผ่านโพสต์บนหน้า VK ของเขาว่าตัวเขาเองนั้นถูกไล่ออกจากบริษัทแล้ว และตอนนี้เว็บไซต์ถูกยึดครองโดยสองพันธมิตรของ วลาดีมีร์ ปูติน โดยสมบูรณ์
LinkedIn เครือข่ายสังคมสำหรับอาชีพการงาน ออกมาประกาศยอดสมาชิกแตะหลัก 300 ล้านคนแล้ว สถิติที่น่าสนใจมีดังนี้
แอพ Facebook ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ (ที่ทดสอบมาสักระยะแล้ว) ในชื่อ Nearby Friends ความสามารถของมันตรงตามชื่อคือจะแจ้งเตือนเราเมื่อมีเพื่อนของเราคนใดคนหนึ่งเข้ามาอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อให้เราทราบและสามารถนัดพบกันได้
ฟีเจอร์นี้เป็นทางเลือก (optional) ที่ผู้ใช้ต้องเปิดใช้เอง สามารถกำหนดได้ว่าจะให้ใครทราบพิกัดของเราบ้าง (เจาะจงได้เป็นรายคน) และสามารถกำหนดได้ว่าจะบอกขอมูลพิกัดเป็นระยะเวลานานเท่าไร (เช่น ให้เพื่อนคนนี้ทราบว่าเราอยู่ที่ไหนเป็นเวลา x ชั่วโมง หลังจากนั้นก็จะไม่ทราบอีก)
ผู้ใช้แอพ Facebook บน iOS/Android ในสหรัฐอเมริกาจะได้ใช้ฟีเจอร์นี้ก่อน โดยจะเปิดให้ใช้งานในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าครับ
Facebook ออกกฎใหม่สดๆ ร้อนๆ วันนี้ ห้ามทำการปั่น like และใส่ลิงก์ปลอม โดยโทษสำหรับเพจที่กระทำการดังกล่าวก็คือการโดนลด reach ซึ่งก็หมายถึงการลดการแสดงผลจากหน้าเพจนั้นนั่นเอง
หลังจากที่ Facebook เพิ่งออกมาแจงอัลกอริธึมที่มาที่ไปว่าก่อนหน้านี้ทำไมจึงมีนโยบายลดการแสดงผลจากหน้าเพจแต่ละแห่ง ตอนนี้ Facebook ก็ได้ออกกฎมาเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้ดูแลเพจต่างๆ ได้ปฏิบัติตามกันอีก 3 ข้อ
Disqus ผู้ให้บริการระบบคอมเมนต์สำหรับเว็บไซต์ต่างๆ เปิดตัวโฆษณาแบบใหม่ Sponsored Comments ที่บริษัทหรือแบรนด์ต่างๆ สามารถมาซื้อพื้นที่ส่วนของคอมเมนต์ได้
แบรนด์ที่มาลงโฆษณาสามารถไปตอบคอมเมนต์ตามเว็บไซต์หรือบล็อกต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวเอง เฉกเช่นเดียวกับคอมเมนต์ทั่วไป แต่คอมเมนต์ของแบรนด์จะถูกปักหมุดไว้ด้านบนสุดของรายการคอมเมนต์ทั้งหมด (เหมือนกับ Featured Comments หรือคอมเมนต์แนะนำ) และมีตัวอักษรกำกับว่า Sponsored
Disqus บอกว่าระบบคอมเมนต์แบบนี้จะช่วยให้แบรนด์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบทสนทนาบนเว็บได้ โดยที่ไม่รบกวนผู้อ่านจนเกินไป และทีมงานของ Disqus จะคอยตรวจสอบคอมเมนต์เพื่อไม่ให้รบกวนหรือแปลกแยกจากเว็บไซต์นั้นๆ มากเกินไปอีกด้วย
จากการปรับอัลกอริทึมของ Facebook จนทำให้โพสต์จากเพจมีคนเห็นน้อยลงจากเดิมและเห็นโพสต์จากเพื่อนมากขึ้น (อ่านเพิ่ม: Ask Blognone - ได้รับผลกระทบจากนโยบายลด reach ของ Facebook กันแค่ไหน) จนทำให้เพจของแบรนด์จำนวนมากไม่พอใจกับนโยบายนี้ เพราะลงทุนกับการสร้างจำนวนแฟนให้เยอะๆ ไปอย่างมากแล้ว