บริษัทเอกชนและหน่วยงานวิจัยจำนวน 50 แห่ง นำโดย IBM และ Meta ประกาศตั้งกลุ่ม AI Alliance เพื่อกำหนดมาตรฐานของวงการ AI ร่วมกัน โดยเน้นการเปิดกว้างและความโปร่งใส (open and transparent)
เป้าหมายของ AI Alliance มีตั้งแต่พัฒนาเบนช์มาร์ควัดผล AI โดยเฉพาะในด้านความปลอดภัย, พัฒนาโมเดลพื้นฐาน (foundation model) แบบเปิดกว้าง, พัฒนาชิปเร่งการประมวลผล AI, ร่วมกับภาคการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะ อบรม เผยแพร่เอกสารความรู้ต่างๆ
ตัวอย่างบริษัทที่เป็นสมาชิกได้แก่ AMD, Cerebras, Dell Technologies, Hugging Face, Intel, Oracle, Red Hat, ServiceNow, Sony, Stability AI
ตัวอย่างสมาชิกกลุ่มสถาบันวิจัยและสถาบันการศึกษา ได้แก่ A*STAR ของสิงคโปร์, Cornell, Dartmouth, ETH Zurich, Imperial College London, Indian Institute of Technology Bombay, Keio University, New York University, UC Berkeley, University of Illinois Urbana-Champaign, The University of Texas at Austin, The University of Tokyo, Yale
นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานภาครัฐและมูลนิธิอื่นๆ เช่น NASA, National Science Foundation, Linux Foundation เป็นต้น
เป็นที่น่าสังเกตว่ากลุ่ม AI Alliance ไม่มีบริษัทคลาวด์รายใหญ่ทั้ง 3 เจ้าคือ Amazon, Microsoft, Google บริษัทชิปอย่าง NVIDIA รวมถึงไม่มีบริษัท AI ชื่อดังอย่าง OpenAI หรือ Anthropic เข้าร่วมด้วย ซึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านี้มีแนวโน้มไม่เปิดโมเดลของตัวเองสู่สาธารณะ
ในทางกลับกัน สมาชิกของ AI Alliance กลับเป็นบริษัทที่สนับสนุนแนวทางโอเพนซอร์ส เช่น Meta ที่เปิด Llama 2 ออกมาตั้งแต่ต้น, Stability AI ที่เปิด Stable Diffusion รวมถึง Hugging Face, LangChain, LlamaIndex เป็นต้น
Comments
AI พัฒนาเร็วขนาดนี้ ยังไงก็ต้องตั้งองค์กรกลางขึ้นมาดูแลแล้วล่ะครับ
..: เรื่อยไป
ไม่มีประเทศไทยในรูป
ไม่มีจีน...