ในการไต่สวนของไมโครซอฟท์กับ FTC เรื่องดีล Activision Blizzard ไมโครซอฟท์เปิดเผยผ่านเอกสารว่าตัวเองเป็นเบอร์ 3 ของตลาดคอนโซล มียอดขายเครื่องตามหลังนินเทนโดและโซนี่มาตั้งแต่เริ่มทำ Xbox รุ่นแรกในปี 2001 โน่นเลย
คอนโซลเครื่องแรกของไมโครซอฟท์คือ Xbox รุ่นแรกนั้นมียอดขายตามหลัง GameCube และ PS2 อย่างมาก (significant margin) ทำให้ไมโครซอฟท์ยอมรับว่าแพ้สงครามคอนโซลแล้ว คู่แข่งทั้งสองแข็งแกร่งและมีคอนเทนต์เอ็กซ์คลูซีฟที่ช่วยรักษาสถานะของตัวเองได้อีกนาน
ไมโครซอฟท์ยังเปิดเผยตัวเลข (ที่ปิดบังมานาน) ว่า Xbox มีส่วนแบ่งตลาดยอดขายเครื่องคอนโซลในปี 2021 เพียง 16% เท่านั้น แต่ข้อมูลส่วนแบ่งตลาดของนินเทนโดกับโซนี่โดนคาดดำไว้
เหตุผลเหล่านี้ทำให้ไมโครซอฟท์เลือกยุทธศาสตร์ไม่แข่งที่ยอดขายคอนโซลโดยตรง และหันไปทำเรื่องซอฟต์แวร์เพื่อขยายฐานผู้เล่นแทน ซึ่งซอฟต์แวร์มีกำไรดีกว่าคอนโซลที่ขายแบบขาดทุน
ที่มา - Kotaku
Comments
เรารู้ โลกรู้
ยอมแบบนี้ ไม่มาไทยแน่แท้
ไม่ขายทั่วโลก เกมก็ลงน้อยตามสไตล์ แถมแพ้ในบ้านตัวเองอีก
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3
แล้วทำไมไม่ทำตลาดขายเครื่องเล่นทั่วโลกไปเลยเหมือน PlayStation กับ Switch หละครับ กำไรและส่วนแบ่งจะได้เยอะขึ้น หลายคนก็อยากเล่นเครื่อง Xbox นะ
มาแนวเดียวกับ Google ที่เปิดตลาดช้าๆ แบบน่าเกลียด ตัวอย่างที่เห็นได้ก็ Youtube Red หรือ Youtube Premium ในปัจจุบีน ก็ช้ามากกว่าจะไปิดให้ทั่วโลกใช้
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
การขายสินค้าทั่วโลกไม่ใช่เรื่องง่ายนะครับ โดยเฉพาะสินค้า HW ที่ต้องมีการสนับสนุน ซ่อมบำรุง มีการจ้างพนักงาน มีการเช่าพื้นที่ การเก็บสินค้า การคงอะไหล่ แล้วถ้ายอดขายไปไม่รอด จะถอนตัวก็ยากอีก ถ้าเคยได้ยินคำว่ายิ่งขายยิ่งขาดทุน มันก็มาจากเรื่องนี้แหล่ะครับ ดังนั้นถ้าบริษัทไหนไม่เชี่ยวชาญเรื่องการบริหารจัดการห่วงโซ่ของสินค้าโดยเฉพาะพวกที่ต้องมีสินค้าคงคลัง ก็จะเลี่ยงการขายสินค้าตูมเดียวทั่วโลก แต่จะเน้นไปขายที่ประเทศที่แน่ใจว่าขายได้คุ้มทุนแน่นอนก่อน ตอนผมจบใหม่ๆ ผมเคยทำงานกับบริษัทค้าปลีกเลยพอรู้ปัญหานี้พอสมควร ยอดขายเดือนนึง 2-3 ล้าน แต่ต้องบริหารจัดการต้นทุนเกือบ 2 ล้านกว่า margin น้อยนิด โค-ตะ-ระ เหนื่อยเลย ถ้าเดือนไหนพลาด ไม่ว่ายอดขาย หรือการบริหารสินค้าคงคลัง บอกเลยขาดทุนยับ
แต่โซหนี้ทำได้?
ไม่กล้าเสี่ยงงั้นก็เบอร์สามต่อไปครับ
แหม่คุณ Sony เขาขายสินค้าอะไร แล้ว Microsoft เขาขายสินค้าอะไรเป็นหลัก คิดดูให้ดีๆ ก่อนก็ดีนะ ผมว่าเด็กมหาลัยจบใหม่ยังคิดได้เลยนะว่าใครมันจะเชี่ยวชาญกว่ากัน ถ้าเป็นด้านการจัดการ SW ทาง Sony ก็สู้ Microsoft ไม่ได้เหมือนกัน ถ้ายังไม่เคยทำงานบริหารสินค้าคงคลัง หรือขายของผมว่าอย่าพึ่งไปปรามาสเขาเลย ของพวกนี้มันอาศัยประสบการณ์ และผู้เชี่ยวชาญกว่าจะได้ Know how มาก็ต้องใช้เวลา และเงินทุนมหาศาล เขาก็อยากทำแหล่ะ แต่เขาเป็นบริษัทในตลาดหุ้่น ทำแต่ละอย่างก็ต้องรอบคอบ
แต่ไมโครซอฟท์จะไม่ลงทุนตั้งทีมซ่อมไปตลอดตั้งแต่ xbox รุ่นแรกยันรุ่นปัจจุบันไม่ได้นะครับ ขนาด Surface ยังมีขายในไทยเลย
นี่ไม่ใช่ว่าเพิ่งผ่านมา 5 - 6 ปีนะ ผมคิดว่าไมโครซอฟท์เลือกจะไม่ทำเองมากกว่า
Surface นี่ต้องขายเพราะมันช่วยเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด Windows ด้วย ต่อไปถ้า Xbox รุ่นในอนาคตมาพร้อมกับ Windows (แบบ full version) นี่ก็อาจจะมาขายที่ไทยก็ได้
5-6 ปี กับการบริหารสินค้าขายทั่วโลกส่วนตัวผมถือว่ายังมือใหม่นะ การขาดทุนเรื่องสินค้าคงคลัง และอะไหล่ในสินค้าไอทีที่มีอายุรอบสินค้าสั้นนี่ของปราบเซียนล้มละลายมานักต่อนักแล้วนะครับ Apple ที่ว่าแน่ๆ กว่าจะบริหารสินค้าคงคลังได้แบบปัจจุบันผมว่าอยู่ในหลัก 10 ปีขึ้นกว่าจะได้ผู้บริหารแบบทิม คุก และ Know how การบริหารจัดการห่วงโซสินค้าระดับเซียนแบบนั้นที่ผลิตแทบ Just in time ได้
เผอิญว่า 5 - 6 ปีนี่แค่ยกตัวอย่างครับ เจนแรกขายปี 2001 หรือ 22 ปีมาแล้ว
+1 ครับ
เห็นบางคนชอบเอา Microsoft กับ Google ไปเทียบกับ Apple เรื่องการจัดจำหน่าย แต่ทั้ง Microsoft กับ Google ต่างก็เป็น Software Company มาก่อนทั้งคู่ ต่างจาก Apple เพราะงั้นก็ไม่แปลกอะไรที่จะสู้ไม่ได้
ส่วน Sony เห็นแบบนั้นแต่เขาทำธุรกิจ Media & Entertainment ครอบจักรวาลตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ครอบคลุมแทบทุกภาคธุรกิจและครอบคลุมตลาดโลกมานานพอสมควรแล้ว ความพร้อมเรียกได้เลยว่าผิดกันเลย
แต่ส่วนตัวก็รู้สึกเหมือนกันว่าทั้ง Microsoft และ Google ก็ช้าไปหน่อย โดยเฉพาะ Microsoft อย่างน้อยๆก็น่าจะเริ่มขยายไปประเทศที่ขาย Surface บ้างได้แล้ว แต่นี่ก็เป็นเพียงความเห็นจากคนที่ไม่ได้รู้เรื่องขั้นตอนการจัดจำหน่ายทั่วโลกอะไรนะครับ
Switch เหมือนผมเห็นข่าวว่ามี official แว้บๆ แล้วก็เหมือนเห็นแว้บๆ อีกทีว่าถอนไปแล้ว?
ไม่ถอนซะทีเดียวครับ เพราะเพิ่งไปร่วมกับ Synnex ทำเรื่องจัดจำหน่ายและเป็นศูนย์ซ่อมอย่างเป็นทางการครับ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
Xbox มันสู้ PlayStation ไม่ได้มาหลายปี ผมมาเห็นก็ปีนี่แหละที่ดูแล้วมันเข้าท่า โดยเฉพาะ Game pass นี่ล่อใจสุดๆ ก็ให้เวลาเขาหน่อย กระแสตอบรับ Game Pass ดีแบบนี้เดี๋ยวตลาดก็โต ก็ค่อยๆขยายตลาดต่อไปครับ
ไม่เจาะเอเชียเลย แถมเกมส์ Exclusive ก็ไม่ดึงดูดฝั่งเอเชียเลยแม้แต่น้อย
เหมือน sega ที่เคยทำเครื่องแล้วเลิกหันมาเหลือแต่เกมส์ ต่างที่ microsoft ทุนหนาและมี windows ทำเครื่องถ้าไม่มี exclusive เจ๋งจริงดึงคนเล่นยากบอกเลย แม้จะมี game pass เกมส์เยอะก็มีแต่เกมส์เก่าเกมส์อินดี้ ถ้าออกให้ pc ด้วยรอเล่นใน pc พอแล้วไม่ต้องมีเครื่องก็ได้
ผมช่วยซื้อแล้วนา
อย่างไรคุณได้ใจผมไปแล้ว
"คอนโซลที่ขาดแบบขาดทุน" => "คอนโซลที่ขายแบบขาดทุน"
ก็อย่างงี้การทำธุรกิจแบบอเมริกันดรีม ทำแบบกล้า ๆ กลัว ๆ ไม่ทำตลาดแบบแอปเปิ้ลที่ขายทีก็เอาทั่วโลก พอส่วนแบ่งการตลาดไม่ขึ้นบอกว่า "แพ้" ทั้ง ๆ ที่มีคนอีกหลายประเทศรอผลิตภัณฑ์ของคุณอยู่กันตาละห้อย...
ที่เหลือ 16% พี่ไม่คิดว่ามาจาก 360 เจอปัญหาไฟแดงสามดวง ทุกเครื่องบ้างเลยเหลอครับ ?
55555555
อ่านข่าวนี้แล้วนึกถึงวินโดว์โฟน
nokia ดันเต็มที่ จนจะตายไปพร้อมกับวินโดว์โฟน แล้วไมโครซอฟท์ซื้อไป ทำพังกว่าเดิม CEO ใหม่มาลอยแพทั้งมือถือที่ซื้อมากับวินโดว์โฟน เป็นใครก็ช่างหัวครับ และคงต้องคิดให้เยอะมาก ๆ ก่อนซื้อแบนด์นี้ ดีไม่ดีลอยแพ
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3
ก็ไม่แน่ว่า gen ถัดไปเค้าอาจจะไปเน้นในส่วนของเกมส์บน PC มากขึ้นแล้วก็พวก cloud gaming ก็เป็นได้
สงสัยมานานละ คนวางroadmap นี้ คือฝรั่งที่เป็นข่าวช่วงนี้ หรือ คนญีปุ่นที่เป็นตระกูลที่เป็นเจ้าของsony?
เพราะที่sony ขายเครื่องเกมทั่วโลกทุกวันนี้ได้ เพราะ ยุคแรกๆ บุกเบิก พวกอุปกรณ์เครื่องเสียง ซาว์อะปาว ทีวี อุปกรณ์ต่างๆ
มีฐานการผลิต ทั่วโลก แล้วคือทำงานแบบคนสไตค์ญี่ปุนอ่ะ จริงๆจังๆ มาหน้างานเองไล่จี้ลูกน้อง มันเลยแข็งกว่าMS ที่โตมาจากบริษัทSoftwareแล้วบริหารแบบอเมริกันPlaysafe
ญี่ปุ่นรุ่นคุณลุงหลายคนที่เห็นตามเชียงใหม่ ตามนิคมหลายๆที่ ที่สัมผัสได้เลยคือstyleแบบเทหมดหน้าตัก ทุ่มสุดตัวจริงจัง แบบคนโบราณหลังสงครามโลกมาหน่อยๆ sonyเลยแข็ง (แต่ตอนนี้ceoฝรั่งคนนั้นทำตัวแย่มาก พูดไปเรื่อย)
มันอยู่ที่ตัวแทนจำหน่ายในแต่ละประเทศนั่นแหล่ะครับ ส่วนใหญ่เขาก็จะไปดีลกับ Distributer เดิมก่อนไม่ค่อยเข้ามาทำเองหรอก แต่ Sony ได้เปรียบตรงที่ว่าสามารถดีลกับสายส่งพวกสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ เจ้าอื่นเข้าถึงยากเพราะคนเหล่านี้ก็ไม่อยากขายของที่ไม่คุ้นเคย และมีกำไรน้อย ซึ่งคนเหล่านี้มี connection แข็งแรงในพื้นที่ต่างจังหวัดและบริหารจัดการสินค้าให้บริษัทแม่ได้ดีกว่าเพราะเชี่ยวชาญและขายมานานมีลูกค้าประจำ ขาจร และหน้าร้านที่มีพื้นที่ขายทำเลทองในสถานที่ที่บริษัทใหม่ๆ เข้าถึงยาก ตรงนี้แหล่ะที่ทำให้ Sony ได้เปรียบเรื่องการบริหารจัดการสินค้า HW ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลกเพราะเขาทำมานานแล้วมีเครือข่ายที่แข็งแรงพอสมควร
บริษัทใหญ่เหล่านี้ ก็ไร้เทียมทานในเรื่องที่ตนเองถนัดเท่านั้น
จะทำ Search Engine แข่งกับ Google ก็แพ้หมด
อยากขายได้ต้องทำเกม time exclusive แบบ PS
That is the way things are.
ซื้อ Sony สิครับ จบๆ
คิดว่าถ้ายอมขายให้ แล้วคนอนุมัติให้ซื้อ Microsoft พร้อมซื้อทันที 555
อย่าา!! เราผู้บริโภคนี่แหละจะซวยแทน
ตอนที่ PS5 ขาดตลาด ถ้าโปรโมทดีๆ น่าจะได้ลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกเพียบเลย
สาเหตุนึงคือ ตัวเองเลือกจะออกเกมพร้อมกับพีซี (ซึ่งตัวเองก็ยึดหัวหาดอยู่) แล้วคนเล่นจำนวนนึงก็คิดว่า ถ้างั้นฉันซื้อแต่พีซีอย่างเดียวไม่ต้อง xbox ก็ได้ แล้วเอาเงินที่เหลือไปซื้อ Switch หรือ PS5 ดีกว่า
ดังนั้นตัวฮาร์ดแวร์มันเลยไม่มีความน่าดึงดูด ไม่รู้จะซื้อทำไม เอาเงินไปซื้อเกมมิ่งแลปท๊อปก็ได้ เล่นได้เหมือนกัน แต่ทำอย่างอื่นได้ด้วย
กลุ่มคนซื้อ Xbox มันเลยเป็นแบบ (ขออนุญาติ sterotype นะครับ และอาจจะไม่ใช่ทุกคนนะ) ... บ้านมีห้องรับแขก ฉันจะเล่นเกมในห้องรับแขก ฉันไม่อยากลำบากต่อคอมเข้ากับทีวีห้องรับแขก ทุกอย่างต้องควบคุมได้ด้วยรีโมต และฉันเล่นเกมของ Microsoft ซึ่ง มันก็ไม่น่าจะมีเยอะขนาดนั้น
ส่วนพวกซื้อเกมให้ลูกเล่นน่าจะโดน Switch ฉกไปหมด มันดูดึงดูดพ่อแม่มากกว่า Xbox อะไรงี้ครับ
อาจจะมีอีกกลุ่มนึง คือกลุ่มคนที่ไม่ต้องการมี PC หรือไม่ต้องการ PC ที่แรง แต่อยากได้เครื่องไว้เล่นเกมไม่ได้อยากปวดหัวในการประกอบ PC ผมว่ากลุ่มนี้ที่ซื้อ Xbox น่าจะใหญ่กว่าที่ว่ามานะครับ คือผมเห็นคนรุ่นใหม่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยซื้อ PC หรือ Laptop กันแล้ว ถ้าไม่ได้จำเป็นต้องทำงาน เพราะใช้ Tablet หรือมือถือก็ใช้ชีวิตได้ปกติ ถ้าอยากจะเล่นเกมที่บ้านก็แค่มี Console แค่นั้นเอง PC ที่เล่นเกมได้ระดับ Xbox คือมันแพงน่ะครับ
คือถ้า MS rebrand Xbox เป็น gaming desktop ให้สลับโหมดไปได้ด้วยนี่ 🥹