หลายคนคงจำ รถยนต์ไร้คนขับ โครงการทดลองของกูเกิลได้ ตอนนี้เวลาผ่านมาเกือบสองปี มันพัฒนาขึ้นมากจนกูเกิลเตรียมส่งมันเข้าแข่ง NASCAR Racing การแข่งขันรถแข่งรายการสำคัญของสหรัฐแล้ว
Sergey Brin ผู้ร่วมก่อตั้งกูเกิลที่เป็นคนดูแลโครงการนี้ บอกว่าจะตั้งทีมแข่งชื่อ Google Racing ขึ้นมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ แต่ก็ต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันจริงได้ เป้าหมายของกูเกิลคือทดสอบโครงการและอัลกอริทึมของรถยนต์อัตโนมัติในการแข่งขันจริงๆ เพื่อเป็นข้อมูลต่อเทคโนโลยียานพาหนะไร้คนขับ ซึ่งจะสำคัญมากในอีก 10 ปีข้างหน้า
กูเกิลคาดว่าในอนาคต เราน่าจะได้เห็นรถยนต์อัตโนมัติเลือกขับไปในเส้นทางสายโรแมนติกสำหรับคู่เดท หรือรถยนต์จ่ายกับข้าวที่ระบุชนิดของอาหารที่ต้องการซื้อ แล้วกำหนดเส้นทางให้เสร็จสรรพเลยก็เป็นได้
ที่มา - Google Blog
รูปที่เหลือดูใน +Google
Comments
ฉุกเฉินให้โปรแกรมตัดสินใจ ถ้าพลาดขึ้นมาถึงชิวิตคนอื่นใครรับผิดชอบดี ผมเชื่อว่าระบบดีครับ แต่รอบข้างไม่ได้ดีเหมือนระบบนะครับ ถ้าโดนชนโดนกระทบขึ้นมาตัดสินใจพลาดเกิดไรขึ้น ทำไงดี
ในสนามแข่งระบบรักษาชีวิตคนขับสูงมาก (ชนแรงจนตัวรถแหลกเป็นชิ้นๆ แต่คนขับเดินออกมาเฉย)
และพี่กูเกิลมีปัญญาจ่ายค่าชดใช้แบบสบายๆอยู่แล้ว ที่ได้มาคือข้อมูลที่อาจทำให้อนาคตมีรถยนต์ขับได้เองยี่ห้อกูเกิลขายนะท่าน
ในสถานการณ์ฉุกเฉิน โปรแกรมสามารถรวบรวมข้อมูลจากเซ็นเซอร์และประมวลผลเสร็จก่อนที่สัญญาณประสาทจากสมองส่งถึงมือ/เท้าเราอีกนะครับ
อันนี้ไม่โกหกนะ
แต่ปัญหาคือ Factor ที่ต้องคำนึงถึงมันเยอะเนี้ยสิ ถ้าระบบทำงานผิดพลาด ไม่รู้ความผิดจะไปตกที่ใคร ระบบขับรถอัตโนมัติ หรือ เจ้าของรถ หรือ คนขับรถ ณ ขณะนั้น
นี้ล่ะที่ผมต้องการสื่อ ถ้าโดนชนกล้องพังมาหรือมีอะไรมาปิดกล้อง ทำไงต่อ?
ปัญหาที่คุณพยายามยกขึ้นมามันแก้ง่ายมากครับ กลัวกล้องพังก็ติดไปหลายๆตัวก็ได้ ติดในรถอีกตัวก็ได้ เอาข้างๆอีกสักสองตัว ฯลฯ ถ้ามันจะพังได้ทุกจุดที่ติด ถึงจุดนั้นคนขับไม่รอดไปนานแล้วครับ
factor เยอะแล้วไงครับ? คอมมันคิดได้เร็วกว่าเราเป็นล้านเท่านะ
ผมเข้าใจคุณ Yone นะครับ
ผมสมมุติเหตุการณ์ล่ะกัน
A ขับ SUV ที่ใช้ระบบอัตโนมัติ อยู่ๆรถบรรทุกข้างหน้าก็เสียหลักกะทันหัน ระบบอัตโนมัติคำนวนดูแล้วว่าเบรคไม่ทันแน่ๆ มีสองตัวเลือก
หักออกขวา มีรถขนาดกลางคนขับเป็นสองตายาย
หักออกซ้าย มีรถ City Car คนขับเป็นพ่อแม่ลูกสามคน
ระบบจะตัดสินใจยังไงดี ในเมื่อ Priority แรกคือรักษาชีวิตนาย A ?
มันจะเป็นประเด็นถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้แหละครับ แล้วเวลาขึ้นศาลจะฟ้องใครดี นาย A , ผู้ผลิตรถยนต์ ?
ถ้าให้ตอบแบบจริงจัง มันไม่ใช่ตั้งแต่ตรงนี้แล้วครับ
ถ้าในอนาคตใช้รถอัตโนมัติกันจริง ยังไงก็ต้องออกแบบให้โปรแกรมมันทิ้งระยะห่างให้เบรคทันอยู่แล้วครับ รวมถึงเพื่อระยะด้านข้าง เผื่อรถมาแทรกอะไรพวกนี้อยู่แล้ว มันเผื่อได้หมดครับ แล้วการเผื่อด้วยคอมมันสามารถคำนวณได้เป้ะจริงๆครับ ไม่ใช่เผื่อมั่วๆแบบที่มนุษย์เราทำอยู่กันทุกวันนี้ (แล้วก็ชนกันได้ทุกวัน)
แต่ถ้าแหกกฏข้างบนทั้งหมด แล้วทำให้มันเกิดเหตุการณ์แบบที่คุณว่าข้างบนได้จริงๆ คนขับมีทางเลือกที่จะให้ทุกคนรอดด้วยเหรอครับ? ยังไงก็ต้องเลือกให้คนอื่นตายสักคน (ไม่ก็ฆ่าตัวตาย) อยู่แล้วนี่ครับ
เหตุการณ์ไม่คาดคิดมันเกิดขึ้นได้เสมอครับ โลกนี้มันไม่มีอะไร 100% หรอกครับ อันนั้นผมยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้างั้นเอาแบบถนนถล่มแล้วกัน จะได้เห็นภาพง่ายขึ้นว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่คาดการณ์ไม่ได้
แต่อย่างน้อยถ้าเป็นคนที่ขับรถอยู่ เรามีคนรับผิด(หรือให้ป้ายความผิด)ได้ไงครับ คอมพิวเตอร์นั้นผมไม่เถียงเรื่องการใช้ข้อมูลมาตัดสินใจมันดีกว่าคนอยู่แล้ว แต่ในเหตุการณ์ที่มันมีคำตอบที่ถูกมากกว่าหนึ่ง ยังไงคอมพิวเตอร์ก็ยังสู้คนไม่ได้ครับ :-)
ตกลงที่คุยมาทั้งหมดนี่ เพื่อหาคนรับผิดงั้นเหรอครับ -_-'
ลองยกตัวอย่างให้ชัดหน่อยครับว่ามันสู้คนไม่ได้ยังไงบ้าง เพราะจากที่คุณยกตัวอย่างมาข้างบนต่อให้เป็นมนุษย์ขับ คุณก็บอกไม่ได้อยู่ดีว่าการตัดสินใจแบบไหนถึงจะถูกต้อง ระหว่างการเลือกฆ่าครอบครัวคนแก่ กับฆ่าครอบครัวลูกสาม
อย่าลืมว่าถ้ามีสถานการณ์สุดโต่งแบบที่คุณยกเกิดขึ้นจริงๆ ในสภาวะที่ต้องใช้การตัดสินใจอย่างรวดเร็วและแม่นยำสูงมาก การให้คอมฯควบคุมย่อมควบคุมได้ดีกว่ามนุษย์แน่นอน โอกาสที่ทั้ง 3 ครอบครัวจะรอดชีวิต "ทั้งหมด" ก็สูงขึ้นตามไปด้วยนะครับ
ระหว่างการ "มีคนรับผิด + ฆ่า 1 ครอบครัวแน่ๆ" กับ "หาคนผิดไม่ได้ + มีโอกาสรอดทั้งหมด" คุณว่าแบบไหนดีกว่ากันล่ะครับ
ถ้าพูดถึงในสถานการณ์ "จริง" ก็ต้องหาคนผิดสิครับ ในกรณีที่มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ หรือเห็นว่าไงครับ ?
ผมไม่ได้บอกนะครับ ว่าคอมไม่ดี แต่ลองคิดถึงความจริงอีกหลายๆข้อดูล่ะกัน เช่น บริษัทประกันจะรับเครมไหมในกรณีที่คนขับไม่ได้ขับ หรือถ้าการตัดสินใจของคอมทำให้ใครต้องตาย ครอบครัวผู้เสียชีวิตจะฟ้องร้องใคร ? คนขับจะมีความผิดไหม ถ้าพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้ควบคุมรถขณะเกิดเหตุ ? ฯลฯ
ตอนนี้ผมพยายามชี้ให้เห็น Worse Case Scenario อยู่ครับ การไม่มีคนตายทุกคนแฮปปี้ เป็นเรื่องดีครับ แต่ในกรณีเลวร้ายที่สุด เราจะทำยังไง ?
ผมพอล่ะ ลองมองรอบๆแล้วกันครับ :-)
เจ้าของรถ ต้องรับผิดชอบอยู่ละครับ
ใส่โปรแกรมทำลายตัวเองเมื่อเจอเหตุสุดวิสัย
พร้อมส่งเมล์ข่าวแบบออโต้ว่าโดนวางระเบิดโดยใครก็ไม่รู้
ดู link เห็น 2012-03 แต่พอกดเข้าไป วันที่ publish เป็น 2012-04-01 นี่ จะเชื่อดีมั้ยเนี่ย T_T
2012-04-01 ช่างเป็นวันที่น่ากลัว
สังเกตไฟหน้ารถดีๆ ครับ
รถ Nascar ไฟหน้าและกระจังหน้าเป็นสติ๊กเกอร์อยู่แล้วครับ เนื่องจากเหตุผลทางด้านความปลอดภัย และน้ำหนักครับ
ลองไปดูภาพยนตร์เรื่อง Cars ครับ ตัวเอก Lighning McQueen ก็ไม่มีไฟครับ
ความรู้ใหม่เลยนะเนี่ย ไปเสริชรูปแล้วจริงด้วย
May the Force Close be with you. || @nuttyi
โอ้ ความรู้ใหม่ผมเหมือนกันครับ
อันนี้เดาได้เลย April fool day
อืมมม..
May the Force Close be with you. || @nuttyi
AFD แน่นอน
จริงๆ แล้ว Google จะลงแข่ง Paris-Dakar ต่างหาก
ชอบ I'm steering lucky!!! 555+
ถ้าเป็นจริง ต่อไป Nascar จะกลายเป็นการแข่งเขียนโปรแกรมสินะ
Educational Technician
เอามาถ่าย Steet view แถวบ้านเราสิ หึหึ หลอนน่าดูเลย
Cyber Fomula สินะ
ผมไม่แก่!!
I need healing.
+1 ใช่เลย
Jusci - Google Plus - Twitter
สวยครับ หุหุ อยากได้แบบนี้สักคน เอาแบบขับเองก็ได้ นะ ^^
ข่าวนี้ออกทีวีช่อง 3 ด้วย -0-
Ford นี่ก็สุดยอดด้าน Social Media จริงๆครับ จับมือกับ Google ซะได้
ปกติรถ Nascar จะค่อนข้างเหมือนกันทุกคัน แยกกันได้แค่ตรงสติกเกอร์รูปกระจังและไฟหน้านี่แหละครับ
ผมลองดูกฎกฏิกาการแข่งขันแล้ว มันไม่มีข้อไหนบอกว่าต้องมีคนขับแฮะ
http://en.wikipedia.org/wiki/NASCAR_rules_and_regulations
แต่มีสิ่งที่ต้อง define กันใหม่ก็คือ "นักขับ" จะเป็นคนหรือไม่
เพราะมีรางวัลคะแนนรวมด้านนักขับอยู่ครับ กำหนดไว้ว่าตัว "นักขับ"
ต้องข้ามเส้น start และข้ามเส้น finished ด้วย
นอกจากนี้ก็มีกฏว่า นักขับต้องประชุมก่อนการแข่งเริ่มต้น 2 ชั่วโมง
และจะเข้ารถได้หลังเพลงชาติสหรัฐฯจบด้วย
และกติกาด้านอื่นคือ เมื่อไม่ต้องมีคนขับ จะทำให้น้ำหนักรถเปลี่ยนไป
และรถก็ไม่ต้องติดอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยอย่างโรลบาร์ด้วย เก้าอี้ก็ไม่ต้องใส่
ไม่ต้องใส่แผงกันความร้อน ท่อระบายอากาศก็ไม่ต้องทำ ทำให้คงต้องมีมาตรการออกมาตรงนี้ให้ยุติธรรมครับ
ผมคิดว่าจะเก๋ากว่าถ้า Google เอาคนเข้าไปนั่งในนั้นระหว่างแข่ง
แต่ทำอะไรไม่ได้เลย เผลอๆให้ปิดตาด้วยก็ได้ :P
นอกจากนั้นก็เป็นเรื่องแรงจูงใจด้านความปลอดภัย เพราะเมื่อไม่มีคนขับ
มันไม่มีต้นทุนด้านชีวิตอยู่ในรถคันดังกล่าว และก็ไม่มีอารมณ์ในรถคันดังกล่าวด้วย
ดังนั้นการแข่งขันอาจเปลี่ยนไปมากครับ น่าสนใจ :)
คุยกันประเด็นเรื่องผิดถูก คิดถึงเรื่อง I, Robot ขึ้นมาทันที