CNBC สัมภาษณ์พิเศษ Linda Yaccarino ซีอีโอ X ซึ่งมารับไม้ต่อจาก Elon Musk ในหลายประเด็น ทั้งอำนาจหน้าที่ ซึ่งหลายคนสงสัยว่าใครกำกับดูแลบริษัทกันแน่ ไปจนถึงการตัดสินใจรีแบรนด์ Twitter มาเป็น X
Yaccarino บอกว่าไอเดียเรื่อง X ที่ต้องการเป็น Everything App มีมานานแล้ว ในตอนที่บริษัทประกาศว่าตนจะมารับตำแหน่งซีอีโอในเดือนมิถุนายน ภารกิจหนึ่งก็คือการร่วมมือกับ Elon เพื่อเปลี่ยน Twitter มาสู่ X
แล้ว X จะเป็นอย่างไรต่อไป? Yaccarino บอกว่าแพลตฟอร์มจะให้ประสบการณ์ที่เปลี่ยนไป ทั้งวิดีโอแบบยาว (long-form) บทความขนาดยาว การกดติดตามรับข่าวสารจากครีเอเตอร์ ซึ่งพวกเขาเหล่านี้สามารถทำเงินในระดับที่มากพอจากแพลตฟอร์ม อนาคตผู้ใช้งานจะสามารถวิดีโอคอลหากันได้ โดยไม่ต้องให้เบอร์โทรศัพท์ และจะมีระบบโอนเงิน-จ่ายเงินหากัน ทั้งระหว่างผู้ใช้งานกันเอง ตลอดจนกับครีเอเตอร์ สิ่งเหล่านี้เป็นการเปลี่ยนแปลงที่มากกว่า Twitter เดิม วิธีรับข้อมูล แลกเปลี่ยนข้อมูล ทุกอย่างจะเกิดในแพลตฟอร์ม
แล้วทำไมต้องเปลี่ยนชื่อ? คำตอบคือถ้าหากใช้ชื่อ Twitter ต่อไป ฟีเจอร์ใหม่ทุกอย่างที่เข้ามา ผู้ใช้งานจะมองเป็นการเพิ่มเติมต่อจากของเดิมที่เป็นแพลตฟอร์มข้อความ แต่เมื่อเป็น X ทุกอย่างที่เข้ามาคือการทำสิ่งที่เป็นไปได้ ไม่ใช่แค่การต่อยอดอีกต่อไป
ประเด็นหนึ่งที่คนสงสัยคือแม้ Linda Yaccarino จะมีตำแหน่งเป็นซีอีโอ ส่วน Elon Musk เจ้าของตัวจริงจะมีตำแหน่งตอนนี้คือซีทีโอ แต่ภาพของ X กับ Elon ยังผูกติดชัดเจน จนไม่แน่ใจว่าซีอีโอมีบทบาทแค่ไหน เรื่องนี้ Yaccarino ยืนยันว่าบทบาทระหว่างตนกับ Elon แยกกันชัดเจน
คำอธิบายคือ Elon จะดูแลการรีแบรนด์ X และเร่งทำฟีเจอร์ใหม่ในอนาคต ส่วนงานที่เหลือเป็นของ Yaccarino ไม่ว่าจะเป็นการดูแลพาร์ทเนอร์ งานด้านกฎหมาย งานฝ่ายขาย จนถึงการเงิน คำตอบนี้อาจไม่เกินคาดนัก เพราะ Yaccarino เคยดูแลส่วนธุรกิจโฆษณาของ NBCUniversal บริษัทสื่อรายใหญ่ของโลก และ Twitter ในตอนนั้นก็พบปัญหาผู้ลงโฆษณาต่างชะลอหรือแบนการซื้อโฆษณาในแพลตฟอร์ม
Yaccarino ยังบอกด้วยว่า X ตอนนี้มีระบบจัดการเนื้อหา ดีกว่าสมัยที่เป็น Twitter อยู่ในตลาดหุ้นเสียอีก ฟังแล้วอาจไม่น่าเชื่อแต่ Yaccarino ก็ยืนยัน ฟีเจอร์ล่าสุดที่ให้ผู้ลงโฆษณาควบคุมการแสดงผลโฆษณา ไม่ให้ติดกับคอนเทนต์ที่ไม่เหมาะสมก็ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ลงโฆษณามากขึ้น
จำนวนพนักงานของ X ปัจจุบันอยู่ที่ 1,500 คน ลดลงจากก่อน Elon ซื้อกิจการที่ 8,000 คน ซึ่ง Yaccarino ก็บอกว่าตัวเลขนี้เหมาะสมแล้วสำหรับการควบคุมค่าใช้จ่ายบริษัท
ประเด็นสุดท้ายเป็นเรื่องของคู่แข่ง Meta ที่ออกแอปแนวข้อความแบบเดียวกันอย่าง Threads ซึ่ง Yaccarino บอกว่ายังไม่เห็นผลกระทบต่อแพลตฟอร์มที่ชัดเจน แต่อย่างไรก็ตามบริษัทก็ต้องจับตาดูคู่แข่งเสมอเป็นเรื่องปกติ
ส่วนศึกมวยกรงระหว่าง Elon กับ Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta นั้น Yaccarino บอกเพียงตอนนี้ Elon ก็เริ่มฝึกซ้อมแล้ว ซึ่งหากแมตช์นี้เกิดขึ้นจริง ก็น่าจะเป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับแบรนด์ต่าง ๆ ที่เข้ามาสนับสนุน
ที่มา: CNBC
Comments
มีอำนาจปลด CTO ได้ไหม 555
น่าจะปลดได้นะครับ ปลดตำแหน่งนะ
ส่วนเจ้าของจะปลด CEO รึเปล่าก็ลุ้นกันต่อ
มีอิสระ =
ปูเสื้อ รออออออ ถึงจะตีกันเฮ้ยชกกันตี 3 ตี 4 ก็จะแหกตารอดู
In other words: Elon เลือก CEO ที่มีวิสัยทัศน์คล้ายกับตัวเองมาตั้งแต่แรก
แล้วทำหน้าที่เป็นคนคุมภาพลักษณ์ (Damage Control) ของ Twitter แทน Elon
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
สุดยอดครับ ยังไงศาสดาก็คือศาสดา มนุษย์เงินเดือนอย่างผม ไม่อาจคิดได้ทัน คนระดับ elon นำหน้าไปไกลมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
สุดท้าย การจ้างออกจำนวนมากก็เป็นวิธีที่ถูกต้อง จำนวนพนักงานตอนนี้น่าจะลงตัวแล้ว
แสดงให้เห็นว่าก่อนหน้านี้ เป็นฟองสบู่การจ้างงานสายเทคจริง ๆ
ปลดโคตรโหดแต่หน้างานแทบไม่กระทบผู้ใช้ปกติเลย โคตรโหด
คือคนมันก็เยอะเกินกับผลิตภัณฑ์ที่มีต้องถามว่า 8000 คนเอาไปทำอะไรบ้าง
อนาคตพอจะเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอใหม่ไหมนะ
ทำได้ทั้งสั้นทั้งยาวไปเลย
เรื่องอื่นอาจะมีทั้งชอบทั้งไม่ชอบ แต่เรื่องความ lean แบบบ้าคลั่งนี่ชอบแกมาก(ในฐานะคนนอกนะ😂)
เอาจริง เป็นตัวอย่างองค์กรเลยนะในการลดคน