ในการไต่สวนคดีที่ Microsoft ละเมิดสิทธิบัตรของ Google ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าด้วยเทคโนโลยีของสิทธิบัตรดังกล่าว อาจสร้างรายได้ให้แก่ Microsoft ได้มากถึง 94 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2017
สิทธิบัตรที่เป็นข้อพิพาทนี้ว่าด้วยการรับชมวิดีโอบนเว็บผ่านเครือข่ายไร้สาย ซึ่งเดิมทีเป็นของ Motorola ก่อนเปลี่ยนมือมาสู่ Google ภายหลังถูกซื้อกิจการ โดยเรื่องนี้กำลังอยู่ในชั้นศาลเพื่อหาข้อสรุปเงินชดเชยที่ Microsoft จะต้องจ่ายให้แก่ Google ซึ่งเรียกร้องเงิน 4 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ในขณะที่ Microsoft ซึ่งมีท่าทีว่าต้องการเจรจากลับเห็นว่า Google เรียกร้องมากเกินไป โดยยินดีจ่ายแค่ 1 ล้านดอลลาร์ต่อปีเท่านั้น
Micahel Dansky ผู้เชี่ยวชาญของ Google ชี้แจงต่อศาลว่าการใช้งานสิทธิบัตรดังกล่าวอาจสร้างรายได้ให้แก่ Microsoft ได้สูงถึง 94 พันล้านดอลลาร์เมื่อนับถึงปี 2017 โดยการใช้งานผ่านทางเครื่องเล่นเกม Xbox, แท็บเล็ต Surface รวมไปถึงอุปกรณ์ตัวแปลงไร้สาย (wireless adapter) ทว่าแหล่งข่าวไม่ระบุว่า Dansky ประเมินรายได้จากผลิตภัณฑ์เหล่านี้ย้อนหลังตั้งแต่ปีไหน
ที่มา - Reuters
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
ถ้าโมโตเงินไม่หมดหน้าตักก่อนจนต้องขายบริษัท คงได้โกยเงินจาก Microsoft ละ
เห็นชื่อของสิทธิบัตรแล้ว...
ผมว่าตายยกวงการมือถือแน่นอน
Technology is so fast!
กะจะเอาคืนเรื่องที่เก็บค่าคุ้มครอง $5 ล่ะมั๊งครับ
เข้าท่าดีนะครับ
แรงมา ก็แรงไป
อยู่ในระนาบเดียวกัน
มีสิทธิบัตรแบบนี้ด้วย - -
ถ้าคิดว่าแรงและแปลกแล้ว "การใช้งานปรับพลิกหน้าจอแนวนอน" ของ sony น่าจะทำให้ apple ปวดหัวต่อไป
http://men.postjung.com/641722.html
... ไม่นับสิทธบัตร "Markup language for interactive services and methods thereof" (ซึ่ง siri น่าจะโดนเต็มๆ) ที่ google เกือบจะฟ้อง apple เอง แต่อาจคิดขึ้นมาใด้ว่าขายให้ Samsung เอาไปบังคับ cross license กับ apple ดีกว่า
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
สิทธิบัตรดังกล่ว. >>กล่าว
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
มุลค่าสิทธิบัตรก็พิจารณากันตามรายได้ที่สร้างจากสิทธิบัตรนั้นๆ ได้ ไม่ใช่หรือครับ?
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
ไม่น่าใช่นะครับ
ราคาขายได้เท่าไหร่ อันนี้เป็นมูลค่าทางการตลาดด้วยครับ
สิ่งที่ฟ้องร้องกันได้ควรจะเป็นค่าเสียหายที่เจ้าของสิทธิบัตรได้รับ + มูลค่าสิทธิบัตร
ลองคิดดูว่าบริษัท 2 บริษัทใช้สิทธิบัตรร่วมกันในสินค้าตนเอง และมีรายได้ต่างกัน
สิทธิบัตรนั้นควรมีมูลค่าตามรายได้ของใครล่ะครับ
+1 ผมรู้สึกแบบนี้เลยครับ มูลค่าสิทธิบัตรน่าจะเป็นราคาขายตัวสิทธิบัตรนั้น ๆ จริง ๆ มากกว่า คนซื้อไปจะไปทำกำไรได้เท่าไหร่ก็เรื่องของความเก่งของเขา (เผลอ ๆ เอาไปขาดทุนซะงั้น ๕๕๕)
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
พยายามแปลคำว่า Wireless Adapter ครับ
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
วงเล็บภาษาอังกฤษไว้ก็ดีครับ (ปกติผมก็พยายามแบบนี้นะ แปลและเรียบเรียงเป็นไทยแต่วงเล็บภาษาอังกฤษไว้)
4 พันล้านต่อปีนี่ โหดกว่า Apple เก็บ Samsung อีกมั้งเนี่ย แล้วพวก iDevice จะโดนด้วยรึเปล่านะ
เหมือนแต่ละค่ายกำลังเล่นไพ่ป๊อกเด้งแล้วป๊อก 9 กันคนละตา
#คำเตือน การพนันเป็นสิ่งผิดกฏหมาย บุตรหลานควรแนะนำผู้ปกครองให้ไปเล่นที่ประเทศใกล้เคียง
ชอบคำเตือนแฮะ
เห็นหรือเปล่าว่ามันไม่จำเป็นต้องฟ้อง ห้ามขาย แค่ฟ้องเรียกเก็บเงินก็ได้
ก็ถ้ามาฟ้องก็ต้องฟ้องกลับ ไม่งั้นก็เปิดแฟร์ๆ จบใครเริ่มก่อนละ
4000 ล้าน ต่อเหลือ 1ล้าน / Oppa 0.0
Oppa Microsoft Style!
Oppa Redmond Style !!
ฟ้องไปฟ้องมา ผู้บริโภคอย่างเราเสียเปรี่ยบ ต้องทนใช้ของเดิมๆ -*-
เค้าคิดจะแก้กฎหมายเรื่องนี้บ้างไหม ดู ๆ ไปแล้ว ระยะยาวมันน่าจะเป็นปัญหาแน่ๆ
คุ้มเลย GG คาดว่า Apple ก็ร้อนๆหนาวๆอยู่เหมือนกัน จะถึงคิวตูเมื่อไร
ผมว่า Google กับ M$ นี่คุยกันง่ายนะครับ ถ้า(เงิน)ลงตัว M$ ก้อยอมหมดล่ะครับ
Destination host unreachable!!!
Alien VS Predator
ไม่ว่าใครจะเป็นผู้ชนะ ...เราคือผู้แพ้!
ห่วงโซ่สุดท้ายตกอยู่ที่ผู้บริโภคอยู่ดี
หน่วยเป็น $
งบประมาณประเทศเรายังน้อยกว่าอีก
พ่อพระเอก (ที่หลายๆ คนยกย่อง ?) เรียกเก็บค่าใช้งานสิทธิบัตรแพงคล้ายๆ กับเจ้าปีศาจร้าย (ที่หลายๆ คนก่นด่า ?)
เดี๋ยวจะรอดูอีกทีตอนคนอ่านเยอะๆ แล้วว่าจะมีใครมาว่า Google ว่าเรียกร้องแพงเกินไปไหม และถ้าสุดท้ายตกลงกันไม่ได้เรื่องนี้จะยุติอย่างไรเพราะทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็เป็นยักษ์ใหญ่ทั้งคู่
That is the way things are.
ผมว่าที่คนทั่วไปเค้ายกย่องว่า google เป็น saint เพราะเปรียบเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกัน( M$, Apple) แล้ว google มีพฤติกรรมเป็นมิตรกับผู้ใช้มากกว่านะ หลายๆบริการ เทคโนโลยีดีๆที่ดีมากๆ เค้ากลับแจกฟรี บางทีก็ opensource กันเลย ซึ่งเมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้วการใช้งานบริการที่คล้ายๆกันอาจต้องเสียตังเพื่อเข้าไปใช้ ดังนั้นในมุมมองคนใช้งานตาสีตาสาอย่างผมก็ชื่นชอบเป็นธรรมดาแหละครับ แต่มันไม่ได้หมายความว่าการทำแบบนี้แล้วจะส่งผลดีต่อคู่แข่งเลยอาจจะมองดูร้ายกาจกับคู่แข่งมาก(เพราะพี่แกเล่นทำมาเทพๆแล้วเอามาแจกฟรี ใครจะสู้ไหว) ผมว่าผู้ใช้ทั่วไปเค้าก็มีวิจารณญาณพอที่จะพิจารณาได้นะครับว่า google ทำแบบนี้ดีไม่ดียังไง ถ้า google เริ่ม evil ขึ้นมาเมื่อไหร่ผมก็ไม่อยู่ใช้เหมือนกันแหละครับ แต่ตอนนี้ก็ขอใ้ช้ไปก่อนละกัน
แจกฟรีได้ก็เพราะมีรายได้จาก adword adeverything พูดง่ายๆก็คือ service แต่เจ้าอื่นขาย product จะไปแจกฟรีก็คงไม่ได้ อย่าง apple กำไรต่อเครื่อง 30%-50% กำไรส่วนใหญ่มาจาก hardware ถ้าจะให้ขายเท่าทุนหรือขาดทุนก็คงไม่ยิ่งใหญ่แบบปัจจุบัน
apple กำไรต่อเครื่อง 50% - 70% นอกจากนั้นยังมีรายใด้จาก search bar, iad, itune, ibook, icloud และ app store
เมื่อใด้เงิน ก็พยายามเลี่ยงภาษีแบบถูกตหมาย (http://www.flashfly.net/forums/viewtopic.php?f=40&t=445324) นอกจากนั้นยังมีนโยบาย "ไม่บริจากด้วยเงินตนเอง" (แต่มีการเรียกให้คนอื่นบริจากในนามตนเอง)
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ในขณะที่กูเกิลจ่ายแค่จ่ายแท๊กน้อยเกินไป และกำลังจะโดนสอบสวนในอังกฤษเนื่องจากหลบเลี่ยงเหมือนกัน
http://www.dailymail.co.uk/news/article-2185427/How-Google-avoided-paying-218m-tax-Internet-giants-cash-saving-deal-2-6bn-UK-earnings.html
และมีบางบริษัทที่บริจาคมากมายเพื่อเลี่ยงภาษี อย่างงั้นหรอคับแนวทางที่ดีกว่า ?
ทั้วไปเงินบริจากสามารถ"ลด"ภาษีใด้"บางส่วน" และไม่ไช่การเลี่ยงภาษีครับ แต่เป็นการจ่ายมากขึ้นเพื่อสังคม (และหน้าตา)
ปล. เลี่ยงภาษีแบบนี้ แย่ทั้งคู่เลย
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
อย่าไป @-:";#%* ท่านพ่อเลยครับ ลูกๆเขาอยู่กันเป็นฝูง
อย่าลืมตัวร้ายสุด ที่ไล่ฟ้องแบนชาวบ้านนะครับ
แต่ผมก็ว่าเรียกแพงไปนะ....แพงมาก กะเอาคืนที่โดนๆไปแถมกำไรด้วยเลยมั้งเนี่ย
น่าจะไม่มีเพราะที่นี่พี่กูเกิลเขาแรง จริง ๆ ทุกบริษัทมัน Maximize Profit อยู่แล้ว เพียงแต่คนเราไม่เข้าใจโมเดลธุรกิจของเขาเองนั่นแหละ การจ่ายมันมีหลายแบบในรูปเงินหรือความเป็นส่วนตัว โฆษณา
"การรับชมวิดีโอบนเว็บผ่านเครือข่ายไร้สาย" -> นี่มัน TV รึเปล่านะ
ถ้า MS เอา TV มาเป็น prior art ได้ prior art ในคดีที่ Samsung แพ้ Apple ก็ควรต้อง valid เหมือนกันมั้ง
เหมือนคุ้นๆว่าจะมีใครบางคนบอกว่า กูเกิลเค้ามีไว้ป้องกันตัว ไม่ได้มีไว้ฟ้องนะ อิอิ
คดีนี้ มันเริ่มตั้งแต่ตอนที่ Google ยังไม่ซื้อ Motorola เลยครับ พอซื้อมาแล้วก็ต้องสานต่อจาก Motorola
ส่วนประเด็น Microsoft กับ Motorola ใครซัดใครก่อนนั้น...เท่าที่ผมค้นเจอใน blognone นี้ก็มีพูดถึง Microsoft แบนมือถือ Motorola บางรุ่นไม่ให้ขายในสหรัฐฯ แล้วก็หาเรื่องตามน้ำ Apple พยายามโวยวายว่า Motorola คิดค่าใช้งานสิทธิบัตรอย่างไม่เป็นธรรม ก็เลยโดนจัดหนักนะ
ถ้าข้อมูลผมผิดพลาดยังไง ก็แลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ครับ
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
จะตายกันหมด เพราะ สิทธิบัตร รอตาอยู่มาเสียบ
ผมไม่ได้อ่านผิดใช่มั้ย Google เรียก สี่พันล้าน แต่ Microsoft ยินดีจ่ายแค่หนึ่งล้าน สี่พันเท่าเลยทีเดียว
งงว่าเขียนผิดหรือเปล่าครับ Google ต่างหาก ?
"อาจสร้างรายได้ให้แก่ Microsoft ได้มากถึง 94 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2017"
ลองอ่านใหม่ครับ
ผมว่าถูกแล้วนะครับ กูเกิลเปนเจ้าของสิทธิบัตร ซึ่งหมายความว่ากูเกิลอาจจะไม่มีผลิตภัณฑ์ที่ทำเงินได้ก็ได้แต่เป็นเจ้าของไอเดียนี้ ซึ่งเมื่อ MS เอาไปใช้งาน ทำเงินได้ถึง 94 พันล้าน
อ๋อเข้าใจแล้วครับ Microsoft จะได้เงิน แต่ยังไม่ได้หักส่วนที่ควรจะจ่ายให้ Google คือ Google ควรจะได้เงิน
สงสัยว่า Microsoft เลยจะไม่ได้เงินแทน
เอาแล้วโว้ย Google ของข้าพะเจ้า.
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.