องค์กร Amnesty International ที่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชน จัดอันดับคะแนนบริษัทที่ให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยในแชท สูงสุดคือ Facebook ที่มี Facebook Messenger และ WhatsApp ส่วนอันดับสองคือ Apple ที่มี iMessage และ FaceTime apps ตามด้วย Telegram ส่วน Snapchat และ Skype อยู่ในอันดับที่น่าเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยพอสมควร Joe Westby นักวิจัยด้านเทคโนโลยีของ Amnesty ระบุว่า ในอนาคตแอพเหล่านี้อาจไม่ปลอดภัย

WhatsApp ได้ปล่อยฟีเจอร์ใหม่ ให้ผู้ใช้สามารถวาดหรือเขียนภาพได้หลังจากที่ถ่ายภาพ คือเมื่อผู้ใช้ถ่ายภาพเสร็จแล้วจะมีเมนูแก้ไขภาพ เมื่อกดเข้าไปแล้วก็จะสามารถวาดเขียนภาพได้ทันที (เหมือนกับ Snapchat)

นอกจากนี้ก็ยังมีฟีเจอร์อำนวยความสะดวกด้านการถ่ายรูปอีกสองอย่าง คือ front-facing flash เพื่อให้ถ่ายเซลฟี่ในสภาพแสงต่ำ โดยจะทำให้หน้าจอสว่างเพื่อแทนแฟลช, ซูมสำหรับการบันทึกวิดีโอ เพียงแค่เลื่อนนิ้วขึ้นหรือลงเพื่อซูมเข้าออก และสลับกล้องหน้าหลังได้ด้วยการแตะเพียงสองครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้ออกอัพเดตไปแล้วส่วนหนึ่ง

ฟีเจอร์ทั้งหมดนี้ ผู้ใช้ Android สามารถอัพเดตเวอร์ชันล่าสุดแล้วใช้ได้เลย ส่วนผู้ใช้ iPhone จะมีการอัพเดตตามมาในเร็ว ๆ นี้

WhatsApp ได้เริ่มทดสอบฟีเจอร์การเชิญเพื่อนเข้ากลุ่มโดยใช้ลิงก์บนแอพสำหรับ Android เวอร์ชันเบต้า 2.16.281

เมื่อผู้ใช้ได้ทดลองใช้ฟีเจอร์นี้ จะเห็นปุ่มใหม่คือ "Invite to group via link" แสดงขึ้นมาด้านบนของรายชื่อที่อยู่ติดต่อ โดยเมื่อแตะปุ่มนั้นจะสร้าง URL ที่สามารถเอาไปแชร์ต่อได้ และลิงก์สามารถยกเลิกได้เมื่อไม่ต้องการให้มีคนเข้ากลุ่มเพิ่มเติม

ฟีเจอร์นี้จะช่วยอำนวยความสะดวกเมื่อผู้ใช้ต้องการสร้างกลุ่มขนาดใหญ่ โดยไม่จำเป็นต้องให้คนที่อยู่ในกลุ่มลากเข้ากลุ่ม เพราะผู้ใช้ที่มีลิงก์สามารถกดเข้ากลุ่มได้เลย

ที่มา - The Next Web

ก่อนหน้านี้ WhatsApp อัพเดตนโยบายความเป็นส่วนตัวใหม่ พ่วงเบอร์โทรศัพท์ไปใช้กับ Facebook ได้ ในทางหนึ่งเพื่อสามารถทำธุรกิจด้านโฆษณาได้ นโยบายใหม่นี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากเรื่องความปลอดภัย ล่าสุดประเทศเยอรมนีออกโรงไม่รับนโยบายนี้แล้ว

กรรมาธิการการป้องกันข้อมูลที่เมืองฮัมบูร์กมีคำสั่งให้ Facebook หยุดการเก็บรวบรวมข้อมูลผู้ใช้ WhatsApp ในเยอรมนีไปพ่วงกับ Facebook และยังเรียกร้องให้ Facebook ลบข้อมูลทั้งหมดของผู้ใช้ชาวเยอรมันที่ทำการพ่วงต่อไปแล้วประมาณ 35 ล้านคนออกด้วย

WhatsApp รุ่นเบต้า เพิ่มฟีเจอร์ใส่เครื่องหมาย @ เพื่อเมนชั่นถึงผู้ใช้เป็นรายคนในการแชทแบบกลุ่ม รูปแบบการใช้งานคือให้พิมพ์ @ แล้วจะมีหน้าจอแสดงรายชื่อเพื่อนขึ้นมาให้เลือก การใส่เมนชั่นในลักษณะนี้ยังไม่แสดงการแจ้งเตือนให้คนที่ถูกอ้างถึงทราบ แต่ก็น่าจะตามมาในอนาคต

นอกจากนี้ WhatsApp ยังขยายจำนวนคนที่ร่วมกลุ่มแชท จากเดิมจำกัดไว้ 100 คนมาเป็น 256 คน ช่วยให้ฟีเจอร์ @ มีประโยชน์มากขึ้นเวลาคุยกันในกลุ่มใหญ่ๆ และหากันไม่เจอว่าใครตอบใคร

ที่มา - Wired, Android Police

WhatsApp ได้ออกอัพเดตแอพเวอร์ชันใหม่ทั้งบน iOS และ Android ซึ่งมีความสามารถใหม่หลายอย่าง โดยเฉพาะความสามารถที่เพิ่มมาสำหรับ iOS 10 ได้แก่

หลังจากที่ WhatsApp อัพเดตนโยบายความเป็นส่วนตัว ว่าจะสามารถนำข้อมูลไปใช้กับ Facebook ได้ ทาง Electronic Privacy Information Center หรือ EPIC ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านความเป็นส่วนตัว ก็ได้บอกว่าทาง WhatsApp ทำการฝ่าฝืนคำสั่งของ FTC

EPIC บอกว่าทางหน่วยงานจะยื่นคำร้องไปยัง FTC โดยบอกว่า WhatsApp โกหกผู้ใช้เมื่อตอนขายให้ Facebook ในปี 2014 ว่าทางบริษัทจะไม่ขายข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้ หรือแบ่งปันเพื่อใช้ในการค้า ซึ่งทาง FTC ก็ตอบกลับโดยการเตือนทั้งสองบริษัทว่าให้เคารพคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับผู้ใช้ด้วย

WhatsApp ได้ทำการออกอัพเดตนโยบายความเป็นส่วนตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี โดยรอบนี้ก็จะเน้นเรื่องการเชื่อมต่อกับ Facebook ซึ่งเป็นบริการของบริษัทแม่ให้มากขึ้น

ส่วนหนึ่งที่สำคัญที่สุดของนโยบายความเป็นส่วนตัวใหม่ของ WhatsApp นี้คือ บริการ WhatsApp จะเริ่มแชร์ข้อมูลเบอร์โทรศัพท์กับ Facebook แล้ว เพื่อทำการโฆษณาและแนะนำเพื่อนบน Facebook ได้ดีขึ้น (แต่ WhatsApp ยังฟรีไม่มีโฆษณาต่อไป) นอกจากนี้ยังนำมาใช้เพื่อการปรับปรุงข้อมูลทางสถิติ และป้องกันสแปมด้วย ซึ่งทาง WhatsApp ก็ได้ทำปุ่มปิดการใช้งานเบอร์โทรศัพท์สำหรับการโฆษณาไว้ให้ผู้ใช้ที่ไม่ต้องการให้ใช้ในลักษณะดังกล่าว (แต่ Facebook ก็ยังสามารถนำไปใช้ในการทำอย่างอื่นได้)

มีรายงานว่า WhatsApp นั้นได้เก็บ chat log ของการแชทภายในแอพไว้แม้ว่าแชทนั้นจะถูกลบไปแล้วก็ตาม โดยผู้เขียนเรื่องนี้คือนักวิจัย iOS ที่ชื่อว่า Jonathan Zdziarski เขาค้นพบว่าตัวแอพนั้นเก็บ chat log เอาไว้ แม้ผู้ใช้จะสั่งลบไปแล้ว และข้อมูลสามารถถูกกู้กลับมาได้ผ่านระบบแบคอัพทางไกล

ในข้อมูลแชทที่ผู้ใช้ลบไปแล้วนั้น จะถูกกำหนดไว้ว่าแชทถูกลบไปแล้ว แต่จริง ๆ แล้วมันไม่ได้ถูกเขียนทับเลย และยังสามารถกู้กลับมาได้ด้วยเครื่องมือบางอย่าง ซึ่ง Zdziarski บอกว่าปัญหานี้มาจาก SQLite ที่ตัวไลบราลี่ใช้ในโค้ดของแอพที่ไม่ได้มีการสั่งให้เขียนทับแบบค่าเริ่มต้น

อัพเดตล่าสุดของแอพแชท WhatsApp ได้แอบเพิ่ม emoji เป็นรูปสัญลักษณ์ Olympics ลงไป เพื่อต้อนรับการเริ่มต้นของการแข่งขันกีฬา Olympics ทั่วโลกนั่นเอง โดยผู้ใช้บน Android และเวอร์ชันเว็บสามารถกดใช้งานได้ในเมนู emoji ของ WhatsApp ในหมวดกีฬา ส่วนผู้ใช้ iOS สามารถคัดลอก emoji จากข้อความเพื่อนที่ส่งมาให้หรือคัดลอกเครื่องหมายวงกลม ◯‍◯‍◯‍◯‍◯ นี้ลงไปในช่องพิมพ์ข้อความ ก็จะปรากฎ emoji รูป Olympics ขึ้นมา

สามารถใช้งานได้แล้วตั้งแต่วันนี้ โดยการอัพเดตแอพ WhatsApp ทั้งระบบ iOS และ Android เป็นเวอร์ชันล่าสุดครับ

ที่มา : The Next Web

WhatsApp ได้ออกอัพเดตใหม่สำหรับ iOS เวอร์ชัน 2.16.7 โดยรอบนี้มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่สำคัญ ดังนี้

• ฟีเจอร์การซูมเข้าและออกวิดีโอขณะกำลังทำการอัดวิดีโออยู่ เพียงแค่เลื่อนนิ้วขึ้นหรือลงบนหน้าจอเท่านั้น
• เพิ่มปุ่ม Edit ในหน้าแสดง chat thread ทั้งหมด เพื่อความง่ายต่อการเก็บ, ลบ หรือทำเครื่องหมายว่าอ่านแล้วทีละหลาย ๆ แชท
• chat thread แต่ละรายการจะโหลดเร็วขึ้น
• emoji ที่ส่งไปตัวเดียวจะแสดงใหญ่ขึ้น
• ส่วน WhatsApp Web ในการตั้งค่าถูกเปลี่ยนเป็น WhatsApp Web/Desktop

อัพเดตล่าสุดของ WhatsApp สามารถดาวน์โหลดได้แล้วทาง App Store

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ผู้พิพากษา Daniela Barbosa ของบราซิลมีคำสั่งให้ผู้บริการโทรศัพท์บล็อก Whatsapp ภายในประเทศอีกครั้งโดยไม่ได้มีการเปิดเผยเหตุผล ซึ่งคาดว่าอาจเกี่ยวเนื่องกับการบล็อกเมื่อปลายปีที่แล้ว และกลางปีที่ผ่านมา เหตุเพราะ Whatsapp ไม่ยอมมอบข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนคดีอาชญากรรม เนื่องจากถูกเข้ารหัส โดยผู้พิพากษาระบุแต่เพียงว่าจะยกเลิกคำสั่งก็ต่อเมื่อศาลได้ข้อความของผู้ใช้เท่านั้น

ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยเจ้าของนามแฝง @thegrugq เขียนบทวิเคราะห์เหตุการณ์รัฐประหารในตุรกีเมื่อวานนี้ ว่าเป็นการรัฐประหารที่การสื่อสารออนไลน์มีบทบาทอย่างมาก

ในฝั่งของกลุ่มทหารผู้พยายามก่อรัฐประหาร ใช้การสื่อสารผ่าน WhatsApp แบบเข้ารหัส ซึ่งภายหลังมีภาพของข้อความแชทการนัดหมาย-กระจายกำลังผ่าน WhatsApp ออกมาสู่สาธารณะ (ดูได้จากทวีตท้ายข่าว)

กลุ่มทหารผู้ก่อรัฐประหาร เข้ายึดสถานีทีวี TRT ของตุรกี แต่อินเทอร์เน็ตยังใช้งานได้ แม้บริการโซเชียลบางอย่างไม่สามารถใช้งานได้ชั่วคราว (เช่น Facebook) แต่โซเชียลอีกหลายตัว (เช่น Instagram) ยังใช้งานได้ปกติ และทหารไม่ได้ส่งคนไปที่ ISP แต่อย่างใด

WhatsApp ก็ได้ประกาศยอดการใช้งานของการสนทนาด้วยเสียงของบริการแล้ว ซึ่งสูงกว่า 100 ล้านครั้งต่อวัน หรือเมื่อคิดเป็นวินาทีคือมีจำนวนคนที่โทรผ่านบริการมากกว่า 1,100 ครั้งต่อวินาที และ WhatsApp สัญญาว่าจะทำให้บริการนี้ดีขึ้นในอีกไม่กี่เดือนถัดไป

บริการการสนทนาด้วยเสียง หรือการโทรผ่านอินเทอร์เน็ตของ WhatsApp ทั้งบน iOS และ Android แม้ว่าจะเป็นน้องใหม่ที่เปิดบริการได้เพียง 1 ปีกว่า ๆ แต่ก็ถือว่าเติบโตเร็วมากเนื่องจากจำนวนผู้ใช้ที่มากมายของ WhatsApp นั่นเอง

เว็บไซต์ Macerkopf ของเยอรมันได้ทดสอบแอพ WhatsApp เบต้าล่าสุด โดยรอบนี้ได้พบฟีเจอร์ที่น่าสนใจหลายอย่างที่กำลังอยู่ในช่วงทดสอบในตัวแอพ

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจที่สุด คือฟีเจอร์แชร์เพลง โดยผู้ใช้สามารถแชร์เพลงให้ผู้เพื่อนที่อยู่ในรายชื่อ ทั้งเพลงจากบนตัวเครื่องหรือเพลงบน Apple Music ส่วนฝั่งผู้รับเมื่อได้รับแล้วสามารถกดปุ่มเพื่อเล่นเพลงได้จากในหน้าการสนทนาทันที

ส่วนฟีเจอร์อื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ เช่น

WhatsApp ได้เพิ่มความสามารถใหม่ คือรองรับการ quote ข้อความแชทก่อนหน้าแล้ว โดยการ quote ข้อความแชทของ WhatsApp เพื่อเป็นการบอกว่าเรากำลังต้องการตอบกลับข้อความใดในบทสนทนา ป้องกันปัญหาสับสนเมื่อมีการสนทนาที่มีคนอยู่จำนวนมากๆ

วิธีใช้ฟีเจอร์นี้ เพียงแค่กดบอลลูนคำพูดในบทสนทนาค้างไว้สักพักก็จะมีปุ่ม Reply โดยเมื่อกดปุ่มนั้นแล้วข้อความแชทจะถูก quote มาโชว์เหนือกล่องพิมพ์ข้อความของเราทันที

สำหรับฟีเจอร์นี้ WhatsApp เริ่มปล่อยให้ผู้ใช้ทั่วไปได้ใช้งานแล้ว ซึ่งจากรายงานคือใครที่ใช้ WhatsApp เวอร์ชัน 2.16.6 ก็สามารถใช้ได้ทันที

ที่มา - Engadget

บริการเก็บสถิติ SimilarWeb รวบรวมสถิติแอพแชทยอดนิยมของแต่ละประเทศในโลก รวม 187 ประเทศ พบว่า WhatsApp ได้รับความนิยมสูงสุด และถือเป็นแอพแชทอันดับ 1 ใน 109 ประเทศ โดยเฉพาะในละตินอเมริกา แอฟริกา ยุโรปบางประเทศ ตะวันออกกลาง-เอเชียใต้ รวมถึงรัสเซีย

แอพที่ได้รับความนิยมตามมาเป็นอันดับสองคือ Facebook Messenger ที่ครองแชมป์ใน 49 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส ยุโรปตะวันออก (เท่ากับว่าแอพแชทยอดนิยมใน 158 ประเทศเป็นของ Facebook ทั้งหมด) อันดับสามในแง่จำนวนประเทศคือ Viber ที่ครองแชมป์ใน 10 ประเทศ ได้แก่ยุโรปตะวันออก แอฟริกาบางประเทศ รวมถึงพม่าและศรีลังกา

เว็บไซต์ Security-in-a-box ที่เป็นเว็บไซต์ด้านความปลอดภัยอันเกิดจากการร่วมกันระหว่าง Tactical Technology Collective และ Front Line Defenders องค์กร NGO ด้านความปลอดภัยของไอทีและสิทธิมนุษยชน เผยแพร่บทความพิเศษที่เขียนโดย Maria Xynou และ Chris Walker ผู้เชี่ยวชาญของ Tactical Technology Collective โดยระบุว่าแอพสนทนาเข้ารหัสอย่าง Signal นั้นยังเหนือว่า WhatsApp และแนะนำให้ทุกคนใช้ติดต่อสื่อสารกัน

ทั้งสองคนให้เหตุผลไว้ 4 ประเด็นหลักคือ

WhatsApp ได้เริ่มทำการทดสอบฟีเจอร์วิดีโอคอลในตัวแอพแล้ว โดย Fonearena รายงานว่าตอนนี้ WhatsApp beta บน Android ได้มีตัวเลือกให้ใช้งานวิดีโอคอลสำหรับผู้ใช้บางคน

ตอนนี้คาดว่า WhatsApp น่าจะกำลังทดสอบฟีเจอร์นี้กับผู้ทดสอบเพียงกลุ่มหนึ่งเท่านั้น และการมีตัวเลือกวิดีโอคอลก็น่าจะทำให้ผู้ใช้ WhatsApp ใช้งานได้สะดวกขึ้น โดย WhatsApp ไม่ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับแผนการทดสอบวิดีโอคอล แต่ก็คาดกันว่า WhatsApp น่าจะค่อยๆ ปล่อยฟีเจอร์นี้เหมือนกับการปล่อยฟีเจอร์โทรด้วยเสียงบน WhatsApp ที่เพิ่งเปิดให้ใช้ปีที่แล้ว

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า WhatsApp กำลังทดสอบการเชิญเข้ากลุ่มผ่าน QR code, ลิงก์ และ NFC tag ด้วย

คล้อยหลังจากการที่ John McAfee เปิดเผยว่าสามารถดักอ่านข้อความบน WhatsApp ได้ ล่าสุดเว็บไซต์ข่าว Gizmodo ก็ออกมารายงานว่าการเปิดเผยดังกล่าวของ McAfee เป็นการหลอกผู้สื่อข่าว

Gizmodo ระบุว่า McAfee วางแผนส่งสมาร์ทโฟนสองเครื่องไปยังให้สื่อมวลชนสองเจ้า (จากแหล่งข่าวของ Gizmodo คือ International Business Times และ Russia Today) พร้อมกับมัลแวร์ที่ถูกฝังมาเรียบร้อยในกล่องที่ปิดสนิท หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ซึ่งทำงานให้ McAfee จะเป็นคนแกะกล่องต่อหน้าสื่อก่อนที่จะแสดงข้อความให้เห็นว่าโดนดักได้ เรื่องนี้ถึงหู Dan Guido หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย ซึ่งได้ข้อมูลจากผู้สื่อข่าวเพื่อขอคำยืนยันอีกที ทำให้เขาทวิตออกมาเปิดโปงแผนนี้ (ดูทวิตทั้งสองอันท้ายข่าว) และให้คำแนะนำกับผู้สื่อข่าวว่าอย่าใช้โทรศัพท์เหล่านั้น เพราะแค่ซีลพลาสติกหุ้มกล่องก็สามารถทำให้ดูเหมือนใหม่ได้ (shrink wrap)

John McAfee ผู้ก่อตั้งและอดีตผู้บริหาร McAfee ประกาศว่าทีมงานด้านความปลอดภัยไซเบอร์ของเขา สามารถอ่านข้อความ WhatsApp ที่ถูกเข้ารหัสไว้ได้ โดยอาศัยเพียงช่องโหว่ของคีย์บอร์ดบนแอนดรอยด์และแอพสปายแวร์ที่ถูกติดตั้งลงไป โดยที่แอนดรอยด์ไม่ได้ถูกรูทด้วยซ้ำไป

McAfee ระบุว่าปัญหานี้เป็นความผิดพลาดของ Google มากกว่า WhatsApp พร้อมทั้งแจ้งเรื่องนี้ไปยัง 2 บริษัทแล้ว และนอกจาก WhatsApp แล้ว McAfee เผยว่ายังสามารถอ่านข้อความใน SnapChat จากช่องโหว่นี้ด้วยเช่นกัน

WhatsApp Web หรือบริการ WhatsApp บนเว็บ ได้เพิ่มความสามารถให้ส่งไฟล์ PDF ได้แล้ว จากที่ความสามารถนี้มีบน iOS, Android และ WhatsApp บนเดสก์ท็อป มาก่อนหน้านี้

วิธีส่งไฟล์ PDF คือเปิดการสนทนาก่อน แล้วไปที่ปุ่มแนบไฟล์มุมบนขวา และคลิกปุ่ม Document โดยปัจจุบัน WhatsApp ยังจำกัดให้ส่งได้เฉพาะไฟล์ PDF เท่านั้น ยังไม่สามารถส่งไฟล์เอกสารฟอร์แมตอื่นได้

ที่มา - The Next Web

ก่อนหน้านี้ไม่นานนักมีข่าวลือที่ว่า WhatsApp อาจขยายการใช้งานครอบคลุม Windows และ OS X ซึ่งตอนนี้ WhatsApp ก็ได้ออกแอพสำหรับ Windows และ OS X อย่างเป็นทางการแล้ว

ตัวแอพ WhatApp บน Windows และ OS X นั้นจะมีลักษณะคล้าย WhatsApp Web คือเป็นเพียงส่วนเสริมของ WhatsApp บนโทรศัพท์เท่านั้น และวิธีเข้าใช้งานก็ต้องสแกน QR Code เหมือนกัน

WhatsApp บนเดสก์ท็อปนั้น จะสามารถใช้งานได้บน Windows 8 หรือใหม่กว่า และ OS X 10.9 หรือใหม่กว่าเท่านั้น ดาวน์โหลดได้ที่ WhatsApp

ที่มา - WhatsApp

สืบเนื่องจาก WhatsApp ถูกศาลบราซิลสั่งให้ปิดระบบการใช้งานเป็นเวลา 72 ชั่วโมง เพราะการเข้ารหัสของแอพฯทำให้ตำรวจไม่สามารถสืบสวนคดีได้ ล่าสุดเมื่อวันอังคารศาลอุทธรณ์คำตัดสิน ส่งผลให้ WhatsApp กลับมาใช้งานได้อีกครัง หลังจากนั้น Mark Zuckerberg โพสต์ Facebook ว่า การที่คนบราซิลถูกเพิกเฉยในเรื่องเสรีภาพการสื่อสารในช่องทางที่พวกเขาต้องการ เป็นสิ่งที่น่ากลัวมากในระบอบประชาธิปไตย

คำสั่งศาลดังกล่าวสืบเนื่องมาจากกรณีความล้มเหลวของเจ้าหน้าทีตำรวจในการเข้าถึงข้อมูลออนไลน์เพื่อการสืบสวนคดีอาชญากรรมตั้งแต่ปี 2013 เพราะติดที่ระบบการเข้ารหัส (encryption) ของตัว WhatsApp เอง คำสั่งศาลประกาศตั้งแต่ 26 เมษายน แต่จะมีผลวันนี้ เวลาบ่ายโมงตามเวลาท้องถิ่น