ใครที่เคยอาศัยอยู่ในออสเตรเลียอาจจะสงสัยมานานแล้วเหมือนกันว่า แม้ว่าค่าเงินของออสเตรเลียจะสูงกว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมาระยะหนึ่งแล้ว ทำไมราคาสินค้าประเภทซอฟต์แวร์ในประเทศออสเตรเลียถึงยังมีราคาสูงกว่าในสหรัฐอเมริกาอยู่มาก เช่น ราคา Office 2010 Professional อยู่ที่ 849 ดอลลาร์ (27,000 บาท) ในขณะที่ราคาขายในสหรัฐอยู่ที่ 349 ดอลลาร์สหรัฐ (10,700 บาท) เท่านั้น หรือชุดเพลง Greatest hits of Richard Clapton ที่วางขายบน iTunes ที่มีราคาขายในออสเตรเลียที่ 24 ดอลลาร์ (768 บาท) ในขณะที่ราคาขายที่สหรัฐที่ราคา 9.99 ดอลลาร์สหรัฐ (307 บาท) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่ซื้อซอฟต์แวร์จาก Adobe ในออสเตรเลียจะต้องจ่ายแพงกว่าผู้ที่ซื้อในสหรัฐฯ ถึง 1,400 ดอลลาร์
ล่าสุด ตัวแทนจากสภาล่างของออสเตรเลีย และกลุ่มปกป้องสิทธิผู้บริโภคอย่าง Choice ได้ออกมาเรียกร้องและเชิญชวนให้บริษัทไอทีรายใหญ่รายหลาย รวมถึงแอปเปิล และไมโครซอฟท์ ออกมาชี้แจงว่าทำไมการตั้งราคาขายในออสเตรเลีย ถึงสูงกว่าราคาในประเทศอื่นอย่างมาก
นักการเมืองพรรคแรงงานของออสเตรเลียต่างก็หวังว่าการที่สภาได้เชิญบริษัทไอทีต่าง ๆ เข้ามาชี้แจงเรื่องราคา จะทำให้บริษัททั้งหลายอาจจะตัดสินใจตัดราคาซอฟต์แวร์ในออสเตรเลีย ให้เทียบเท่าหรือใกล้เคียงราคาขายในสหรัฐฯ มากขึ้น ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ราคาฮาร์ดแวร์ในออสเตรเลียซึ่งมีราคาสูงกว่าในสหรัฐฯ เช่นกัน ยังจะไม่ถูกสอบสวนโดยองค์กรใดในออสเตรเลียในขณะนี้
ที่มา - Sydney Morning Herald
Comments
= =! แพงกว่าสองเท่า...
ค่าแรงขั้นต่ำออสซี่ก็สองเท่าอเมริกันชนน้ะจ้ะ (แต่มันก็ไม่ justify อยู่ดี)
@TonsTweetings
จริงหรือครับ
ผมเคยอยู่ออส เพื่อนย้ายไปอเมริกาบอกว่าได้ค่าแรงมากกว่าที่ออสทุกคน
AUD/USD = 1.04
@TonsTweetings
ชอบมาที่บล็อกนี้จังเรย ได้ความรู้อื่นๆ นอกเหนือจากเทคโนโลยีด้วยอ่ะครับ แต่แอบสงสัยว่าทำไมค่าจ้างขั้นต่ำที่แคลิฟอเนียได้น้อยจังเรยครับแค่ 245 บาทเองหรอครับ อันนี้ 245 บาทต่อชั่วโมงหรือเปล่าครับ หรือว่าต่อวันครับ อยากรู้จริงๆ นะครับผม
ต่อชั่วโมงครับ
@TonsTweetings
มากกว่าค่าจ้างต่อวันของ จว บ้าง จว ในประเทศไทยอีก
เทียบแบบนี้ผู้ประกอบการตายครับ แรงงานไทยเรามันให้ output เท่าเขาไม่ได้ครับ
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
แล้วแรงงานเค้า output มากกว่าเรา 7 - 8 เท่า ?
แล้ว output ที่คุณมอง มันหมายถึงด้านจำนวนหรือประสิทธิภาพล่ะครับ ที่ผมมองน่ะมันเรื่องประสิทธิภาพ แถมยังชนิดของงานอีก งานมันมีหลายประเภท แต่หลายคนกลับมองว่าเงินเดือนมันต้องเท่ากัน อย่างนี้คนที่ทำงานเฉพาะด้าน ใช้ Skill เยอะกว่าก็ถูกเอาเปรียบ ต่อไป Skill labor คงหนีไปตั้งบริษัท Outsource ของตัวเองกันหมด
สำหรับใครที่ไม่เก็ท อ่านต่อ.. (มันจะนอกเรื่อง) คนที่โว้ยๆ กัน 300 บาทน่ะ เขาอยากให้คนงานแกะเปลือกกุ้งแรงงานเท่าช่างเชื่อมโลหะฝึกหัด แล้วช่างเชื่อมเขาจะคิดยังไงล่ะครับ หวังนายจ้างจะใจดียกระบบฐานเงินเดือนทั้งบริษัทเพียงเพื่อนโยบายเงินเดือนขั้นต่ำ?
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
ประกาศให้ภาครัฐใช้ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส 100% เหมือนยุโรปบางประัเทศ
ขี้คร้านจะคลานเ้ข้ามาหา
จริงร้ออออ
บ้านเราหลายๆ อย่างก็สองสามเท่า แต่เงินเดือนก็ต่ำกว่าเขาสองสามเท่าเช่นกัน XD
ผมก็ยังสงสัยอยู่ ว่าค่าแรงแบบบ้านเรานี่ใช้ iPhone กันเกลื่อนได้ไง เมื่อวานเดินผ่านกลุ่มแม่บ้าน กำลังสอนเพื่อนที่ถอย 4s มาใหม่อีกคนนึง - -"
เดี๋ยวนี้ผ่อนได้ครับ :)
สำหรับบางคน iPhone มันเป็นเครื่องบอกฐานะประเภทนึง ไม่ต้องไปถามว่าจะใช้คุ้มเหรอ เพราะมันคุ้มตั้งแต่ซื้อเสร็จแล้ว
+1 หลายคนโหลดแอปไม่เป็นเลย เครื่องโล่งมาก แบบว่าเอามาถ่ายรูป /บางคนซื้อเพราะตามเพื่อน ขนาดใช้ บีบี 9780 ยังไม่กล้ายกขึ้นมากลางวงคนใช้ไอโฟน ผมว่ามันเพลียไปไหม //ปล.ผมใช้ nokia x1-01 ไม่เคยแคร์สายตาและคำพูดใดๆ ^^
บางคนซื้อเพราะต้องการใช้เทคโนโลยี บางคนก็มองว่ามันคือเครื่องประดับ เครื่องบ่้งบอกฐานะ ไม่ต่างจากซื้อสร้อยหรือแหวนทองมาใส่(สมัยก่อนเขาก็มีผ่อนทองรายเดือนมาใส่กันนะ) ซึ่้งการที่ใครจะตัดสินใจซื้อเพราะเหตุผลอะไรก็คงเป็นเรื่องของเขา แต่การที่คุณยกตัวอย่างว่าใช้มือถือรุ่นไม่แพงและไม่แคร์สายตาใคร แสดงว่าลึกๆแล้วคุณก็คิดว่ามันเ้ป็นเครื่องบ่งบอกฐานแบบหนึ่งและคุณกำลังแคร์สายตาคนอื่นตะหาก ไม่งั้นคุณคงไม่ยกตัวอย่างเรื่องรุ่้น/ราคาขึ้นมา จริงไหม?
+2048
.
เห็นด้วยนะครับ แต่ไม่หมด ----- ที่ผมยกตัวอย่าง X1-01 ขึ้นมาเพราะผมใช้มันจริงๆ ไม่ได้ยกมาเพราะมันถูกหรืออย่างไร // ที่บอกว่าไม่แคร์สายตาใคร ไม่ได้หมายความว่าผมแรง แต่ผมใช้มันเพราะมันเป็นโทรศัพท์ ผมใช้แค่โทรเท่านั้นเอง // พิมพ์ยาว งงเองเลยแฮะ ----- ประเด็นคือถ้ามีตังค์อยากซื้อะไรใช้ก็ใช้ไปเหอะครับ ถ้าไม่เดือดร้อนใคร ไม่เห็นต้องมานั่งอายเลย ^^
ใช้ x1-01 เหมือนกัน (ก่อนนี้ใช้ตัวจอขาวดำด้วยซ้ำถ้าไมตกไปในเครื่องซักผ้าซะก่อน) ซึ่งเราถูกเรียกว่าเด็กแนวที่เหนือสถานะทางสังคม ซึ่งเท่กว่าซะอีก
X1-01 เหมือนกันครับ เป็นเครืองหลักเลย แบต 1430 mA แน่ะ อยู่ได้ประมาณ 2 สัปดาห์
ตกแตกกระจายแล้วประกอบใหม่นับครั้งไม่ถ้วน 2 sim อีกอย่างคุ้ม..
ผมก็ใช้ครับมือถือเครื่องถูกๆ ซัมซุง 490 บาทครับเครื่องนึง แล้วก็โนเกียรุ่นคุณนี่แหละอีกเครื่องนึง ชอบที่ไว้ฟังเพลงครับสำหรับโนเกีย แต่ซัมซุงเอาไว้โทรอย่างเดี่ยว เพราะว่าผมเปนเซลล์ครับ แล้วก็อีกรุ่นเป็นแอนดรอยรุ่นใหม่ล่าสุดจากออปโป้ เครื่องละหมื่นสองครับ เพราะว่าผมทำธุรกิจออนไลน์ด้วยเลยต้องหามือถือ dual core มาไว้ใช้เน็ตที่แสดงแฟลชได้แบบเยี่ยมๆ หน่อยครับ ใครจะอัพแอนดรอยเป็น ICS ก็ช่างเหอะเพราะมันไม่รองรับแฟลชเรยอ่ะ ก็เรยเอา gingerbread 2.3 กว่าๆ นี้ดีแล้วครับ ทุกเครื่องที่พกได้ใช้ทั้งหมดครับ ตัวหมื่นกว่าก็เอาไว้ถ่ายรูปอัพทำเวปไซต์ด้วยครับ เพราะระบบการเชื่อมต่อมันดี แล้วก็กล้องชัดมากๆๆๆๆๆ ถึงขั้นเอาไว้ทำเวป ทำมาหากินเลยทีเดียวครับ แล้วก็เวลาลูกค้าสั่งของจะต้องคอนเฟิร์มผ่านเมล์ครับเลยเอาออปโป้เพราะซีพียูแรงดีครับ จอใหญ่สะจัยดี แล้วก็กล้องชัด ถ่ายวิดีโอเยี่ยมด้วย สรุปแล้วก็พก 3 เครื่อง แต่ทุกเครื่องมีประโยชน์ต่างๆ กัน ไม่ได้พกเพราะว่าอยากจะอวดรวยครับผม แต่ไอโฟนมันแพงเกินความจำเปนไปแร้วครับ ขนาดโน้ตบุ๊คที่ผมไว้ทำเวปก็เครื่องละหมื่นเจ็ดเองนะคร้าบ ถ้าไอโฟนก็คงฟาดเงินผมไปตั้งสองหมื่นกว่าบาทอ่ะ เก็บไว้ซื้อออปโป้ได้ 2 เครื่องแต่สเปกไอโฟนเบากว่าเยอะเรย ก็ไม่ไหวนะ ผมไม่ได้ซื้อตามแบรนด์ดังด้วยอ่ะ ซื้อเพราะคิดว่าจะได้ใช้งานมันอย่างคุ้มๆ อ่ะครับ แร้วก็ราคาสมเหตุสมผลหน่อย ไม่ต้องมานั่งผ่อนหลังแอ่นดีกว่า อยากได้ก็ซื้อสดๆ เอาเรย เพราะมันมะได้แพงมากมาย นั้นถ้ารวมของที่ผมเล่ามาทั้งหมด มือถือ 3 เครื่องกับโน้ตบุ๊คอีกเครื่อง ก็ซื้อไอโฟนได้แค่เครื่องเดียวเอง จบ...
บอกตามตรง อ่านจนจบแล้วผมยังไม่เข้าใจเลยว่าจะสื่ออะไรเหรอครับ??? (ไม่ได้กวน ไม่ได้ขัดขานะครับ งงจริง)
แล้วอีกข้อ ผมไม่รู้จักพวกเซลล์เป็นการส่วนตัวมาก่อน แต่พวกเซลล์นี่ปกติใช้ภาษาวิบัติแบบนี้ตลอดรึเปล่าครับ?
เหมือนหน้าม้า oppo ครับ จับประเด็นอะไรไม่ได้เลยนอกจาก oppo
ผมก็เข้าใจว่างั้นนะ แต่ยังไม่อยากให้ไก่ตื่น - -"
เข้ามาบอกว่า x1-01 เหมือนกันคับ
ใช่ครับ อย่างบางคน ซื้อมาแค่โทรศัพท์ก็มี แต่ถือไว้เพื่อความดูดีเท่านั้นเอง -*-
Aeon
ถ้าถามแค่นั้นก็ตอบง่ายๆ เพราะบ้านเรามันมีระบบผ่อน 0% และแบบไม่ 0% เยอะมากๆ คนเงินเดือนต่ำๆ ขอแค่มีบัตรผ่อนของก็สามารถถอย iphone (หรือ galaxy หรือยี่ห้ออื่นๆ ที่ราคาพอๆ กัน) ได้ไม่ยาก
ถึงจะผ่อนก็เถอะครับ ยังไงมันก็ไม่น้อยอยู่ดีนะ
นี่เป็นยุคที่คนชั้นล่างเป็นทาสของระบบทุนนิยมครับ เพื่อนๆ ที่เป็นพนักงานโกดังมีหนี้สินแบบที่ผมได้ยินแล้วต้อง "เฮ้ย!!" จากสถิติที่พบมาส่วนตัว คาดว่าจะติดแครดิตบูโรกัน 2 ใน 5 คนครับ
รู้ได้ยังไง? ... โทรศัพท์มาทวงหนี้ทั้งวันเลยครับ
เงินไม่พอก็กู้ กู้ในระบบไม่ได้ก็ไปนอกระบบ กู้นอกระบบไม่ได้ก็ใช้ชื่อเพื่อน/ญาติ คือถ้าจะเอาต้องเอาให้ได้ประมาณนั้น
โหดได้ใจ
ค่าขนส่ง .. vat .. และการตลาด?
my blog
ยืนยันครับว่าแพงกว่า
แต่คนที่นี่เค้าก็แก้โดยการสั่งซื้อทาง ebay แล้วให้ส่งของมาจากที่อื่นแทนน่ะครับซึ่งสามารถทำได้ถ้าราคาสินค้าไม่เกิน $1000 ไม่งั้นก็ต้องเสีย tax เพิ่ม
ค่าเกมก็แพงกว่าเยอะด้วย จากราคา 49.99 USD ขึ้นไปถึง 89.99 USD
@fb.me/frozenology@
ค่า notebooks ก็แพงกว่ามากครับ
เซ็ง !
ถ้าใช้ตรรกะนี้
ราคา MS Office ในเมืองไทย น่าจะเหลือซัก $180 นะครับ
Adobe CS ก็เหลือซักครึ่งนึง
???
เพราะเราอยากขายคุณแพงกว่า
อาจเป็นวิธีจากภาครัฐก็ได้ บีบให้พัฒนาใช้เองไม่ก็ใช้ opensource
ใครนะที่ชอบบอกว่า ต้องขายราคาเดียวกันทั่วโลก
lินค้า Apple ไง พยายามขายราคาเดียวกันทั่วโลก
ชี้แจ้ง => ชี้แจง
ต้องรอการชี้แจงจะดีกว่าน่ะ เพราะ ถ้าดูดี ๆ คือ มันแพงเกือบทุกรายการ ไม่ได้เจาะจงที่รายใดรายหนึ่งด้วย
เหมือนกับที่เราสงสัยว่า ทำไมรถ Handa ที่ญี่ปุ่น ถูกกว่าไทย...ก็เราโดน ภาษี 300 % ไงครับ
seeking for New Frontier...
บ้านเราใช้รถกี่ปีครับ?
ญี่ปุ่น จะซื้อ จนท จะมาดูที่บ้านเลย ว่ามีที่จอดไหม ถ้าไม่มีก็ไม่ขายให้
รถยิ่งเก่า ต่อทะเบียนยิ่งแพง
จะเอารถไปทิ้งยังต้องเสียค่าทิ้งอีก (แพงพอดู)
ใบขับขี่ สอบยากพอสมควร
ไม่เหมือนบ้านเรา
รถใช้กันจนลูกของลูกบวช บางคันไม่น่าจะวิ่งได้ ยังเห็นวิ่งบนถนน ตร ไม่สนใจ
ใบขับขี่ ไปโรงเรียนสอนขับรถเลย รับประกันได้ใบขับขี่แน่นอน
"ใบขับขี่ ไปโรงเรียนสอนขับรถเลย รับประกันได้ใบขับขี่แน่นอน"
ขอแย้งครับ เพราะผมสอบยังไงก็ไม่ผ่าน.............ตอนจอด
ต้องไปยืมรถ fiat คันเล็กๆของญาติมาสอบ ถึงผ่าน
หลังจากได้ใบขับขี่ ผมก็ยังนั่งขนส่งมวลชน เหมือนเดิม สะดวกกว่ากันเยอะ
เอ้อ ใบขับขี่ไม่ต้องเข้าโรงเรียนก็ได้ หัดหน้าบ้านสักครึ่งชม. ไปสอบก็ได้แล้วครับ (ผมนะ)
จะบอกว่าระบบสอบใบขับขี่เมืองไทยไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย - -" อีกอย่าง คนไม่มีใบขับขี่ก็เห็นขับกันเกลื่อน
หลังจากได้ใบขับขี่ เดี๋ยวนี้ผมแบกจักรยานขึ้นขนส่งมวลชน เหมือนเดิม สะดวก (แถมเร็ว) กว่ากันเยอะ
เอิ่ม ผมแค่เปรียบเที่ยว่า รถของบ้านเราโดนภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยเยอะครับ ทำให้ราคารถที่นั่นมันถูกกว่า
ไม่ได้พูดถึงการใช้รถของคนไทย = ="
seeking for New Frontier...
300% นี่น่าจะนำเข้านะครับ
ผมก็เคยสงสัยเรื่องรถยนต์ในประเทศไทยเหมือนกันนะครับ แต่เนื่องจากผมไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้เลย ผมเห็นหลายรุ่นผลิตในไทย แต่ราคาก็สูงพอกับนำเข้าทั้งคัน(ที่ภาษีนำเข้า 200-400%) ผมเข้าใจว่าบางชิ้นส่วนต้องนำเข้า แต่ภาษีนำเข้าอะไหล่น่าจะอยุ่ที่ 30-70% แต่ถึงอย่างไรราคาก็ต่างจากในต่างประเทศพอสมควร บางรุ่นต่างกันไม่มากแต่รายละเอียดหลายอย่างก็ถูกตัดออกไปหรือลดคุณภาพของชิ้นส่วนนั้นไม่เหมือนกับที่ขายในต่างประเทศเช่นกันครับ (โดยอ้างว่าที่แพงเพราะภาษีนำเข้า แต่นั่นมันผลิตในไทยนี่ครับ และภาษีนำเข้าอะไหล่ก็ไม่ได้แพงเท่านำเข้าทั้งคัน) ผมเลยตีความเอาเองว่าบริษัทนำเข้ารถหรือตัวแทนจำหน่ายรถก็ต้องการกำไรที่มากพอสมควร เพื่อประโยชน์สุขของบริษัทนั้นแล และด้วยเหตุนี้รถนำเข้าจดประกอบจึงถูกกีดกันและโยงเข้ากับอาชญากรรมเพื่อลดคู่แข่ง (ทั้งที่สามารถเข้มงวดหรือตรวจสอบจริงจังในขั้นตอนขอจดทะเบียนได้) ได้เวลากับเข้าฝั่งแล้วครับ ขอโทษด้วยที่พาออกทะเลไปไกลเกินข่าว อิอิ
ผมยืนยันอีกเสียงครับที่ว่าของมันแพงกว่าที่อื่นๆ จริง สำหรับพวกซอฟต์แวร์ (และแม้กระทั่งสินค้าพวก hardware แต่ผมก็เข้าใจนะ ในประเด็นเรื่องของภาษี ค่าขนส่ง ฯลฯ)ยกเว้นอะไรก็ตามที่มาจากออสเตรเลียเองจะถูกมาก เช่น ขนม Tim tam หรือแผ่นเสียง/ซีดี ที่ผลิตในออสเตรเลียเอง
แต่ถ้าบทของจะถูก ก็จะถูกแบบต้องขยี้ตากันจนตาบวม ยังจำได้ดีว่าตอนนั้น Office XP แบบ subscription ลดราคาเหลือ 199 AUD (สมัยโน้นประมาณ 5,000 บาท) ขณะที่แบบปกติอยู่ที่ 399AUD (ประมาณหมื่น) ผมก็ไม่ได้ซื้อ และซักพักทาง Microsoft Australia เรียกให้ไปเปลี่ยนเป็นรุ่นปกติ (โคตรแค้นตัวเอง)
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
บ้านเราบางอย่างก็แพง แต่ทำไมคนซื้อกระจาย
ไม่เข้าใจ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ผมคิดว่าเพราะสังคมครับ บ้านเรามีพวกวัตถุนิยมเยอะพอสมควร บางอย่างเปลี่ยนไปตามสมัย ของอย่างงี้ทำใจเถอะครับ
ผมพยายามทำใจกับเรื่องนี้ เพราะตอนนี้หลายอย่างใช้ไปก็เป็นกระแสหมดแล้ว เช่น ใครไม่ใช้ iPhone เชยแหลกอย่างนี้ แต่ผมต้องการปลดพันธนาการจากพวกตามกระแส แล้วมาใช้สิ่งที่เรียกได้ว่า เหมาะกับเรามากที่สุด
ข่าว IT ทำให้รู้ว่าเราเหมาะอะไรมากที่สุด ส่วนสังคม ปล่อยเขาเหอะ เดี๋ยวพอหมดกระแสนี่ ก็มีกระแสใหม่ ใช้ของตามกระแสเปลืองตังจะตาย เอาของที่เหมาะกับเราที่สุดและใช้ให้มันมากที่สุด (เช่น 5220 XPM ยังคงใช้อยู่นานกว่า 3 ปี สภาพโทรมพอควร แต่ก็ยังคงใช้อยู่ เพราะรอ Lumia 900)
พูดสั้น ๆ อันไหนผมใช้แล้วเบื่อ ไม่ซื้อ ใช้เพราะตามกระแส มันไร้สาระจริง ๆ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
+1 //จับมือ
ว้ายๆๆๆๆ กรี๊ดๆๆๆ มีจับมือกันด้วย
ไปไหนต่อ?
จับมือด้วยคน ผมใช้ 5800 XM มาจะ 3 ปีแล้วเหมือนกัน
แต่ด้วยความที่ว่าผมชอบแนะนำเรื่อง IT ให้คนอื่นเวลาใครจะอยากซื้อมือถือก็มาถามผมนิดๆหน่อยๆ แต่ก็มักจะมีคนสงสัยว่าทำไมเจ้าตัวเองไม่เปลี่ยนมือถือซักที หรือถามตรงๆเลยว่าทำไมไม่ซื้อ iPhone ผมก็ตอบสั้นๆว่าของเก่ายังใช้ได้อยู่ ตรงนี้ยังไม่ซีเรียสเท่าไหร่เพราะใครที่รู้จักผมจะรู้ว่าไม่ได้ซื้อของเพราะตามแฟชั่น
แต่มีครั้งนึงเลยครับนั่งเซ็ง + ของขึ้นอยู่ในใจ ผมก็เจอคำถามเดิมๆนี่แหละ แต่พ่วงด้วยคำถามว่าถ้าตอนนี้จะซื้อจะซื้อมือถืออะไร ด้วยความที่ดู Android อยู่ตอนนั้นผมก็ตอบไปว่า HTC Sensation XE แล้วก็เจอคำแนะนำครับจากพรรคพวกขา iPhone ที่ไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่ "ก็ไปสมัครบัตร...ซิจะได้ผ่อนซื้อ Sensataion XE" ไม่รู้ตัวเองคิดมากไปรึเปล่านะ แต่ผมรู้สึกเซ็งมาก เหมือนถูกด่าว่าจน = =" แต่ขอโทษถ้าผมอยากซื้อผมวิ่งถอนเงินไปซื้อเลยก็ได้เฮอะ
ตอนนี้จอง Lumia 900 ไปก็เตรียมใจรอคำถามใหม่ๆอีก ว่าทำไมซื้อ Nokia แต่ไม่เป็นไรผมเตรียมคำตอบรอไว้แล้ว
Achievement Unlocked: Being a Blognone's Writer
ต้องตามไปอ่านข่าวจีนเล็งขึ้นภาษีนำเข้าครับ พอเศรษฐกิจดีระดับนึง คนชั้นกลางก็ซื้อกันกระจาย แล้วสินค้าฟุ่มเฟือยส่วนมากมันของนำเข้าทั้งนั้น
เป็นเทคนิคโอนย้ายกำไรเพื่อเลี่ยงภาษีของบริษัทข้ามชาติน่ะครับ
ตั้งราคากันไม่เนียนก็เงี้ย :P
เนียนเอากำไร อิอิกำ แต่ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจอะไรพวกนี้หรอก yo ho yo ho we are the pirates!!