By: lew 
on 12 August 2009 - 23:13
Tags:
เป็นเรื่องราวใหญ่เมื่อ i4i ที่ถือสิทธิบัตรในการสร้างฟิลด์ตามความต้องการของผู้ใช้ (Custom XML) ได้ฟ้องร้องไมโครซอฟท์ที่ใส่ความสามารถนี้ลงใน Word 2003 และ Word 2007 จนศาลรัฐเท็กซัสออกคำสั่งคุ้มครองให้ไมโครซอฟท์หยุดขาย Word ทั้งสองรุ่นในรัฐเท็กซัสภายใน 60 วัน
เชื่อว่าน่าจะมีการสร้าง Word รุ่นพิเศษสำหรับรัฐเท็กซัสก่อนจะมีการหยุดขายจริง
สิทธิบัตรของ i4i นั้นมีประโยคหนึ่งที่ระบุว่าสิทธิบัตรนี้ครอบคลุมถึง "ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการทำฟอร์แมตให้กับ XML แบบเฉพาะ" (anything that touches custom XML formatting) ทำให้ Word 2003 และ Word 2007 ซึ่งสามารถแสดงผลข้อมูลที่เป็น XML แท็กพิเศษได้ติดบ่วงสิทธิบัตรนี้ไปด้วย
สิทธิบัตรของ i4i นั้นเป็นสิทธิบัตรแบบครอบจักรวาลอันหนึ่ง ก่อนหน้านี้ไมโครซอฟท์เคยต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับ i4i ไปแล้ว 200 ล้านดอลลาร์ และมีแนวโน้มว่าต้องจ่ายเพิ่มเติมอีกประมาณ 90 ล้านดอลลาร์
ข่าวนี้คงเป็นตัวอย่างหนึ่งของ "เกรียน" สิทธิบัตรอีกครั้งหนึ่งในโลกไอที
ที่มา - ARNnet
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
เกรียนแบบนี้มันน่าซื้อทิ้งจริงๆ
โกงประเทศอื่นมาเยอะ แล้วหันล่อกันเองแล้วเหรอเนี่ย
http://twitter.com/darkleonic
I need healing.
เท่าที่ผมเข้าใจ i4i น่าจะเป็นของ Canada นะครับ
ผมอ่านมาจาก http://www.tomshardware.com/news/Microsoft-Word-Patent-Infringement-U.S.,8436.html
เห็นว่าเป็น Toronto-based
เช็คที่เว็บไซต์ของ i4i เอง ก็เห็นว่า head quarter อยู่ที่ Toronto, Ontario, Canada จริง ๆ
พอดีเค้าคงจดสิทธิบัตรอันนี้ที่ประเทศอเมริกาด้วย ทำให้ฟ้องร้องที่ศาลอเมริกาได้
สิทธิบัตร ไม่ได้มีไว้ปกป้องเท่าไหร่นะผมว่า
มีเอาไว้ฟ้องหากินกันนี่แหละ
Kohsija
200 ล้านนี่ไม่ใช่แค่สั่งให้จ่ายเหรอ แต่ยังไม่จ่ายจริงก็เลยโดนดอกเบี้ยไปอีก
เรื่องสิทธิบัตรนี่ มันเป็นปัญหาใหญ่ของวงการไอทีในอเมริกาอยู่เหมือนกัน เพราะทำให้บริษัทไอทีเล็ก-กลางที่ทำผลิตภัณฑ์ออกมาจริงๆ อยู่ไม่ได้ไม่รู้จะโดนฟ้องเมื่อไหร่ เหลือแต่บริษัทขนาดเล็กที่เน้นจดสิทธิบัตร(แค่ความคิด ไม่มีผลิตภัณฑ์ออกมาเลย)แล้วไล่ฟ้องเอาอย่างเดียว กับยักษ์ใหญ่ที่พอจะออกผลิตภัณฑ์ออกมาได้เนื่องจากมีสิทธิบัตรในมือจำนวนมากกับเงินทุนที่หนาปึ๊กจนไม่เจ๊งง่ายๆ กับการโดนฟ้อง
มีให้ตามอ่านอีกเยอะที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Software_patent_debate
เลยมีความคิดที่ว่า ลิขสิทธ์ และ สิทธิบัตร์ ในตอนนี้มีผลครุ้มครองนานเกินไป ควรจะให้มีผลสั้นลงไงครับ ^^
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
อีกหน่อยจะมี [xml][/xml] แทน ไม๊เนี่ย
เกรียนของจริง
สนับสนุนให้ MS ซื้อบริษัทนี้แล้วปิดทิ้งเสีย
รู้สึกว่ามันงี่เง่า
ปกติ Anti MS แต่กรณีนี้..เกลียดพวกเกรียนสิทธิบัตรมากๆ
มีคนจำนวนมากคิดแบบนี้ และเรียกร้องให้ปฏิรูประบบทรัพย์สินทางปัญญาเสียใหม่นะครับ (ที่เด่นๆ คือ Lessig) แต่แน่นอนว่าผู้ถือครองสิทธิบัตรทั้งหลายก็ไม่อยากให้เป็นเช่นนั้นแน่ๆ
IBM นี่ตัวพ่อเลย
LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
สิทธิบัตรนี้มันหอกหักไปหน่อยแล้วรึเปล่า....อย่างงี้โปรแกรม 3D ที่เขียนไฟล์ออกมาเป็น COLLADA(3DXML) ไ้ด้ อ่านได้ แก้ได้ ก็โดนแล้วอะดิ
อันนี้เคยคุยกับคนที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านสิทธิบัตร เค้าก็ตอบไม่ได้และผมเองก็กลัว เลยกำลังจะไปจดหลายๆ ตัว ทั้งที่บางตัวมันง่ายมากแบบไม่น่าจะจด แต่เนื่องจากมีเงินเข้ามาเกี่ยวกลัววันนึงมีคนมาฟ้อง แนะว่ากันไว้ดีกว่าแก้ ใครมีความคิดอะไรแนะนำไปจดสิทธิบัตรไว้ก่อน ค่าใช้จ่ายไม่มาก วันนึงอาจจะได้นั่งนับเงินฟรีๆ
พอจะอธิบายได้ไหมครับว่าสิทธิบัตรซอฟท์แวร์มันเป็นยังไง เคยอ่านจากที่ไหนจำไม่ได้แล้วว่าซอฟท์แวร์ไม่สามารถจดสิทธิบัตรได้
@kittipatv
http://kittipatv.wordpress.com
คงหมายถึงส่วนที่เป็นโค้้ดโปรแกรม มันไม่สามารถจดสิทธิบัตรได้แต่จดเป็นลิขสิทธิ์ได้
แต่ในกรณีของซอฟท์แวร์ มันไม่ใช่แค่ส่วนของโค้ดโปรแกรมนะครับ ส่วนที่เป้นไอเดียหรือการออกแบบนั้นน่าจะจดได้
LongSpine.com
สิทธิบัตรซอฟต์แวร์จดได้หรือไม่ ขึ้นกับประเทศด้วยครับ ของอเมริกาจดได้ ไทยจดไม่ได้ (แต่ไทยใช้ซอฟต์แวร์อเมริกา)
กรณีที่ดังๆ และใกล้ตัวหน่อยคือสิทธิบัตรในไฟล์ภาพแบบ GIF และ MP3 (เป็นเหตุให้ต้องคิด PNG และ Ogg ขึ้นมาทดแทน รวมถึงเป็นสาเหตุที่ลินุกซ์หลายค่ายเล่น MP3 ไม่ได้ในตัว)
มันเคยจดไม่ได้มาก่อน แต่วันดีคืนดีมันก็เกิดเคสที่ทำให้จดได้ขึ้นมา ซึ่งทางอเมริกาใช้ระบบกฎหมายคอมมอนลอว์อย่างที่รู้กัน เท่าที่จำได้เป็นเรื่องซอฟแวร์ควมคุมอุณหภูมิการอบยาง หลังจากนั้นพอคนเห็นว่าจดได้ก็จดกันเละเลย
ผมว่าเนื้อหาข่าวที่คุณ lew เขียน มีจุดหนึ่งที่มันค่อนข้างจะผิดไปจากความหมายที่เขียนไว้ในตัวข่าวต้นฉบับนะครับ
คุณ lew เขียนว่า
"... จนศาลรัฐเท็กซัสออกคำสั่งคุ้มครองให้ไมโครซอฟท์หยุดขาย Word ทั้งสองรุ่นในรัฐเท็กซัสภายใน 60 วัน"
ความจริงก็คือว่าศาลด้านทรัพย์สินทางปัญญาอยู่ที่เท็กซัสบอกให้เลิกขายในทุกพื้นที่ในอเมริกาไม่ใช่เฉพาะในเท็กซัส ดังเห็นได้จาก
"A judge on Tuesday ordered Microsoft to stop selling Microsoft Word products in their current form in the U.S."
ผมลองเช็คจากแหล่งอื่นก็เป็นการสั่งห้ามที่ครอบคลุมทั้ง US จริง ๆ
เคยคิดจดสิทธิบัตรเครื่องหมายบวกกับเพื่อน มีคนบอกว่าลองไปจดที่อเมริกาดูอาจจะได้
BioLawCom.De
งั้นผมจดเครื่องหมายลบละกัน
ผมของ สระ อี ก็แล้วกัน
งั้นผมขอ ตัว E ได้มะ :D
ป.ล. ตัว E เป็นตัวอักษรที่มีคำที่ใช้เยอะที่สุดในภาษาอังกฤษ และมีปริมาณมากที่สุดในการเขียนภาษาอังกฤษ
The king and his men stole the queen from her bed, and bound her in her bones.
LongSpine.com
ถ้าอย่างนี้ วงการ Open Source จะเป็นอย่างไร อาจะเข้าข่าย หรือ ไม่เข้าข่าย ก็น่าจะเป็นไปได้
Open Source "ไม่ได้ใช้หาเงิน" แต่สามารถ "ทำให้สูญเสียรายได้" ได้
ผมว่า หน่วยงานรับจดสิทธิบัตร ต้องคุยกันหน่อยแล้วครับ ส่วนไหนที่จดไปแล้วจะไปกระทบกับองค์รวมของการพัฒนาด้านนี้ ก็ ให้เป็นสิทธิบัตรของส่วนรวมไปซะ
เรื่องสิทธิบัตร เรื่องลิขสิทธิ์ มันเริ่มเป็นเรื่องวุ่นวายแล้วแหะ
แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่ง สิทธิบัตร ก็จะทำให้เกิด ทางเลือก ขึ้นมา ซึ่งบางกรณี คุณภาพดีกว่าด้วย เช่น Divx - Xvid, Mp3 - Ogg, Gif - Png(ตอนนี้ ผมใช้แต่ Png แหะ)
สิทธิบัตรนี่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับโอเพนซอร์สนะครับ ใจความของแนวคิดโอเพนซอร์สคือ "ลิขสิทธิ์ของซอร์สโค้ด"
ส่วนสิทธิบัตรซอฟต์แวร์นี่กระทบหมดไม่ว่าโอเพนซอร์สหรือไม่ ใครอยากใช้ก็ต้องเสียเงินซื้อสิทธิบัตรมา ใครทำอะไรก็จะเสียวๆ โดนฟ้องละเมิดสิทธิบัตรด้วยกันทั้งหมด (อย่างเช่นกรณีของข่าวนี้)
โอเพนซอร์สจะโดนผลกระทบเยอะหน่อยก็เพราะไม่มีตังจ่ายค่าสิทธิบัตรนั่นเอง (เช่น กรณีของ Mozilla สนับสนุน Ogg สำหรับแท็ก video เพราะว่า H.264 มีสิทธิบัตร แม้ว่าจะมี opensource implementation ก็ตาม)
ผมว่าน่าจะใช้กฎหมายบังคับสำหรับผู้ถือครองสิทธิบัตรแล้วไม่นำไปใช้ประโยชน์ ภายในกี่ปีๆ ถ้าไม่นำไปใช้เกินกำหนดก็ให้มันตกเป็นของสาธารณะไปเลย เหมือนกฎหมายที่ดินบ้านเราน่ะครับ
แต่ในคดีนี้ เค้ามีผลิตภัณฑ์ออกมาจริงๆ ด้วยอ่ะ ศาลเลยช่วยไม่ได้ เพราะกลายเป็นว่าโจทย์เป็นบริษัทที่เสียหายจริง ไม่ใช่แค่ถือสิทธิบัตรเฉยแล้วจ้างทนายฟันเอาตังส์
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ระเอียดอ่อนจริงๆ
แสวงหามิใช่เพราะรอคอย เชี่ยวชาญมิใช่เพราะโอกาส ชำนาญมิใช่เพราะโชคช่วย"ดังนี้แล้วลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน"chonlatee
เขาเป็นคนคิดค้น XML ?
------
Unlimited Asian Music (ดูเอ็มวี ไทย, เกาหลี และญี่ปุ่น ฟรีๆ)
ถ้าเป็น boss ผม คงจะบ่นว่า It's not logic. ====================== no system is safe.