รายงานผลประกอบการไตรมาสที่สามปี 2012 ของกูเกิลหลุดเข้าไปยังเว็บกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ รายงานรายได้ 14.10 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 45% เทียบกับปีที่แล้ว แต่กำไรกลับทำได้เพียง 2.18 พันล้านดอลลาร์ จากปีที่แล้ว 2.73 พันล้านดอลลาร์
ผลประกอบการที่แย่มาจากฝั่งโมโตโรล่าที่ขาดทุนไปถึง 527 ล้านดอลลาร์ และยังมีค่าปรับโครงสร้างบริษัทของโมโตโรล่าอีก 349 ล้านดอลลาร์
ข้อมูลที่รั่วออกมาอย่างไม่ตั้งใจ ทำให้หุ้นของกูเกิลตกทันที 10% จนตลาดหยุดซื้อขายอัตโนมัติที่ 676.00 ดอลลาร์ก่อนจะกลับขึ้นมาได้หลังจากเปิดการซื้อขายอีกครั้ง
กูเกิลระบุว่าที่ปรึกษาด้านการเงินคือบริษัท R.R. Donnelley and Sons Co. ส่งข่าวประกาศนี้ไปโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้รายงานออกก่อนการประชุมผู้ถือหุ้นที่กูเกิลประกาศไว้ แต่การกระทำแบบนี้ก็ไม่ผิดกฎหมายแต่อย่างใดเพราะเป็นการประกาศอย่างทั่วถึงผ่านแบบฟอร์ม 8K ของคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์
Comments
"จากฝั่งโมโตโรล่าที่ขนาดทุน" -> ขาดทุน หรือเปล่าครับ
งานเข้ากันทีเดียวบริษัทที่ปรึกษาสงสัยจะโดนหนัก
ตกคำว่า "ลด" จากปีที่แล้ว 2.73 พันล้านดอลลาร์
.
ที่ขาดทุนไปถึง 527 ล้านดอลลาร์
.
ใครถือหุ้นอยู่ ช่วงนั้นคงใจหายวูบ ^^'
.
~ HudchewMan's Station & @HudchewMan~
14,10 อันนี้คือเท่าไรหว่า
14,100 หรอครับ
ผมพึงออกไปก่อน จะ ตกอาทิตย์นึง รู้สึกดีใจเป็นพิเศษมากกกก
อยากทราบว่าทำไมราคาหุ้นถึงตกครับ และตกเยอะขนาดนั้น
ในข่าวก็บอกนะครับว่ากำไรลด
May the Force Close be with you. || @nuttyi
อ๋อ ขอโทษทีครับ ลืมไป ดันไปโฟกัสว่ารายได้เยอะขึ้นมาก แล้วนึกว่าจะมีเหตุผลอื่นๆนอกจากนี้
ก็ในข่าวก็บอกไงครับ ว่ากำไรน้อยลง แล้วก็ฝั่งโมโตขาดทุนยับ
นึกว่ามีปัญหาเรื่องความโปร่งใสภายในองค์กรจากภาพหลุดเมื่อวันก่อนซะอีก
http://www.blognone.com/node/37209
หวายๆ ถ้าอยูเมืองไทยนะ ลงฟอร์ แบบนี้กวาดให้เรียบเลย
ถ้าไม่ได้เฝ้าจอ เห็นอีกทีก็โดน Circuit Breaker ไปแล้วครับ
lewcpe.com, @wasonliw
อูยส์ ซี้ดดดดดดด
คุ้มมั้ยเนี่ย คิดเป็นค่าสิทธิบัตรเพิ่มมาอีก 527 ล้าน
กูเกิ้ลจะมาทำมือถือแข่งกับแอปเปิ้ลทำไมเนี่ย
+1
เขาไม่ได้ทำเอง แค่อยากให้มือถือติดบริการของ Google ไปเยอะที่สุด เพราะบน PC เริ่มแน่นละ และมันคงไม่มีทางไหนดีไปกว่าทำ OS ของตัวเอง
ส่วนเรื่อง Motolora ก็คงซื้อไว้กันเหนียวมากกว่า ถ้าสิทธิบัตร Motolora ตกไปอยู่ในมือฝั่งตรงข้ามยิ่งหนักไปใหญ่
หืม เค้าทำธุรกิจ จะให้เค้าอยู่เฉยๆ หรอครับ
Achievement Unlocked: Being a Blognone's Writer
ทำเรื่องที่ตัวเองถนัดสิครับ ไม่ทำมือถือก็ไม่เห็นต้องอยู่เฉยๆนี่นา
ผมมองว่าเค้าต้องหาช่องทางทำธุรกิจใหม่ๆ ด้วยครับ
ถ้าทำเอาแต่เรื่องที่ถนัด ไม่รู้ Android ที่เริ่มจากไปซื้อบริษัทอื่นจะมาได้ไกลถึงขนาดนี้ไหม
Achievement Unlocked: Being a Blognone's Writer
ถ้าไม่ทำ ป่านนี้จะควบคุมแพลตฟอร์มมือถือไม่ได้เลย ขณะที่เวลาหน้าจอ (screen time) ของคนใช้ถ่ายจากพีซีไปยังมือถือและแท็บเล็ตมากขึ้นเรื่อยๆ
ต้องง้อให้คนอื่นใช้ search ของตัวเอง ข้อต่อรองน้อยลงเรื่อยๆ วันดีคืนดีแอปเปิลอยากทำ iAd ขึ้นมาก็สามารถแบนระบบโฆษณา เปลี่ยนระบบค้นหาได้ตามใจ
เหตุผลที่ทำในโลกธุรกิจหลายครั้งไม่ใช่เรื่องของทำแล้วได้อะไรครับ มันมีเรื่องของไม่ทำแล้วเสียอะไรด้วย
lewcpe.com, @wasonliw
+1
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
+1 ได้ความรู้
ได้มุมมองใหม่ๆจากผู้คร่ำหวอดในวงการ :)
+1
..: เรื่อยไป
+1
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เอาอะไรมาวัดครับว่า "สิ่งที่ถนัด" คืออะไร
ตอนนี้ Google ทำรถขับเองอยู่ และประสบความสำเร็จมากด้วย นำไปต่อยอดได้มากมาย
แบบนี้ "ถนัด" หรือเปล่าครับ ทั้งๆที่เป็นบริษัทไอที แต่ทำมา รถ เนี่ย
ทำแล้วขาดทุนคือไม่ถนัด ทำแล้วกำไรมหาศาลคือถนัด
ตอนนี้ Google ทำรถขับเองอยู่ มันอยู่ในขั้นวิจัย
กูเกิ้ลต้องประเมินตัวเองก่อนว่าถ้าทำรถขับเองออกมาขายจริงๆแล้วจะรุ่งหรือรุ่งริ่งก่อนที่จะเอาเงินลงไปเยอะๆ
Apple ถนัดมือถือที่ไหนล่ะครับ ทำครั้งแรกก็ iphone นั่นแหละ
google ถนัด search ทีไหนหละครับ ทำครั้งแรกก็ google.com นั่นแหละ
ทำไมคิดว่า google ไม่ถนัดเรื่อง search ถ้าไม่ถนัดคนก่อตั้งบริษัทไม่น่าจะทำวิจัยเรื่อง search
งั้นต้องมีคำถามก่อนคือ ทำไมคุณคิดว่า google ไม่ถนัดมือถือ ก็ไม่ควรมาแข่งกับ apple หละครับ?
ถ้าหากว่า ตรรกะของคุณที่ว่า google ไม่เคยทำมือถือ นั้นแปลว่าไม่ถนัดมือถือ
งั้นตรรกะเดียวกันนี้ ก็เป็นไปได้ว่า google ไม่ถนัด search เพราะไม่เคยทำ search
และ search เป็นตัวแรกที่ google ทำใช่ไหมครับ
แต่จริงๆแล้ว ผมประชดคุณนั่นแหละ
ที่ผมจะสื่อก็คือ สิ่งที่คุณเห็น iphone ก็คือสินค้ามือถือตัวแรกของ apple
ipad ก็สินค้าแท็ปเล็ตตัวแรกของแอปเปิ้ลเช่นกัน
ถ้าตามตรรกะของคุณแล้ว การทำตัวแรก คือไม่ถนัด งั้น apple ก็ไม่ถนัดมือถือเช่นกัน
แต่เดี๋ยวก่อนนะครับ
ผมอยากให้คุณขึ้นไปอ่านข่าวก่อน มีคำว่าโมโตโรล่า
กูเกิ้ลได้ทำการซื้อโมโตโรล่ามานะครับ
ดังนั้น จะถือว่าเขาถนัดมือถือหรือไม่ครับ??
บริษัทที่ถนัดด้านไหน ก็คือบริษัทที่มีบุคลากรด้านนั้นๆ
ถ้าตอนนี้ google มีโมโตโรล่าแล้ว
ทำไมคุณถึงยังคิดว่าเขาไม่ถนัด?
ขาดทุน
ถ้าคิดแบบนั้น youtube คงไม่เกิด..
May the Force Close be with you. || @nuttyi
กำไรขาดทุน ไม่ได้บอกว่า ถนัดหรือไม่ถนัด
Nokia ทำมือถือมาก่อน apple แต่ยอดขายกลับตกต่ำ นั้นก็ไม่ได้แปลว่า nokia ถนัดเรื่องมือถือน้อยกว่า apple แต่อย่างใด
ฉันใดก็ฉันนั้น
การที่ google จะลงทุนในตลาดที่ยุค apple มียอดขายสูง ก็ไม่ได้หมายความว่า Google นั้นถนัดน้อยกว่า apple แต่อย่างใด
Circular reasoning ละครับ
บอกว่าขาดทุนเพราะไม่ถนัด แล้วบอกไม่ถนัดเพราะขาดทุน -*-
รู้ไม๊ครับว่าเจ้าของ บ.โตโยต้า เปนชาวนามาก่อน แล้วมาทำเครื่องทอผ้า จนปัจจุบันมาเปนเจ้าของ บ.รถยนต์
Destination host unreachable!!!
แล้วรู้มั้ยครับว่า yamaha เป็นบริษัทเครื่องดนตรี มีโลโก้เป็นส้อมเสียงสามอันเรียงกันเป็นตัว Y
แต่เขาก็ยังผลิตมอเตอร์ไซค์ขายได้เยอะอยู่เนี่ย
ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ยามาฮ่าโดนสั่งให้เอาไม้ทำเปียโนมาทำเครื่องบินในยุคสงคราม ... ไปๆ มาๆ ได้เทคโนโลยีเครื่องยนต์ซะงั้น
ผู้ก่อตั้งโตโยต้าไม่ได้เป็นชาวนา พ่อแม่เขาอาจจะเป็นก็ได้แต่เขาไม่ใช่
เขาเป็นนักประดิษฐ์ เป็นคนที่ประดิษฐ์เครื่องทอผ้าจนสามารถขายสิทธิบัตรให้บริษัทอังกฤษก่อนมาทำบริษัทผลิตรถยนต์
ตอนนั้น
แอปเปิ้ลจะมาทำมือถือแข่งกับโนเกียทำไมเนี่ย
ตอนนั้น ต้องถามว่า nokia ทำมือถือทำไม
nokia เริ่มจาก ทำเยื่อกระดาษ
ต่อมาทำโรงงานไฟฟ้า
ต่อมาทำยางรถยนต์ ทำรองเท้ายาง
ต่อมาเอายาง(เดียวกันกับยางทำรองเท้า)มาทำสายเคเบิ้ล
พอทำสายเคเบิ้ล ก็ไปทำ ทีวี เครื่องใช้ไฟฟ้า
แล้วก็มาทำมือถือ
บางทีเขาอาจจะเห็นช่องว่างโอกาสในตลาดบางทีความถนัดของ Nokia อาจจะไม่ใช่สิ่งที่เขาทำในตอนแรกก็เป็นได้
คุณคิดว่า คนหนึ่งคน มีสมองและเวลาจำกัด คนหนึ่งคนจะเรียนรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่งได้จนถึงที่สุด และเป็นเรื่องถนัด
แต่กับบริษัทแล้ว ใช้กันไม่ได้
เพราะบริษัทมีอายุยืนยาว กว่าบุคคล ดังเช่นสตีฟจ๊อบ ก็ตายก่อน apple จะตายเสียอีก
บริษัท มีบุคลากร หมุนเวียน ไปตามยุคสมัย
คำว่าถนัดนั้น ก็ถูกหมุนเวียนไปตาม บุคลากร ด้วยเช่นกัน
คำว่าความถนัด ถูกเติมเต็มได้ด้วยเงินทุน
คุณสามารถซื้อคนที่เก่ง มาทำงานให้คุณได้ ถ้าคุณมีเงินมากพอ
อย่างไรก็ตาม การเติบโตของบริษัท มีการเติบโตอยู่ 2 แบบ คือ
1.เติบโตแนวลึก เป็นการเติบโต โดยใช้ความถนัด หรือข้อมูลที่มีอยู่แล้ว วิจัยให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ทำให้มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ และเติบโตในสินค้าเดิมไปเรื่อยๆ
2.เติบโตแนวกว้าง คือการเติบโต โดยดูจากกระแสของสินค้า หรือความต้องการเป็นหลัก
โดยเป็นเรื่องที่ไม่เคยทำมาก่อน ก็ใช้การจ้างคนที่มีประสบการณ์
และมีการวิจัย เพื่อจะเติบโตแนวลึก ของสาขานี้ต่อไป
ทั้งนี้ทั้งนั้น มีจุดมุ่งหมายเดียวคือ การทำกำไร
การตัดสินใจลงทุนในตลาดใหม่ ไม่ใช่สิ่งที่ผิด
Smartphone นั้นกำเนิดขึ้นมาไม่นาน และใช้เทคโนโลยีเก่า หรือที่เคยมีมาแล้ว
มาพัฒนาต่อ เช่น
มือถือ ก็คือคอมพิวเตอร์ย่อส่วน
หน้าจอ ก็คือหน้าจอเดียวกับ TV LCD/LED
ระบบปฏิบัตการ ก็คือ Linux/Unix
ที่สำคัญคือ ทั้ง Apple และ Google ก็ต่างผลิตชิ้นส่วนจากบริษัทอื่น (เช่นซัมซุง)
เทคโนโลยีในมือถือ ก็เป็นเทคโนโลยียุคเดียวกันทั้งหมดแล้วเกือบทุกยี่ห้อ
สิ่งที่แอปเปิ้ลทำไม่ใช่แค่มือถือ แต่มันคือสมาร์ทโฟน
สิ่งที่ google ทำ ก็คือ smartphone ไม่ใช่หรือครับ
และ nokia ก็มี smartphone เป็นของตัวเองเหมือนกันนิครับ
ผมเคยเห็นตู้ทำ IC ของ nokia, yahama
ปีต่อไปก็ขาดทุนน้อยลงเนื่องจากขายมือถือน้อยรุ่นลง กำไรก็เพิ่มขึ้น น่าจะไหวนะ
ใครมีตังค์ ช้อนซื้อเลย
บริษัทพื้นฐานดี ยังไงก็ไม่ขาดทุน
ไปไล่ deindex เวบชาวบ้าน แบน adsense แบบไม่มีเหตุผล เขาเลยงอลกันหรือป่าว ฮา ขำๆนะ
ผู้ถือหุ้น : แกบังอาจ deindex bolg ฉัน เหรอ ขายเลยดีกว่า
แบบนี้ป่ะครับ ฮาฮา
ยังไงบริษัทก็หนีไม่พ้นธุรกิจหลักของบริษัท เพราะผู้ถือหุ้นคงไม่ยอมให้เม็ดเงินลงทุนไปเสียเปล่ากับธุรกิจที่ไม่เกิดกำไร ในระยะสั้นหรือยาว ยกเว้นจะมีคำตอบที่ดีเช่นการควบคุมโฆษณาได้ แต่นั่นไม่ใช่หมายถึงการทำผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าทุกคน โดยเฉพาะคนที่ไม่ชอบมือถือที่มีการใส่โฆษณาลงไปด้วย อิอิ