General Motors
ไมโครซอฟท์รายงานข้อมูลในเอกสาร 8-K เกี่ยวกับการลงทุนใน Cruise บริษัทพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติของ GM ที่เพิ่งประกาศยุติการให้บริการแท็กซี่อัตโนมัติ ว่าไมโครซอฟท์จะลงบันทึกขาดทุน 800 ล้านดอลลาร์ กระทบกำไรต่อหุ้นสุทธิ 0.09 ดอลลาร์ จะมีผลในรายงานผลประกอบการไตรมาสปัจจุบัน
GM หรือ General Motors ประกาศหยุดการลงทุนในธุรกิจรถแท็กซี่อัตโนมัติ Cruise โดยให้เหตุผลเพื่อปรับโฟกัสเงินลงทุนของบริษัท และการแข่งขันในตลาดรถแท็กซี่อัตโนมัติที่สูง
ฝ่ายพัฒนาเทคโนโลยีของ Cruise จะถูกรวมเข้ากับทีมพัฒนาเทคโนโลยีของ GM โดย GM ยังคงลงทุนเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับของ Cruise ต่อไป แต่เป็นการใช้งานสำหรับรถยนต์ส่วนบุคคล
Mary Barra ซีอีโอ GM กล่าวในช่วงแถลงรายละเอียดกับนักวิเคราะห์ว่า Cruise มีการดำเนินงานที่ดีในบริการรถแท็กซี่อัตโนมัติ แต่ในการให้บริการรถแท็กซี่นั้นมีอีกหลายที่ปัจจัยต้องดูแลเพิ่มเติม เช่น การบริหารปริมาณรถยนต์ที่วิ่งในถนน ทำให้ GM เลือกมาโฟกัสเฉพาะการพัฒนาเทคโนโลยีของรถยนต์เท่านั้น
Mary Barra ซีอีโอของ GM เปิดเผยในจดหมายถึงผู้ถือหุ้นว่า Cruise บริษัทรถยนต์ไร้คนขับในเครือ กลับมาให้บริการอีกครั้ง และกำลังจะเปลี่ยนรุ่นรถยนต์ที่ใช้จากเดิมคือ Cruise Origin ที่ Cruise พัฒนาเอง มาเป็นรถยนต์ไฟฟ้า Chevrolet Bolt รุ่นใหม่ที่ยังไม่เปิดตัวแทน
Barra บอกว่าการเปลี่ยนรุ่นรถยนต์จะแก้ปัญหาที่ Cruise พบเจอได้ เพราะปัญหามาจากการออกแบบของรถรุ่น Origin เป็นหลัก นอกจากนี้การเปลี่ยนมาใช้ Bolt ยังช่วยลดต้นทุนต่อหน่วยได้ด้วย เพราะใช้กำลังการผลิตของ GM ที่ผลิตรถออกมาเป็นจำนวนมากกว่า
General Motor, Cruise (บริษัทลูกของ GM ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์ไร้คนขับ) และ Honda ประกาศในงาน Japan Mobility Show 2023 ถึงแผนการที่จะนำบริการรถแท็กซี่ไร้คนขับ(Robotaxi) มาสู่ประเทศญี่ปุ่น โดยตั้งเป้าว่าจะเปิดให้บริการในใจกลางกรุงโตเกียวช่วงต้นปี 2026
บริการรถแท็กซี่ไร้คนขับในญี่ปุ่นจะเริ่มต้นด้วยรถยนต์ไร้คนขับรุ่น Cruise Origins จำนวนหลาย 10 คัน และจะขยายเป็น 500 คัน พร้อมขยายพื้นที่ให้บริการนอกกรุงโตเกียวในอนาคต โดยทั้ง 3 บริษัทเห็นถึงความเป็นไปได้ที่ญี่ปุ่นจะเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับรถยนต์ไร้คนขับ
เดือนที่แล้ว Ford เป็นรายแรกที่จับมือกับ Tesla ในการรองรับระบบ Supercharger และนำพอร์ต NACS ที่ Tesla เปิดมาตรฐาน มาใช้งาน ล่าสุด GM เดินตามรอยอีกเจ้าแล้ว
Mary Barra เปิดเผยว่า การส่งเสริมให้ผู้ใช้รถยนต์ EV มีมากขึ้น ก็ต้องทำให้ระบบสถานีชาร์จมีความแพร่หลายมากขึ้น ขณะที่ GM จะเริ่มส่งมอบอแดปเตอร์หัวชาร์จสำหรับ Supercharger ให้ลูกค้าอย่างเร็วที่สุดคือช่วงต้นปีหน้า ส่วนรถยนต์ที่รองรับ Supercharger ในตัวเลยจะมาภายในปี 2025
บริษัทรถยนต์เครือ GM ประกาศว่าจะเลิกสนับสนุนระบบยิงมือถือขึ้นจอภาพรถยนต์ (phone projection systems) ทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ในรถยนต์รุ่นปี 2024 เพื่อไปใช้ระบบปฏิบัติการ Android Automotive ที่รันจากคอมพิวเตอร์ภายในรถยนต์แทน
รถยนต์ในเครือ GM เริ่มใช้ Android Automotive มาได้สักพักแล้ว เช่น GMC และ Cadillac ที่เริ่มในปี 2021 แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ GM ยืนยันว่าจะเลิกรองรับ CarPlay และ Android Auto ด้วย
หลายคนอาจมีภาพจำว่าระบบช่วยขับของ Tesla หรือที่รู้จักกันในชื่อ Autopilot นั้นเป็นผู้นำตลาดเพราะบุกเบิกมาก่อนและสร้างชื่อเสียงมานาน แต่รายงานล่าสุดของ Consumer Reports กลับพบว่าไม่ใช่แบบนั้นแล้ว
Consumer Reports (CR) ได้ทดสอบระบบช่วยขับขี่ 12 ระบบทั้งในสนามปิดและบนถนนจริง และแบ่งเกณฑ์ออกเป็น 5 ประเภทคือความสามารถและประสิทธิภาพ, การกระตุ้นผู้ขับขี่, ความง่ายในการใช้งาน, การใช้งานเมื่อปลอดภัย และปฏิกิริยาเมื่อคนขับไม่ตอบสนอง
ผลการทดสอบสรุปออกมาว่าระบบ BlueCruise ของ Ford ได้คะแนนรวมสูงที่สุด 84 คะแนน ตามมาด้วย Super Cruise ของ GM (75 คะแนน) และ Driver Assistance ของ Mercedes-Benz (72 คะแนน) ส่วน Tesla Autopilot นั้นรูดไปอยู่อันดับ 7 ได้เพียง 61 คะแนน แพ้แม้กระทั่งระบบ Safety Sense 3.0 ของ Toyota ที่ได้ 65 คะแนน โดยเมื่อปี 2020 Tesla เคยอยู่อันดับ 2
General Motors บริษัทรถยนต์รายใหญ่ของโลก ประกาศหยุดลงโฆษณาบน Twitter ชั่วคราว เพื่อรอดูท่าทีของเจ้าของคนใหม่ Elon Musk ที่เป็นซีอีโอของค่ายรถคู่แข่ง Tesla ด้วย
GM บอกว่ายังโพสต์เนื้อหาลงโซเชียลตามปกติ แต่จะหยุดจ่ายเงินเพื่อซื้อโฆษณาบนแพลตฟอร์มไปก่อน บริษัทแถลงว่าเป็นแนวปฏิบัติตามปกติที่จะต้องชะลอแผนการ เมื่อแพลตฟอร์มที่ใช้งานมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ
ส่วน Ford ในฐานะคู่แข่งอีกรายในอุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐ ระบุว่าก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้ลงโฆษณากับ Twitter อยู่แล้ว จึงไม่มีการปรับเปลี่ยนแผนใดๆ หลัง Elon Musk ซื้อกิจการสำเร็จ
กระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกาได้ดำเนินการคัดเลือกหาคู่สัญญาเพื่อนำเอาเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้กับยานยนต์ของกองทัพ โดยตัดสินใจเลือก GM Defense ซึ่งเป็นฝ่ายธุรกิจรถยนต์เพื่อการทหารของ GM ให้เป็นผู้รับผิดชอบงานดังกล่าว
GM Defense จะทำงานร่วมกับ Defense Innovation Unit (DIU) หน่วยงานพัฒนางานนวัตกรรมของกระทรวงกลาโหม ทำการวิเคราะห์และทดสอบเทคโนโลยี Ultium ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการออกแบบระบบแบตเตอรี่ของ GM เพื่อใช้งานกับยานยนต์ไฟฟ้าในกองทัพ
ในรายงานของหน่วยงานด้านความปลอดภัยทางจราจรบนถนนหลวงแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (NHTSA) ระบุว่า Cruise บริษัทรถยนต์ไร้คนขับในเครือ General Motors ได้อัปเดทซอฟต์แวร์ระบบขับขี่อัตโนมัติหรือ ADS ใหม่ หลังรถแท็กซี่ไร้คนขับเกิดอุบัติเหตุรถชนในซานฟรานซิสโกเมื่อเดือนมิถุนายน
อุบัติเหตุเกิดขึ้นเมื่อรถแท็กซี่ไร้คนขับของ Cruise เลี้ยวซ้ายตรงที่สัญญาณไฟจราจรไม่มีลูกศรสีเขียวชี้ทิศทาง ทำให้ระบบ ADS คาดเดาผิดว่ารถยนต์คันอื่นจะมุ่งตรงไปทางทิศทางใด จึงชนเข้ากับรถยนต์ที่วิ่งมาด้วยความเร็ว 40 ไมล์ต่อชั่วโมงในพื้นที่ที่จำกัดความเร็ว 25 ไมล์ต่อชั่วโมง
Cruise ยังคงต้องแก้ไขระบบขับขี่อัตโนมัติด้วยหลังจากรถยนต์ไร้คนขับเป็นสิบคันจอดที่ทางแยกเดียวกันจนบริษัทต้องส่งพนักงานไปนำรถกลับ
General Motors หรือ GM ประกาศความร่วมมือกับ Honda เพื่อพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า 100% เป็นรถยนต์แบบ SUV ใช้แบตเตอรี่เทคโนโลยีใหม่ Ultium คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายในตลาดอเมริกาเหนือภายในปี 2027
อย่างไรก็ตามรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นดังกล่าวยังไม่เปิดเผยราคา แต่ GM ระบุว่า จะถูกกว่า Chevrolet Equinox EV ที่กำลังจะเปิดตัว (ราคาประมาณการ 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1 ล้านบาท)
ไม่ใช่ครั้งแรกที่ GM และ Honda ทำธุรกิจร่วมกัน เพราะเมื่อปี 2013 ทั้งคู่เคยพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าแบบ Fuel Cell และปี 2018 ร่วมกันพัฒนาแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า 100% เทคโนโลยีใหม่
General Motors เปิดจองรถยนต์ไฟฟ้า Cadillac Lyriq รุ่น Debut Edition เมื่อวานนี้ และมีผู้จองจนเต็มภายใน 19 นาที ก่อนเตรียมจัดส่งภายในไตรมาสที่สองของปี 2022
Cadillac Lyriq รุ่น Debut Edition มาพร้อม Android Automotive มี Google Assistant และ Play Store บนหน้าจอสัมผัสแนวนอนขนาด 33 นิ้ว ใช้แบตเตอรี่ 100.4 kWh ระยะทำการโดยประมาณราว 480 กิโลเมตร (ยังไม่มีระยะเป็นทางการจากหน่วยงานสิ่งแวดล้อม EPA ของสหรัฐ)
General Motors บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของโลก ประกาศชะลอการผลิตรถยนต์ในอเมริกาเหนือ จากปัญหาชิปขาดแคลน
GM จะลดการผลิตรถยนต์ในโรงงานทั้งหมด 8 แห่ง บางแห่งหยุดสายการผลิตไปเลย 2 สัปดาห์ บางแห่งประกาศหยุดไปก่อนแล้วและประกาศหยุดเพิ่มอีก 2 สัปดาห์ ช่วงที่หยุดพักนี้ บริษัทจะใช้เวลาซ่อมแซมรถยนต์ที่ผลิตแล้วแต่ยังไม่เสร็จไปพลางๆ ก่อน
ก่อนหน้านี้ Ford เพิ่งประกาศลดจำนวนการผลิตรถยนต์ลงไปเช่นกัน
Android Automotive OS เป็นโครงการนำ Android ทั้งตัวไปรันในระบบความบันเทิงของรถยนต์ (ต่างจาก Android Auto ที่ประมวลผลบนมือถือ แล้วส่งภาพขึ้นจอในรถยนต์) ช่วงหลังเราเริ่มเห็นแบรนด์รถยนต์เริ่มใช้งาน Android Automotive กันบ้างแล้ว โดยรถยนต์รุ่นแรกที่ใช้คือ Volvo Polestar 2
ล่าสุดกูเกิลเปิดตัวคลิปการใช้งาน Android Automotive ในรถยนต์กระบะไฟฟ้า GMC Hummer EV ของค่าย GM ช่วยให้เราเห็นภาพมากขึ้นว่า Android Automotive มีประสบการณ์ใช้งานอย่างไร
General Motors บริษัทแม่ของ Chevrolet เดินหน้าเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่อีก 2 รุ่น คือ Bolt EV และ Bolt EUV โดยทั้งสองรุ่นนี้มีความคล้ายกันหลายจุด แต่ก็มีจุดขายที่แตกต่างกันชัดเจน
Bolt EUV เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบครอสโอเวอร์ ซึ่งตัวย่อ EUV เป็นตัวย่อที่ GM ตั้งขึ้นมาเองจาก electric utility vehicle หรือรถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์ โดย Bolt EUV มีฐานล้อยาวกว่า Bolt EV ราว 3 นิ้ว และตัวรถยาวกว่า ทำให้ผู้โดยสารตอนหลังนั่งสบายขึ้น
GM ระบุว่า Bolt EUV สามารถวิ่งได้ระยะทาง 250 ไมล์ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง หรือราว 402 กิโลเมตร ระบบชาร์จสามารถเลือกได้ทั้ง 120 และ 240 โวลท์
ไมโครซอฟท์ประกาศเป็นพาร์ทเนอร์ทางยุทธศาสตร์ระยะยาว พร้อมลงทุนเป็นเงิน 2 พันล้านเหรียญใน Cruise หน่วยงานพัฒนารถไร้คนขับของ GM
ดีลนี้นับเป็นครั้งแรกที่ไมโครซอฟท์เข้าสู่วงการรถยนต์ไร้คนขับ ซึ่งทำให้ Cruise มีมูลค่าราว 3 หมื่นล้านเหรียญแล้ว นอกจากนี้ Cruise จะใช้ Azure ในระบบหลังบ้านด้วย
ที่มา - The Verge
GM ประกาศปรับโลโก้บริษัทครั้งใหญ่ในรอบ 50 ปี โดยเปลี่ยนจากการใช้ตัวอักษร GM ตัวพิมพ์ใหญ่สีขาวมีขีดด้านล่างในกล่องสีฟ้า เปลี่ยนเป็น gm ตัวพิมพ์เล็ก มีขีดใต้ตัว m ละเปลี่ยนจากกล่องสีฟ้าเป็นกรอบมนแทน
แรงบันดาลใจในการออกแบบโลโก้ใหม่ของ GM คือการก้าวเข้าสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นสีฟ้าเฉดใหม่ที่บ่งบอกถึงพลังงานสะอาด รวมถึงตัว m ที่มีลักษณะคล้ายกับปลั๊กไฟ ซึ่งการออกแบบโลโก้รวมถึงตัวฟอนต์นี้ เป็นผลงานของดีไซน์เนอร์ GM เอง และเปิดตัวครั้งแรกในแคมเปญการตลาด Everybody In เพื่อโปรโมตการบุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจัง ซึ่งตามแผนคือบริษัทจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ 30 โมเดลในหลายประเทศทั่วโลกภายในปี 2025
ช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา Nikola Motor สตาร์ทอัพพัฒนารถบรรทุกพลังงานสะอาด ที่เคยถูกคาดหวังว่าจะขึ้นมาเป็นคู่แข่งกับ Tesla Motors ถูก Hindenburg Research บริษัทวิจัยและตรวจสอบการเงินเขียนรายงานพร้อมหลักฐานแฉ ถึงความลวงโลกของบริษัทและ Trevor Milton ผู้ก่อตั้ง
ปัญหาคือการแฉของ Hindenburg Reserach เกิดขึ้นหลังการประกาศเป็นพาร์ทเนอร์กับ Nikola Motor ของ General Motors ไม่กี่วัน โดยดีลตอนนั้นคือ Nikola Motor จะให้หุ้นกับ GM ประมาณ 11% แลกกับการเข้าถึงสิทธิบัตร ความรู้เทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิงต์และกระบวนการผลิตรถของ GM ซึ่งตอนนั้นผู้บริหาร GM ออกมาสนับสนุน Nikola และยืนยันการเป็นพาร์ทเนอร์เช่นเดิม
เมื่อไม่กี่วันก่อน Elon Musk บอกว่า Tesla จะผลิตเครื่องช่วยหายใจเพื่อผู้ป่วย COVID-19 ถ้าโรงพยาบาลมีไม่พอ ล่าสุด GM ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของสหรัฐ (และคู่แข่งของ Tesla) ประกาศเข้ามาช่วยสนับสนุนการผลิตเครื่องช่วยหายใจแล้ว
GM จะเข้าไปสนับสนุน Ventec Life Systems บริษัทผู้ผลิตเครื่องมือการแพทย์ ขยายกำลังการผลิตเครื่องช่วยหายใจ โดยนำความเชี่ยวชาญของ GM ทั้งด้านลอจิสติกส์ การจัดซื้อ และการผลิต ผ่านความร่วมมือในโครงการ StopTheSpread.org ที่ระดมภาคเอกชนในสหรัฐเข้ามาแก้ปัญหาด้านต่างๆ ในตอนนี้
Cruise บริษัทลูกของ GM ที่โฟกัสด้านการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ ได้เปิดตัว Origin รถยนต์ไร้คนขับยุคใหม่ที่ตัดพวงมาลัยทิ้งไปแล้ว เป็นผลงานจากการร่วมพัฒนากับ GM และ Honda โดยรถยนต์เป็นทรงกล่อง เข้าออกด้านข้างด้วยประตูเลื่อนสองบาน ด้านในมี 6 ที่นั่ง หันหน้าเข้าหากัน ซึ่งยังมีถุงลมนิรภัยอยู่ เมื่อผู้โดยสารขึ้นรถเรียบร้อยก็เพียงกดปุ่ม “Start Ride” และหากมีเหตุการณ์ฉุกเฉินก็มีปุ่ม SOS ไว้ให้ด้วย
เกือบสองปีก่อน General Motors หรือ GM ค่ายรถยนต์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกาได้ปล่อยภาพรถยนต์ไฟฟ้า Chevrolet Bolt ยุคถัดไปที่ไม่มีพวงมาลัยและคันเร่ง ซึ่งขับเคลื่อนด้วยระบบอัตโนมัติทั้งหมด อีกทั้งค่ายรถยนต์อื่นๆ ต่างก็มีเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับอยู่ไม่มากก็น้อย
แน่นอนว่าตัวแปรสำคัญของการใช้งานรถยนต์ไร้คนขับคือการอนุมัติจากภาครัฐ ซึ่งมีขั้นตอนพิจารณาที่ยาวนาน ทำให้ฝั่ง GM ได้เริ่มกดดันรัฐบาลตัวเองโดย Mary Barra ซีอีโอของบริษัท ได้เข้าพบ Elaine Chao รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ เพื่อหารือเรื่องนี้
ARM ประกาศตั้งกลุ่มรถยนต์ไร้คนขับ Autonomous Vehicle Computing Consortium (AVCC) โดยมีสมาชิกเข้าร่วมคือ GM, Toyota, Denso, Continental, Bosch, NXP, NVIDIA
กลุ่ม AVCC มีเป้าหมายคือร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยี และกำหนดมาตรฐานของรถยนต์ไร้คนขับระหว่างบริษัทสมาชิก สิ่งที่น่าสนใจคงเป็นบริษัทรถยนต์รายใหญ่ที่สุด 2 ราย แถมเป็นเบอร์หนึ่งของตลาดอเมริกาและญี่ปุ่นคือ GM และ Toyota เข้าร่วมเป็นสมาชิกแล้ว
ตลาดรถยนต์ไร้คนขับในปัจจุบันยังมีความหลากหลายสูง และเราเห็นการจับคู่ระหว่างบริษัทรถยนต์กับบริษัทด้านไอที เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกันอยู่เรื่อยๆ แต่ครั้งนี้คือการตั้งกลุ่มหรือสมาคมที่มีหลายบริษัทเข้าร่วม ซึ่งก็น่าจะได้เห็นการตั้งกลุ่มแบบเดียวกันเพิ่มขึ้นในอนาคตเช่นกัน
ชิ้นส่วนหนึ่งในรถยนต์ที่แทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยคือยางรถยนต์ โดยระยะหลังมีผู้ผลิตยางรถยนต์หลายเจ้าได้ออกต้นแบบยางรถยนต์แบบไม่ต้องเติมลม (airless tires) แต่ยังไม่มีการนำมาใช้งานจริง
ล่าสุด General Motors (GM) และ Michelin ผู้ผลิตยางรถยนต์จากฝรั่งเศส ได้ร่วมกันเปิดตัวต้นแบบยางไม่ต้องเติมลม "Uptis" (Unique Puncture-proof Tire System) ผลิตจากส่วนผสมของยางและเรซินไฟเบอร์กลาส มีข้อดีกว่าตัวต้นแบบของยี่ห้ออื่นตรงที่สามารถวิ่งที่ความเร็วไฮเวย์ได้ (ของเจ้าอื่นขับได้ช้าๆ) โดย Michelin ระบุว่าให้ความนุ่มนวลเทียบเท่ากับยางแบบปกติ
Kyle Vogt ซีอีโอของ Cruise บริษัทพัฒนารถไร้คนขับที่ถูก GM ควบรวมประกาศว่า Honda บริษัทรถสัญชาติญี่ปุ่นได้ร่วมขบวนมาลงทุนใน Cruise ด้วยเม็ดเงินกว่า 2.75 พันล้านเหรียญสหรัฐ ตามหลังกองทุน SoftBank ที่มาลงทุนไว้ 2.25 พันล้านเหรียญ
Cruise บอกว่าการลงทุนครั้งนี้ทำให้ทาง Honda จะมาร่วมพัฒนารถไร้คนขับร่วมกับ Cruise และ GM พร้อมระบุว่าการเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทรถยนต์ที่นอกเหนือจากในเครือ GM จะเกิดประโยชน์กับลูกค้าและเป็นแนวทางที่ถูกต้องสำหรับ Honda รวมถึงช่วยเร่งให้การนำรถไร้คนขับออกมาวิ่งบนถนนจริงได้เร็วมากยิ่งขึ้น
มีรายงานจากคนวงในว่า Cruise บริษัทพัฒนารถไร้คนขับในเครือ GM กำลังทดสอบแอป Cruise Anywhere สำหรับเรียกบริการรถไร้คนขับและระบบจัดการรถยนต์อยู่ในซานฟรานซิสโก รวมถึงติดตั้งจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า 18 จุดตามที่จอดรถในย่าน The Embarcadero สำหรับ Chevy Bolt ที่ใช้ทดสอบรถไร้คนขับด้วย
GM เคยเปิดเผยว่ามีแผนจะให้บริการแท็กซีไร้คนขับในปี 2019 โดยยังไม่ระบุข้อมูลอื่นๆ ใดออกมา ก็มีการคาดกันว่าซานฟรานซิสโก ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ Uber และ Lyft ที่กำลังทดสอบบริการลักษณะเดียวกัน น่าจะเป็นเมืองแรกๆ ที่ GM เปิดให้บริการแท็กซีรถไร้คนขับ