Open Invention Network (OIN) เป็นองค์กรที่ก่อตั้งในปี 2005 หลังคดีสิทธิบัตร SCO ฟ้องร้อง IBM ที่เริ่มในปี 2003 และลากยาวต่อมาอีกหลายปี
แนวทางของโลกโอเพนซอร์สที่ไม่ต้องการเห็นการฟ้องร้องแบบนั้นอีก คือการรวบรวมสิทธิบัตรจากหลายบริษัทเข้าด้วยกัน เพื่อเป็นอาวุธในการฟ้องกลับ ยิ่งสิทธิบัตรมีจำนวนมากเท่าไร ก็เป็นการขู่ไม่ให้เกิดการฟ้องร้องได้มากขึ้นเท่านั้น องค์กรกลางที่ตั้งขึ้นมาเพื่อดูแลคลังสิทธิบัตรนี้คือ OIN
ในอดีต บริษัทที่ OIN มองว่ามีโอกาสสูงที่จะฟ้องร้องคดีสิทธิบัตรต่อโลกโอเพนซอร์สคือ ไมโครซอฟท์ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมามาโดยตลอด แต่ไมโครซอฟท์ยุคใหม่เปลี่ยนไปจากเดิมมาก แถมล่าสุดสมัครเป็นสมาชิก OIN และบริจาคสิทธิบัตรเพื่อคุ้มครองลินุกซ์แล้ว
ไมโครซอฟท์เองก็ยอมรับว่าเรื่องนี้อาจทำให้หลายคนประหลาดใจ แต่จุดประสงค์ของไมโครซอฟท์คือการสนับสนุนโลกโอเพนซอร์สอย่างจริงจัง ด้วยการมอบสิทธิบัตรจำนวนกว่า 60,000 รายการให้กับ OIN และหวังว่าท่าทีของไมโครซอฟท์จะช่วยให้บริษัทอื่นๆ หันมาสนใจ OIN มากขึ้นด้วย
ไมโครซอฟท์ย้ำว่าไม่อยากให้คนมองโลกเป็นแค่ขาวกับดำเพียงมุมเดียว ไม่ใช่เรื่องของ Windows vs Linux เหมือนในอดีต แต่ยุคนี้คือการสนับสนุนเทคโนโลยีทุกประเภท และปัจจุบันไมโครซอฟท์ก็เป็นผู้พัฒนารายใหญ่ของโลกโอเพนซอร์สร่วมโครงการโอเพนซอร์สมากกว่า 2,000 โครงการ รวมถึงเปิดซอฟต์แวร์สำคัญๆ อย่าง .NET Core, TypeScript, VS Code, Powershell เป็นโอเพนซอร์สด้วย
บริษัทที่ร่วมเป็นสมาชิก OIN ในช่วงแรกได้แก่ IBM, Red Hat, SUSE, NEC, Sony ตามด้วยกูเกิลในปี 2007 และ Facebook, HP, Juniper ในปี 2011 ตอนนี้ OIN มีสมาชิกทั้งหมด 2,650 ราย
Comments
MS แทรกผลิตภัณฑ์ตนลงไปทุกๆ platform สินะ
ถือว่าเป็นแนวทางที่ดีนะครับ มันเหมือนกับช่วยให้ CEO คนใหม่ไม่พังสิ่งที่ Satya สร้างไว้ (ซึ่งผมว่ายุค Satya นี่มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นเยอะมาก)
MS บอกอย่าจากฉันไปไหนนะเพื่อนรัก
hater gonna hate, LOL.
99 สาธุครับ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
อะไรที่ขายได้คือกำไรหมด
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project
ไม่เปลี่ยนทั้งหมดหรอก ยังเหลือ Gaming
ต่อไปไมโครซอฟท์ อาจพัฒนา Linux เอง แล้วขายการซัพพอร์ต หรือขายโปรแกรมที่มีบน Windows ในเวอร์ชั่นสำหรับ Linux
ต่อไปอาจจะมี MS office บน Linux ให้ใช้กัน
รวมโลก online ให้เป็นหนึ่งเดียว
ผมชอบนะ แนวทางใหม่ของ Microsoft ที่เป็น software first ไม่ต้องเป็น web first เล่นได้ทุกที่ที่มีเธอ แล้วเดี๋ยวไปหาทางขายของเอา และจะมาขายเป็นกล่อง ๆ กินก็ไม่ได้อีกแล้ว
อีกหน่อย Windows คงเป็นเช่ารายปี ปีละ 500 บาทอะไรก็ว่าไป แถม Office ไปด้วยเลย
windows แบบเช่าน่าจะเป็น server มากกว่าครับ ถ้าเป็น windows pro / home / workstation น่าจะทำเป็น Software ซื้อทีเดียวจบ หรือ OEM
อีกสิบยี่สิบปีจะมอบสิทธิ์บัตรกันราวสองพันล้านสิทธิ์บัตรเพื่อเป็นการกุศลในการสู้ศึกนี้ พระพุทธเจ้าช่วยด้วย หกหมื่นนี้มันรวมไปถึงไม่จิ่มฟันงอได้ที่เดฟคิดตอนต้องการแคะฟันด้วยมั๊ยครับ ศาลที่เคารพ