ในสัปดาห์นี้มีคดีที่น่าสนใจซึ่งเข้าสู่การไต่สวนในศาลแล้ว โดยคณะกรรมการการค้าของสหรัฐ หรือ Federal Trade Commission (FTC) ได้ฟ้อง Meta (ตอนฟ้องยังชื่อ Facebook) ในข้อมูลผูกขาดตลาดโซเชียลเน็ตเวิร์กตั้งแต่ปี 2020 ซึ่งที่ผ่าน Meta ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้มาตลอด โดย FTC เสนอให้ Meta แยกธุรกิจ Instagram และ WhatsApp ที่มองว่าส่งเสริมการผูกขาดตลาดออกมา

การไต่สวนได้เริ่มต้นเมื่อวานนี้ที่ศาลแขวงแห่งเขตโคลัมเบีย โดยทนายของ FTC ระบุว่า Meta หรือ Facebook ในเวลานั้น ใช้กลยุทธ์ซื้อกิจการ Instagram และ WhatsApp ในวันที่ทั้งสองยังเป็นสตาร์ทอัปขนาดเล็ก เป็นการตัดโอกาสแข่งขันไม่ให้บริษัทเหล่านี้เติบโตมากกว่านี้จนอาจเป็นคู่แข่งสำคัญของ Facebook ได้ นำมาสู่การผูกขาดบริการโซเชียล

ทนายของ Meta แย้งประเด็นนี้ว่า FTC พยายามนิยามโซเชียลเน็ตเวิร์กว่าเป็นเครื่องมือเชื่อมต่อผู้คน และการกระทำของ Meta พยายามผูกขาดเรื่องนี้ แต่ความจริงการเชื่อมต่อผู้คนเป็นแค่ปัจจัยหนึ่งเท่านั้น โซเชียลเน็ตเวิร์กยังเป็นเครื่องมือความบันเทิง และการค้นพบเรื่องราวใหม่ในโลก ซึ่งบริษัทยังต้องแข่งขันกับแพลตฟอร์มอื่นเช่น TikTok หรือ YouTube อยู่ดี อีกทั้ง FTC เองที่อนุมัติดีล WhatsApp และ Instagram ไปก่อนหน้านี้แล้ว การกลับคำอนุมัติย่อมสร้างผลเสียมาก

ในการไต่สวนวันนี้ซึ่ง Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta เข้าร่วมด้วย ได้มีการนำเสนอข้อมูลจากทั้ง FTC และ Meta พร้อมข้อโต้แย้งที่น่าสนใจดังนี้

• Meta แสดงตัวเลขว่าแอปในเครือมีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นสูงหลังคำสั่งแบน TikTok ในอเมริกา สะท้อนว่าแอปไม่ได้ผูกขาด และยังต้องแข่งขันกับแพลตฟอร์มอื่น

• FTC เปิดอีเมลเมื่อกุมภาพันธ์ 2012 ซึ่ง Zuckerberg พูดถึง Instagram ว่า เราสามารถสร้างเทคโนโลยีแบบเดียวกันได้ แต่ไม่น่าไล่ตามทันเรื่องความนิยมได้ จึงเสนอให้ซื้อกิจการที่ 500 ล้านดอลลาร์
• Zuckerberg ยังเสนอแนวทางให้ซื้อ Instagram มา แล้วไม่ทำอะไรกับแอปนี้ เพื่อป้องกันคู่แข่ง ขณะเดียวคนจะไม่เกลียดเราที่ซื้อแอปมาปิดบริการ

การไต่สวนจะมีไปตลอดสัปดาห์นี้ โดยคาดว่า Sheryl Sandberg อดีตซีโอโอ Meta และ Kevin Systrom ผู้ร่วมก่อตั้ง Instagram จะมาให้การด้วย

ที่มา: The New York Times