Sundar Pichai ซีอีโอกูเกิลและ Aplphabet เขียนบทความลง Financial Times แสดงความคิดเห็นว่า AI ควรถูกควบคุมด้วยกรอบกฎหมาย และเป็นความรับผิดชอบของบริษัทผู้พัฒนา AI ด้วยที่ต้องรับประกันว่าเทคโนโลยีจะถูกใช้เพื่อสร้างประโยชน์และเข้าถึงได้สำหรับทุกคน
Pichai ระบุว่าเทคโนโลยีช่วยชีวิตในหลายด้าน อินเทอร์เน็ตช่วยให้เราสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารในขณะเดียวกันก็เป็นช่องทางกระจายข้อมูลผิดด้วยเหมือนกัน เขายังอ้างอิงถึงมีไกด์ไลน์การพัฒนา AI ของกูเกิลที่ตีพิมพ์ในปี 2018 ที่ต้องพัฒนาและทดสอบให้ไม่เกิดความโน้มเอียง (bias) ออกแบบโดยตั้งอยู่บนหลักความเป็นส่วนตัว และบริษัทจะไม่ใช้หรือพัฒนา AI เข้าไปในด้านที่อาจส่งผลกระทบต่อสิทธิเช่น ระบบสอดส่อง (mass surveillance) แต่มันจะไม่มีประโยชน์ถ้าไกด์ไลน์เหล่านี้อยู่แค่ในหน้ากระดาษ
Pichai พูดถึงกฎความเป็นส่วนตัวของยุโรปหรือ GDPR ว่าเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งของการบังคับใช้กฎหมาย ส่วนกรอบการกำกับดูแลที่ดี จะช่วยให้บริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีรู้ว่ากำลังพัฒนา AI อย่างถูกทิศถูกทาง ยกตัวอย่างเช่น AI ในรถไร้คนขับนั้นรัฐบาลก็ควร "กำหนดกฎเกณฑ์ใหม่ที่เหมาะสมซึ่งพิจารณาถึงต้นทุนและผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด"
การที่บริษัทเทคโนโลยีออกมาพูดเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ไมโครซอฟท์ก็เคยออกมาชี้แจงว่า เทคโนโลยีจดจำใบหน้าควรใช้อย่างถูกวิธีไม่กระทบสิทธิ รัฐควรกำกับเทคโนโลยีนี้
อย่างไรก็ตาม กูเกิลเองก็เคยตกอยู่ในความเสี่ยงเรื่องการนำ AI ไปใช้แบบผิดๆ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือกับกลาโหมสหรัฐฯ ใช้ซอฟต์แวร์วิเคราะห์โดรน, โครงการเสิร์ชในจีนที่มีการเซนเซอร์เนื้อหา ซึ่งบริษัทได้ระงับทั้งสองโครงการไปแล้ว
ภาพจาก Google
ที่มา - Financial Times
Comments
ซีอีโอกูเกิลและ Aplphabet --> Alphabet
มันค่อนข้างยากครับในการออกกฏ ถ้ารัฐบาลประเทศนั้นๆ เข้าแทรกแซง (โดยเฉพาะการอ้างความมั่งคง)