Mark Gurman แห่ง Bloomberg รายงานข้อมูลล่าสุด เกี่ยวกับสิ่งที่แอปเปิลจะประกาศในงานสัมมนาประจำปีของนักพัฒนา WWDC24 สัปดาห์หน้า ซึ่งปัญญาประดิษฐ์หรือ AI จะเป็นหัวข้อหลักของคีย์โน้ต ใช้เวลาประมาณครึ่งหนึ่งของการนำเสนอ
แอปเปิลจะมีคำที่ใช้เรียกระบบ AI ใหม่ ทั้งใน iPhone, iPad และ Mac ว่า Apple Intelligence ในงานแอปเปิลจะประกาศความร่วมมือกับ OpenAI ในการนำ AI แชทบอตมาให้ใช้งาน
Gurman สรุปฟีเจอร์ AI Apple Intelligence ที่จะเปิดตัวในงานดังนี้
- AI จะถูกนำมาใส่ในแอปต่าง ๆ ที่ใช้งานกันเป็นประจำ
- ฟีเจอร์ AI จะมีสถานะ beta ผู้ใช้งานต้องเปิดตั้งค่าเอง (opt-in)
- iPhone ต้องเป็น 15 Pro ขึ้นไป ส่วน Mac และ iPad ชิป M1 ขึ้นไป
- AI จะประเมินว่าสามารถทำงานบนอุปกรณ์ได้หรือไม่ หากไม่ได้จะเชื่อมต่อไปยังระบบของ OpenAI
- แอปเปิลจะใช้เวลาพอสมควรในการอธิบายความเป็นส่วนตัว ของข้อมูลที่ถูกส่งไปยังคลาวด์เพื่อประมวลผล AI
- Safari จะมีฟีเจอร์สรุปเนื้อหา ซึ่งความสามารถนี้จะใช้ใน Notes, Mail และแอปอื่นด้วย
- Messages, Mail เพิ่มความสามารถตอบกลับอัตโนมัติ
- Siri รองรับคำสั่งต่อเนื่องจากหลายอย่างได้
- Xcode มีเครื่องมือผู้ช่วย AI แนวทางเดียวกับ GitHub Copilot
- Mail เพิ่มฟีเจอร์จัดหมวดอีเมลอัตโนมัติแบบ Gmail
- สร้างคัสตอมอีโมจิได้ด้วย AI
- Voice Memos สามารถอดข้อความเสียงเป็นตัวหนังสือได้
- Photos เพิ่มฟีเจอร์ AI ทั้งการแต่งภาพ ลบวัตถุ-บุคคล
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลฟีเจอร์ใหม่ แต่ไม่เกี่ยวกับ AI ดังนี้
- หน้าโฮมของ iPhone สามารถย้ายตำแหน่งไอคอนได้อย่างอิสระ
- Control Center เพิ่มปุ่มควบคุมเพลง
- Settings ปรับดีไซน์ใหม่ ให้ค้นหาสิ่งต่าง ๆ ดีขึ้น มีผลทั้ง iOS, iPadOS และ macOS
- Messages เพิ่มลูกเล่นในการส่งข้อความมากขึ้น, ตั้งเวลาส่งข้อความได้ และรองรับ RCS
- มีแอปใหม่ Passwords สำหรับจัดการรหัสผ่าน
- iPadOS มีแอปเครื่องคิดเลขแล้ว อินเทอร์เฟซเหมือนเวอร์ชันใน macOS
- Calendar สามารถดึงข้อมูลจาก Reminders ได้
- Health ปรับปรุงหลายอย่าง ให้สามารถจัดการข้อมูลได้มากขึ้น
- watchOS 11 ปรับปรุงการโต้ตอบของ Siri
- macOS 15 ยังไม่มีฟีเจอร์ตัวบล็อกโฆษณา ซึ่งคาดกันก่อนหน้านี้
- visionOS 2 มีการปรับปรุงเล็กน้อยเท่านั้นจากเวอร์ชันแรก
ส่วนฮาร์ดแวร์ใหม่คาดว่าไม่มีการประกาศในงานปีนี้
ที่มา: Bloomberg
Comments
ดูแล้วไม่ค่อยว้าวเท่าไหร่เลยเรื่้อง AI ทั้งที่ตัว CPU สามารถรัน Stable Diffusion ในเครื่องสร้างภาพได้ เหมือน CPU แรงแต่ฟังชั่น AI แต่ละอย่างมันไม่สุด รีดประสิทธิภาพได้ไม่เต็มที่
ใน handheld devices การรัน AI ต้องใช้พลังงานสูงมากครับ ผมรันแต่ละทีเครื่องร้อนและแบตลดลงอย่างหนัก ถ้าจะประมวลทุกอย่างในอุปกรณ์ ณ เทคโนโลยีตอนนี้น่าจะยังไม่เอื้อเท่าไร สู้การอัพแล้วไป processes บน cloud จะใช้พลังงานน้อยกว่า
เพราะใช้CPUรันป่าวครับ
กวนอะ ขำในความพยายามเลี่ยงคำว่า AI แล้วมาบอกว่า Apple Intelligence ที่ย่อว่า AI เหมือนกัน
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
"Photos เพิ่มฟีเจอร์ AI ทั้งการแต่งภาพ ลบวัตถุ-บุคคล" โอ้ยยยยย สาธุมาซะที.
ก็ถือว่าหาทางลงกับชื่อได้เท่สมเป็นแอปเปิ้ล
คิดว่ามีมล้อเครื่องคิดเลขบนไอแพด ค่ายเกาหลีถ่ายทำรอแล้วแน่ ๆ 55+
ทำไงให้ชื่อเรามันเท่ครับบ
เติม Apple เข้าไปสิไอ้น้องชาย
Settings ปรับ design ใหม <- สาธุ รอบที่ผ่านมาปรับแล้วหาของยากมาก ต้อง search ตลอด แถม search ก็ไม่ค่อยฉลาด
นึกถึง alibaba intelligence เลย 🤣
ว่าแล้ววววววววววววว มันต้องทำคำเฉพาะออกมาจนได้ 55555555
iPhone ต้องเป็น 15 Pro ขึ้นไป ส่วน Mac และ iPad ชิป M1 ขึ้นไป
พี่ใส่ Nureal Engine มาตั้งแต่ Apple A14 แต่ทำไมให้ 15 Pro ครับพี่
พึ่งเห็นว่า a14 กับ m1 มี core neural เท่ากัน
สงสัย iphone ยอดไม่ค่อยเดินเลยบังคับไปเครื่องใหม่แทน
55555555555555555
555 อันนี้ชื่อไม่ต้องคิดทับมันเลย จะบ้า อีกคนนึง Copilot+ PC แต่ล่ะคน 555
มาช้าเพราะซุ่มพัฒนา AI ❌
แอบไปคิดชื่อ ☑️
เวลาเรียกใช้งาน หน้าตาเป็นยังไง
นึกว่าจะตั้ง iA
ไม่ได้ครับ ซ้ำกับ Toyota Yaris iA
เข้าใจว่าอยากมีชื่อเป็นของตัวเอง แต่ชื่อนี้มันดูสิ้นคิดไปหน่อย เหมือนเอา AI เป็นที่ตั้งแล้วค่อยไปหาคำประกอบ
สู้ชื่อเดิมเรื่องของแว่น VR ก็ไม่ได้ ไหนๆจะตั้งเองแล้วก็ให้มันไม่เหมือนคนอื่นไปเลย (ปล. แต่ผมก็ลืมไปละว่าเค้าตั้งว่าอะไร 55)