WhatsApp ได้เผยสถิติใหม่ของระบบแชท ว่าตอนนี้มีผู้ใช้แบบแอคทีฟจำนวนถึง 1 พันล้านคนต่อวัน และ 1.3 พันล้านคนต่อเดือนแล้ว โดยข้อความที่แชทผ่านระบบ WhatsApp มีจำนวนกว่า 5.5 หมื่นล้านข้อความต่อวัน โดยมีรูปภาพ 4.5 พันล้านรูป และวิดีโอ 1 พันล้านคลิป

ส่วนฟีเจอร์ WhatsApp Status ซึ่งเป็นฟีเจอร์ในลักษณะเดียวกับ Stories ของ Instagram และ Snapchat นั้นมีผู้ใช้แบบแอคทีฟจำนวนถึง 250 ล้านคนต่อวัน

ที่มา - TechCrunch, WhatsApp

ในช่วงไม่เกินเดือนหรือสองเดือนนี้ จีนเริ่มใช้ไม้แข็งบล็อคและแบนคอนเทนต์เว็บไซต์ต่างประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ และยังไม่รู้ว่ามาตรการนี้จะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน เริ่มจากแบนไลฟ์สตรีมในจีนเอง บล็อคการเข้าถึงVPN (ยังไม่ยืนยัน) ไปจนถึงแบนวินนี่เดอะพูห์ ล่าสุดมีผู้ใช้ในจีนระบุว่าใช้แอพ WhatsApp ไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายละเอียดจากรัฐบาลออกมาอย่างเป็นทางการถึงคำสั่งแบน WhatsApp

หากรัฐบล็อคการเข้าถึง WhatsApp จริง ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ไปเต็มๆ คือ Wechat แอพแชทที่ครองอัตราผู้ใช้สูงสุดของจีนในขณะนี้

WhatsApp ได้ออกอัพเดตแอพ โดยเพิ่มความสามารถในการแชร์ไฟล์ให้ผู้ใช้สามารถแชร์ไฟล์ได้ทุกประเภท หลังจากที่สามารถส่งไฟล์ได้แต่ยังคงจำกัดเฉพาะไฟล์ PDF มาก่อน

สำหรับการแชร์ไฟล์ในครั้งนี้ จากข้อมูลในเว็บไซต์ WhatsApp กำหนดว่าไฟล์ที่แชร์ต้องขนาดไม่เกิน 100MB แต่จากรายงานของผู้ใช้บางคนพบว่าสามารถแชร์ไฟล์ใหญ่กว่านั้นได้เล็กน้อย

ส่วนฟีเจอร์อื่นนอกเหนือจากการแชร์ไฟล์ เช่น

ช่อง CNBC อ้างแหล่งข่าวภายในระบุว่าเฟซบุ๊กกำลังย้ายเซิร์ฟเวอร์ WhatsApp ออกจากบริการคลาวด์ IBM SoftLayer หลังจากปล่อยให้ใช้บริการเดิมมานับแต่เข้าซื้อบริษัทในปี 2014

ปกติแล้วผู้ให้บริการคลาวด์มักอ้างอิงลูกค้าดังๆ เช่น AWS มักจะพูดถึง Netflix หรือ Google Cloud อ้างถึง Snap และ Spotify แม้ว่าไอบีเอ็มจะไม่ได้พูดถึง WhatsApp ต่อสาธารณะแต่แหล่งข่าวของ CNBC ก็ระบุว่ามีการอ้างอิงอยู่บ้าง โดย WhatsApp ใช้เซิร์ฟเวอร์กว่า 700 ตัวและจ่ายค่าเซิร์ฟเวอร์เดือนละสองล้านดอลลาร์

WhatsApp รันบน SoftLayer มาตั้งแต่ปี 2009 ก่อนที่ไอบีเอ็มจะเข้าซื้อเป็นส่วนหนึ่งของบริการ Bluemix

WhatsApp ได้ออกอัพเดตแอพบน iPhone เวอร์ชัน 2.17.30 โดยเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ดังนี้

• ใส่ฟิลเตอร์สำหรับภาพ, วิดี​โอ, GIF
• เมื่อได้รับภาพหลายภาพจากผู้ส่งคนเดียวกันทีละหลายภาพ ภาพทั้งหมดจะถูกรวมเป็นอัลบั้มให้อัตโนมัติ
• ทางลัดการตอบกลับข้อความ ปาดไปทางขวาของข้อความใด ๆ ก็ได้และกดปุ่ม reply เพื่อตอบกลับข้อความนั้น ๆ

สำหรับผู้ใช้ iPhone สามารถอัพเดตแอพได้แล้วทาง App Store

ที่มา - VentureBeat

ไม่เพียง Facebook ที่เจอปัญหาข่าวปลอม WhatsApp ก็เจอปัญหาหนักไม่แพ้กัน แต่ดูเหมือนจะหนักกว่าเพราะข่าวปลอมที่แพร่ใน WhatsApp ส่งผลต่อสถานการณ์จริงด้วย

รายละเอียดคือมีคอนเทนต์หนึ่งเผยแพร่ใน WhatsApp ประเทศบราซิล ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งอายุราว 20 ปี กับผู้ชายสูงอายุประมาณ 60 ปี ลักพาตัวเด็กๆ ไปค้ามนุษย์ จนกระทั่งมีคนหนึ่งสังเกตุเห็นว่ามีบุคคลตรงตามข่าวลือที่แพร่ใน WhatsApp ในเขต Lake District กรุงริโอ เดอจาเนโร ทั้งคู่ขับรถสีขาว 1989 Ford Escort มีคนถ่ายภาพทั้งคู่ได้และภาพก็แพร่ไปใน WhatsApp ทำให้มีฝูงชนเข้าไปล้อมทั้งคู่และทำร้ายร่างกายพวกเขา แต่โชคดีที่ไม่ถึงแก่ชีวิต เพราะเพื่อนของฝ่ายหญิงเข้าไปช่วยไว้ และระบุว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักพาตัวเด็ก

WhatsApp เริ่มทำการเข้ารหัสข้อมูลแบคอัพบน iCloud อย่างเงียบ ๆ เพื่อป้องกันช่องโหว่การอ่านข้อความอีกชั้นหนึ่งนอกจากการหวังพึ่งการเข้ารหัสบนระบบของ iCloud เอง

โฆษกของ WhatsApp ยืนยันแล้วว่าฟีเจอร์นี้เริ่มเปิดใช้งานจริง โดยเมื่อผู้ใช้เริ่มใช้การแบคอัพแชทผ่าน iCloud ไฟล์ที่แบคอัพจะถูกเข้ารหัสก่อนส่งออกจากเครื่อง และฟีเจอร์ดังกล่าวเปิดให้ใช้งานแล้วตั้งแต่ปลายปี 2016

เมื่อผู้ใช้เปิดฟีเจอร์แบคอัพแชทขึ้น iCloud จะได้รับข้อความสั้นเป็นโค้ดยืนยันที่ส่งมา และเมื่อใส่โค้ดลงไปใน WhatsApp แล้วจะได้รับกุญแจเข้ารหัสมาใช้งานกับข้อมูลที่จะอัพโหลดขึ้น iCloud ซึ่งกุญแจนี้จะหายไปเมื่อลบ WhatsApp ออกจากเครื่อง

มีรายงานว่า WhatsApp บริการแชทภายใต้ Facebook ไม่สามารถให้บริการผู้ใช้ทั่วโลกได้เป็นช่วงเวลาหลายชั่วโมง ก่อนที่จะเพิ่งกลับมาใช้งานได้ไม่นานนัก

ทางโฆษกของ WhatsApp นั้นได้ยืนยันถึงปัญหาดังกล่าว โดยเผยว่าผู้ใช้ทั่วโลกไม่สามารถเข้าใช้งาน WhatsApp ได้เป็นเวลาไม่กี่ชั่วโมง และตอนนี้ได้แก้ปัญหาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งต้องขออภัยในความไม่สะดวกกับผู้ใช้ทุกคน

ในบราซิลนั้น WhatsApp ไม่สามารถเข้าใช้ได้ประมาณสองชั่วโมงครึ่ง โดยบราซิลนั้นเป็นประเทศที่ประชากรส่งข้อความหากันโดยใช้ WhatsApp เป็นจำนวนมาก ผลกระทบที่ตามมาคือทำให้ผู้ใช้หลายคนเริ่มเปลี่ยนไปใช้ Telegram แทน

ที่มา - Reuters

สำนักข่าว Reuters รายงานว่า WhatsApp เตรียมเข้าสู่วงการจ่ายเงินทางดิจิทัล ด้วยการเปิดตัวบริการครั้งแรกในประเทศอินเดีย ซึ่งตอนนี้ได้เริ่มประกาศว่าจ้างหัวหน้าฝ่ายดำเนินงานด้านการจ่ายเงินดิจิทัลในประเทศแล้ว

อินเดียถือเป็นตลาดใหญ่ของ WhatsApp ด้วยจำนวนผู้ใช้กว่า 200 ล้านคนจากพันล้านคนทั่วโลก โดยบริการใหม่ของ WhatsApp จะเป็นการโอนเงินระหว่างผู้ใช้ด้วยกันเอง และเตรียมเปิดตัวในอีกประมาณ 6 เดือนข้างหน้า

ทางโฆษกของ WhatsApp ได้กล่าวว่า อินเดียถือเป็นตลาดสำคัญของ WhatsApp ซึ่งทางเราเข้าใจว่าควรจะทำอย่างไรในการมีส่วนร่วมกับโครงการ Digital India (โครงการของรัฐบาลที่จะช่วยการใช้งานบริการผ่านอินเทอร์เน็ตในประเทศ) ซึ่งโฆษกไม่ได้ให้รายละเอียดของบริการมากนัก

WhatsApp ได้เปิดฟีเจอร์ Status เป็นฟีเจอร์คล้ายกับ Stories บน Snapchat และ Instagram แล้ว โดยมาแทน Status แบบที่เป็นข้อความปกติ ซึ่งก็มีปฏิกิริยาจากผู้ใช้ที่เรียกร้องว่าต้องการ Status แบบข้อความกลับคืนมา

ล่าสุด WhatsApp ก็เริ่มถอยกลับแล้ว โดยการเริ่มนำ Status แบบที่เป็นข้อความมาทดสอบในแอพเวอร์ชันเบต้าของ Android และทาง WhatsApp ยืนยันแล้วว่าตอนนี้ฟีเจอร์ดังกล่าวจะกลับมาจริง โดยข้อความที่ผู้ใช้ตั้งนี้จะปรากฏข้างกับชื่อโปรไฟล์ทุกครั้ง

ฟีเจอร์ Status แบบข้อความเดิมนี้จะกลับมาบน Android ในสัปดาห์หน้า และจะมาบน iPhone ในภายหลัง

WhatsApp ผู้ให้บริการส่งข้อความที่ปัจจุบันอยู่กับ Facebook ได้เริ่มทดสอบระบบส่งข้อความสำหรับธุรกิจ (ลักษณะคล้ายกับ LINE@) โดยเริ่มทดสอบกับบริษัทหลายแห่งที่เป็นส่วนหนึ่งของ Y Combinator บริษัทลงทุนด้านสตาร์ทอัพชื่อดัง

การทดสอบนี้ น่าจะเป็นหนึ่งในหนทางหารายได้ของ WhatsApp คือทางบริษัทสามารถเก็บค่าบริการจากผู้ส่งข้อความได้ แต่บริการนี้ WhatsApp ก็ต้องทำด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากต้องป้องกันปัญหาสแปมด้วย

นอกจากการเริ่มทดสอบแล้ว WhatsApp ยังเริ่มสำรวจความต้องการของผู้ใช้ว่าต้องการจะพูดคุยอะไรกับองค์กรธุรกิจผ่าน WhatsApp และเคยได้รับข้อความสแปมบ้างหรือไม่

WhatsApp ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ในแอพ เพื่อฉลองครบรอบ 8 ปี โดยที่ผ่านมาการแสดงสถานะผู้ใช้งานบน WhatsApp จะเป็นแบบข้อความพื้นฐาน อย่างไรก็ตามทีมผู้พัฒนาต้องการทำให้มันมากกว่านั้น จึงสร้าง Status รูปแบบใหม่ขึ้นมา

โดยใน Status ใหม่ของ WhatsApp นั้น ผู้ใช้งานสามารถแชร์ภาพและวิดีโอให้กับเพื่อนในบัญชีติดต่อบน WhatsApp ได้ ซึ่งเนื้อหานี้มีการเข้ารหัสแบบ end-to-end ผู้ใช้งาน WhatsApp ทั้งบน Android, iPhone และ Windows Phone ที่มีมากกว่า 1.2 พันล้านคนทั่วโลกจะเริ่มทยอยได้ใช้คุณสมบัตินี้

อย่าลืมว่า WhatsApp นั้นมีเจ้าของเดียวกับ Facebook (ที่กำลังจะมีฟีเจอร์แบบนี้), Instagram (ที่มีฟีเจอร์นี้และได้ผลตอบรับดีด้วย) รวมทั้ง Messenger (ซึ่งเพิ่งมีฟีเจอร์นี้เช่นกัน)

การเพิ่มคุณสมบัตินี้ลงใน WhatsApp ถือเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดจากฝั่ง Facebook เพื่อต้อนรับ Snap เข้าตลาดหุ้นได้อย่างน่าสนใจทีเดียว

ที่มา: WhatsApp และ TechCrunch

การนำฟีเจอร์แชร์เนื้อหาที่สามารถลบตัวเองใน 24 ชั่วโมงลงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ Facebook ยังคงดำเนินต่อไป ล่าสุดได้เพิ่มเข้าไปในแอพแชทอย่าง WhatsApp แล้วในชื่อ Status

ตัวฟีเจอร์ยังคงคอนเซปที่แชร์รูปภาพหรือวิดีโอให้เพื่อนๆ ดูแล้วจะลบออกจากแอพภายใน 24 ชั่วโมงและแต่งภาพด้วย emoji, ใส่ข้อความหรือวาดรูปลงไปเช่นเดิม ซึ่ง Status ของ WhatsApp จะแชร์ให้คนในรายชื่อของผู้ใช้ได้ดู นอกจากนี้มีความพิเศษที่สามารถแชร์เนื้อหาประเภทไฟล์ GIF ลงไปและยังมีตัวเลือกให้ mute Status ของคนที่ไม่อยากดูได้อีกด้วย

อัพเดตแอพ WhatsApp แล้วใช้งานฟีเจอร์นี้ได้แล้วทั้งบน iOS, Android และ Windows Phone

ที่มา : The Next Web

WhatsApp ได้เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปได้ใช้งานระบบยืนยันตัวตนสองชั้นแล้ว หลังจากที่เริ่มทดสอบระบบนี้ในแอพเวอร์ชันเบต้ามาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

สำหรับระบบยืนยันตัวตนสองขั้นตอนของ WhatsApp นั้นก็จะเป็นทางเลือกเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ โดยเมื่อเปิดใช้งานแล้ว ผู้ใช้จะต้องใส่รหัสผ่านหกหลักเพิ่มเติมนอกเหนือจากการยืนยันตัวตนด้วยเบอร์โทรศัพท์เพียงอย่างเดียว นอกจากนั้นผู้ใช้สามารถใส่อีเมลไว้เพื่อทำการรีเซ็ทรหัสผ่านเมื่อลืมรหัสผ่านด้วย

วิธีเปิดใช้งาน ให้ไปที่ Settings > Account > Two-step verification > Enable ก็จะแสดงหน้าให้กรอกข้อมูลต่าง ๆ เมื่อกรอกเสร็จระบบยืนยันตัวตนสองขั้นตอนก็จะเปิดใช้งานทันที

นักวิจัยด้านความปลอดภัยหลายคนได้ร่วมกันลงนามในจดหมายเปิดผนึกถึง The Guardian เรียกร้องให้ถอนรายงานปัญหาช่องโหว่ของ WhatsApp ที่ทางสำนักข่าวกล่าวว่า WhatsApp นั้นมี backdoor ในขณะที่ Open Whisper System เจ้าของโปรโตคอลเข้ารหัสที่ WhatsApp ใช้งานออกมาให้เหตุผลว่าเป็นลักษณะการออกแบบของ WhatsApp (ข่าวเก่า)

Zeynep Tufekci ผู้ที่จัดทำจดหมายเปิดฉบับนี้ให้ความเห็นเรื่องของ The Guaridan ว่า ทางสำนักข่าวไม่ควรจะรายงานปัญหาระดับร้ายแรงโดยไม่มีการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญที่เพียงพอ

เมื่อวานนี้ WhatsApp กลายเป็นประเด็นข่าวใหญ่เมื่อหนังสือพิมพ์ The Guardian รายงานถึงช่องโหว่ลับ (backdoor) ของ WhatsApp ว่าทำให้ผู้ใช้ถูกดักฟังได้ และวันนี้ทาง Open Whisper System ผู้พัฒนาโปรโตคอล Signal ก็ออกมาวิจารณ์ว่าเป็นการรายงานที่ไม่ตรงความเป็นจริง

แม้ว่า WhatsApp จะเข้ารหัสจากปลายทางถึงปลายทางเสมอ แต่กระบวนการยืนยันตัวตนถูกซ่อนเอาไว้ ทำให้หากตั้งค่าปกติ หากกุญแจฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเปลี่ยนไป ซึ่งอาจจะแปลว่ามีการเปลี่ยนเครื่องหรือลงแอปใหม่ หรืออาจจะหมายถึงการแชตกำลังถูกดักฟัง กุญแจที่เปลี่ยนไปก็เปลี่ยนโดยอัตโนมัติ

แอพแชท WhatsApp บน Android รองรับการส่งไฟล์ภาพแบบ GIF แล้ว โดยในเวอร์ชัน 2.17.6 (beta) ผู้ใช้สามารถค้นหาภาพได้จากบริการของ Giphy และส่งไปยังห้องแชทได้ การใช้งานให้แตะที่ปุ่ม emoji ก่อน จากนั้นจะมีปุ่มให้เลือกระหว่าง emoji และ GIF ขึ้นมาที่ด้านล่างคีย์บอร์ด สามารถเลือกส่งได้จากภาพที่แนะนำหรือค้นหาจากแอพได้ทันที

นอกจากนี้ WhatsApp ยังปรับปรุงการส่งภาพหรือวิดีโอพร้อมกันในครั้งเดียวได้จาก 10 ภาพเป็น 30 ภาพในเวอร์ชันนี้ แต่มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าไม่สามารถใช้งานได้ในเวอร์ชัน 2.17.8 (beta)

สำหรับ WhatsApp บน Android เวอร์ชัน 2.17.6 จะเริ่มปล่อยให้ใช้งานกันทั่วโลกในเร็วๆ นี้

WhatsApp ได้ขยายเวลาการสนับสนุนแอพบนแพลตฟอร์มที่เคยประกาศว่าจะหยุดสนับสนุนไว้เมื่อช่วงต้นปีว่าจะเลิกสนับสนุนภายในปีนี้หลายแพลตฟอร์มด้วยกัน

สำหรับแพลตฟอร์มที่ WhatsApp ประกาศจะขยายเวลาสนับสนุนได้แก่ Nokia S40, Symbian S60 และ BlackBerry โดยจะขยายการสนับสนุนไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายนปีหน้า

แต่สำหรับแพลตฟอร์มอื่นอย่าง Windows Phone 7, iOS 6, Android 2.3 Gingerbread นั้น WhatsApp ยังคงยืนยันที่จะเลิกสนับสนุนตามกำหนดเดิมคือภายในปีนี้ โดยแนะนำให้ผู้ใช้ที่จำเป็นต้องใช้งานต่อไปเปลี่ยนไปใช้งานแอพบน iPhone, Android หรือ Windows Phone รุ่นใหม่แทน

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าแอพแชทที่ได้รับความนิยมสูงสุดของโลกอย่าง WhatsApp ยังไม่มีฟีเจอร์วิดีโอคอลล์แบบเดียวกับที่คู่แข่งมี ที่ผ่านมา เราเห็น WhatsApp ทดสอบฟีเจอร์นี้อยู่เป็นระยะ และวันนี้ก็ได้เวลาเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

รูปแบบการใช้งานวิดีโอคอลล์ของ WhatsApp คงไม่แตกต่างจากบริการประเภทเดียวกันมากนัก โดยสามารถใช้ได้ทั้งบน Android, iOS, Windows Phone และจะเปิดให้ผู้ใช้ครบทุกคน (ผู้ใช้เกิน 1 พันล้านคน) ในเร็วๆ นี้

ก่อนหน้านี้ WhatsApp เคยประกาศจะระงับการรองรับบน BlackBerryOS และ BlackBerry 10 ภายในสิ้นปีนี้ ล่าสุดประกาศขยายเวลาไปเป็นวันที่ 30 มิถุนายน 2017 แล้ว

นอกจาก BlackBerry 10 และ BlackBerry OS แล้วยังมี S40 และ S60 ของโนเกียที่จะระงับการรองรับในช่วงกลางปีหน้า ขณะที่แอนดรอยด์ 2.1, 2.2, WIndows Phone 7 และ iOS 6 จะสิ้นสุดการรองรับในช่วงสิ้นปีนี้

ที่มา - CrackBerry

Viber แอพแชทของบริษัท Rakuten จากญี่ปุ่นที่มีผู้ใช้ถึง 800 ล้านคน เตรียมเปิดบัญชีผู้ใช้แบบ Public Accounts เพื่อให้แบรนด์และธุรกิจต่างๆ ทำการตลาด ใช้สื่อสารกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ใช้ Viber

เบื้องต้นมีประมาณ 1,000 บัญชีของแบรนด์และสื่อต่างๆ ที่เปิดเป็น Public Accounts เช่น The Huffington Post, Yandex และ The Weather Channel เปิดโอกาสให้แบรนด์ส่งข้อมูลใหม่ๆ ให้ผู้ใช้ที่กดติดตาม โดย Michael Shmilov ซีโอโอของ Viber บอกว่า การบริการลูกค้าในส่วนอื่นๆ จะตามมาทีหลัง

ในส่วนของ bot ทาง Viber บอกว่าทางบริษัทไม่ได้สร้าง bot ขึ้นมาเอง แต่เปิดให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์เข้ามาช่วยทำตรงนี้

WhatsApp ได้ออกอัพเดตแอพเวอร์ชัน iOS เวอร์ชัน 2.16.15 โดยรอบนี้มาพร้อมกับฟีเจอร์เกี่ยวกับการส่งไฟล์ภาพและวิดีโอเป็นไฟล์ GIF

ผู้ใช้ที่อัพเดตแอพแล้ว สามารถรับและส่งภาพเป็นไฟล์ภาพเคลื่อนไหว GIF ได้ โดยนอกจากภาพ GIF แล้ว ก็สามารถส่งวิดีโอที่มีความยาวไม่เกิน 6 วินาที รวมถึง Live Photo ผ่าน WhatsApp เป็นไฟล์ GIF ได้เช่นกัน

แอพ WhatsApp เวอร์ชันล่าสุด เปิดให้ดาวน์โหลดแล้วทาง App Store

ที่มา - MacRumors

Mashable ได้รายงานว่า ตอนนี้ WhatsApp กำลังพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า Status เป็นฟีเจอร์เกี่ยวกับการแชร์รูปภาพที่เหมือนกับ Snapchat ซึ่งเริ่มทดสอบแล้วผ่านทางแอพ WhatsApp เวอร์ชันเบต้าบน iOS และ Android

ฟีเจอร์นี้จะอยู่ในแท็บที่อยู่ระหว่างกลางของ Chats และ Calls โดยผู้ใช้สามารถสร้าง doodle และเพิ่มข้อความได้เหมือน Snapchat ซึ่งจะหายไปภายใน 24 ชั่วโมง

ในขณะที่คนไทยจำนวนมากใช้งานแอพแชต LINE เป็นประจำ (หรืออย่างน้อยก็รู้จัก) แต่ในตลาดโลกกลับส่งสัญญาณไม่ดีนัก เพราะมีรายงานว่ายอดเติบโตของ LINE ได้นิ่งมาพักใหญ่แล้ว

เว็บไซต์ Tech in Asia รายงานว่าปัจจุบัน LINE มีผู้ใช้งานเป็นประจำอยู่ที่ 220 ล้านคน ซึ่งไม่ขยับเลยจากไตรมาสที่แล้ว และเพิ่มจากยอดเมื่อช่วงนี้ของปีที่แล้วมาเพียง 8 ล้านคนเท่านั้น ถ้าหากดูในภาพรวม จะเห็นว่ายอดผู้ใช้งานของ LINE ค่อนข้างนิ่งมาตั้งแต่ต้นปี 2015 แล้ว (กดดูกราฟได้จากที่มา) ในขณะที่ WhatsApp มียอดผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกไตรมาส จนแตะ 1000 ล้านคนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

ช่วงกลางปีมีข่าวว่า WhatsApp กำลังทดสอบฟีเจอร์วิดีโอคอลบน Android ล่าสุดได้เปิดให้ใช้งานแล้วบน Android

การใช้งานไม่ยาก เพียงแค่เข้าไปที่ห้องแชท แตะปุ่มโทรและเลือก Video Call หากผู้ใช้อีกฝั่งมีแอพ WhatsApp ที่รองรับการทำงานก็จะมีหน้าจอโทรเข้าคล้ายกับแอพ FaceTime แต่ถ้าแอพยังไม่ได้อัพเดตให้ใช้ฟีเจอร์นี้ได้ก็จะมีการแจ้งเตือนให้อัพเดตแอพก่อนใช้งาน ส่วนคุณภาพการใช้งาน The Next Web รายงานว่าคุณภาพการโทรปกติแต่ก็มีติดขัดเล็กน้อยระหว่างใช้งาน เมื่อจบการใช้งานก็มีแบบสอบถามการใช้งานขึ้นมาให้ตอบ

สำหรับฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้งานก่อนบนเวอร์ชัน beta build ล่าสุดและมีรายงานเพิ่มเติมว่าเมื่อติดตั้งแล้วก็สามารถใช้งานได้แค่บางคนเท่านั้น

ที่มา : The Next Web