ข่าวต่อเนื่องจากการลงนามข้อตกลงระหว่างไมโครซอฟท์และ Compal วันนี้ไมโครซอฟท์ก็เขียนบล็อกต่อเนื่องออกมาอีกบทความ ระบุว่าอุปกรณ์แอนดรอยด์กว่าครึ่งตลาดในตอนนี้ได้รับความคุ้มครองสิทธิบัตรจากไมโครซอฟท์แล้ว
ตัวเลขจำนวนอุปกรณ์ที่ได้รับความคุ้มครองนี้สูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดเพราะ Compal เองเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์แอนดรอยด์ถึงร้อยละ 16 ของตลาดโลก เมื่อรวมกับ Wistron และ Quanta ที่ลงนามกันไปก่อนหน้านี้ก็จะเป็นจำนวนถึงร้อยละ 55 ของตลาดโลก
ขณะที่ตลาดสหรัฐฯ นั้นเฉพาะเอชทีซีและซัมซุงนั้นก็กินตลาดเกินครึ่งแล้ว และทั้งสองบริษัทก็ยอมจ่ายค่าสิทธิบัตรให้กับไมโครซอฟท์แล้วทั้งคู่
ไมโครซอฟท์เลือกที่จะเรียกเก็บค่าสิทธิบัตรจากผู้ผลิตเครื่อง (Original Design Manufacturer - ODM) มากกว่าจะไล่เก็บจากแบรนด์ย่อยๆ ที่ซื้อเครื่องจากบริษัทเหล่านี้มาขาย คงเป็นเพราะแบรนด์เล็กๆ เหล่านั้นกระจายอยู่ตามส่วนต่างๆ ของโลกที่มีกฏหมายต่างๆ กันมาก การเลือกไปเก็บค่าไลเซนส์จากโรงงานผลิตโดยตรงโดยเจรจาให้ค่าสิทธิบัตรอยู่ในระดับที่ยอมรับได้เป็นทางเลือกที่ดีกว่ามาก
ส่วนในเวลานี้ โรงงานผลิตอื่นๆ ที่ยังไม่ยอมซื้อสิทธิการใช้สิทธิบัตรของไมโครซอฟท์ เช่น โมโตโรล่า หรือ Foxconn นั้นก็ล้วนถูกไมโครซอฟท์ฟ้องร้องอยู่ ยังไม่แน่ชัดว่าจะมีคดีใดดำเนินไปจนถึงที่สุดหรือไม่ เพราะหากคดีดำเนินไปถึงที่สุดก็อาจจะเป็นบรรทัดฐาน (ทั้งด้านดีหรือแย่) ให้กับผู้ผลิตอื่นๆ ต่อไป มากกว่าจะเจรจากับเป็นรายบริษัทเช่นนี้
ที่มา - Microsoft
Comments
อยู่สบายๆ
หมายความว่าถ้า adroid ขายได้มากเท่าไหร่ ms ก็ได้กำไรมากขึ้นด้วย
มีเงินไปพัฒนาwp7 สบายๆ
apple กับ microsoft มีวิธีจัดการกับ android ต่างกัน ซึ่งก็เหมาะสมตามสภาพ ( microsoft ไม่มี product ในตลาด การฟ้องแบบ apple จึงไม่เกิดผลดีกับตัวเอง การเรียกเก็บแบบนี้จึงเป็นวิธีที่ดีกว่า )
โดยรวมแล้ว ผมว่าเก็บค่าไลเซนต์แบบนี้ดีกว่า ไปฟ้องห้ามขายแบบ Apple นะ อย่างน้อยผู้ผลิตก็พอรับภาระได้ ผู้บริโภคก็เลือกใช้ได้ตามอัธยาศัย
ผมว่าปัญหาของ Apple ไม่ใช่ตัวเงินกับเทคโนโลยีครับ แต่เป็นการควบคุม User Experience กับการได้เป็นผู้นำ
ซึ่งไมโครซอฟท์ไม่ได้สนใจตรงนี้มากเท่า Apple
Jobs บอกว่าเป็นอารมณ์ความแค้นส่วนตัว ไม่ใช่อยากได้เงินไม่ใช่หรือครับ ตามข่าวเก่า
ตามหนังสือชีวประวัติ เป็นตามนั้นครับ บอกว่าได้เงิน 5 พันล้านเหรียญก็ไม่เอา
รวย
M$ ได้เงินจาก android บ้างก็ดีแล้วละครับ ถ้าเกิด windows phone ขายไม่ได้ จะได้ไม่ช้ำมาก :D
ผมว่า google ก็ไม่เสียอะไร แอบสบายใจด้วยซ้ำ เพราะว่าผู้ผลิตก็ไม่ต้องโดนจ้องจะฟ้อง ตัวผู้ผลิตเองก็ต้องใช้ ระบบ Android แบบหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่ดีเพราะติดลมบนไปแล้ว และเป็นที่ต้องการของตลาดในตอนนี้ หรือ ไม่มีทางเลือกมากนัก
ที่จะเสีย อาจจะเป็นคนซื้อก็ได้ครับ จะบวกเพิ่มเอากับคนซื้อรึเปล่า ถ้าไม่บวกผู้ผลิตยอมขาดทุนเองก็ดีไป
ค่าลิขสิทธิ์พวกนี้ไม่น่าแพงเกิน $5-$10 ต่อเครื่อง แต่ก็คงตกเป็นภาระผู้บริโภคนั่นแหละครับ
ต่อให้เสียค่าลิขสิทธิ์ ก็ยังคงถูกกว่าอย่างอื่นในตลาดอยู่ดีนะคะ
เล่นกันแบบนี้ ว่ากันตรงๆ ก็แฟร์ดีครับ แต่แบบฟ้องห้ามขายนี่ไม่ไหวจริงๆ
ถ้า ms ฟ้องผู้ผลิตจริงๆ คงฟ้องได้เฉพาะรายเล็กๆ รายใหญ่ต้องมาผลิต windows phone อีก ไม่งั้นใครมันจะมาผลิตให้ เหลือแต่โนเกียแล้ว ลองฟ้อง htc + Sumsung ดูดิ (ไม่มีทาง 5 5 5)
ผมว่า MS ไม่สนหรอกครับ ผมว่าผู้ผลิตนั้นแหละที่ต้อง ง้อ MS ลองคิดดู ถ้า เจ้าอื่นโดนฟ้องแล้วงอล มีแต่ Nokia ที่ขาย windows phone เจ้าอื่นคงสูญเสียรายได้พอสมควร ผมว่าเขาคงไม่มางอลกันหรอกครับ ยังไงก็ต้องยอม ต้องง้อ MS
Nokia ก็ใหญ่นะครับ บางที Microsoft + Nokia ผลิต Windows Phone อาจจะได้ Market Share มากถึง 20% เลยก็เป็นได้
oxygen2.me, panithi's blog
Device: HP Zbook, iPad Pro, iPhone 15PM, iPhone 16+, Nothing Phone 1