Larry Page ซีอีโอของกูเกิลให้สัมภาษณ์กับ Wired ในหลายประเด็น (แนะนำให้อ่านฉบับเต็ม) ประเด็นที่น่าสนใจมีดังนี้
- ปัจจุบันงานหลักของ Page คือทำให้ผลิตภัณฑ์ทุกตัวของกูเกิลมีประสบการณ์การใช้งานเหมือนกัน มีหน้าตาและรูปแบบสอดคล้องกัน
- เขาบอกว่าปัญหากฎหมาย-ฟ้องร้องที่ Google Book Search เผชิญอยู่ไม่ร้ายแรง ไม่เคยมีบริษัทไหนล้มละลายเพราะถูกฟ้องร้อง แต่ล้มละลายเพราะดำเนินนโยบายผิดหรือไม่มีเป้าหมายที่ใหญ่พอ
- Wired ถามคำถามเรื่อง "สงครามนิวเคลียร์" ที่สตีฟ จ็อบส์เคยประกาศเอาไว้ คำตอบของ Page คือ "How well is that working?"
- เขาบอกว่าตอนที่ซื้อ Android ในปี 2005 สถานการณ์ชัดเจนมากว่ามันจะประสบความสำเร็จ เพราะระบบปฏิบัติการมือถือยี่ห้ออื่นๆ ในขณะนั้นแย่มาก การซื้อ Android จึงไม่ใช่เรื่องเสี่ยงเลย
- Google+ สามารถอยู่ร่วมกับ Facebook ได้ ถึงแม้ Google+ จะมาทีหลัง แต่ในอดีต Google Search ก็มาทีหลังเหมือนกัน และทุกคนก็พูดว่ามันไม่มีทางประสบความสำเร็จ
- เขาพูดถึง Facebook ว่าเข้มแข็งมากในโลกโซเชียล แต่พวกเขาแย่มากเรื่องผลิตภัณฑ์ของตัวเอง (they’re also doing a really bad job on their products)
- เขาพูดเรื่อง Google Maps ถูกดึงออกจาก iOS 6 ว่ากูเกิลลงทุนเรื่องแผนที่ไปมาก งานนี้ช่วยให้คนจำนวนมากตระหนักว่ากูเกิลทำงานหนักแค่ไหน
- พูดเรื่อง Motorola ว่ากูเกิลมีไอเดียหลายอย่างในการพัฒนาฮาร์ดแวร์มือถือ อีก 5-10 ปีจากนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมาย
ที่มา - Wired
Comments
น่าจะอัพเดทรูปหน่อย ตอนนี้หงอกหมดหัวแล้ว
ถ้าคุณไม่ท้วงผมลืมไปแล้วนะเนี่ย
เพิ่งนึกออก เคยเห็นรูปตอนใส่ Google glass ราวกับคนระคนกับในรูปนี้
ยึดตาม official photo ครับ
+1 wiki ก็เปลี่ยนไปแล้วรอบนึงมั้ง
ข้อรองสุดท้ายก็เห็นด้วยนะ แต่อยากได้ Google Maps กลับมา =,="
กลับมาพักใหญ่แล้วครับ
มันไม่ดีเท่าเดิม
สำหรับผมดีกว่าที่ติดมากับไอโฟนเดิมมากๆ ไม่ดีเท่าเดิมตรงไหนบ้างครับ
ผมว่ามันช้ากว่าเดิมครับ
ผมว่ามันดีกว่าเวอร์ชั่นที่เคยติดมากับ iPhone มาก
ประเด็นอยู่ที่ว่า facebook กำลังถดถอย Google + จะทำยังไงในตลาดนี้
Google+ เป็นแค่ส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์แบรนด์ Google
แต่ Facebook เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของบริษัท
ถ้า Google+ แย่ ก็แค่ปิดผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้ แบบที่ Google เคยทำกับผลิตภัณฑ์ตัวอื่นๆ
แต่ถ้า Facebook แย่ บริษัทอาจถึงขั้นปิดกิจการ หรือขายต่อ ถ้ายังไม่งัดผลิตภัณฑ์ชิ้นใหม่ที่เห็นแล้ว "ว้าว" ออกมาโชว์ต่อสายตาชาวโลก
อย่าลืมครับว่า Facebook เนี่ยมันต่อยอดได้หลายอย่างครับ Search แบบ Google Bing Facebook ก็แย่งลูกค้ามาได้ ทำ Search Engine เองแล้วผนวกรวมกับ Facebook ก็ได้ ไหนจะ E-commerce แบบ Amazon Ebay ในอนาคต FB ก็ทำได้ครับ Platform มือถือ FB ก็ทำได้ จำไว้นะครับเค้าไม่มาดูกันหรอกบริษัทไหนมีธุรกิจอะไรบ้างเค้าดูกันที่จำนวนลูกค้าครับ "คนอยู่ที่ไหนเงินอยู่ที่นั้นครับ"
+1
+1
... ว่าแต่ google กับ facebook ใครมีลูกค้ามากกว่ากันอะ ?
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ทฤษฎีนี้ใช้ไม่ได้บนโลก IT นะครับ ตัวอย่างก็มีให้เห็นๆอยู่ MSN เคยมีฐานลูกค้ามากที่สุดถึงตอนนี้ก็ต้องยอมรับว่าโดนกระแส Social Chat กลบหมดปิดตัวไป , Kodak ครั้งนึงเคยเป็นผู้นำเรื่องฟิล์มกล้องและมีฐานลูกค้ามาก จนถึงตอนนี้ก็ล้มละลายไปแล้ว , Nokia ที่เคยเป็นเบอร์ 1 ตลอดก็เคยเกือบจะเจ๊งมาแล้วเหมือนกัน
++1 มาร์กยังเคยออกมาพูดแล้วว่า ถ้า Facebook ไปไม่รอดอยากจะไปทำงานกับ M$ ซึ่งมันไม่ได้หมายถึง Facebook จะไปไม่รอด แต่ผมคิดว่ามาร์กเข้าใจธรรมชาติของโลก IT มากกว่า ความธรรมดาของโลก ทุกสิ่งล้วนไม่แน่นอน
ไม่สังเกตเหรอครับว่าทุกๆผลิตภัณฑ์ในเครือของ Google ตอนนี้มันเชื่อมโยงถึงกันเริ่มชัดเจนมากขึ้นทุกวัน
เขาวางแผนมาเป็นขั้นเป็นตอน เขาควบคุมข้อมูลมหาศาลในมือ ปัจจุบันผมใช้ Gmail สำหรับทำงาน ผมได้ใช้งานเอกสารออนไล์ที่ทุกคนสามารถเปิดอ่านมันได้ ผมสามารถประชุมทางไกลผ่าน Hang out ได้ หลายวันก่อน Youtube พยายามจะให้ผมเซ็ต Profile ของผมมาเชือมต่อกับ Google+ ผมสามารถ login account google ของผมที่ Chrome เครื่องไหนก็ได้ และสามารถดึงข้อมูลของผมที่จดจำไว้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมต้องใช้ ผมสามารถพัฒนางานเว็บไซต์โดยใช้ Chrome เป็นเครื่องมือที่ดูเหมือนว่าจะดีที่ในขณะนี้ ผมยังใช้งาน Google Analytic เพื่อทำงานด้านสถิติให้ลูกค้า ผมสามารถใช้ Google ค้นหาสิ่งที่ผมต้องการ ผมนึกไม่ออกแล้วว่ายังมีอะไรอีกบ้างพิมพ์ๆไปเท่าทีคิดออก
ผมว่านี่มันคือการวางรากฐานที่แยบยล ผู้ชนะคือผู้ที่เขียนประวัติศาสตร์ ผู้ที่กุมข้อมูลทุกอย่างภายในโลกคือผู้ที่กำหนดอนาคตของโลก ผมคิดแบบนั้น
+1
วันนี้เพิ่งชวนอาจารย์ลองใช้ Hangout หลังจากที่อาจารย์พยายามใช้ GTalk เข้ามาประชุมด้วย อาจารย์นึกว่ามันอันเดียวกันแล้วก็บ่นว่าทำไมคุยพร้อมกันหลายคนไม่ได้
พอผมเปลี่ยนให้เป็น Hangout เท่านั้นแหละ ติดใจกันทั้งอาจารย์ทั้งลูกศิษย์ ชอบกันใหญ่ ถึงขนาดบอกว่าคราวหลังไม่นัดที่มหาลัยละ ประชุมจากบ้านใครบ้านมันเลยละกัน!!
ไม่เถียงว่า Skype ก็ไม่ธรรมดา แต่ Hangout มันเหนือกว่าที่มันเป็นบริการของกูเกิล ซึ่งหมายความว่ามันเกือบจะกลมกลืนไปกับทุกอย่าง เพียงแค่คุณมี Gmail คุณไม่ต้องติดตั้งอะไรซักอย่างก็ใช้ได้แล้ว ที่เหลือขอให้ใช้เป็นและใช้ฟังก์ชันมันให้ครบเท่านั้นเอง อ้อ แถมเล่นจากมือถือ Android ก็ยังได้
Microsoft คงจะอีกซักพักใหญ่ ๆ กว่ารวมได้เป็นหนึ่งเดียว ส่วน facebook ผมเดาว่ามันอาจจะถึงจุดอิ่มตัวในไม่กี่ปีนี้แหละ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
Skype ก็เข้าผ่าน Microsoft Account ได้ไม่ใช่เหรอครับ
ปล.บนแอนดรอยด์มี Skype แต่ Windows Phone ไม่มี Hangout นะครับ
มึนถึงเป็นเหตุผลที่ android ขายดีกว่า windows phone ไงฮะ ;P
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
เอ อันนี้ผมเพิ่งรู้นะครับ ขอบคุณมากครับ มีคนถามผมหลายคนละว่าใช้บัญชี msn เข้าได้มั้ย?
แต่ประเด็นยังอยู่ที่ Microsoft ยังรวมบริการไม่สนิทดีครับ Google "เนียน" กว่าเห็น ๆ เวลาเข้า Gmail ทุกอย่างที่ว่ามันอยู่แถบด้านบนหมดเลย และกำลังปรับปรุงให้เนียนขึ้นเรื่อย ๆ
ถ้าพูดเฉพาะ Hangout ที่ผมพูดถึง ฟังก์ชันมันเทพมาก เล่นพร้อมกันได้หลายคน (ช่วงปีก่อนโน้น skype เคยจำกัดไว้แค่ 5 คน ตอนนี้เท่าไหร่แล้วครับ? ผมไม่ได้เล่นนานจัด) แชร์หน้าจอได้ มีฟังก์ชันเสริมเพียบ เช่นใส่เสียง แต่งหน้าแบบสด ๆ และที่บอกว่าเนียนคือต่อกับ Google Drive ลากมาแชร์ไฟล์กันตรงนั้นได้เลย (ผมเข้าใจว่า Skype ยังไม่มี SkyDrive นะ และคงจะอีกนาน)
แถมยังมีแอพเสริมได้อีก ผมว่าตรงนี้ Google ไปไกลฉุดไม่อยู่แล้ว เหลือแค่รอให้มันฮิตติดลมบนเท่านั้นแหละ ซึ่งไม่น่ายากถ้าราคาพวกเน็ตโดยเฉพาะ 3G 4G มันถูกและครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น เดี๋ยวเราจะเห็นพวกวัยรุ่น Hangout กันเป็นว่าเล่นแน่นอน
ส่วน ป.ล. นั่นสิ อันนั้นคงเป็นจุดอ่อนหนึ่ง ซึ่งผมว่า Google ก็คงรู้ตัวอยู่ และถ้าพัฒนามาถึงจุดหนึ่งที่เริ่มมีคนใช้เยอะแล้ว ผมเดาว่าเดี๋ยวเขาก็คงออกแอพมา ไม่น่ายาก เผลอ ๆ ง่ายกว่า Skype อีกนะครับ เพราะ Skype ต้องทำแอบทุกแพลตฟอร์ม แต่ Hangout ไม่มีปัญหากับ PC เพราะเล่นผ่านเว็บได้ ดังนั้นทำแอพแค่บน OS ของมือถือไม่กี่ OS เอง
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
แนะนำให้อ่านที่มาจริงๆครับ ต้นฉบับมันส์มาก
พูดซะขนาดนี้ จัดไปอย่าให้เสียครับงั้น 555
คนนี่ป่าวที่เคยเป็นบอร์ดใน Apple ด้วยตอนจะเปิดตัว iphone ครั้งแรก
นั่น Eric Schmidt มั้งครับ
คนนี้เค้าเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Google ตั้งแต่ Apple ยังไม่มี ipod เลยครับ
ผมจำสลับกันนี่เอง
"ปี 2005... ระบบปฏิบัติการมือถือยี่ห้ออื่นๆ ในขณะนั้นแย่มาก การซื้อ Android จึงไม่ใช่เรื่องเสี่ยงเลย"
ปี 2013... การซื้อ Windows Phone มันจะเสี่ยงมั้ยนะ?
ผมว่าเขาพูดถึงเรื่องการซื้อ บ.android เข้ามาน่ะครับ
วิสัยทัศน์ของ Google เหนือชั้นกว่าฝั่ง Apple มาก
คงต้องไปอ่านฉบับจริงแล้ว แต่ฉบับนี้รู้สึกว่า ว่าคู่แข่งทุกคน และตัวเองทำสิ่งที่ถูกต้องอยู่คนเดียว
ไม่เถียงว่า Google เก่งมาก แต่หลังๆ ช่างจะเป็นปีศาจมากไปทุกทีจนอยากเลิกใช้ผลิตภัณฑ์เหมือนกัน แต่เลิกไม่ได้ไง ยังไงก็ต้องใช้
ตอนนี้กูเกิ้ลรู้จักเราดีกว่าพ่อแม่อีกมั้ง และรู้จักคนทั้งโลกด้วย น่ากลัวมา
ผมคิดว่า เขาก็แค่พูด (และทำ) ในสิ่งที่เขาเชื่อว่าถูกต้องแค่นั้นล่ะครับ อย่าไปซีเรียสมาก ถ้าจะให้สัมภาษณ์ว่าตัวเองไอ้โน่นผิด ไอ้นี่ผิด มันก็แปลก ๆ ใช่มั้ยครับ ?
ผมว่า msn ก็พัฒนาเรื่อยๆนะครับ แต่พลาดท่าเรื่อง social network ถ้าทำมาไวๆหน่อยอาจแข่งกับเฟซบุ๊คได้เลยเพราะฐานผู้ใช้งานก็มีอยู่แล้ว แต่นี่กว่าจะทำมาโดนเฟซบุ๊คทำ Instant Messeging ดูดผู้ใช้งานไปหมด
ส่วนตัวคิดว่า IM ยังไง msn ก็ยังใช้งานได้ดีกว่า ผมชอบฟีเจอร์ที่สามารถดูรูปและวีดีโอไปพร้อมกันได้ เสียแต่ว่าไม่ค่อยมีคนออนแล้วเดี๋ยวนี้
ผมว่า msn พลาดตรงยิ่งอัพเดทแอพยิ่งห่วย แล้วเป็นช่วงที่ตัวเลือกอื่นเริ่มมีเข้ามากันด้วย
ทำมาก่อนแล้วครับ แต่ห่วย และก็ปรับตัวช้าตาม M$ Style
ผมยังจำวันที่ผมนั่งศึกษา CSS เพื่อแต่ง MSN Blog 1 อาทิตย์ได้
Google ยังมีครบทั้ง Sergey Brin, Larry Page และ Eric Schmidt ในขณะที่ Microsoft ไม่มี Bill Gates ส่วน Apple ก็ไม่มี Steve Jobs
มองแค่นี้ Google ก็ได้เปรียบมากแล้ว ส่วน Facebook ยังไงก็ไม่ได้ปะทะตรงๆซะทีเดียว
"[Facebook] they’re also doing a really bad job on their products" หันกลับมามอง Google+ หืม ...
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com