หลังจากลือมาได้สักพักเกี่ยวกับหน้าร้านขายบริการสตรีมมิ่งสารพัดขาย ตอนนี้ YouTube ก็เปิดตัว Primetime Channels แหล่งรวมช่องสตรีมมิ่งต่างๆ 30 รายเข้าไว้ด้วยกันให้ผู้ใช้เลือกชมเนื้อหาต่างๆ ได้จากภายใน YouTube แล้ว
Primetime Channels จะเริ่มให้บริการแก่ผู้ใช้ YouTube ในสหรัฐอเมริกาก่อนเป็นประเทศแรก ในแพลตฟอร์มแรกเริ่มนี้ประกอบไปด้วยช่องสตรีมมิ่งทั้งภาพยนตร์, กีฬา อาทิ Paramount+, AMC+, STARZ, SHOWTIME เป็นต้น
Netflix ประเทศไทย เผยสถิติว่ารายการโชว์ stand-up comedy "เดี่ยว 13" ของโน้ต อุดม แต้พาณิช ขึ้นอันดับ 1 ของรายการหมวดทีวีในประเทศไทย นับตั้งแต่สัปดาห์แรกที่ขึ้นฉายบน Netflix (10-16 ตุลาคม 2562)
ซีรีส์ "เดี่ยวไมโครโฟน" ของโน้ต ได้รับความนิยมในประเทศไทยมายาวนาน การได้ฉายผ่านช่องทางสตรีมมิ่งอย่าง Netflix แล้วได้รับความนิยมตามไปด้วย คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก
แต่กรณีของ "เดี่ยว 13" กลายเป็นข่าวใหญ่ของประเทศไทย เพราะเนื้อหารายการมีวิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีด้วย (แต่เพิ่งมาเป็นข่าวตอนฉายสตรีมมิ่ง) ทำให้ "เดี่ยว 13" ได้รับความสนใจในวงกว้างมากยิ่งขึ้นไปอีก จนสามารถทะยานขึ้นเป็นอันดับ 1 ของรายการทีวีในไทยได้สำเร็จ
Netflix ประกาศรายละเอียดแพ็คเกจแบบใหม่ ที่ราคาถูกลงแต่มีโฆษณาแล้ว หลังจากบริษัทพูดเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นปี โดยจะเริ่มให้บริการตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป มีผลใน 12 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย บราซิล แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลี เม็กซิโก สเปน อังกฤษ และอเมริกา
การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่มีผลใด ๆ กับแพ็คเกจเดิมที่สมาชิกสมัครใช้อยู่ แต่จะเพิ่มแพ็คเกจมีโฆษณาเข้ามาเป็นตัวเลือก โดยในอเมริการาคาอยู่ที่ 6.99 ดอลลาร์ เทียบกับแพ็คเกจปัจจุบันไม่มีโฆษณาราคาถูกสุดอยู่ที่ 9.99 ดอลลาร์
Cloudflare ประกาศรองรับการเข้ารหัสไฟล์วิดีโอแบบ AV1 แบบเรียลไทม์ เท่ากับว่าเราสามารถถ่ายทอดวิดีโอแบบไลฟ์เป็นไฟล์อะไรก็ได้ ส่งขึ้นบริการสตรีมวิดีโอ Cloudflare Stream แล้วปลายทางจะได้เป็น AV1 ถ้าอุปกรณ์รองรับ
Cloudflare บอกว่าไฟล์วิดีโอแบบ AV1 มีข้อดีตรงที่ใช้แบนด์วิดท์น้อยกว่า H.264 ถึง 46% ช่วยให้โหลดเร็วขึ้น ประหยัดปริมาณเน็ต และตอนนี้อุปกรณ์สมาร์ทโฟนจำนวนมากก็รองรับการถอดรหัส AV1 ที่ระดับฮาร์ดแวร์ (decoder) ทำให้ไม่เปลืองพลังซีพียูและแบตเตอรี่เลย
แม้ว่า Netflix และ Disney+ จะเป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิงภาพยนตร์แบบเสียเงินที่ได้รับความนิยมในเอเชีย แต่ในประเทศอินโดนีเซีย แอปพลิเคชันสัญชาติอินโดนีเซียอย่าง Vidio ยังคงได้รับความนิยมมากกว่า
บริษัทวิจัย Media Partners Asia เปิดเผยว่าแอปพลิเคชัน Vidio เป็นแอปสตรีมมิงแบบพรีเมี่ยมที่ได้รับความนิยมสูงสุดในอินโดนีเซียในแง่การชั่วโมงรับชม แม้ว่า Disney+ จะมีจำนวนสมาชิกมากกว่าแต่ส่วนใหญ่มาจากการเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทโทรคมนาคม
Amazon Studios สตูดิโอสร้างภาพยนตร์และซีรีส์ของ Amazon Prime ประกาศสร้างซีรีส์ Blade Runner 2099 ที่เป็นเนื้อหาต่อจากภาพยนตร์ Blade Runner 2049 แต่เป็นเหตุการณ์ในอีก 50 ปีให้หลัง (ตามเลขชื่อภาค)
Blade Runner 2099 ได้ผู้กำกับภาพยนตร์ภาคต้นฉบับ Ridley Scott และผู้เขียนบทภาคสอง (2049) Michael Green มาร่วมเป็นโปรดิวเซอร์ ตอนนี้ซีรีส์ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นวางแผน
Ridley Scott เคยให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อปีที่แล้วว่าเขียนบทซีรีส์ Blade Runner ไปแล้ว และอยู่ระหว่างการคุยกับบริษัทผู้ผลิต ตอนนี้เราก็ได้คำตอบแล้วว่าเป็น Amazon Prime ที่ได้สิทธิสร้างซีรีส์นี้ไป
LG ประเทศไทย เปิดให้ดาวน์โหลดแอพ Amazon Prime Video บนแพลตฟอร์มสมาร์ททีวี webOS แล้ว สอดคล้องกับทิศทางการเข้ามาทำตลาดของ Amazon Prime Video ในประเทศไทย
LG บอกว่าสมาร์ททีวีรุ่นปี 2021-2022 ที่อัพเดตซอฟต์แวร์ล่าสุด จะได้รับการแจ้งเตือนว่าแอพ Prime Video พร้อมใช้งานแล้ว หรือจะกดปุ่ม Prime Video บนรีโมท (ที่มีมาตั้งแต่แรก และเพิ่งใช้งานได้จริง) ก็ได้เช่นกัน
Netflix ให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับพาร์ทเนอร์ในวงการภาพยนตร์ (แต่หลุดออกมายังสื่อ) ว่าแพ็กเกจการรับชมสตรีมมิ่งแบบมีโฆษณา ที่จะเริ่มให้บริการช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า จะไม่มีโฆษณาในรายการสำหรับเด็ก และภาพยนตร์ใหม่ที่เพิ่งออกฉายในช่วงนั้น
ทุกวันนี้ Netflix ยังต้องซื้อไลเซนส์ภาพยนตร์หรือรายการทีวีจากบริษัทภาพยนตร์อื่นๆ ซึ่งอาจไม่ยินยอมให้ Netflix หารายได้จากโฆษณาตามสัญญาเดิม ทำให้ Netflix ต้องกลับไปเจรจาส่วนแบ่งรายได้กันใหม่ แต่ในกรณีรายการสำหรับเด็กที่เจ้าของไลเซนส์ไม่ยินยอมจริงๆ แม้มีรายได้เพิ่มขึ้นก็ตาม Netflix ก็ไม่มีทางเลือกอื่น
Nielsen รายงานตัวเลขการชมเนื้อหาทางทีวีของคนดูในอเมริกา ของเดือนกรกฎาคม 2022 มีประเด็นสำคัญคือหากแยกกลุ่มประเภทที่มาของเนื้อหา การรับชมเนื้อหาจากบริการสตรีมมิ่ง มีส่วนแบ่งรวมสูงกว่ารายการทางเคเบิ้ลทีวีเป็นครั้งแรก โดยเมื่อปีก่อนสตรีมมิ่งก็แซงรายการทางทีวีแบบเดิม (Linear)
สตรีมมิ่งมีส่วนแบ่งการรับชม 34.8% ตามด้วยรายการทางเคเบิ้ล 34.4% รายการทีวีออกอากาศแบบเดิม 21.6% และอื่น ๆ (เล่นเกม ดู DVD ฯลฯ) 9.2% ทั้งนี้แนวโน้มส่วนแบ่งของสตรีมมิ่งเพิ่มขึ้นติดต่อกันมาแล้ว 4 เดือน ซึ่งน่าสนใจว่าทิศทางจากนี้จะเป็นอย่างไร เพราะท่าทีทั้งจาก Netflix และ Disney+ ในไตรมาสที่ผ่านมา สะท้อนว่าลูกค้าสตรีมมิ่งในอเมริกาเริ่มเติบโตน้อยลง
Walmart เครือข่ายร้านค้าปลีกรายใหญ่ในอเมริกา ประกาศร่วมมือกับ Paramount+ บริการสตรีมมิ่งของค่าย Paramount โดยลูกค้าบริการ Walmart+ จะได้สิทธิใช้งาน Paramount+ แพ็คเกจ Essential ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
Walmart+ เป็นบริการเสริมสมาชิก ได้สิทธิพิเศษต่าง ๆ เช่น ส่งสินค้าฟรีไม่จำกัดจำนวนครั้ง ส่วนลดในร้านค้า รูปแบบเดียวกับ Amazon Prime โดยมีค่าบริการปีละ 98 ดอลลาร์ ถูกกว่า Amazon Prime ซึ่งตอนนี้อยู่ที่ 139 ดอลลาร์ แต่บริการ Amazon Prime ที่ผ่านมามีวิดีโอสตรีมมิ่งรวมอยู่ด้วย
สงครามสตรีมมิ่งแบบพรีเมียมที่รุนแรงขึ้นทุกวันๆ ท่ามกลางตัวเลือกมากมายในตลาด เช่น Netflix, Disney+, HBO Max, Paramount+ ฯลฯ อาจทำให้ผู้บริโภคสับสนและเลือกไม่ถูก
ผู้เล่นที่อาจมาเหนือเมฆ แก้ปัญหานี้พร้อมกับสร้างรายได้ไปพร้อมๆ กันอาจเป็น YouTube ที่มีข่าวลือ (จาก Wall Street Journal) ว่าจะเปิด channel store ให้บริการสตรีมมิ่งต่างๆ มานำเสนอตัวเองต่อผู้ใช้ YouTube จำนวนมหาศาล ตัวอย่างเช่น สตรีมมิ่งอาจมาฉายเทรลเลอร์ของภาพยนตร์หรือซีรีส์บน YouTube สร้างความสนใจก่อน แล้วผู้ชมสามารถกดจ่ายเงินเพื่อสมัครบริการได้จากหน้าเว็บหรือแอพ YouTube ได้เลย
Disney+ ประกาศรายละเอียดแพ็คเกจรับชมแบบมีโฆษณา ซึ่งดิสนีย์เคยพูดถึงก่อนหน้านี้ โดยแพ็คเกจใหม่นี้มีผลเฉพาะกับลูกค้าในอเมริกา ตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2022 เป็นต้นไป
แพ็คเกจใหม่ที่มีเฉพาะ Disney+ จะแบ่งเป็นแบบ Basic มีโฆษณา ราคา 7.99 ดอลลาร์ต่อเดือน ซึ่งเป็นราคาเดิมของแพ็คเกจแบบไม่มีโฆษณา และอีกแพ็คเกจคือ Premium ที่ไม่มีโฆษณา ปรับราคาขึ้นเป็น 10.99 ดอลลาร์ต่อเดือน นอกจากนี้ดิสนีย์ยังมีแพ็คเกจแบบบันเดิลที่รวม Hulu และ ESPN+ อีกด้วย
Warner Bros. Discovery บริษัทที่เกิดจากการควบรวมของ Warner Media และ Discover แถลงผลประกอบการครั้งแรกในฐานะบริษัทใหม่ รายได้ไตรมาส 2/2022 อยู่ที่ 9.8 พันล้านดอลลาร์ ขาดทุนสุทธิ 3.4 พันล้านดอลลาร์ เป็นผลจากการด้อยค่าสินทรัพย์และปรับโครงสร้างต่างๆ
Amazon Prime Video บริการสตรีมมิ่งในเครือ Amazon ให้บริการกับลูกค้าในประเทศไทยมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว แต่วันนี้ Amazon ประกาศเริ่มทำตลาดในไทยอย่างเป็นทางการ โดยดึงเอามาริโอ้ เมาเร่อ มาทำแคมเปญโฆษณาให้ลูกค้าในไทยรู้จัก
Amazon ยังประกาศลงทุนทำเนื้อหาออริจินัล (Local Originals) เรื่องแรกของประเทศไทย Comedy Island: Thailand มีกำหนดออกอากาศในปี 2566 และระบุว่ามีเนื้อหาออริจินัลจากประเทศไทยอีกหลายเรื่องอยู่ระหว่างการพัฒนา
NFL ลีกอเมริกันฟุตบอล เปิดตัวบริการสตรีมมิ่ง NFL+ ตามที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ คิดค่าบริการที่ 4.99 ดอลลาร์ต่อเดือน หรือจ่ายรายปี 39.99 ดอลลาร์ ส่วนลูกค้าบริการตัวเดิม NFL Game Pass จะถูกเปลี่ยนมาเป็น NFL+ แทน นอกจากนี้ยังมี NFL+ Premium ที่ราคา 9.99 ดอลลาร์ต่อเดือน ไม่มีโฆษณาสำหรับการชมย้อนหลัง และเพิ่มมุมกล้องอื่นเข้ามา
อย่างไรก็ตามในช่วงแรกคอนเทนต์ที่รับชมได้ยังจำกัด เฉพาะแมตช์พรีซีซัน โพสต์ซีซัน ไม่รวมแมตช์ปกติที่มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ช่องปกติ หรือแมตช์สำคัญที่มีผู้ซื้อลิขสิทธิ์ไปแล้ว และรับชมได้ผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตเท่านั้น แต่คาดว่าจะมีการปรับรูปแบบในอนาคตต่อไป
Amazon Prime Video บริการสตรีมมิ่งในเครือ Amazon ปรับอินเทอร์เฟซของแอพใหม่ เปลี่ยนมาใช้หน้าตาคล้ายกับสตรีมมิ่งค่ายอื่นๆ ที่เราคุ้นเคย โดยเริ่มจากเวอร์ชัน Android และสมาร์ททีวี กล่องสตรีมมิ่ง เกมคอนโซลก่อน จากนั้นเวอร์ชัน iOS และเว็บจะตามมาทีหลัง
อินเทอร์เฟซแบบใหม่ของ Prime Video ใช้แนวทางเมนูแยกหมวดหมู่แนวตั้ง วางชิดที่ขอบซ้ายมือสุดของหน้าจอ ส่วนรายการในแต่ละหมวดจะเป็นแถบเลื่อนแนวนอน พร้อมโชว์ภาพโปรโมทขนาดใหญ่บนหน้าจอ
ตัวแทนของ Amazon บอกว่าออกแบบอินเทอร์เฟซใหม่ให้เรียบง่ายขึ้น หน้าตาไม่รกเหมือนเวอร์ชันก่อน กระบวนการออกแบบและพัฒนาใช้เวลาทั้งหมด 18 เดือน นอกจากนี้อินเทอร์เฟซใหม่ยังโชว์รายการกีฬาสด (ในสหรัฐ) ให้เด่นชัดขึ้นด้วย
หนึ่งในข่าวเซอร์ไพร์สของแวดวงไอทีเมื่อสัปดาห์ที่แล้วคือ Netflix เลือกไมโครซอฟท์เป็นพาร์ทเนอร์โฆษณา สำหรับบริการสตรีมมิ่งแบบมีโฆษณาที่ประกาศไว้ ถือว่าพลิกโผจากเดิมที่มีชื่อของ Comcast และกูเกิลว่าเข้ามาแข่งขันด้วย (เมื่อพูดถึงชื่อไมโครซอฟท์ คงไม่มีใครนึกถึงในแง่โฆษณาแบบวิดีโอสักเท่าไรนัก)
Wall Street Journal รายงานเบื้องหลังการชิงชัยครั้งนี้ว่า เหตุผลหนึ่งที่ไมโครซอฟท์ชนะ เป็นเพราะยืนยันว่าจะไม่ทำบริการสตรีมมิ่งมาแข่งกับ Netflix แน่นอน ส่วนเอกสารภายใน Netflix เองระบุว่าเลือกไมโครซอฟท์เพราะนโยบายด้านข้อมูลส่วนตัว, แพลตฟอร์มเทคโนโลยี และทีมเซลส์ของบริษัท
Chrunchyroll เว็บสตรีมมิ่งอนิเมะรายใหญ่ของโลก ที่ปัจจุบันอยู่ในเครือ Sony Pictures ประกาศลดราคาค่าสมาชิกรายเดือนลงในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย
ราคาแพ็กเกจพรีเมียมของประเทศไทย แบบพื้นฐาน (Fan) ลดเหลือ 69 บาท/เดือน ส่วนแพ็กเกจแบบ Mega Fan ที่รองรับการชมออฟไลน์ และสตรีมพร้อมกันได้ 4 จอ อยู่ที่ 89 บาท/เดือน หากซื้อรายปีจะเหลือ 899 บาท หรือตกเดือนละ 75 บาท (ลดจากรายเดือนอีก 16%)
Crunchyroll ไม่ได้ระบุว่าทำไมถึงสวนกระแสตลาด ด้วยการลดราคาครั้งใหญ่ในหลายประเทศมาก เหตุผลหนึ่งที่เป็นไปได้คือหลัง Sony ซื้อกิจการและรวมบริการ Crunchyroll กับ Funimation เข้าด้วยกัน จึงปรับแพ็กเกจราคาที่แตกต่างกันให้ไปในทิศทางเดียวกัน
ก่อนหน้านี้ Netflix ได้ทดสอบระบบใหม่เพื่อแก้ปัญหาการหารบัญชี แชร์รหัสผ่าน แต่อยู่คนละบ้าน โดยเริ่มที่ ชิลี คอสตาริกา และเปรู ล่าสุด Netflix ได้ทดสอบระบบป้องกันปัญหานี้เพิ่มในอีก 5 ประเทศ คือ อาร์เจนตินา เอลซัลวาดอร์ ฮอนดูรัส กัวเตมาลา และสาธารณรัฐโดมินิกัน ซึ่งทั้งหมดอยู่ในกลุ่มลาตินอเมริกา โดยใช้วิธีการที่ต่างออกไป
Netflix ประกาศว่าไมโครซอฟท์จะมาเป็นพาร์ทเนอร์ สำหรับให้บริการระบบโฆษณา ในแพ็คเกจรับชมแบบมีโฆษณาที่บริษัทเคยเกริ่นก่อนหน้านี้ โดยไมโครซอฟท์จะมาช่วยทั้งส่วนของเทคโนโลยีและการขายโฆษณา
Netflix ให้เหตุผลที่เลือกไมโครซอฟท์เป็นพาร์ทเนอร์ ว่าบริษัทสามารถสนับสนุนได้ทุกความต้องการที่ Netflix มองหา รวมทั้งพร้อมปรับแนวทางร่วมกับบริษัทได้ ตลอดจนมีระบบป้องกันความเป็นส่วนตัวที่ดี
ส่วนคำถามสำคัญว่าแล้วแพ็คเกจราคาถูกลง แบบมีโฆษณา จะเริ่มมีให้บริการเมื่อใด Greg Peters ซีโอโอ Netflix บอกว่า สถานะตอนนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นมาก ๆ และไม่ได้บอกกรอบเวลามา
Roger Goodell ประธานลีกอเมริกันฟุตบอล NFL ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ยืนยันว่าจะทำบริการสตรีมมิ่งของตัวเองชื่อ NFL+ ในฤดูกาลแข่งขันใหม่ 2022 ที่จะเริ่มในเดือนกันยายนนี้
ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าบริการ NFL+ จะมีเนื้อหาอะไรให้ชมบ้าง และมีแพ็กเกจราคาอย่างไร โดย Goodell บอกเพียงว่าบริการในช่วงเริ่มต้นจะยังค่อนข้างจำกัด แต่จะค่อยๆ เพิ่มเนื้อหาให้ดีขึ้นในระยะยาว
Stranger Things ซีซั่นที่ 4 เป็นซีรี่ส์บน Netflix เรื่องที่ 2 ที่ทำสถิติจำนวนชั่วโมงการรับชมสูงกว่า 1 พันล้านชั่วโมงต่อจาก Squid Game (1.65 พันล้านชั่วโมง) ซึ่ง Netflix วัดผลช่วง 28 วันแรกที่เริ่มฉาย
ตัวเลขล่าสุดของ Stranger Things ซีซั่นที่ 4 อยู่ที่ 1.15 พันล้านชั่วโมง และเนื่องจากซีรี่ส์ส่วน Volume 2 เพิ่งเริ่มฉายวันที่ 1 กรกฎาคม ตัวเลขจึงอาจเพิ่มสูงขึ้นได้อีก แต่จะแซง Squid Game หรือไม่ ต้องรอดูต่อไป
Stranger Things ซีซั่นที่ 4 Volume 2 ทำสถิติผู้ชม 301.3 ล้านชั่วโมง ใน 3 วันแรกที่เปิดตัว ส่วน Volume 1 ตัวเลขอยู่ที่ 335 ล้านชั่วโมง
Ted Sarandos ซีอีโอร่วม Netflix กล่าวในงานเทศกาลโฆษณา Cannes Lions ยืนยันว่า Netflix เตรียมออกแพ็คเกจที่มีโฆษณาแน่นอนในอนาคต ซึ่งเคยมีรายงานข่าวออกมาก่อนหน้านี้แล้ว หลังจากจำนวนสมาชิกลดลงในไตรมาสที่ผ่านมา และราคาหุ้นก็ปรับลดลงไปมาก
โดย Sarandos บอกว่า ยังมีลูกค้าอีกจำนวนมาก ที่มองว่าค่าสมาชิก Netflix แพงเกินไป แต่ถ้าจะมีราคาถูกกว่านี้แล้วมีโฆษณา พวกเขาก็ยอมรับได้ ซึ่งแพ็คเกจนี้จะเป็นทางเลือกเท่านั้น ไม่ใช่การแทรกโฆษณาเข้าไปให้กับสมาชิกทั้งหมด
การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดสตรีมมิ่ง ทำให้เจ้าตลาดอย่าง Netflix ต้องปรับกลยุทธ์ที่เคยใช้ได้ผลมายาวนานหลายอย่าง เช่น การมีแพ็กเกจราคาถูกลง แลกกับการมีโฆษณา, หันมาทำตลาดเกม และอาจทำคอนเทนต์ถ่ายทอดสด
ล่าสุดนักวิเคราะห์คาดว่าอีกนโยบายที่ต้องเปลี่ยนคือ การออกฉายซีรีส์รวดเดียวทั้งซีซัน เพื่อให้ผู้ชมดูได้ต่อเนื่อง (binge watch) ซึ่งสวนทางกับค่ายหนังอื่นๆ ที่ออกซีรีส์ใหม่สัปดาห์ละ 1 ตอน เพื่อดึงให้ผู้ชมจ่ายค่าสมาชิกไปนานที่สุดเท่าที่ทำได้
Media Partners Asia (MPA) บริษัทที่ปรึกษาและวิจัยตลาดสื่อ ออกรายงานวิเคราะห์ตลาดวิดีโอสตรีมมิ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีข้อมูลของประเทศไทยด้วย
ข้อมูลของ MPA มาจากการสำรวจผู้บริโภคใน 5 ประเทศ (อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย) ร่วมกับข้อมูลเชิงสถิติจากสมาร์ทโฟนของผู้บริโภคจำนวน 6,422 ราย พบประเด็นที่น่าสนใจดังนี้