Hugo Barra ชี้แจงกรณีประเด็นร้อนกรณีทีม F-Secure ทดสอบ Xiaomi RedMi 1S แล้วพบว่ามีการส่งข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ในสมุดที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์ที่ส่ง SMS มาหาเรา ไปยังเซิร์ฟเวอร์ในจีนแม้ผู้ใช้จะไม่ได้ล็อกอินเข้า Mi Cloud ก็ตามที
จากกรณี Xiaomi Redmi Note แอบส่งรูปถ่ายและข้อความกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ในจีน ที่ทดสอบยืนยันโดยบริษัทความปลอดภัย F-Secure
Hugo Barra ผู้บริหารของ Xiaomi ออกมาอธิบายปัญหานี้แล้ว โดยบอกว่ามันเป็นฟีเจอร์ของรอม MIUI ที่เรียกว่า MIUI Cloud Messaging หรือการส่ง SMS ฟรีผ่านเน็ต หลักการทำงานของมันคืออ่านค่าการส่ง SMS ของผู้ใช้ แล้วเช็คว่าอุปกรณ์นั้นเชื่อมต่อเน็ตหรือไม่ ถ้าต่อเน็ตอยู่ ระบบจะส่ง SMS ผ่านเครือข่าย IP แทน SMS Gateway เพื่อไม่ให้ผู้ใช้ต้องเสียเงินค่า SMS ให้เครือข่าย แต่ถ้าไม่มีเน็ตก็จะกลับมาส่งผ่าน SMS Gateway ตามปกติ
จากกรณี Xiaomi Redmi Note แอบส่งรูปถ่ายและข้อความกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ในจีน บริษัทความปลอดภัย F-Secure เลยตัดสินใจทดสอบเรื่องนี้ครับ
ทีมงาน F-Secure ใช้อุปกรณ์ทดสอบเป็น Xiaomi RedMi 1S เครื่องใหม่แกะกล่องโดยไม่ตั้งค่าใดๆ และไม่สร้างบัญชีผู้ใช้ใหม่ตั้งแต่ตอนเปิดเครื่อง จากนั้นใส่ซิมการ์ด, ต่อ Wi-Fi, เปิด GPS, เพิ่มรายชื่อในสมุดที่อยู่, รับส่ง SMS และโทรออก/รับสาย กระบวนการทั้งหมดถูกดักจับทราฟฟิกอินเทอร์เน็ตที่วิ่งเข้าออกจากเครื่อง
คนที่ตามข่าว Xiaomi มาโดยตลอดคงรู้กันดีว่าสักวันหนึ่งคงต้องมีวันนี้ และมันมาถึงแล้วครับ
บริษัทวิจัยตลาด Canalys รายงานส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศจีนประจำไตรมาส 2/2014 ซึ่ง Xiaomi ก็ผงาดขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งของจีนแทนซัมซุงเรียบร้อย ด้วยส่วนแบ่งตลาด 14%
Canalys บอกว่า Xiaomi สร้างผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นในราคาที่ถูกมาก และมีกลยุทธ์การตลาดที่ทรงพลัง เมื่อผนวกกับซัมซุงไตรมาสล่าสุดมีผลงานไม่เข้าเป้านัก ส่งผลให้ Xiaomi เติบโตด้วยอัตรา 240% จากปีก่อน และเบียดขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งได้สำเร็จ ส่วนซัมซุงมียอดขายลดลงจากปีก่อน 15% และตกลงมาเป็นอันดับสองครั้งแรก หลังจากขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งได้ในปลายปี 2011
บริษัทวิจัย Strategy Analytics ออกรายงานสรุปสถานการณ์สมาร์ทโฟนโลก ประจำไตรมาส 2/2014 โดยยอดขายมือถือทั้งไตรมาสอยู่ที่ 295 ล้านเครื่อง เติบโตขึ้นจากปีก่อน 26.7%
ส่วนแบ่งตามระบบปฏิบัติการ Android ยิ่งกวาดส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นอีก จากปีที่แล้วมีส่วนแบ่ง 80.2% ปีนี้ส่วนแบ่งเพิ่มเป็น 84.6% แล้ว ในขณะที่ระบบปฏิบัติการอื่นๆ มีส่วนแบ่งลดลงกันถ้วนหน้าคือ iOS 11.9%, Windows Phone 2.7%, BlackBerry 0.6% (กรณีของ iOS ส่วนแบ่งตลาดลดลงแต่ยอดขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย)
คณะกรรมการการค้าเสรีของไต้หวันได้สั่งปรับเงิน Xiaomi เป็นจำนวน 600,000 ดอลลาร์ไต้หวัน หรือคิดเป็นเงินราว 640,000 บาท โทษฐานโฆษณาเป็นเท็จในการขาย Redmi เมื่อปีก่อน โดยล็อตแรก Xiaomi ระบุว่ามีอยู่ 1 หมื่นเครื่อง ขายหมดใน 9 นาที 50 วินาที ล็อตที่สองในสัปดาห์ถัดมาอีก 1 หมื่นเครื่อง ขายหมดในเวลา 1 นาที 8 วินาที และล็อตที่สามอีก 8 พันเครื่อง ขายหมดใน 25 วินาที
หลังจากที่เปิดตัวไปอาทิตย์ที่แล้ว อาทิตย์นี้ Xiaomi Mi4 ได้เริ่มวางขายแล้วในประเทศจีน โดยในล็อตแรกของ Mi4 ถูกจำหน่ายหมดลงอย่างรวดเร็วภายในเวลาแค่ 37 วินาที ขณะที่เรือธงรุ่นก่อนหน้าอย่าง Mi3 ยังคงร้อนแรงในอินเดีย เพราะการขายในล็อตที่สอง สินค้าทั้งหมดหมดลงไปในระยะเวลาแค่ 5 วินาทีเท่านั้น!!
Redmi Note ถือได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งของ Xiaomi ที่ขายค่อนข้างดีและมีกระแสตอบรับที่ดีพอสมควร อย่างที่ขายในสิงคโปร์ หมดในเวลาเพียง 42 วินาทีเท่านั้น แต่ล่าสุด Redmi Note รวมไปถึง Xiaomi อาจมีปัญหาเข้าให้แล้ว เมื่อมีผู้ใช้พบว่า Redmi Note ได้แอบส่งรูปถ่ายและข้อความในเครื่องกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ในประเทศจีน
Hugo Barra รองประธานฝ่าย global ของ Xiaomi ที่ลาออกจากกูเกิล ให้สัมภาษณ์กับ The Verge หลังงานเปิดตัวสมาร์ทโฟน Mi4 โดยพูดถึงประเด็นที่บริษัทถูกโจมตีมาเป็นเวลาพอสมควรว่าพยายามลอกเลียนแบบแอปเปิลทุกอย่าง
Barra บอกว่าสำหรับเขานั้น Xiaomi คือบริษัทที่มีนวัตกรรมอย่างเหลือเชื่อ และมีการพัฒนาปรับปรุงผลิตภัณฑ์โดยตลอด เขาจึงรู้สึกว่าการที่คนโจมตีว่าบริษัทลอกแอปเปิลนั้นเป็นเพราะ "ไม่รู้จะพูดอะไร" มากกว่า
นอกจากเรือธง Mi4 ที่เพิ่งเปิดตัวไปนั้น ทาง Xiaomi ยังเกาะกระแสสุขภาพ ด้วยการเปิดตัว Mi Band สายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพด้วยเช่นกัน
สายรัดข้อมือนี้สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวและการนอนผ่านการเชื่อมต่อบลูทูธได้เหมือนสายรัดข้อมืออัจฉริยะอื่นๆ รวมไปถึงสามารถเป็นนาฬิกาปลุกและกันน้ำกันฝุ่น (IP67) ได้ด้วยเช่นกัน แต่สิ่งหนึ่งที่แตกต่างคือสายรัดข้อมือ Mi Band สามารถใช้งานได้ถึง 30 วันต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และมีราคาแค่ $13 (ประมาณ 400 บาท) เท่านั้น
สาย Mi Band มีให้เลือกในหลากหลายสีและหลากหลายแบบอีกด้วย
ที่มา - Facebook Xiaomi
เปิดตัวกันไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับ Mi4 เรือธงของปีนี้จากทาง Xiaomi ซึ่งเรียกได้ว่าไม่แตกต่างจากที่หลุดออกมาสักเท่าไหร่ โดยมีโครงและบอดี้เป็นโลหะ ขณะที่ฝาหลังเปลี่ยนได้ สเปกอย่างเป็นทางการมีดังต่อไปนี้ครับ
อีกไม่กี่วันจะถึงงานเปิดตัว Xiaomi Mi 4 สมาร์ทโฟนเรือธงจาก Xiaomi น้องใหม่ไฟแรงสัญชาติจีนที่เพิ่งออกมายั่วน้ำลายแฟนๆ ว่ารุ่นใหม่ปีนี้จะเปลี่ยนไปใช้ตัวเครื่องทำจากโลหะทั้งชิ้น และตอนนี้ก็มีภาพหลุดตัวเครื่อง Mi 4 แบบชัดๆ ออกมาแล้ว
ตามภาพที่ออกมา Mi 4 มาพร้อมกับตัวเครื่องโลหะทั้งชิ้นตามที่คุยไว้ โดยส่วนที่เป็นโลหะนั้นคลุมตั้งแต่ฝาหลังมาจนถึงขอบเครื่องเลยทีเดียว ส่วนที่เปลี่ยนแปลงอื่นๆ ก็จะมีแผงปุ่มเมนูด้านหน้าที่เปลี่ยนสัญลักษณ์เป็นทรงใหม่ เรียบง่ายขึ้น ขนาดใหญ่ขึ้น แต่ยังไม่ถึงกับเรขาคณิตแบบ Android L
ดูเหมือนว่าปีนี้ เหล่าสมาร์ทโฟนเรือธงจะพาเหรดกันเปิดตัวเร็วกันแทบทุกเจ้า ล่าสุดฝั่งดาวรุ่งพุ่งแรงจากจีนอย่าง Xiaomi เริ่มยั่วแฟนๆ ด้วยการปล่อยข้อมูลชุดแรกของ ว่าที่สมาร์ทโฟนเรือธงตัวต่อไปออกมาแล้ว
ข้อมูลที่ว่าออกมาจากบัญชี Sina Weibo ของ Lei Jun ผู้ก่อตั้ง และซีอีโอ Xiaomi โดยโพสต์ภาพเลข 4 (น่าจะหมายถึง Mi 4) พร้อมกับคำประกอบแปลคร่าวๆ ว่าเจ้าเครื่องที่ว่านี้จะทำตัวเครื่องด้วยโลหะทั้งชิ้น ซึ่งยกระดับจาก Mi 3 ที่ใช้ตัวเครื่องเป็นพลาสติกจนโดนนักรีวิวบ่นกันจม
วันเปิดตัวของ Mi 4 ระบุมาด้วยว่าเป็นวันที่ 22 กรกฎาคมนี้ ใครชอบของถูกและดี ติดตามชมกันได้ครับ
ในยุคของสมาร์ทโฟน ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าแอปเปิลคือผู้จุดประกายกระแสความนิยมการใช้งานแอพบนสมาร์ทโฟนตัวจริง และผู้ใช้อุปกรณ์ iOS ส่วนมากก็ใช้เวลากับแอพในเครื่องมากกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ มาตลอด แต่ในที่สุดบัลลังก์นี้ก็ถูกท้าทายจากบริษัทคลื่นลูกใหม่สัญชาติจีน Xiaomi ที่เพิ่งมีรายงานว่าผู้ใช้แอพใช้เวลานานกว่าแอปเปิลเลยทีเดียว
รายงานดังกล่าวมาจาก Flurry บริษัทเก็บข้อมูลการใช้งานอุปกรณ์พกพาที่ไปเก็บข้อมูลการใช้งานสมาร์ทโฟนในจีนมากกว่า 23,000 เครื่อง และได้ผลออกมาว่าอุปกรณ์ของ Xiaomi มีผู้ใช้งานแอพยาวนานที่สุด เหนือกว่าแอปเปิลที่ครองตำแหน่งนี้มายาวนานกว่า 6 ปีด้วยกัน
Xiaomi ทยอยเปิดตัวในหลายประเทศแถบเอเชียเรื่อยๆ (ลอยข้ามหัวไทยไปมาแต่ยังไม่มาจริงๆ สักที) ล่าสุดเป็นคิวของอินเดีย โดยเตรียมขาย Xiaomi Mi 3 ในราคา 14,999 รูปี หรือประมาณ 8,200 บาท จะเริ่มให้ลงชื่อสั่งซื้อวันที่ 15 กรกฎาคมนี้
ก่อนหน้านี้ Xiaomi เพิ่งบุกมาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย และล่าสุดคืออินเดีย ส่วนประเทศไทยนั้นเป็นประเทศสุดท้ายในแผนการบุกเอเชีย 5 ประเทศที่ประกาศไว้เมื่อเดือนเมษายน
ที่มา - +Hugo Barra
หลังจากเปิดให้ชาวสิงคโปร์ไปทายราคาของ Redmi Note สมาร์ทโฟนจอยักษ์ราคาประหยัดตั้งแต่เมื่อเดือนก่อน ก็ถึงเวลาวางขายจริงของเจ้ารุ่นนี้อย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมกับทำลายสถิติขายเร็วที่สุดอย่างต่อเนื่องด้วยการขายหมดล็อตแรก 5,000 เครื่องภายในเวลาเพียง 42 วินาทีเท่านั้น
การวางขาย Redmi Note ในสิงคโปร์นับเป็นประเทศแรกนอกจากจีน ซึ่งเปิดราคามาถูกตามเคยที่ 199 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 5,000 บาท) โดยรุ่นที่วางขายเป็นรุ่น WCDMA สองซิม (รุ่น 3G นั่นเอง) ที่มาพร้อมกับหน่วยความจำ 8GB และแรม 2GB ครับ
ที่มา - Tech in Asia
Xiaomi เริ่มเปิดขายแท็บเล็ต MiPad ในประเทศจีนผ่านหน้าเว็บแล้ว และยอดขายยังร้อนแรงเหมือนสินค้า Xiaomi ตัวอื่นๆ โดยแท็บเล็ตล็อตแรกจำนวน 50,000 เครื่องขายหมดภายใน 3 นาที 59 วินาทีเท่านั้น
สเปกคร่าวๆ ของ MiPad คือหน้าจอ IPS 7.9" 2048x1536, ซีพียู Tegra K1, แรม 2GB, กล้อง 8MP/5MP, รุ่น 16GB วางขายในราคา 1499 หยวน หรือประมาณ 8,000 บาท
ที่มา - MIUI Forum
Xiaomi มือถือยอดฮิตจากจีน หลังจากที่เปิดตลาดเพิ่มในทวีปเอเชีย และ เตรียมมาเปิดตลาดประเทศไทย นั้น ล่าสุด ทาง กสทช. ได้ประกาศรับรอง Xiaomi ไปแล้ว 3 รุ่น ประกอบด้วย
ใครที่รอซื้อรุ่นนี้อยู่ เตรียมเงินไว้ได้เลยครับ
Xiaomi ยังอยู่ในช่วงขาขึ้นที่ทำอะไรก็ดีไปหมด ล่าสุด Lei Jun ซีอีโอของบริษัทออกมาเผยยอดขายมือถือในครึ่งแรกของปี 2014 ว่าขายได้ 26.11 ล้านเครื่อง เติบโต 271% จากปีก่อน ส่วนรายได้อยู่ที่ 33 พันล้านหยวน โตขึ้น 149% จากปี 2013 ตลอดทั้งปี
Xiaomi เคยประกาศเป้าหมายของปี 2014 ที่ 60 ล้านเครื่อง ซึ่งจากยอดขายครึ่งปีแรกที่ออกมาดี บริษัทก็มั่นใจว่าจะแตะยอด 60 ล้านเครื่องได้ไม่ยากนัก
ยอดขายของ Xiaomi โตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยปี 2012 ขายได้ 7.19 ล้านเครื่อง และปี 2013 ขายได้ 18.7 ล้านเครื่อง
ที่มา - Xiaomi Blog (ภาษาจีน) via Tech in Asia
แม้ว่า Xiaomi ประกาศปักธงเพื่อเตรียมลงตลาดในอินโดนีเซียในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ล่าสุด Xiaomi ประกาศผ่านทาง Facebook อย่างเป็นทางการของบริษัทว่า ทางบริษัทกำลังจะบุกในตลาดฟิลิปปินส์อย่างเป็นทางการในเร็ว ๆ นี้
เพิ่งบุกเข้ามาเลเซียไปเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม ล่าสุด Xiaomi ประกาศเตรียมวางขายสมาร์ทโฟนในอินโดนีเซียอย่างเป็นทางการแล้ว ตามแผนขยายตลาดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ประกาศไว้ตั้งแต่ต้นปี
Hugo Barra รองประธานของ Xiaomi Global ยืนยันการบุกอินโดนีเซียในงาน International Cellular Show (ICS) งานแสดงสินค้าคล้ายกับ CES ของสหรัฐฯ ว่า Xiaomi จะเริ่มวางขายสินค้าของตัวเองในอินโดนีเซียเร็วๆ นี้ โดยมี Erajaya ผู้ขายสมาร์ทโฟนรายใหญ่ในอินโดนีเซียให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าจะเริ่มขายประมาณเดือนสิงหาคม และในงาน ICS ดังกล่าว Erajaya เองก็มีบูธแสดงสินค้าของ Xiaomi ตั้งโชว์แล้ว
Kantar Worldpanel ComTech เผยส่วนแบ่งตลาดมือถือช่วงเดือน ก.พ.-เม.ย. 2014 พบว่าบริษัทมือถือรายเล็กๆ เริ่มเจาะตลาดได้มากขึ้น
ประกาศไปก่อนหน้าแล้วว่าจะขยายตลาดไปยังหลายประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายในปีนี้ Xiaomi ก็ประเดิมแผนนี้ด้วยการเริ่มขายสมาร์ทโฟนของตัวเองในมาเลเซียอย่างเป็นทางการแล้ว
สินค้าล็อตแรกที่ขายในมาเลเซียจะยังมีแค่ MI 3 สมาร์ทโฟนเรือธงตัวปัจจุบันของบริษัท ซึ่งวางขายในราคา 889 ริงกิตมาเลเซีย (ประมาณ 9,000 บาท) ซึ่งขายหมดเกลี้ยงภายในเวลาเพียง 17 นาทีเท่านั้น
นอกจาก MI 3 แล้ว Xiaomi บอกว่าจะพยายามเอารุ่นอื่นมาขายอีก โดยที่อยู่ในแผนแล้วคือ Redmi 1S สมาร์ทโฟนคุ้มราคารุ่นอัพสเปค มาขายในเดือนหน้า แต่ยังไม่ได้ประกาศราคาออกมาครับ
บริษัทวิจัยตลาด Canalys เผยส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนโลกประจำไตรมาส 1/2014 แยกตามแบรนด์ (ข่าวเดียวกับข่าวนี้ แต่เพิ่มรายละเอียดของตลาดจีนเข้ามา) อันดับหนึ่งยังเป็นของซัมซุงที่ 31% ส่วนแอปเปิลครอง 16% และบริษัทมือถือจีนติดอันดับ Top 10 ถึง 5 รายคือ Huawei, Lenovo, Xiaomi, Yulong, ZTE
ที่น่าสนใจคือตลาดจีนมีส่วนแบ่งคิดเป็น 35% ของตลาดโลก ขายสมาร์ทโฟนได้รวมกัน 97.5 ล้านเครื่องในไตรมาสเดียว และ 16% ของสมาร์ทโฟนที่ขายนั้นเป็นมือถือ 4G แล้ว
Xiaomi เปิดตัวโทรทัศน์มาก่อนหน้านี้แล้ว ผ่านไปแปดเดือนบริษัทก็เปิดรุ่นอัพเกรด Mi TV 2 ออกมาอีกครั้ง มีสเปคดังนี้
ราคา 3999 หยวน แพงกว่ารุ่นแรกที่ขาย 2999 หยวนพอสมควร เริ่มขายวันที่ 27 มิถุนายนนี้
ที่มา - MIUI