Tags:
Node Thumbnail

จากกรณี รถยนต์ไร้คนขับของ Uber ชนคนเดินเท้าเสียชีวิต ในที่สุด คณะกรรมการความปลอดภัยคมนาคม (National Transportation Safety Board - NTSB) ของสหรัฐก็ออกผลสอบสวนเบื้องต้น (preliminary report) ต่อสาธารณะแล้ว

รถยนต์คันที่เกิดเหตุเป็น Volvo ที่ติดตั้งระบบไร้คนขับของ Uber เข้ามา (มีกล้องทั้งหมด 10 ตัว) รถคันนี้มีการทำงาน 2 โหมดคืออัตโนมัติ และขับด้วยคน ซึ่งการทำงานในโหมดอัตโนมัติ ระบบรักษาความปลอดภัยของ Volvo จะถูกปิดเอาไว้ และจะกลับมาทำงานถ้าเปลี่ยนมาเป็นโหมดขับด้วยคน ซึ่งการเปลี่ยนโหมดจะมีขึ้นเมื่อคนขับหมุนพวงมาลัย/เหยียบคันเร่ง/เบรก/กดปุ่มปิดโหมด

ส่วนจุดเกิดเหตุ ถนน Mill Avenue ช่วงนั้นเป็นจุดที่มีเกาะกลางซึ่งมีพุ่มไม้และทางเดินที่เป็นอิฐ โดยมีป้ายเตือนให้คนไปข้ามถนนที่ทางข้าม ซึ่งอยู่ห่างออกไป 360 ฟุต (ประมาณ 110 เมตร)

ช่วงที่เกิดเหตุ คนขับของ Uber นำรถออกจากโรงจอดในเวลา 21.14 เพื่อวิ่งทดสอบตามเส้นทางเดิม โหมดอัตโนมัติถูกเปิดเวลา 21.39 ก่อนเวลาชน 19 นาที (ชนตอน 21.58) โดยขณะที่รถชน เป็นการวิ่งรอบที่สองในเส้นทางนั้น

เหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ รถยนต์วิ่งมาด้วยความเร็ว 43 ไมล์/ชม. (ประมาณ 70 กม./ชม.) ระบบเรดาร์และ LIDAR ตรวจสอบคนข้ามถนนก่อนชนเป็นเวลานานถึง 6 วินาที ตอนแรกระบบไม่สามารถแยกประเภทของวัตถุได้ (มองเป็น unknown object) เมื่อรถยนต์ขยับเข้าไปใกล้มากขึ้น ค่อยมองเห็นเป็นพาหนะ (vehicle) และจักรยาน (bicycle) ตามลำดับ

No Description

ประเด็นสำคัญคือก่อนชน 1.3 วินาที (ตามภาพ) ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติตัดสินว่าต้องเหยียบเบรกฉุกเฉิน (emergency brake) เพื่อลดแรงปะทะ แต่ระบบของ Uber ระบบเบรกฉุกเฉินไม่ถูกเปิดใช้งานในโหมดอัตโนมัติ เพื่อลดพฤติกรรมรถยนต์ทำงานแปลกๆ ในกรณีทั่วไป และจำเป็นต้องอาศัยมนุษย์เป็นคนเบรก เมื่อคนขับไม่ได้มองไปข้างหน้าในตอนนั้น และระบบไม่มีการแจ้งเตือนคนขับ ทำให้รถชนคนจนเสียชีวิต

ข้อมูลจากระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ระบุว่าคนขับเหยียบเบรกก่อนชนน้อยกว่า 1 วินาที ตอนนั้นความเร็วรถอยู่ที่ 39 ไมล์/ชม. (62 กม./ชม.) ข้อมูลจากรถ ระบุว่าระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติทำงานได้ปกติทุกประการ และไม่มีข้อความแจ้งเตือนความผิดพลาดใดๆ ในระบบ

No Description

NTSB ระบุว่าจากวิดีโอหลายๆ ตัวในรถ แสดงให้เห็นว่าคนข้ามถนนเองก็ไม่ได้มองมาในทิศทางที่รถกำลังวิ่งมา ใส่ชุดสีเข้ม และจักรยานก็ไม่มีป้ายสะท้อนแสงด้านข้าง (ซึ่งเป็นด้านที่รถมองเห็น) มีเฉพาะด้านหน้าและด้านหลัง ส่วนจุดที่ข้ามถนนก็เป็นจุดที่ไฟถนนส่องไม่ถึงด้วย

ส่วนประเด็นเรื่องคนขับรถเล่นมือถือขณะเกิดเหตุนั้น คนขับระบุว่าก้มลงมองจอของระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ และไม่ได้ใช้งานโทรศัพท์เลยจนกระทั่งเกิดการชนแล้ว และใช้โทรเรียก 911 เพื่อแจ้งเหตุ

NTSB บอกว่าจะรวบรวมข้อมูลในคดีนี้ต่อไป และทำงานร่วมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายเพื่อสรุปรายงานสมบูรณ์ของการชนครั้งนี้

ที่มา - NTSB

Get latest news from Blognone

Comments

By: neenutna
ContributorAndroid
on 25 May 2018 - 14:20 #1051540

NSTB -> NTSB

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 25 May 2018 - 15:27 #1051559
hisoft's picture

ประเด็นสำคัญคือก่อนชน 1.3 วินาที (ตามภาพ) ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติตัดสินว่าต้องเหยียบเบรกฉุกเฉิน (emergency brake) เพื่อลดแรงปะทะ แต่ระบบของ Uber ระบบเบรกฉุกเฉินไม่ถูกเปิดใช้งานในโหมดอัตโนมัติ เพื่อลดพฤติกรรมรถยนต์ทำงานแปลกๆ ในกรณีทั่วไป และจำเป็นต้องอาศัยมนุษย์เป็นคนเบรก เมื่อคนขับไม่ได้มองไปข้างหน้าในตอนนั้น และระบบไม่มีการแจ้งเตือนคนขับ ทำให้รถชนคนจนเสียชีวิต

ย่อหน้านี้ส่วนไหนหมายถึงระบบของ Uber ของ Volvo เหรอครับ? หรือทั้งหมดคือระบบของ Uber

คนขับระบุว่าก้มลงมองจอของระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ

อันนี้ Uber ก็พลาดที่ทำของมาดึงความสนใจคนขับในระบบที่ยังต้องให้คนขับคอยดูถนน?

By: Thaitop_BN
Windows PhoneUbuntuWindows
on 25 May 2018 - 20:50 #1051651 Reply to:1051559
Thaitop_BN's picture

ระบบของ Uber ครับ
ถ้าระบบของ Uber เปิด ระบบ Volvo จะปิด
ถ้าระบบของ Uber ปิด ระบบ Volvo จะเปิด
สองระบบจะไม่ทำงานพร้อมกัน

By: ninja741 on 25 May 2018 - 21:24 #1051654 Reply to:1051651

พอดีใช้ volvo อยู่ครับ รุ่นนี้มันมี self-drivingระดับนึงอยู่แล้ว(เร่ง-เบรก, หักเลี้ยวตามเลนถนน) บทความน่าจะหมายถึงว่าระบบของ volvo detect เจอแล้วจะกดเบรกเอง แต่ระบบของ uber ไปปิด mode ให้ volvo เหยียบเบรก

ผมก็เคยเป็นจะแซงแบบเกือบจะปาดๆท้ายคันหน้าหน่อย รถมันดันเข้าใจว่าจะชนเลยกดเบรกให้ กลายเป็นเกือบโดนชนตูด

By: Thaitop_BN
Windows PhoneUbuntuWindows
on 25 May 2018 - 22:47 #1051674 Reply to:1051654
Thaitop_BN's picture

คือผมอ่านข่าวภาษาไทยแล้วเข้าใจว่า Uber ต้องการทดสอบ AI เพราะงั้นก็ต้องปิด AI ของ Volvo (ที่เกี่ยวกับความปลอดภัย)ไว้เพื่อไม่ให้ระบบมันตีกันหรือไม่ให้ผลการทดสอบคลาดเคลื่อน และขณะเกิดเหตุ AI ของ Uber กำลังทำงานอยู่ เพราะงั้น AI ของ Volvo (ที่เกี่ยวกับความปลอดภัย)จะไม่ทำงานอะไรเลย

ส่วนที่เป็นประเด็น ต้นฉบับเขียนไว้แบบนี้ครับ

According to data obtained from the self-driving system, the system first registered radar and LIDAR observations of the pedestrian about 6 seconds before impact, when the vehicle was traveling at 43 mph. As the vehicle and pedestrian paths converged, the self-driving system software classified the pedestrian as an unknown object, as a vehicle, and then as a bicycle with varying expectations of future travel path. At 1.3 seconds before impact, the self-driving system determined that an emergency braking maneuver was needed to mitigate a collision (see figure 2). 2 According to Uber, emergency braking maneuvers are not enabled while the vehicle is under computer control, to reduce the potential for erratic vehicle behavior. The vehicle operator is relied on to intervene and take action. The system is not designed to alert the operator.

  1. Light Detection and Ranging (LIDAR) works much like radar, but instead of radio waves, it emits pulses of infrared light and measures how long they take to return after hitting nearby objects. Navigation sensors monitor global positioning system (GPS), inertia, and wheel speed.
  2. In Uber’s self-driving system, an emergency brake maneuver refers to a deceleration greater than 6.5 meters per second squared (m/s2).

ส่วน AI ของ Volvo (ที่เกี่ยวกับความปลอดภัย) หมายถึง

The vehicle was factory equipped with several advanced driver assistance functions by Volvo Cars, the original manufacturer. The systems included a collision avoidance function with automatic emergency braking, known as City Safety, as well as functions for detecting driver alertness and road sign information. All these Volvo functions are disabled when the test vehicle is operated in computer control but are operational when the vehicle is operated in manual control.

By: OXYGEN2
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 26 May 2018 - 02:00 #1051698 Reply to:1051674
OXYGEN2's picture

แย้งนิดนึงครับ ระบบขับเองของ Volvo ไม่ใช่ AI เป็นแค่ระบบช่วยขับครับ (Pilot Assist) ทำงานได้แค่ความเร็วนึง (น่าจะ 130) ระบบนี้เหมาะกับการใช้งานบนทางด่วนที่รถขยับที่ละน้อย ให้รถมันขับไปเอง โดยเราแค่จับพวงมาลัยแล้วดู ถ้าวิ่งในเมือง ผมเกือบชนคันหน้าหลายทีแล้ว เพราะโดนแทรกจากด้านข้าง แล้วเหมือนกับว่าพวกระบบช่วยเหลือต่างๆ จะปิดเองที่ความเร็วนึงด้วย ขับต่างจังหวัดความเร็วประมาณ 200 ระบบไฟหน้า Active High Beam ไม่ทำงานแล้ว เหมือนกันตัดแสงกับรถข้างๆ ไม่ทัน ต้องรอมือถึงเปิดไปสูงเลย


oxygen2.me, panithi's blog

Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6

By: Patchan
iPhone
on 25 May 2018 - 16:05 #1051569

ทำไมแบรคฉุกเฉินต้องใช้คนเหยียบ? แบบนี้มันก็เป็นระบบอัตโนมัติที่ไร้ประโยชย์โดนสิ้นเชิง

By: Slimy
AndroidUbuntu
on 25 May 2018 - 16:17 #1051571 Reply to:1051569

มันถูกปิดอยู่ในกรณีมีคน ก็แสดงว่ามันเปิดได้ แต่ไม่เปิด กลัวคนอยู่ในรถหัวทิ่มมั้งครับ

By: pepporony
ContributorAndroid
on 25 May 2018 - 16:37 #1051577 Reply to:1051569

อยู่ในช่วงทดลอง พอมันอัตโนมัติจริงก็คงไม่ต้องใช้คนเหยียบ แต่นี่ปิดไว้เพื่อให้คนวิเคราะห์ก่อนว่าจะเหยียบมั้ย ตามข่าวคือไม่อยากให้ขับๆไป เบรก ขับๆไป เบรก

By: IDCET
Contributor
on 25 May 2018 - 17:01 #1051581 Reply to:1051577

ผมว่าคนที่นั่งฝั่งคนขับ ยังไงก็ต้องรับผิดครับที่ไมสามารถตอบสนองหยุดรถได้ทันครับ และเลือกที่จะไม่มองถนนข้างหน้าด้วย


ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว

By: nrml
ContributorIn Love
on 25 May 2018 - 17:24 #1051588 Reply to:1051581
nrml's picture

ข้อนี้ผมว่าคนส่วนใหญ่ก็คงจะเห็นไปในทางเดียวกัน ที่สงสัยกันคงเป็นเรื่องที่ว่า เราจะสามารถไว้ใจระบบพวกนี้ได้แค่ไหนมากกว่าครับ

By: Hoo
AndroidWindows
on 25 May 2018 - 19:29 #1051630 Reply to:1051569

ส่วนตัว สันนิษฐานว่า น่าจะเป็น mode learning อยู่
ถ้ามันคิดว่าต้องเบรค แต่คนไม่เบรค มันจะได้รู้ว่าสถานการณ์แบบนี้ไม่ต้องเบรค

แต่เคสนี้มันต้องเบรค คนดันไม่เหยียบเบรค เลยจบเลย

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 27 May 2018 - 00:35 #1051824 Reply to:1051569
mr_tawan's picture

น่าจะเป็นการยกการควบคุมกลับไปให้คนขับอีกทีครับ เพราะตัวเอไอมันอาจจะตัดสินใจพลาด (ถ้าตามข่าวคือมันยังตัดสินใจพลาดบ่อยอยู่ด้วย) และคนขับเองระหว่างขับขี่มีหน้าที่ที่จะต้องมองถนนอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว ตรงนี้ก็เลยเป็นหน้าที่ของคนขับอยู่น่ะครับ


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: keen
iPhoneAndroidUbuntu
on 25 May 2018 - 16:27 #1051574
keen's picture

กำลังรู้สึกสงสัยว่าในกรณ๊นี้ใครผิด

By: nessuchan
iPhoneAndroidWindows
on 25 May 2018 - 17:35 #1051595 Reply to:1051574
nessuchan's picture

ส่วนตัวมองว่า คนขับผิดที่ไม่มองทาง ผมคิดว่าตัวคนขับเองก็น่าจะรู้ข้อจำกัดของตัวรถอยู่แล้วว่ามันคงไม่เบรคเองถ้าเกิดเหตุสุดวิสัยเพราะนี่คงไม่ใช่ครั้งแรกที่เค้าขับทดสอบ แต่เค้าเลือกที่จะไม่สนใจข้างหน้าเอง เพราะงั้น เค้าน่าจะผิด

By: TeamKiller
ContributoriPhone
on 25 May 2018 - 19:30 #1051610 Reply to:1051574
TeamKiller's picture

อาจจะ Uber ครับ ระบบ ตัวรถ รับผิดชอบโดย Uber คนขับก็ลูกจ้าง Uber ถ้า Uber จะโทษลูกจ้างตัวเองก็ไปฟ้องกันต่อ

ส่วนคนข้าม ก็อาจจะผิด คนละข้อหากัน

รวมๆ อาจจะประมาทร่วม

By: aeksael
ContributoriPhoneWindows PhoneAndroid
on 25 May 2018 - 18:43 #1051622
aeksael's picture

มืดอะ มืดมาก นี่มี Lidar จับได้ แล้วของ Elon ไม่มี Lidar ไม่ยิ่งจบเห่กว่านี้หรอครับ


The Last Wizard Of Century.

By: Hoo
AndroidWindows
on 25 May 2018 - 19:28 #1051631 Reply to:1051622

Tesla ใช้ RADAR
ตรวจเจอ คันที่อยู่หน้าคันข้างหน้า อีกที ได้ด้วยครับ

By: TeamKiller
ContributoriPhone
on 25 May 2018 - 19:31 #1051632 Reply to:1051631
TeamKiller's picture

https://techcrunch.com/2018/03/19/heres-how-ubers-self-driving-cars-are-supposed-to-detect-pedestrians/

Uber ก็มี Radar นะครับ

By: tontpong
Contributor
on 26 May 2018 - 01:45 #1051696

ถ้าให้คนขับแบบที่ตอนนี้เป็นกันอยู่โดยทั่วไป, กรณีนี้จะชนรึป่าว? .. ถ้าใครอ่านรายงานแล้วพบเนื้อหาส่วนนี้อยู่, ช่วยชี้เป้าให้ด้วยนะครับ

By: langisser
In Love
on 26 May 2018 - 09:08 #1051716 Reply to:1051696

ไม่น่ามีรายงานส่วนนี้นะครับ เพราะคนขับเองไม่ได้มองถนน ก็คงให้รายละเอียดไม่ได้ว่าสภาพแวดล้อมตอนนั้นเป็นยังไง เห็นคนในระยะกี่เมตร เห็นเป็นวัตถุน่าสงสัยก่อนรึเปล่า