สำนักข่าวรอยเตอร์สได้สัมภาษณ์ผู้พิพากษา Richard Poster ผู้ตัดสินคดีการฟ้องร้องกันระหว่างแอปเปิลกับโมโตโรล่า โดย Poster ซึ่งตอนนี้อายุ 73 ปีแล้วเผยว่าเขาไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์กับไอทีจำเป็นจะต้องมีสิทธิบัตร
Poster กล่าวว่า "มันยังไม่ชัดเจนว่าเราต้องการสิทธิบัตรในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่เรามีอยู่ส่วนใหญ่ด้วยซ้ำ" และเขายังบอกถึงปัญหาเกี่ยวกับสิทธิบัตรทุกวันนี้ว่า "สุดท้ายแล้วเราก็มีแต่สิทธิบัตรที่แตกแขนงกันออกมาเรื่อย ๆ"
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม Poster เชื่อว่าอุตสาหกรรมยาและการแพทย์คืออุตสาหกรรมที่ต้องการสิทธิบัตรอยู่ เพราะว่า "ในการที่จะสร้างยาใหม่ออกมาได้ จะต้องมีการลงทุนอย่างมหาศาล"
ก่อนหน้านี้ Poster สั่งยกฟ้องคดีที่แอปเปิลได้ฟ้องร้องโมโตโรล่า และขอให้แบนการขายมือถือของโมโตโรล่าที่ละเมิดสิทธิบัตรของแอปเปิล
ที่มา - 9to5Mac
Comments
ผมว่ามันมีน่ะดีแล้ว แต่ควรเปลี่ยนวิธีพิจารณาการออกสิทธิบัตรใหม่ซะ
ไม่ใช่แค่เอา html หรือ javascript มาเรียงต่อๆ กันก็ได้เป็นสิทธิบัตร
ไอ้พวกคิดเป็นอย่างเดียวแต่ไม่ทำก็เหมือนกันก็ไม่ควรจะออกสิทธิบัตรให้
การลงทุนมันสมองก็มีค่านะครับท่าน
บางทีมันเป้นสิ่งที่ใครๆก็คิดได้หนะสิครับ
มันจะกลายเป้น ใครเร็วกว่าได้เปรียบไปซะ
ผมสรุปเอาเอง ว่าที่ลุงแกพูดแบบนั้น เพราะว่ายังไม่เข้าใจธุรกิจของไอทีนั่นเอง
สิทธิบัตรที่จดแบบกว้างๆ ก็ไม่น่าให้จดอยู่แล้ว เพราะถือว่าเป็นการกีดกันทางการค้ากับคู่แข่งอย่างหนึ่ง
มันมีไว้ก็ดี ไม่มีก็ดี นะ 555
ควรมีไว้เพื่อปกป้องสิทธิของตนเอง
แต่ ที่ผมคิดว่าควรจะไม่มี ก็ คือ การที่ Apple ไปไล่ฟ้องหลายเจ้าให้ห้ามขายมือถือนี่ละ
มันต่างอะไรกับ การกีดกันทางการค้า ? คือ ผมคิดประมาณว่า Apple ไม่มีปัญญาสู้เค้าทางด้านอื่นแล้วหรอ
ถึงต้องไปสู้ทางด้านสิทธิบัตรแทน (สู้แข่งเทคโนโลยี เหมือนตอนแรกๆสิ )
ตอนนี้ผมกำลังคิดว่า Apple กำลังกลัว Android อยู่ลึกๆ แน่เลย
ถ้าให้จดก็ควรต้องให้ฟ้อง ไม่งั้นจะให้จดทำไม? สิทธบัตรมีไว้เพื่อกีดดันไม่ให้คนอื่นทำตามแบบเราอยู่แล้ว
ควรไปแก้เงื่อนไขการให้จดดีกว่า
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ก็ถูกนะครับ แต่ผมว่า บางเรื่องมันก็ไม่ควรที่จะฟ้อง อย่าง 3G ไรงี้ อะครับ
ตอนแรกที่คิดมันคงต่างเห็นๆ แต่ technology มันเร็ว อาจจะต้องหาทางแก้เป็นหาสำหรับกรณี technology พิเศษจากพวกสิทธิบัตรทั่วไป เพราะมันทำนายอนาคตไม่ค่อยได้ บางอย่างก็ไปไวมากจนกลายเป็นธรรมดาทั่วไป
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
บางทีเค้าก็แค่ฟ้องกลับครับ เพราะในโลก it การพัทนาไปในทางเดียวกันมันเป็นเรื่องปรกติ เพราะสินค้าต้องไช้ด้วยกันใด้ และการออกแบบต่างๆ อยู่ใน mind-set เดียวกัน ถ้าไม่มีใครฟ้องก่อนก็ไม่น่าจะมีใครฟ้องกลับ
แต่มีเจ้าหนึ่งสู้ด้วยสินค้าไม่ใด้เลยแหกกติกา ตอนนี้เลยฟ้องกันวุ้นไปหมด เจ้าที่เริ่มก็ไม่มีสิทธบัตรพื้นฐานมากๆ อย่าง Wifi 3G เสียด้วย อีกหน่อย ก็คงโดนบีบจนยอมเช็น cross license แบบ gsm นั้นแหละถึงจะจบ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
มีสิทธิบัตรแล้วใช้ฟ้อง กลายเป็นผิดกติกา? สิทธิบัตรมีไว้เพื่ออะไรครับ ถ้าบอกไว้ป้องกันคนฟ้อง คนฟ้องคนแรกผิด แบบนั้นไม่ต้องมีสิทธิบัตรไปเลยสิครับ จะได้ไม่มีคนเริ่มฟ้อง สิทธิบัตรมีไว้เพื่อไม่ให้คนอื่นลอกเลื่อนแบบอยู่แล้ว เพียงประเด็นที่เกิดเยอะๆ ในปัจจุบัน ระยะเวลาและการควบคุมมันอาจจะเหมาะสมกับสินค้าเทคโนโลยีหรือเปล่ามากกว่า
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ประมาณนี้มากกว่าครับ...
ลิขสิทธิ์ มีไว้ป้องกันคนอื่น ลอกเลียนแบบ ครับ
สิทธิบัตร มีไว้เป็นหลักฐานว่า ฉันคิดขึ้นมาก่อน/ฉันพูดขึ้นมาก่อน/ฉันฝันขึ้นมาก่อน/ฉันเพ้อขึ้นมาก่อน (โดยที่ไม่ต้องทำออกมา) เมื่อใครทำให้มันเป็นจริงขึ้นมาได้ นั่นคือของฉันครับ และสิ่งนั้นจะเสมือนกลายเป็นลิขสิทธ์อ้อมๆ ของฉันทันทีด้วย (โดยที่ฉันไม่ต้องลงมือทำเลยก็ยังได้)
นี่คือความเห็นจากมุมมองแบบคนที่ทำ R&D อยู่จริงๆ รับจ้างออกแบบสร้าง Prototype product อยู่จริงๆ ซึ่งต้อง Deal กับเรื่องเหล่านี้เป็นประจำนะครับ ไม่ใช่ความเห็นในมุมมองแบบนักการตลาด/เถ้าแก่/นักกฏหมายหรือผู้บริโภค
ปล. ตัวอย่างเช่น... มีคนจดสิทธิบัตรในการใช้ประโยชน์จากแสงอาทิตย์... มีจริงๆ... เฮ้อ... ว่าจะไปจดสิทธิบัตรการอ่านหนังสือขณะนั่งถ่ายทุกข์บ้างเนี่ย.. 8D
ผมว่าปัญหาหลักๆคือมันจดกันง่ายเกินไปนะ บางอย่างไม่ควรจดได้ก็ดันให้จด
ประเด็นนี้ผมว่าเหมือนกฏหมายดินแดนละมั้ง คือตามกฏมันมีหลายๆยอ่างที่ทำไม่ได้แต่ก็หยวนๆกันเพราะมันไม่เป็นปัญหามากแถมยังช่วยเสริมระบบเศรษฐกิจ แต่ถ้ามีประเทศไหนเริ่มเอาเรื่องพวกนี้มาเล่นจริงจัง(ซึ่งสร้างปัญหามากกว่ามากๆ) ก็คงต้องเตรียมใจรับปัญหาจากฝ่ายตรงข้ามไว้ด้วย
กรณีที่เป็นสิทธิบัตรซอฟแวร์. จะใช่อะไรแบ่งแยกระหว่างใช่กับไม่ใช่ อัลกอเดียวกันเขียนบนภาษาต่างกัน = โดนฟ้อง รึปล่าวแล้วเอาอะไรเป็นตัววัดว่าอัลกอแบบเดียวกันจริงไม่จริงในเมื่อโค้ดไม่มีอะไรเหมือนกัน. ในเมื่อใครๆก็เขียนโรบินฮู้ดเวอร์ชั้นของตัวเองได้จะเอาอะไรจำแนกสิทธิบัตร
แอปเปิลไม่ได้กลัวเอนดรอย เพราะจะผ่านไปกี่สมัยก็มีแต่ปัญหา.
xperia s ถ้าเปิด fhd youtube แล้วทำการ rotate ตัวเครื่อง aspectratio ภาพจะเพี้ยนกลายเป็นหนังโย้.
ดูไปก็เป็นการปกป้องทรัพสินทางปัญญาของบริษัทที่บุกเบิกสมาร์ทโฟน. มือถือเจ้าอื่นพยายามเลียนแบบ ไล่ตาม รวมถึงทำเทียมให้คล้ายๆ ซึ่งสุดท้ายก็ไม่ช่วยอะไรนัก. บริษัทอื่นก็ฟ้องแอปเปิล แบบเดียวกันแต่ได้ผลมั่งไม่ได้มั่ง.
เอนดรอยถ้าไม่ติดเรื่องราคาถูกก็เป็นของที่ไม่มีประโยชน์จริงเท่าใหร่. มากี่คอร์ก็กระตุกเหมือนเดิมๆ ปัญหาซ่อนเร้นรอให้ผู้ใช้ค้นพบและแก้ไขเอง เหมาะกับคนที่ไม่อยากจ่ายค่า app เน้นฟรีเยอะๆ. แอปหมวด creation ใช้จริงไม่ได้เลย เล่นเกมก็พอได้บ้าง. ก็จัดว่าครบในเรื่องของพื้นฐาณที่สมาทโฟนพึงมี.
มีหลาย ID จัง New to programming
ทำไมคิดตรงกันข้ามเลย iphone กี่สมัยก็เหมือนเดิม ยิ่งเห็นยิ่งเบื่อ ปรับแต่งอะไรก็ไม่ใด้เลย ยิ่ง OS ใหม่ๆ Idia ลอกมาทั้งนั้น แถม OS ใหม่ ความสามารถหลักๆก็กั๊กกับเครื่องเก่า แถมเครื่องเก่า Up โดนลดความสามารถแล้วยังอืดอีก ชาวบ้านขายกำไร 10% Iphone เอากำไร 40% เพราะไม่มีคู่แข่งที่ OS เดียวกันทำให้หลังๆมาไม่ค่อยมีอะไรพัฒนามากนัก ไม่นานมานี้ก็ต้องกลืนน้ำลายตัวเองออกมือถือและ tablet ขนาด 4" 7" ไม่รู็ว่าความเป็น แบรน พรีเมี่ยมจะหมดลงเมื่อใหล่ แบรนมือถืออันดับ 1 ในเอเชียก็โดยซัมชุมแย่งไปแล้ว Smart Phone อันดับ 1 ก็โดยแซง อนาคตคงกลับไปเหมือนสมัยจอปออกจาก apple เป็นแน่แท้
ส่วน Android เป็นระบบเปิดปัญหาขึ้นอยู่กับผู้ผลิตมือถือนำOS ไปใช้ใด้ดีแค่ใหน มีหลายรุ่นที่ดีไม่มีปัญหา เพราะขนาด เปิดและ app ไม่มีการตรวจสอบขนาดนี้ โปรแกรมค้างยังมีอัตราน้อยกว่า IOS และการพัฒนาก้าวกระโดดมากและรองรับความเร็วมือถือทุกรุ่น ตอนนี้ GS1 เองก็มีคงลง JB ใด้แล้ว ซึงถ้าเป็น iphone ตกรุ่นก็คงใด้แค่มองเพราะOSที่ไม่เปิดทำอะไรไม่ใด้ และการตอบสนองดีรวดเร็ว อีกไม่นานก็คงมีรอมที่สมบูรณ์ออกมา เหมือน ICS ที่มีรอมที่สมบูรณ์หลายๆตัวให้ลง หรือแม้กระทั่ง Z71 ที่ออกมานานแล้วก็ยังมีรอม ICS ให้ใช้ เมื่อเป็น OS ที่พรี ก็ย่อมมีการแข่งขันที่สูง มืตัวเลือกมากมาย ตาม เงินในกระเป๋าและ ความต้องการของเรา เช่นอย่างใด้กล้อง 12 ล้าน อยากได้ จอขนาดใหญ่ ต้องการปากาที่รองรับแรงกด และอื่นๆ ที่ Iphone ไม่สามารถตอบสนองความต้องการใด้ ไม่ใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือย รู้จักตัดสินใจอย่างมีเหตผล ไม่ใช่ มีเงินอย่างเดีย ถึงซื้อใด้ แต่ต้อง...ด้วย และไม่มีระบบใหนที่สมบูรณ์แบบไม่ว่าจะ OS ใหนก็ตาม
เกลือจิ้มเกลือ นึกถึงสีเสื้่อในปัจจุบันเลย
มันต้องแบบนี้ จึงจะสูสี และมันหยด
เพิ่งสมัครมาไม่กี่ ชม. เอง
^
^
that's just my two cents.
อืม
เติมให้ "แต่ต้อง..ฉลาด..ด้วย"
เคยจำได้ว่า ถ้ามีหลาย username แล้วตรวจพบ โดนแบนทั้งหมดทันที
แต่ user เดิม 3000anv หายไปแล้วนะครับ
ถ้ามีกฎว่าห้ามสมัครใหม่ อันนี้ถึงโดน xD
^
^
that's just my two cents.
อ้าว ผมตกข่าวครับ ^^"
แต่ก็มีอีกกฎว่าถ้าโดนแบนไปแล้ว แล้วกลับมาสมัครใหม่ ตรวจพบโดนแบนอีกทันทีครับ
ห๊ะ!? ตอนนี้ Esw10japan ก็ปิ๊วไปซะละ
มีครับ ใครว่าไม่มีล่ะ แต่บางครั้ง F จะปล่อยไว้พักนึง
ไม่ใช่ว่าคนทุกคนจะต้องหันไปหาสิ่งที่คนบางกลุ่มคิดว่าดีที่สุดนะครับ
ผมอ่านตอนแรกก็ว่าสำนวนคุ้นๆ ที่แท้ก็คนเก่านั่นเองเง my idol อิๆ
ผมเพิ่งรู้ว่าประโยชน์การใช้งานเค้าดูที่จำนวนคอร์ของ CPU
ที่แอปเปิลไปไล่ฟ้องเจ้าอื่น ก็ได้ผลมั่งไม่ได้ผลมั่งนะครับ
ลายเซ็นต์นั่น... สำนวนนั่น... วิธีการพิมพ์นั่น...
//มุดใต้ผ้าห่ม
ป.ล.
จะอะไรบนโลกก็แล้วแต่ ถูกหรือแพงก็ไม่สำคัญ ถ้าฟีเจอร์เยอะแต่คนใช้กลับใช้ไม่เป็น มันก็ไม่มีประโยชน์ทั้งนั้นแหละครับ อาการแบบ "ไก่ได้พลอย"
Dream high, work hard.
+Like ของมันอยู่ที่คนใช้ ไม่ได้อยู่ขึิ้้นอยู่กับราคาเสมอไป เปรียบไปก็คงคือคือกับ Iphone ไม่ลง Apps แค่โทรเข้าออกเฉยๆ มันก็คงไม่ใช่ smartphone คงเป็นแค่ phone เฉยๆ
แอปเปิ้ลกลัวแอนดรอยจนขี้หดตดหายแล้ว
การฟ้องย่อมเน้นไปที่ค่าเสียหาย หรือค่าลิขสิทธิ์ ไม่ใช่เน้นให้เค้าหยุดขายอย่างเดียว เพราะกลัวจัด
มีข่าวมาฝากคุณ 3000anv ครับ
ตอนนี้ได้ข่าวว่าแอปเปิลกำลังทำแว่นตาอัจฉริยะอยู่
แต่ผมไม่แน่ใจว่าทำด้วย Polycarbonate รึเปล่านะ ... อยากให้คุณ 3000anv ลองส่งแนวคิดไปให้ท่านเซอร์ฯ ฝ่ายออกแบบของแอปเปิลพิจารณาดู
จริงๆ อยากให้คุณ 3000anv พิจารณาการ์ตูนนี้ด้วยครับ
จาก: iannnnn.com
read the fact. not rumor
http://www.decryptedtech.com/index.php/component/k2/item/1003-apple-moves-to-cut-off-googles-glass-project-with-thier-own-device-um-we-mean-patent
ผมไม่ได้บอกว่าใครลอกใครครับ
เห็นวิจารณ์ว่ากูเกิลกลาสมันห่วย ... แต่มันเป็นเทคโนโลยีของแอปเปิล และยิ่งถ้าอ้างอิงตามลิงค์ที่ให้ที่บอกว่า "กูเกิลซื้อเทคโนโลยีมาจากแอปเปิล"
แสดงว่า? อยากให้แสดงทรรศนะต่อเทคโนโลยี และนวัตกรรมของแอปเปิลชิ้นนี้อีกครั้งครับ
ผมรอชาบูครับ
งงด้วยครับ หรือต้องการแค่แบรนด์? ถึงสินค้าตัวเดียวกัน แต่ถ้าแบรนด์ไม่ถูกใจก็พร้อมที่จะยำให้เละ?
Dream high, work hard.
ห้ามป่วนนะครับ
ผมกำลังรอฟังทรรศนะจาก visionary คนต่อไปอยู่ครับ :D
ข้ามศพผมไปก่อนครับ
/me:ปัง!!! ... อ่ะ ... ข้ามได้
เอ่อ จะรีบเป็นศพไปไหนล่ะครับ กลับมาให้ยำก่อนสิ
//ยื่นข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดให้
Dream high, work hard.
/me: ลุกขึ้นมากินด้วย
เล่นอะไรไม่เกรงใจท่านเทพ programming ระวังท่านจะพิโรธโกรธานะ
ออกมาเบรคกระแสช่วงนี้หรือป่าวครับ ^^
มันควรจะให้เฉพาะ เจ้าที่ไปขอแล้วทำออกมาสำเร็จภายในกี่เดือนกี่ปีก็ว่าไป และมีระยะเวลาหมดอายุของสิทธิบัตร ไม่ใช่นู่นนน เห็นเค้าทำของใหม่ออกมา ก็ไปคุ้ยไอ่ที่ตัวเองจดไว้เมื่อ10 ปีที่แล้วมาขู่ แต่ตัวเองไม่เคยทำออกขายจริงเลยด้วยซ้ำ
มันก็เยอะไปจริงๆแหล่ะ เหมือนมันเป็นตัวขวางการพัฒนานวัฒตกรรมใหม่ๆด้วย ฟ้องกันแบบนี้ไปเรื่อยๆ ค่าสิทธิบัตร หาใช้จ่ายเกี่ยวกับการฟ้อง คงมาบวกราคาเครื่องให้แพงขึ้นอีก
วันดีคืนดีมีคนสิทธิบัตรปุ่ม Login ทำไง (ล้อเล่น)
ผมสงสัยอยู่อย่างนึง ถ้าเราไม่มีระบบสิทธิบัตรสำหรับโลกไอที จะไม่มีใครคิดอะไรใหม่ๆ เลยจริงหรือเปล่า เพราะการตัดสินว่า ควรจดได้หรือไม่ได้ มันยากจะตัดสินได้ชัดเจนเด็ดขาด เพราะเมื่อเวลาผ่านไป อะไรๆ หลายๆ อย่างมันกลายเป็นของ common เช่น ส่ง e-mail ได้, ใช้ 3G ได้ หรือ multitouch (ผมยอมรับกว่า การคิดเป็นคนแรกมันยาก แบบ 3G ที่ฟ้องๆ กัน ผมก็คิดเองไม่ได้หรอก แต่ตอนนี้มันเป็นเทคโนโลยีพื้นฐานไปแล้ว) ขึ้นกับว่า คดีตัดสินตอนไหน ถ้าเปลี่ยนเป็น+เข้าไปในภาษีเลยดีมั้ย ถ้าใครใช้อะไรของใคร คิดบวกเพิ่มในภาษีตอนขายไปเลย ตอนนำเข้าประเทศนั้นๆ แล้วนำไปแบ่งจ่ายเจ้าของสิทธิบัตรตามอัตราส่วน จะดีกว่าหรือเปล่า แต่อาจไม่ได้ค่าเสียหายสูงสุด
หมายเหตุ: ผมไม่ซีเรียสนะครับ แค่ discuss แบบสบายๆ
โอกาสมันก็ลดลงครับ คุณจะกล้าคิดอะไรที่ต้องลงทุนเยอะๆ วิจัยหลายปี เพื่อออกมาขายได้ปีเดียวหรืออาจจะน้อยกว่า เพราะคู่แข่งคุณก็สามารถผลิตตามได้หรือ การลงทุนมันก็จะเสี่ยงมากขึ้นเพราะต้องคืนทุนเร็วมากๆ แล้วรีบวิจัยอย่างอื่นต่อ มันได้อย่างเสียอย่าง แต่ว่าจุดไหนเหมาะสมที่สุดไม่รู้ อย่างไทยหรือฝั่ง asia บางประเทศก็ไม่นิยมจดสิทธิบัตร เพราะต้องเปิดเผยรายละเอียดหมดเลย แล้วคนก็ลอกไปทำได้เลยเพราะค่อยไม่มีการฟ้องได้จริง ส่วนใหญ่จะพยายามเก็บเป็นสูตรลับหรืออะไรก็ว่าไป แต่ก็ได้กับบางอย่าง เพราะหลายอย่างมัน reverse engineer ได้อยู่แล้ว
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
เบื่อข่าวฟ้องไปมาของ Apple จัง
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ถ้าเปรียบเทียบสิทธิบัตร รุ่นเก่าๆ กับ รุ่นใหม่ จะรู้สึกแปลกๆนะ
รุ่นเก่าๆแบบ โหลดโอเปอร์แรนด์ทีละสองตัว , การเข้ารหัสแบบใหม่ , อัลกอริธึมแบบใหม่ มันฟังดูเป็นการสร้างขึ้นมาจริงๆ เพราะมันสร้างโครงสร้างใหม่ วิธีใหม่ ขึ้นมาเลย
แต่พอดูรุ่นใหม่แบบ ใช้นิ้วสไลด์บนจอสัมผัส......... เพื่ออันล็อค เพื่อเปลี่ยนรูป
จอสัมผัสจะไม่ให้ใช้นิ้วสไลด์บนนั้นก็กระไรอยู่ @_@? มันดูเป็นสไตล์มากกว่าเป็นนวัตกรรม
+1
เบื่อตรงที่นิดหน่อยก็เอา ใช้เป็นเครื่องมือทะเลาะกัน
Dream high, work hard.
การออกแบบคือการคัดทิ้งทดสอบ 99 อย่างไว้ข้างหลังฉาก เหลือเพียง1 อย่างที่ใช่ที่สุดที่ผู้บริโภคกับนักลอกแบบจะมองเห็นได้
ดูสิ่งที่คนอื่นทำสำเร็จมาแล้ว มักจะดูง่ายเสมอ แต่การเริ่มต้นอะไรซักอย่าง ที่ยาก
Simplicity is the Hardest design principle to follow.
นั่นสินะ apple ถึงต้องไปลอก notification center มา รวมถึง slide เพื่อเข้าใช้งานกล้องได้เลย
เพราะเห็นว่ามันใช่ที่สุดสำหรับผู้บริโภค และ(บริษัท)นักลอกแบบ???
เรื่องแค่นี้มันเป็นสไตล์ เค้าถึงไม่เอามาฟ้องกัน จะมีก็แต่ นักลอกนี่แหละที่ชอบลอกคนอื่นแล้วยังชอบฟ้องคนอื่น
"ดูสิ่งที่คนอื่นทำสำเร็จมาแล้ว มักจะดูง่ายเสมอ แต่การเริ่มต้นอะไรซักอย่าง ที่ยาก" << คงจะจริงนั่นแหละ การเขียนโปรแกรมเลยยากสำหรับผู้เริ่มต้นมากขนาดนี้
:s Label "veteran" wont proof your supremacy or proficiency.
คนๆ นี้ยังเหมือนเดิมจริงๆ... โดนไปแล้วก็ยังเหมือนเดิม
Dream high, work hard.
But at least, it proofs that you're not just a pussy.
เหมือนคนที่สอบได้ที่ 1 ที่อาจไม่ได้เก่งที่สุด ... แต่อย่างน้อยมันก็พิสูจน์อะไรหลายๆ อย่างได้ดีกว่าคนที่ไม่มีรางวัล หรืออะไรมารับรองความสามารถเลยนั่นแหละครับ
Only a coward avoids to answer the questions.
Firstly, you need to answer about those notification center and slide to use camera.
There is no point to argue with a chicken that can't talking directly on the
topic that they have started.
ไม่ทันแล้วล่ะครับ เค้าโดนปลิดชีพไปแล้ว
คือไม่รู้เค้าจะมาคอมเมนท์แค่จะ trololololololololololololololololo ทำไม?
Dream high, work hard.
กรรม กี่ ID แล้วเนี่ยคนนี้
ที่จริงมี่เขา blognone ก็มีสีสันมากขึ้นนะ เหอๆ
จากการทดลองของเพื่อนผมได้ข้อสรุปว่า มันจะจดสิทธิบัตร "ใช้ไอนั้นสไลด์บนหน้าจอครับ"
บางอย่างก็ไร้สาระ จริงนั้ันแหละ -*- ผมเห็นแก่ประโยชน์ของผู้ใช้ มากกว่านะ
ผมว่ามันเป็นมาม่าให้คนตามข่าวสมาร์ทโฟนกิน นับเป็นวิธีโฆษณาอย่างหนึ่งได้ไหมครับ มีข่าวดุเดือดทุกวันคนตามกันไม่เบื่อ ชื่อติดหูกิเลสพุ่งกระฉูดกันทุกคน