The New York Times รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดว่า Yahoo! ได้เจรจากับ Facebook เมื่อวานนี้โดย Yahoo! แจ้ง Facebook ว่าบริษัทกำลังละเมิดสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีทางเว็บของ Yahoo! ราว 10-20 รายการ อาทิ ระบบจัดการโฆษณา, การปรับแต่งหน้าเว็บส่วนตัว และการส่งข้อความ โดย Yahoo! ยื่นข้อเสนอกับ Facebook ว่าจะยอมจ่ายค่าธรรมเนียมหรือว่าจะให้ Yahoo! ฟ้องร้องแล้วไปลุ้นผลที่ศาลเอา
ตัวแทนของ Yahoo! ยอมรับว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง และทั้งหมดทำเพื่อปกป้องผลประโยชน์สูงสุดสำหรับผู้ถือหุ้น ขณะที่ตัวแทนของ Facebook บอกว่าทาง Yahoo! ได้ติดต่อมาจริงแต่ยังไม่สามารถให้ความเห็นได้ในตอนนี้
ก็ต้องดูกันต่อไปว่าแผนการของซีอีโอ Yahoo! คนใหม่ที่บอกในรายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุดบริษัทต้องทำอะไรสักอย่างนั้น จะใช่การไล่ฟ้องกราดแบบที่โกดักไล่ฟ้องสิทธิบัตรทุกเจ้าหรือไม่
ที่มา: The New York Times
Comments
อนาคตอาจจะมีข่าว...
Facebook เข้าซื้อ Yahoo!
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
ก็ไม่แน่นะ อิอิ
5555 +1 จบเลย ไม่ต้องไปลุ้นในศาลเลยครับ เดวก็ได้ตังไอพีโอมาละ
555
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เว็บก็มีสงครามสิทธิบัตร แล้วต่อไปจะทำอะไรกินละนี่
นั่นสิ...
ว่าแต่ เว็บแอพพลิเคชั่น เขาจดสิทธิบัตร กันยังไงครับ
iPhone ไม่ได้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีเลิศในตลาดได้อย่างทุกวันนี้เพราะคุณภาพซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์เท่าใดนักดอก แต่เป็นเพราะมันคือ Apple ซึ่งยังไงคุณก็เลียนแบบไม่ได้
หลงทางมาป่าวคับ ? คอมเม้นทีไม่ได้อ่านข่าวเลย
+1
หืม ...
สงสัยดูผิดเป็น Apple! เตือน Samsung ว่าละเมิดสิทธิบัตรของตนอยู่ จะจ่ายหรือให้ฟ้อง? อย่างว่าละคู่นั้นเค้าฟ้องกันจนบ้างคนอาจจะเข้าใจผิดหลายๆเรื่องๆ 55555
สงสัยเมื่อคืนนอนดึก
ผมตอบผิดข่าวครับ พอดีว่าเปิดหลายหน้าพร้อมกัน @_@ ความผิดผมเอง อายจัง อิอิ งั้นไม่แก้แล้วกัน แหะๆ ^^
ถึงอยากแก้ก็หมดสิทธิละครับ 55
ตอบตรงข่วมมัน mainstream เกินไปหรอครับ 555
ขำๆนะ
twitter.com/djnoly
that awkward moment ...
Software patent น่าจะให้สัก 5 ปีก็พอ
บางอย่างมันก็ common ซะจนใครๆ ในสมัยต่อมาก็คิดได้
คือถ้าไม่มีคนคิดได้ก่อน ก็อาจจะไม่ common นะครับ
Born of new patent troll...
ใครๆ เวลาฟ้องก็อ้างว่าปกป้องสิทธิประโยช์นของ ผู้ใช้ ตัวเอง ผู้ถือหุ้น เพื่อความถูกต้องบลาๆๆๆๆๆๆๆ
ในแง่นึงมันก็จริง
ในอีกแง่ก็ชักไม่แน่ใจซะแล้วว่า Patent นี่มันไว้สำหรับทำให้เกิดการคิดค้นอะไรใหม่ขึ้นจริงๆหรือเปล่า
ทุกวันนี้กลายเป็นว่าจะทำอะไรขึ้นมาจริงๆ ต้องกลัวไปทำกับชาวบ้านหัวหดไปหมด
ตัวเองคิดเองทำเองแท้ๆ แต่มันดันไปเหมือนชาวบ้าน
พอไม่อยากสู้คดี ทั้งๆที่อาจจะชนะ ก็ต้องยอมจ่าย
เรื่องของสิทธิบัตร จะมาบอกว่าตัวเองคิดเองทำเองแท้ๆ แต่มันดันไปเหมือนชาวบ้านแบบนี้คงไม่ได้ เราจะคิดจะทำอะไรจะเลือกใช้เทคโนโลยีใด หรือไม่ใช้อะไร ถึงจะคิดเอง แต่ก็ต้องไปค้นหาในฐานข้อมูลของสำนักงานสิทธิบัตรครับ ว่ามันไปเหมือนชาวบ้านหรือไม่ ถ้าเหมือน แล้วผลิตภัณฑ์เราขาดไม่ได้ที่จะต้องมีส่วนนี้ เลี่ยงไปใช้แบบอื่นไม่ได้ ทำไมไม่ไปคุยกัน ไปขอซื้อสิทธิการใช้กันดีๆ ทำไมต้องละเมิด เอามาใช้โดยไม่บอก ไม่แจ้ง คุยกันดีๆ อาจจะจ่ายไม่เยอะก็ได้
มันเกิดการคิดค้นต่อยอดและพัฒนาได้จริงๆ สำหรับระบบสิทธิบัตร ขึ้นอยู่กับว่าเราเข้าใจมันหรือเปล่า และใช้มันเป็นหรือไม่
ผมว่าคุณอ่ะแหละไม่เข้าใจ มองโลกในแง่ดีเกินไป
โลกสวยครับ แต่ทำจริงไม่ได้หรอก กว่าจะค้นสิทธิบัตร กว่าจะเจรจา เผลอๆ โดนขโมยไอเดียไปอีก
มันไม่ง่ายอย่างนั้นหนะสิครับ ตั้งแต่อินเทอร์เน็ตบูมขึ้นมา มีเทคโนโลยีหลายอย่างก็ถูกคิดค้นขึ้นภายใต้ของแนวคิดอินเทอร์เน็ต สิทธิบัตรหลายตัวก็มีลักษณะเทคโนโลยีที่คล้ายกัน แล้วสิทธิบัตรของวงการนี้เหมือนใครเขาที่ไหน ไม่ได้ตีความง่ายนะครับ ส่วนใหญ่มีการพัฒนาต่อยอดจากเทคโนโลยีเก่าทั้งนั้น
แหม .. ก็หาเงินวิธีนี้มันง่ายอะเนอะ สงสัยจะเอาตัวอย่างจาก MS ที่นอนกินเปล่าจากด๋อยสบาย ๆ เอาน่ะ รายได้เขาน่ะนะ
แต่คิดจะรีดเลือดจาก Mark ยากนะผมว่า ~
หลังๆ มานี่ บ ไหนเพลี่ยงพล้ำ เสียมูลค่าทางการตลาด มักจะทำแบบนี้กันแล้วหรือไง ไล่ฟ้อง บ ที่มูลค่าได้ดีกว่าหรือเป็นคู่แข่งตน แทนที่จะพัฒนาสร้างนวตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมาแข่งขัน โดยมีผู้ใช้เป็นผู้ตัดสิน เจริญละครับอุตสาหกรรม IT เมกา
แปลว่าบริษัทมูลค่าน้อยกว่าห้ามฟ้องบริษัทมูลค่าต่ำกว่าหรอครับ หรือพอเป็นบริษัทใหญ่จะลอกบริษัทไหนก็ได้หรือเปล่า กรณีนี้ผมไม่รู้ใครถูกใครผิดนะ ถ้าคุยกันได้ก็จบ คุยกันไม่ได้ศาลก็ตัดสิน มันก็น่าจะมีแค่นี้ ถ้ามีสิทธิบัตรแต่ห้ามฟ้องกันก็ยกเลิกระบบนี้ไปเลยดีกว่าครับ จะมีไว้ทำไม
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
+1
ก็ไม่นะ มีบริษัทนึงที่นึกออก มูลค่าสูงที่สุด ยังมานั่งฟ้องชาวบ้านเพราะต้องการผูกขาดตลาดเลย
ถ้าสมมุติว่า มีโอกาสแต่ไม่ฟ้อง แล้วต่อมาก็เจ๊งไป(ด้วยสาเหตุต่างๆ นาๆ) จะดูเท่ห์มั้ย? ในสายตาผู้ถือหุ้น
เรื่องบางอย่างทำก็ดูร้ายๆ ไม่ทำก็ดูโง่ๆ นะผมว่า ถ้าบริษัทเค้ารุ่งเรื่องมากๆ เค้าอาจจะลืมการหารายได้แบบนี้ไปก็ได้ ตามสไตล์ ตอนแรกเอาบริษัทให้รอดก่อน ต่อมาค่อยสร้างภาพพจน์
หลายๆ คนมองว่า Yahoo! กำลังพยายามหารายได้ด้วยการฟ้อง หรือพูดง่ายๆ ว่าทำตัวเยี่ยง patent troll แต่ผมกลบคิดอีกแบบ
คือในเมื่อเจอว่ามีอีกบริษัทนึงกำลังละเมิดสิทธิบัตรที่เราเป็นผู้ถือครองอยู่ แล้วเราควรจะทำยังไง? นั่งเฉยๆ ไม่ต้องทำอะไร สิทธิบัตรจดเอาไว้ดูเล่น?
งั้นเปลี่ยนใหม่ ... พอเจอว่าใครละเมิดฯ ก็ฟ้องร้องเลย .... ถูกหาว่าทำตัวเกรียนอีก
งั้นเปลี่ยนใหม่ ... เรียกเก็บเงิน .... ถูกหาว่าเป็น patent troll อีก!!
ต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ครับ สิ่งที่ Yahoo! ทำน่ะถูกแล้ว กรณีนี้คือเลี่ยงการปะทะ ไม่ต้องเสียเวลาไปขึ้นโรงขึ้นศาลกันให้เสียเวลา (ดีไม่ดีสร้างศัตรูอีก) จ่ายเงินมาเลย win-win ทั้งคู่ ทุกอย่างจบ ผู้บริหารก็ไม่ถูกตำหนิ
กรณีนี้ Yahoo! มีผลงานที่จับต้องได้แล้วจึงไปจดสิทธิบัตรครับ ไม่ใช่ว่าจดสิทธิบัตรไปเรื่อยๆ ไม่มีผลงาน แล้วก็จดสิทธิบัตรไว้เพื่อหารายได้โดยเฉพาะ