นอกจาก ไมโครซอฟท์จะออกมาวิจารณ์ Google Buzz แล้ว ยาฮูยังเป็นอีกรายที่ออกมาตอบโต้อย่างรวดเร็ว
หลังจากกูเกิลเปิดตัว Google Buzz ไม่ถึงชั่วโมงดี ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของยาฮูออกมาให้ข่าวว่า ยาฮูมีฟีเจอร์ Yahoo! Updates มาตั้งหนึ่งปีครึ่งแล้ว ซึ่งตอนนี้ Yahoo! Update รองรับการส่งข้อความสถานะไปยัง social network ได้มากกว่า 200 แห่ง และในฝั่งของยาฮูเอง ก็สามารถอัพเดตได้จากทั้ง Yahoo! Mail, Yahoo! Messenger และหน้าแรกของยาฮู
นอกจากนี้ บน Twitter ของยาฮูยังเกทับกูเกิลว่า Yahoo! Buzz (บริการแบบเดียวกับ Digg แค่ใช้ชื่อ Buzz เหมือนกันเฉยๆ) ออกมาตั้งสองปีแล้ว
หลังจากกูเกิลเปิดตัวเว็บชุมชนออนไลน์ Google Buzz (ดูข่าวเก่า โดยคุณ narok119) ไมโครซอฟท์ก็ได้แสดงความคิดเห็นว่า
"Busy people don't want another social network, what they want is the convenience of aggregation. We’ve done that. Hotmail customers have benefitted from Microsoft working with Flickr, Facebook, Twitter and 75 other partners since 2008."
ที่มา: TechCrunch
Google ได้เปิดตัวบริการ social network แห่งใหม่ชื่อว่า Google Buzz
บริการใหม่ตัวนี้จะฝังตัวเองเอาไว้ใน Gmail โดยผู้ใช้นั้นสามารถอัพเดทสถานะ แชร์ข้อมูล รวมถึงอ่านและเขียนข้อความถึงเพื่อนใน Buzz ได้ซึ่งเป็นบริการขั้นพื้นฐานที่พบได้ตาม social network ทั่วๆ ไป
Buzz เองพยายามใช้ประโยชน์จากจำนวนผู้ใช้ Gmail ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 170 ล้านคนทั่วโลกเป็นฐานลูกค้าหลักทำให้ไม่ต้องเริ่มสร้างใหม่ตั้งแต่ต้น โดยหากชมจากวีดีโอจะพบว่าผู้ที่ใช้ Gmail จะมีลิงค์ Buzz พร้อมไอคอนหน้าตาสวยงามปรากฎอยู่ล่างลิงค์ inbox (แต่ Gmail ของผมตอนนี้ยังไม่เห็นแฮะ)
ก่อนหน้านี้เรามีวิธีการอัพโหลดภาพจากเดสก์ท็อปลงใน Facebook อยู่ 2 แบบ คือใช้ช่องอัพโหลดมาตรฐานของ HTML ซึ่งมีข้อเสียคืออัพได้ทีละไฟล์ หรือใช้ตัวอัพโหลดพิเศษของ Facebook ซึ่งเป็น Java applet ซึ่ง Facebook บอกว่าผู้ใช้งานบ่นถึงปัญหาในทางเทคนิคเป็นจำนวนมาก (ผมใช้แล้วมีปัญหาว่าเบราว์เซอร์จะค้างไว้ชั่วขณะหนึ่ง แต่สาวกจาวาเขาว่าไม่ค้างครับ :P)
ต่อจากข่าวเก่า เฟสบุ๊กหน้าตาใหม่ สามารถคอมเมนต์สถานะล่าสุดทางอีเมลได้ ซึ่งฟีเจอร์ตอบคอมเมนต์ทางเมลได้เปิดตัวไปก่อนหน้านี้แล้ว คราวนี้ถึงเวลาของหน้าตาโฉมใหม่
สำหรับหน้าตาใหม่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญดังนี้
เราเห็นตัวเลขสถิติผู้ใช้ทั้งหมดที่ลงทะเบียนของ Facebook อยู่เรื่อยๆ (ปัจจุบันอยู่ราวๆ 350 ล้านคน) แต่ไม่เคยมีตัวเลขของผู้ที่ใช้งานจริง (active user) มาก่อน
เว็บไซต์ TechCrunch ได้สัมภาษณ์ Sheryl Sandberg ซึ่งเป็น COO ของ Facebook เธอให้ข้อมูลว่าครึ่งหนึ่งของผู้ใช้ Facebook ทั้งหมด หรือประมาณ 175 ล้านคนนั้นเข้าเว็บทุกวัน
Sandberg ยังตอบในประเด็นอื่นๆ เช่น เรื่องข้อจำกัดว่ามีเพื่อนได้ไม่เกิน 5,000 คน และเธอเคยสัญญาว่า Facebook จะยกเลิกข้อจำกัดนี้ แต่ในปัจจุบันยังไม่เกิดขึ้น
ที่มา - TechCrunch
คณะกรรมการด้านข้อมูลส่วนบุคคลของแคนาดาได้เริ่มทำการสอบสวนกรณีเว็บไซต์ Facebook บังคับให้ผู้ใช้ตั้งค่าความเป็นส่วนบุคคลใหม่เมื่อกลางเดือนธันวาคม 2552 สืบเนื่องจากการร้องเรียนของผู้ใช้ Facebook ว่าค่าปริยายที่เว็บไซต์กำหนดให้ใหม่โดยอัตโนมัติทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของเขาถูกเปิดเผยจนกลายเป็นข้อมูลสาธารณะ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2552 รัฐสภาแคนาดาได้เคยเผยแพร่รายงานเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลบนเว็บไซต์ Facebook โดยได้แนะนำให้เว็บไซต์แก้ไขการกำหนดค่าบางรายการ เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลไม่ถูกเปิดเผยโดยผู้ใช้ไม่ต้องการ อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนแปลงเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา กลับกลายเป็นการทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ใช้ไม่ต้องการเปิดเผยเป็นสาธารณะมากกว่าเดิม
คุณเคยประสบปัญหาเหล่านี้บ้างหรือไม่? รู้สึกแย่กับชีวิตที่ผูกติดกับ social network Web 2.0 และการออนไลน์ตลอดเวลา หรือหมู่เพื่อนฝูงที่เริ่มแปรสภาพเป็นโจทก์ และเจ้าหนี้ จนอยากจะหายสาบสูญจากวงการไปตลอดกาล ถ้าคุณกำลังรู้สึกแบบนี้อยู่ ผมมีเว็บมาแนะนำครับ
เว็บนี้มีชื่อว่า Web 2.0 Suicide Machine ครับ คำจำกัดความสั้น ๆ ง่าย ๆ ของมันก็คือ "การฆ่าตัวตายทาง social network" เพียงแต่คุณมอบ login และ password ของบริการ social network ที่ไม่ต้องการใช้ชีวิตอยู่อีกต่อไป ให้กับทาง Web 2.0 Suicide Machine ข้อมูลทุกอย่างของตัวคุณ เพื่อน และคนที่คุณ follow จะถูกลบออกไปจนเกลี้ยงเกลา เหลือไว้เพียงหน้าโปรไฟล์เปล่า ๆ และข้อความสั่งลาเป็นครั้งสุดท้าย
Facebook อาจจะเคยทำให้ชื่อเสียงใครบางคนเสื่อมเสีย อย่างไรก็ดี เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา เว็บไซต์ดังกล่าวได้ช่วยชีวิตนาย Philip Pain นักศึกษาชาวอังกฤษไว้
เรื่องเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมาขณะที่นาย Pain กำลังฉลองวันปีใหม่ โดยเขาได้ประสบอุบัติเหตุตกลงมาจากระเบียงโรงแรมในเม็กซิโก หลังจากเพื่อนได้นำเขาส่งโรงพยาบาล แพทย์ได้ลงความเห็นว่าว่าเขาน่าจะมีโอกาสรอดไม่มากเนื่องจากเลือดเขาเป็นกลุ่ม O-negative ซึ่งหาได้ยาก
คุณ nuntawat เคยรายงานข่าว เฟสบุ๊กกำลังทดสอบฟีเจอร์คอมเมนต์สถานะล่าสุดของบุคคลอื่น "ผ่านอีเมล" และ เฟสบุ๊กหน้าตาใหม่ สามารถคอมเมนต์สถานะล่าสุดทางอีเมลได้ ตอนนี้ Facebook เปิดฟีเจอร์นี้อย่างเป็นทางการแล้วครับ
การใช้งานไม่ต้องตั้งค่าอะไรเพิ่ม ถ้าหากว่าเราตั้งให้แจ้งเตือนคอมเมนต์ใหม่ทางอีเมลอยู่แล้ว ก็สามารถกดปุ่ม reply เพื่อตอบกลับได้ทันที โดยที่เราไม่ต้องล็อกอินเข้าไปใน Facebook เลย
ที่มา - Facebook Blog
การดึงดูดให้นักศึกษาระดับหัวกะทิมาทำงานด้วย ถือเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญมากอันหนึ่งของบริษัทขนาดใหญ่ และล่าสุด Facebook ก็ได้ดำเนินยุทธศาสตร์นี้ด้วยเช่นกัน
เรื่องราวเหล่านี้นำมาจาก blog ผมที่ http://molecularck.com ครับ เลยเอามาโพสที่นี่อีกรอบเพื่อเอามาแชร์ความคิดเห็นกันครับ
ข่าวนี้ขำๆ ครับ มีคนใช้เครื่องมือค้นหาข้อความแนะนำตัวใน Twitter (Bio) คือ TweepSearch แล้วหาคำที่เกี่ยวข้องกับการเป็น "ผู้เชี่ยวชาญ" ด้าน social media เช่น expert, guru, ninja
ผลการค้นหาในเดือน พ.ค. 2009 คนที่เข้าข่ายเป็น "ผู้เชี่ยวชาญ" มีอยู่ 4,487 ราย พอเป็นเดือน ธ.ค. ตัวเลขนี้ขยับขึ้นมาเป็น 16,000 ราย
อันดับแยกย่อยดูได้ด้านใน ตำแหน่ง "social media marketer" มีเยอะที่สุด อ่านแล้วผมไปเปลี่ยน Bio บ้างดีกว่า ท่าทางตลาดจะสดใส
ที่มา - whatsnextblog.com
ก่อนหน้านี้เรามี Twitter Trends ยอดฮิตประจำปี 2009 ไปแล้ว ทาง Facebook ก็ได้เปิดเผยข้อความยอดนิยมใน status update ของตัวเองบ้าง
ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลเฉพาะในสหรัฐครับ จะต่างกับของ Twitter นิดหน่อยคือไม่ได้แยกเป็นคำๆ แต่ว่าจัดเป็นกลุ่มคำที่เกี่ยวข้องกันแทน
เกมใน Facebook เป็นที่นิยมมาก และผู้สร้างเกมเกือบทุกเจ้าต่างโปรโมทให้คนมาเล่นเกมของตัวเอง ผ่านข้อความใน Wall หรือ invitation ซึ่งตอนที่มันขึ้นมาเยอะๆ ก็น่ารำคาญเหมือนกัน
ทางแก้ของ Facebook ที่เตรียมเปิดตัวในเดือนมกราคมคือ ดึงข้อความอัพเดตทั้งหมดของเกมออกจาก news feed ปกติ แล้วย้ายมันไปอยู่ใน Game Dashboard ที่กำลังจะเปิดใหม่แทน
หน้า Game Dashboard จะรวมเอาความเคลื่อนไหวของเกมที่เรากำลังเล่นอยู่, แนะนำเกมอื่นๆ ที่เพื่อนของเราเล่น, คำเชิญเล่นเกม, รายชื่อเกมแนะนำ มาไว้เป็นหมวดหมู่เดียวกัน ตัวแทนจาก Zynga และ Playfish ให้สัมภาษณ์สนับสนุนแนวทางนี้ของ Facebook แล้ว อีกไม่นานเราคงได้เห็นกันครับ
เมื่อ Plurk หนึ่งใน Social Network ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในจีนและไต้หวัน ได้ส่งประกาศถึงหน้า Plurk ของผู้ใช้ว่าถูก Microsoft China ลอกดีไซน์ของตนไปใช้กับ Microblogging Service ที่เรียกว่า MSN Club โดยใช้งานร่วมกับ Windows Live ID โดยทาง Plurk ได้ระบุว่า 80% ของ UI รวมถึงโค้ดต่างๆนั้นเหมือนของตนเอง
(ดูรูปได้ในข่าว และดูรายละเอียดอื่นๆ ได้จากที่มา)
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รูปภาพของนาย Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง Facebook กว่า 300 รูปได้ถูกเปิดเผยสู่สาธารณชนหลังจากที่เว็บไซต์เครือข่ายสังคมนี้ได้เปลี่ยนการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวให้เป็นแบบใหม่โดยตั้งให้การเปิดเผยรูปภาพเป็นตัวเลือกปริยาย
หลายคนคงรู้จัก Friendster บริการ social network อีกแห่งที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ใช้จากเอเชียแปซิฟิกหลายประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ (อารมณ์เดียวกับ Hi5 ดังในบ้านเรา)
Friendster เป็นบริษัทสหรัฐ ออกตัวก่อน social network คู่แข่งอื่นๆ แต่ไม่ประสบความสำเร็จในสหรัฐมากนัก อย่างไรก็ตามกลับไปได้ดีในภูมิภาคนี้และย้ายสำนักงานใหญ่มาอยู่ที่ออสเตรเลีย
ล่าสุดบริษัท MOL Global ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำเรื่อง online payment ของมาเลเซีย (ส่วนมากเป็นจ่ายเงินในเกมออนไลน์) และเป็นบริษัทลูกของเครือ Berjaya Corporation Berhad บริษัทยักษ์ใหญ่ของมาเลเซีย ได้เข้าซื้อกิจการของ Friendster โดยไม่เปิดเผยมูลค่า (แต่ประเมินกันว่า 100 ล้านดอลลาร์)
Alicia Keys นักร้องสาวเสียงดีได้เปิดตัวอัลบั้มใหม่ของเธอชื่อ The Element of Freedom พิเศษเฉพาะบน Facebook เท่านั้น โดยแฟนๆ สามารถเข้าไปฟังเพลงใหม่ของเธอได้บน fan page ซึ่งฟังได้เต็มอัลบั้ม ทุกเพลงไม่มีกั๊ก ขอเพียงแค่กดปุ่ม Become a fan เท่านั้น
ความน่าสนใจของข่าวนี้คือ เป็นครั้งแรกที่ศิลปินนักร้องชื่อดังเลือกใช้ Facebook เป็นจุดเปิดตัวอัลบั้ม ซึ่งในอดีตจ้าวแห่งเพลงออนไลน์บน social network คือ MySpace
รายละเอียดทางเทคนิคคือ Alicia Keys ใช้แอพพลิเคชัน Music for Pages จากบริษัท Involver ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการสร้างแบรนด์บน Facebook
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการเผยตัวเลขของผู้ใช้งาน Facebook ขึ้นครับ ตัวเลขที่น่าสนใจคือ
เว็บไซต์ Inside Facebook รายงานข่าวลือที่อ้างว่ามาจากวงในว่า MySpace บริการ social network ที่ได้รับความนิยมสูงในสหรัฐจะเปิดให้เราเชื่อมต่อกับ Facebook Connect ในปีหน้า
แม้ว่าทั้งสองค่ายจะเป็นคู่แข่งกัน แต่ข่าววงในบอกว่าเหตุผลสำคัญเป็นเพราะทีมบริหารชุดใหม่ของ MySpace นั้นมี Owen Van Natta อดีตผู้บริหารของ Facebook เป็นหัวหน้าทีม และวิสัยทัศน์ของเขาคือเปลี่ยน MySpace ที่สู้กับ Facebook ด้าน social network ไม่สำเร็จไปเป็นบริการ "social entertainment" เช่น เกม เพลง วิดีโอ แทน
ถ้าข่าวนี้เป็นจริง ก็อาจตีความกันได้ว่าศึกของวงการ social network ได้สิ้นสุดลงแล้ว? ตอนนี้คู่แข่งที่เหลือมีเพียงกูเกิลที่มี Open Social, Orkut และ Friend Connect ที่ไม่ค่อยมีคนใช้?
Dana Hanna เจ้าบ่าวของเราซึ่งเป็น chief architect ของเว็บไซต์ NextDayPets.com เข้าพิธีแต่งงานกับเจ้าสาว Tracy เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังจากสาบานตนเป็นสามีภรรยากันเรียบร้อย แทนที่จะจูบเจ้าสาวตามธรรมเนียม พี่แกกลับควักมือถือออกมาอัพเดตสถานะใน Twitter และ Facebook เล่นเอาเจ้าสาวและบาทหลวงถึงกับอึ้ง เท่านั้นยังไม่พอ Dana ควักมือถือออกมาอีกเครื่องเพื่อแจกเจ้าสาวให้อัพเดตสถานะด้วย
Standing at the altar with @TracyPage where just a second ago, she became my wife! Gotta go, time to kiss my bride. #weddingday
ยาฮูออกมาประกาศว่าภายในครึ่งแรกของปี 2010 บริการของยาฮูจะสามารถเชื่อมต่อกับ Facebook ได้ผ่าน Facebook Connect โดยผู้ที่อยู่บนเว็บของยาฮูจะเห็นสถานะของเพื่อนใน Facebook และในทางกลับกันก็สามารถแชร์กิจกรรมต่างๆ บนยาฮูขึ้นไปบน Facebook ได้
เมื่อเช้าผมล็อกอินเข้าเฟสบุ๊กเช่นเคย ก็ต้องแปลกใจเมื่อพบกับหน้าตาใหม่ ที่เห็นชัดๆ คือแถบเมนูด้านบนได้รับการออกแบบใหม่ ย้ายการแจ้งเตือน (Notification) จากมุมล่างขวามือไปแถบเมนูข้างในด้านซ้ายมือ ส่วนการร้องขอ (Requests) ต่างๆ ก็ย้ายจากที่มีเฉพาะในหน้าแรกขวามือไปอยู่ด้านซ้ายมือของการแจ้งเตือนที่แถบเมนูข้างบนเช่นกัน แล้วปุ่มล็อกเอาท์ย้ายไปอยู่ในปุ่ม Account แทน ส่วนการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ดูได้จากรูปข้างล่าง
หน้าเฟสบุ๊กใหม่
TechCrunch ได้รายงานว่า มีการทวีตกันประมาณ 4 ครั้งเกี่ยวกับฟีเจอร์ใหม่ของเฟสบุ๊กที่เปิดให้ผู้ใช้จำนวนหนึ่งได้ทดสอบ โดยผู้ใช้สามารถคอมเมนต์สถานะล่าสุด (status update) ของบุคคลอื่นผ่านอีเมลได้
เมื่อทาง TechCrunch ได้ถามทีมงานเฟสบุ๊กไป ก็ได้รับคำตอบว่าเฟสบุ๊กได้ปล่อยฟีเจอร์นี้กับผู้ใช้จำนวนหนึ่งจริง หลังจากที่เฟสบุ๊กได้ทดสอบเมื่อสองสัปดาห์ก่อนและแก้ไขข้อบกพร่องแล้ว ส่วนรายละเอียดอื่นนั้นเฟสบุ๊กไม่ได้เปิดเผยแต่อย่างไร
ที่มา: TechCrunch