หลายคนอาจมีภาพจำว่าระบบช่วยขับของ Tesla หรือที่รู้จักกันในชื่อ Autopilot นั้นเป็นผู้นำตลาดเพราะบุกเบิกมาก่อนและสร้างชื่อเสียงมานาน แต่รายงานล่าสุดของ Consumer Reports กลับพบว่าไม่ใช่แบบนั้นแล้ว
Consumer Reports (CR) ได้ทดสอบระบบช่วยขับขี่ 12 ระบบทั้งในสนามปิดและบนถนนจริง และแบ่งเกณฑ์ออกเป็น 5 ประเภทคือความสามารถและประสิทธิภาพ, การกระตุ้นผู้ขับขี่, ความง่ายในการใช้งาน, การใช้งานเมื่อปลอดภัย และปฏิกิริยาเมื่อคนขับไม่ตอบสนอง
ผลการทดสอบสรุปออกมาว่าระบบ BlueCruise ของ Ford ได้คะแนนรวมสูงที่สุด 84 คะแนน ตามมาด้วย Super Cruise ของ GM (75 คะแนน) และ Driver Assistance ของ Mercedes-Benz (72 คะแนน) ส่วน Tesla Autopilot นั้นรูดไปอยู่อันดับ 7 ได้เพียง 61 คะแนน แพ้แม้กระทั่งระบบ Safety Sense 3.0 ของ Toyota ที่ได้ 65 คะแนน โดยเมื่อปี 2020 Tesla เคยอยู่อันดับ 2
Consumer Reports ระบุว่า Autopilot ไม่ค่อยมีการพัฒนาเพิ่ม เพราะ Tesla มัวแต่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่แทนที่จะปรับปรุงของเดิมด้วย โดย CR บอกว่า Autopilot ยังไม่มีการตรวจจับว่าผู้ขับขี่ตื่นตัวหรือไม่ คือเช็คจากการแตะพวงมาลัยอย่างเดียว ไม่มีการตรวจจับใบหน้าและดวงตาของคนขับ แถมยังรอถึง 30 วินาทีกว่าจะเริ่มเตือน ทำให้รถอาจแล่นไปไกลกว่าครึ่งไมล์ นับว่าอันตราย ในขณะที่ระบบ BlueCruise ของ Ford ใช้กล้องอินฟราเรดตรวจจับดวงตาของผู้ขับและเตือนภายใน 5 วินาทีหากไม่มองถนน
นอกจากนี้ Autopilot ยังอนุญาตให้ผู้ขับเปิดใช้งานระบบได้แม้เส้นบนถนนจะมีเพียงเส้นเดียว ในบางสถานการณ์อาจทำให้รถแล่นใกล้ขอบถนนมากเกินไป
อย่างไรก็ดี จุดเด่นของ Autopilot ที่ CR ชมคือมันหมุนพวงมาลัยได้นุ่มนวลและรักษารถให้อยู่กลางเลนได้ดีทั้งบนทางตรงและโค้ง
Jake Fisher ผู้เชี่ยวชาญจาก CR ระบุว่าระบบช่วยขับขี่แต่ละยี่ห้อนั้นถูกสร้างมาไม่เท่ากัน และ "บางยี่ห้อ" อาจทำให้ผู้ขับเข้าใจผิดว่ารถกำลังควบคุมทุกอย่างเองเบ็ดเสร็จ และ Autopilot ไม่ได้แปลว่ารถจะ "ขับเอง" ได้แม้แต่นิดเดียว เขาทิ้งท้ายว่าระบบช่วยขับเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยให้ถ้าใช้งานอย่างถูกต้อง แต่หากใช้งานผิดก็จะทำให้เกิดอันตราย
สำหรับรายงานฉบับเต็ม และคะแนนของระบบต่างๆ ดูได้จากที่มา
ที่มา - Consumer Reports via The Register
Comments
หยุดนิ่ง = ถอยหลัง
ต่อให้ hw ดียังไง สุดท้ายก็จบที่ sw สงสัยจะมีดีแค่เอามาเล่นเกม
จากผู้นำกลายเป็นผู้ตามในเวลาไม่ถึง 5 ปี
ถ้าญี่ปุ่นดัน Fuel-cell ได้สำเร็จสงสัยเกมพลิก ตอนแรกเหมือนๆ ยอมแพ้ไปแล้ว แต่ตอนนี้รู้สึกกลับมาขยับอีกรอบแล้ว
หรือเพราะ Know how ที่มากกว่าของผู้นำตลาดเดิมทำให้รู้ว่าควรพัฒนาตรงจุดไหน
ชอบคำว่าหมุนพวงมาลัยอย่างนุ่มนวล
ไหมก็เอาวิศวกรไปทำ FSD หมดแล้วมั่งเพราะขาย FSD ฟังก์ชั่นไว้เยอะแต่ยังไม่ได้แบบที่คิดเลย
มันก็น่าคิดอยู่นะ ถ้าตอนนั้น ceo ของ tesla ไม่ได้โม้ระบบ autopilot และปล่อยออกมาให้ใช้จริงจนทุกคน"ว้าว"กันในตอนนั้น ค่ายรถต่างๆก็คงยังกั๊กเรื่องระบบช่วยการขับขี่เอาไว้อย่างเหนียวแน่นอยู่ในแลป 🤔
นี่ยังดีว่าไลน์การผลิตยังเป็นผู้นำอยู่ ถ้าคู่แข่งมีรถออกมาเยอะๆ อาจจะงานเข้ากว่านี้ได้
..: เรื่อยไป
ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นติ่งเทสล่ามั้ย แต่เข้าไปดูจริง ๆ ที่โดนหักคะแนนเยอะ ๆ ก็พวกฟังชั่นอย่างไม่ตอบสนองถ้าคนขับไม่สนใจถนน (คือเค้าปล่อยให้คนไม่มองถนนได้นานกว่าเจ้าอื่น) ส่วนประสิทธิภาพในการขับก็ได้เท่า ๆ กับเจ้าอื่น (หรืออาจจะดีหรือแย่กว่าอันนี้อาจจะไม่รู้เพราะการเก็บข้อมูลไม่ละเอียด) แต่ความเป็นธรรมชาติในการขับ เทสล่ายังนำอยู่จากที่ดูรีวิวหลาย ๆ เจ้า จะบอกว่าเทสล่าล้าหลังเลิกพัฒนาก็ดูจะเกินจริงไปแหะ ระบบ Autopilot มันฉลาดขึ้นเรื่อบ ๆ อยู่ วิ่งได้ในพื้นที่ที่มากขึ้น การตัดสินใจทำได้ดีขึ้นนะ
เห็นด้วยครับ การที่สามารถเปิดระบบและให้ระบบทำงานต่อได้แม้จะมีเส้นถนนแค่เส้นเดียวในขณะที่เจ้าอื่นยังไม่กล้าทำแบบนั้น กลับกลายเป็นถือว่าเทสล่ามีข้อเสียไปได้ยังไง การมองไปข้างหน้าการที่เทสล่าสามารถทำงานได้ต่อแม้จะไม่มองถนนนานๆนั่นคือเค้ามั่นใจในเทคโนโลยีของเค้าสิว่ามันทำงานได้เองโดยที่คนขับไม่ต้องคอยเพ่งถนน ในขณะที่เจ้าอื่นต้องเพ่งตลอดเพราะกลัวนะบบผิดพลาด แต่กลายเป็นว่าถือว่าเรื่องนี้เป็นข้อเสียของเทสล่าเฉยเลย
ต้องคิดถึงคนอื่นบนท้องถนนด้วยครับ Autopilot เป็นแค่ L2 ตามนิยามไม่สามารถปล่อยให้คนขับไม่สนใจได้ ถ้ามั่นใจใน software ของตัวเองจริงควรสอบให้ผ่าน L3 ขึ้นไปแล้วค่อยปล่อยให้คนขับไม่ต้องสนใจตลอดเวลาได้
ผมว่า Tesla มีความย้อนแย้งในตัวเองอยู่พอสมควรโดยเฉพาะ FSD Beta ในลายลักษณ์อักษรบอกว่าต้องสนใจตลอดเวลาต้องเอามือจับพวงมาลัยตลอดเวลานะ แต่กลับผลักดันพวงมาลัยแบบสี่เหลี่ยมเพราะพวงมาลัยกลมมัน "น่าเบื่อ" ในทางปฏิบัติเวลาขับในเมืองพวงมาลัยจะต้องหมุนเยอะ บวกกับระบบของ Tesla ที่ช่วยกันขับไม่ได้ ถ้าคนขับบิดพวงมาลัยระบบจะปลดทันที ทำให้กลายเป็นจริง ๆ สนับสนุนให้คนขับปล่อยมือเลยแล้วคอยแตะพอเป็นพิธีตามกฎหมายเฉพาะเวลามันเตือนเท่านั้น
ผมใช้ระบบที่มีกล้อง monitor คนขับด้วย AI ไม่ต้องคอยจับ แค่วางมือไว้บนขาใกล้ ๆ พวงมาลัยแล้วช่วยดึงนิดหน่อยได้ถ้ารู้สึกว่าชิดด้านไหนเกินไปแล้วพอปล่อยมือระบบก็รับช่วงต่อรู้สึกธรรมชาติกว่ามากครับ
ทำคนตายไปสิบคนจากระบบ”ช่วยขับ”นะครับ แต่เจ้าอื่นยังไม่ทำใครตายเลย 😂
ช่วยระบุหน่อยได้มั้ยครับว่าคือเหตุการณ์ไหน พอดีพยายามหาตามคำที่ท่านว่ามาแล้วไม่เจอเลย
site:www.blognone.com tesla เสียชีวิต
ไม่เจอจริงเหรอครับ ?
ไม่เจอครับ อันไหนที่ฆ่าคนไปสิบคน ผมไล่ตามช่องทางที่ท่านว่าก็ไม่เห็นเจอ ที่เจอก็มีแต่ความผิดพลาดของผู้ขับ ทั้งหลับ ทั้งฝ่าไฟแดง ย้ายไปนั่งฝั่งคนซ้อน หลอกระบบบ้าง (มีเจอที่น่าสงสัยจริงๆก็เคสวิศวกรแอปเปิ้ล)
สิบคนนี่คงหมายความว่า 10 กว่าเคส ซึ่งมีผู้เสียชีวิตไป 10 กว่าคนแล้วน่ะครับ
ก็เพราะไปโฆษณาว่า auto pilot และคนก็เข้าใจผิดว่า auto pilot จริงๆ ทำให้เกิดเรื่องดังกล่าว
ที่เหลือก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคนจะคิดละครับ
ผมให้ข้อมูลเฉยๆ
ชื่อทำให้เข้าใจผิดนี่ไม่เถียงเลยครับ ชื่อนี่ชวนให้ทก็าทายทำอะไรแผลงๆเลย แต่นี่พูดถึงเรื่องเทคโนโลยีในระบบ adaptive cruise control ในรถแต่ละคัน ตัวแปลของผู้ใช้งานก็ต้องเท่ากันสิ คือคนขับต้องตื่นตัวและพร้อมจับพวงมาลัยและเข้าควบคุมรถเท่ากันทุกคัน แต่นี่การที่มันสามารถทำงานได้แม้มีเส้นถนนเดียว(โดยการใช้ ai ประมวลผลหรืออ้างอิงจากสภาพแวดล้อมและรถคันอื่นๆ)ในขณะที่เจ้าอื่นทำไม่ได้กลายเป็นข้อเสียไปเฉยเลย ความง่ายต่อการใช้งานผมก็สงสัยว่าการที่เทสล่ามันแค่ปัดที่ก้านแล้วทำงานเลย ความเร็วก็หมุนที่ลูกบอลได้เลยมันจะถือว่ายากขนาดดึงคะแนนรูดขนาดนั้ยเลยเหรอ คะแนนเทสล่าเกือบจะพอๆกับ honda sensing อะ ทั้งๆที่ honda sensing. ทำอะไรแทบไม่ได้ เจอโค้งกลางๆก็ไม่รอดละ มีก็ต้องคอยตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาเพราะไม่สามารถไว้ใจอะไรมันได้เลย แถมในเคสทดสอบมีหัวข้อ การกระตุ้นผู้ขับขี่ การใช้งานเมื่อปลอดภัย และปฏิกิริยาเมื่อคนขับไม่ตอบสนอง ซึ่งทั้ง 3 หัวข้อนี้ล้วนสวนทางกับระบบช่วยขับที่ต้องการให้ผู้ขับมีส่วนร่วมน้อยๆและทำงานได้ทุกสภาพถนน แต่กลับยกเป็นข้อเสียหมด งี้ fsd beta ของเทสล่าถ้าเข้าทดสอบด้วยคะแนนไม่รูดไปที่โหล่เลยเหรอ
ส่วนเรื่องการตาย ส่วนใหญ่ที่เห็นก็ตั้งใจหลอกระบบทั้งนั้น และสัดส่วนการตายต่อการใช้เทียบกับขับรถเองก็น้อยกว่าแน่ๆ และเมื่อมาเทียบสัดส่วนกับระบบของ ford ที่ได้ที่หนึ่ง ของ ford ยังใช้ในรถอยู่ไม่กี่รุ่นมีปริมาณที่ไม่เยอะเลย toyota sefty sense 3.0 ในไทยก็ยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ จะมีก็แค่ bz4x 70 คัน ที่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เห็นในถนนเลยสักคัน
“การที่เทสล่าสามารถทำงานได้ต่อแม้จะไม่มองถนนนานๆนั่นคือเค้ามั่นใจในเทคโนโลยีของเค้าสิว่ามันทำงานได้เองโดยที่คนขับไม่ต้องคอยเพ่งถนน ในขณะที่เจ้าอื่นต้องเพ่งตลอดเพราะกลัวนะบบผิดพลาด แต่กลายเป็นว่าถือว่าเรื่องนี้เป็นข้อเสียของเทสล่าเฉยเลย”
🫠
จำนวนรถมันไม่เท่ากันด้วยครับ ถ้าจะนับเป็นเคส ต้องนับเป็นอัตตราส่วนถึงจะแฟร์ครับ
และอีกอย่าง ถ้าคนขับใช้วิธีหลอกให้รถเชื่อว่าขัยอยู่กับยี่ห้ออื่น จำนวนผู้เสียชีวิตเป็นอัตตราส่วนแล้ว อาจจะเยอะกว่าด้วยซ้ำ
ถ้าผมยกตัวอย่างอีกแบบ บอกว่า Tesla Autopilot ปลอดภัยมากกว่าขับเอง เพราะปีที่แล้วคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เพราะขับเองหลายพันคนแต่เสียชีวิตจาก Tesla Autopilot น้อยกว่า 10 คน อันนี้ก็ถูกเหมือนกันรึเปล่าครับ
ระบบ BlueCruise ของ Ford ใช้กล้องอินฟราเรดตรวจจับดวงตาของผู้ขับและเตือนภายใน 5 วินาทีหากไม่มองถนน
ถ้าจะจับขนาดนี้ละสายตาแทบไม่ได้เลย 5 วิ ก็ไม่ต่างอะไรกับขับเองแล้ว ระบบก็ไม่จำเป็นแล้ว. อยากได้แบบขึ้นรถแล้วหลับไปถึงบ้านแล้วค่อยปลุก
5 วิ นี่ก็นานนะครับ ถ้าหลับในแว๋บเดียวก็ชนแล้วครับ ยิ่งวิ่งเร็วก้ยิ่งอันตราย
งง จับสายตาทุก 5 วิ แล้วแบบนั้นจะมี FSD, Auto pilot ไปทำไม
มาผิดทางป่าว
ก็ควรบอกให้ tesla ไปสอบให้ได้ L5(จากที่ตอนนี้อยู่แค่ L2) ก่อนครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ไม่มีคนมาเฆียน มาโบยหลัง งานไม่เกิด?
รอเจ้านายมาชี้นิ้วสั่งงาน แบบนี้ก็ลำบากเจ้านายตลอด
พฤติกรรมของลูกน้องจะเป็นแบบไหนมันก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมเจ้านายนั่นแหละครับ
เช่น ถ้าเป็นเจ้านายประเภทที่มั่นใจในตัวเองสูงและคิดว่าตัวเองถูกเสมอ ก็ไม่แปลกอะไรที่จะมีแต่ลูกน้องที่รอเจ้านายสั่งก่อนค่อยทำอะไร