กูเกิลเปลี่ยนกฎของ Google Play จำกัดไม่ให้นักพัฒนาแอพสามารถตรวจสอบได้ว่า ในเครื่องของผู้ใช้มีแอพอื่นตัวไหนบ้างติดตั้งอยู่ เพื่อความเป็นส่วนตัว-ความปลอดภัยของผู้ใช้
ปัจจุบัน แอพบนแอนดรอยด์สามารถใช้สิทธิ QUERY_ALL_PACKAGES ตรวจสอบได้ว่ามีแพ็กเกจใดบ้างติดตั้งอยู่ในเครื่อง แต่สิทธินี้จะถูกยกเลิกในวันที่ 5 พฤษภาคม 2021 นี้ นักพัฒนาจำเป็นต้องถอนสิทธิออกจากไฟล์ manifest ตามกฎใหม่ของ Google Play หากเป็นกรณีที่แอพยังจำเป็นต้องใช้สิทธิตัวนี้จริงๆ กูเกิลยังเปิดช่องให้ใช้งานได้ แต่ต้องขออนุมัติเป็นรายๆ ไป (รายละเอียด)
การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลสำหรับแอพที่เขียน target Android 11 ขึ้นไป เดิมทีกูเกิลเตรียมยกเลิกสิทธินี้มาตั้งแต่ปี 2020 แต่เลื่อนมาเป็นปีนี้เพราะ COVID-19
ที่มา - Google, 9to5google
Comments
3rd party store โดนเต็มๆเลยอ่ะสิแบบนี้
3rd party store เค้าโหลดผ่าน play store หรอครับ
ต่อให้ลงแบบ apk เดี๋ยวก็โดน play protect เหมือนที่ fortnite โดน ผมว่า
สิทธิ์นี้ผมมองไม่เห็นประโยชน์การใช้งานจริงนอกจากละเมิดความเป็นส่วนตัวผู้ใช้เลยแฮะ
มี 6 ประเภทที่ Google อนุญาตให้ใช้คำสั่ง QUERY_ALL_PACKAGES ได้ครับ
• Launcher apps
• Accessibility apps
• Browsers
• Peer-to-peer (P2P) sharing apps
• Device management apps
• Security apps
อ้างอิงจาก Package Visibility ที่เพิ่มเข้ามาใน Android 11
https://developer.android.com/training/package-visibility/declaring#all-apps
พวกแอปที่ยืนยันว่าจ่ายเงินแล้ว กับพวกตัวเสริม น่าจะโดนกันหมด ?
ไม่โดนครับ อันนั้นเป็นการส่งข้อมูลผ่าน Deep Link
ซึ่ง Android มี API ในส่วนนี้ให้โดยเฉพาะอยู่แล้ว
อ๋อ มีแบบนั้นด้วย
ขอบคุณครับ
K Plus ยังสแกนอยู่ ถือว่าละเมิดความเป็นส่วนตัวจริงๆ
พอจะทราบมั้ยครับว่า K นี่เค้าจะสแกนหาแอพอื่นไปทำไม
สแกนหาแอปที่เป็นอันตรายต่อตัวแอปธนาคาร เช่นพวกแอป root เครื่องทั้งหลายแหล่ และก็แอปที่เอาไว้แก้ config แต่รู้สึกว่า KPlus ไม่ได้แค่สแกนหาแอปอื่น แต่ยังมีพวกเครื่องมือไว้ทดสอบ root และก็ fingerprint ของเครื่องว่าเป็นเครื่องที่ mod มาหรือไม่ พวกนี้ทำเป็นประจำอยู่แล้วในแอปธนาคาร ลำพังแค่ DexGuard ก็เอาไม่อยู่แน่นอน ไม่อย่างนั้นข้อมูลรั่วไหลขึ้นมา คนที่ซวยคือธนาคารเอง