ศาลแขวงสหรัฐฯ ตัดสินโทษ Sudhish Kasaba Ramesh อดีตพนักงานของซิสโก้ที่ลาออกไปเมื่อเดือนเมษายน 2018 แต่กลับถือสิทธิ์เข้าถึงบัญชี AWS ของซิสโก้เอาไว้ และใช้สิทธิ์นั้นลบเซิร์ฟเวอร์ 456 เครื่องออกจากระบบเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2018 จนทำให้บัญชี WebEx Team ของบริษัทกว่า 16,000 บริษัทใช้งานไม่ได้ สร้างความเสียหายรวม 2,400,000 ดอลลาร์ ศาลตัดสินโทษปรับ 15,000 ดอลลาร์และจำคุกสองปี
แถลงของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ไม่ได้บอกกระบวนการลบเซิร์ฟเวอร์โดยตรงว่าซิสโก้พลาดที่จุดใด Ramesh จึงยังเข้าควบคุมคลาวด์ได้ แต่บอกเพียงว่าเขาอาศัยโค้ดที่รันจาก Google Cloud บนบัญชีของเขาเองในการสั่งลบ ตัว Ramesh เองยอมรับว่าเขา "ประมาทเลินเล่อ" (reckless) จากการรันโค้ดนี้ ทำให้คาดเดาได้ว่าโค้ดของ Ramesh อาจไม่ได้ตั้งใจลบเซิร์ฟเวอร์โดยตรง และไม่มีข้อมูลลูกค้าซิสโก้รั่วไหลจากเหตุนี้
ค่าเสียหายของซิสโก้คิดเป็นค่าเวลาพนักงานกู้คืนระบบ 1,400,000 ดอลลาร์ และเงินชดเชยให้ลูกค้าจากการที่ระบบใช้งานไม่ได้สองสัปดาห์รวม 1,000,000 ดอลลาร์
ที่มา - Department of Justice
Comments
ทำไมโทษน่ารักจัง เมื่อเทียบกับผลกระทบที่เกิดขึ้น
ก็ถูกแล้วนิครับ พนักงานทำผิดโดยประมาทเลินเล่อ กม.ก็จำกัดความรับผิด หรือละเว้นการรับผิด
เว้นแต่ประมาทเลินเล่อโดยร้ายแรง หรือจงใจให้เกิดความเสียหายถึงไม่ต้องรับผิด
เพราะเป็นพนักงาน ไม่ใช้partnership จะได้มี stake, liability บ.ได้กำไรก็ต้องเอาแบ่ง ทำบ.เสียหายก็ร่วมความรับผิด นี้เป็นแค่พนักงาน บ.ได้กำไร ไม่ต้องแบ่งก็ได้ แค่จ่ายโบนัสตามกม.กำหนด เพราะงั้นเหตุบางอย่างก็ไม่ควรต้องรับผิด
ลองดูพนักงานอาชีพอื่นๆอย่างนักบินนักเดินเรือเกิดเหตุสุดวิสัย ไม่ใช่แค่เสียแค่หลักสิบล้านร้อยล้านนะครับ เรือโดนกันน้้ำมันรั่ว เครื่องบินตกเสียหายระดับหมื่นล้าน ต้องฟ้องพนักงานเจ็ดชั่วโคตรเอาเงินมาคืนหรือป่าว มันเป็นเรื่องของผุ้ลงทุนต้องจัดการความเสี่ยงออกไป ชื้อประกันความรับผิดหรือรับไว้เองเผื่อผลกำไรก็ว่าไป
ตอนเกิดเหตุไม่ได้เป็นพนักงานนะครับ
แต่ผมไม่รู้เหตุที่เกิด เดาไม่ถูกเหมือนกันว่าความรับผิดชอบควรหมายถึงตอนที่เป็นหรือไม่เป็นพนักงานนี่สิครับ
ผมอ่านจาก press release (หาคำพิพากษาเต็มไม่เจอ บางที DoJ จะลิงก์ให้เลยแต่อันนี้ไม่มี) เข้าใจว่า FBI เอาผิดได้แค่ประมาทครับ อาจจะไปตั้ง trigger อะไรสักอย่างในบัญชีส่วนตัวเอาไว้ตั้งแต่ตอนยังทำงาน แล้วพอไป execute มันเลยลาก production บริษัทร่วง
ถ้าเอาผิดไปในแนวว่ามุ่งหวังผลทำลาย น่าจะโดนหนักกว่านี้
lewcpe.com, @wasonliw
ดังนั้นคดีนี้ผลก็น่าจะหมายถึงว่าคำกล่าวหา "แอบเข้าคลาวด์บริษัทลบเซิร์ฟเวอร์ 456 เครื่องเมื่อปี 2018" อาจไม่เป็นจริง แต่ที่ถูกตัดสินลงโทษก็มาจากความผิดอื่นแทนสินะครับ
ถ้าตามต้นทางใช้คำว่า intentionally นะครับ เข้าใจว่าที่โดนลงโทษหลักๆ น่าจะมาจากตรงนี้ครับ
แต่ตรงส่วนที่ลบ server นี่เดาว่าน่าจะรัน deploy อะไรสักอย่างพลาดแล้วมันลั่นไปโดนเองครับ
ขอบคุณครับ
น่าจะเป็นการลงโทษตามกฏหมาย ครับ ส่วนผลกระทบที่เกิดกับบริษัท ถ้าจะเอาคืนตามนั้นคงต้องฟ้องเองอีกรอบ
น่าจะคดีอาญานะครับ เพราะเป็นโทษจำคุกกับปรับ ส่วนคดีแพ่งที่ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้กับบริษัทนั่นคนละเรื่อง