ที่งาน South by Southwest (SXSW) ปีนี้กูเกิลส่ง Timothy Jordan พนักงานฝ่ายสนับสนุนนักพัฒนา (Developer Advocate) มาเล่าถึง API ของ Google Glass ที่แม้ตอนนี้จะยังไม่มีขายโดยทั่วไปก็ตาม
API สำหรับ Google Glass นั้นมีชื่อว่า Mirror API เป็น API สำหรับเพิ่มเมนูเข้าไปในหน้าจอของ Glass โดยที่ทุกอย่างต้องทำผ่านเซิร์ฟเวอร์ของกูเกิลผ่านทางการยืนยันสิทธิ์ด้วย OAuth 2.0 เท่านั้น และเมื่อผู้ใช้มีการโต้ตอบกลับมายังแอพพลิเคชั่นของเรา เช่น การกด Like รูปภาพที่เราแสดงขึ้นไป เซิร์ฟเวอร์กูเกิลจะส่ง Callback กลับมายังเซิร์ฟเวอร์ของเรา
ด้วยกระบวนการเช่นนี้ การพัฒนาการใช้งานของ Glass จะไม่ใช่การสร้างแอพพลิเคชั่นไปรันบนเครื่องเหมือนกับแอนดรอยด์ แต่เป็นการส่งเนื้อหา เช่น หัวข้อข่าวล่าสุด ขึ้นไปแสดง และเมื่อผู้ใช้ต้องการเนื้อข่าว ข้อความขนาดยาวในเนื้อข่าวอาจจะระบุให้อ่านให้ผู้ใช้ฟังผ่านระบบ text-to-speech ของ Glass เอง และเมื่อผู้ใช้ต้องการโต้ตอบกับเนื้อหาเช่นคอมเมนต์หรือกด Like ก็สามารถวางเมนูย่อยๆ สำหรับเนื้อหาแต่ละอันลงไปได้
API ทั้งหมดนี้ยังอยู่ในระดับเบื้องต้นมากๆ และมีความเป็นไปได้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกหลายครั้งก่อนการจำหน่ายจริง
ถ้าเรากลัวว่าแอนดรอยด์จะทำให้กูเกิลรู้ว่าเราลงแอพพลิเคชั่นใดบ้าง งานนี้สำหรับ Glass กูเกิลจะรู้ว่าเราทำอะไรกับบริการใดบ้างทุกกระบวนการเลยทีเดียว
ที่มา - YouTube - Google Developers
Comments
ต้องต่อเน็ตตลอดเวลาสินะ สินะ สินะ สินะ สินะ
อยากให้มีแอป ที่ใช้แบบไม่ต้องต่อเน็ต
Line ก็ต้องต่อเน็ตตลอดเวลานะครับ :D
//me จะบอกทำไม = =
จะเข้าเว็บ Blognone ก็ต้องต่อเน็ตนะครับ :X
//me จะบอกทำไม - -
อย่างนี้ใช้แอพส่องชุดชั้นในหรือดูหนังโป๊เขาก็รู้หมดสิ T^T
Google ก็เอาข้อมูลไปขายบริษัทหนังโป๊ว่ารสนิยมผู้บริโภคปัจจุบันเป็นอย่างไร ชอบจ้องตรงไหนของหน้าจอ
ตอนเปิดตัวแรกๆ ได้ข่าวว่าผู้ผลิตหนังโป๊สนใจมากนะครับ แต่ถ้าต้องต่อเน็ตตลอดแบบนี้ไม่รู้ว่าทางผู้ผลิตจะเปลี่ยนใจมั้ย
[ทะเล] OAuth 2.0 <---- เห็นชื่อนี้รู้สึกเกลียดเข้ากระดูกดำ
ทำไม google ให้ความสำคัญกับประเทศไทยบ้างอะครับ -,,-
-> ทำไม Google ไม่ให้ความสำคัญกับประเทศไทยบ้างอะครับ
ตกคำเดียว ความหมายเปลี่ยนไปหลายโยชน์
คลื่นมือถือกวนคลื่นสมองน่าดูแบบนี้ จ่อตลอด
โปรดอ่านด้วยวิญญาณ ขณะปั่นจักรยาน และมีพุงยานๆ และต้องมีพยาน
ลดความเป็นส่วนตัวทั้งเจ้าของและบุคคลรอบข้าง
ตอนออกขายจริงผมว่าต้องมีกระแสที่คนจำนวนหนึ่งมองกลุ่มบุคคลที่ใช้แว่นอันนี้ว่าเป็นที่ไม่น่าไว้ใจหรือขนาดน่ารังเกียจกันเลย
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
ถ้าเปนเมืองไทยคงไม่มีใครสนใจหรอกครับ
Destination host unreachable!!!
แต่ถ้ามีคนประโคมข่าวก็ไม่แน่นะครับ...
Dream high, work hard.
หมายความว่าต้อง LTE เท่านั้นสินะ...
เรื่องความเป็นส่วนตัวถ้ากังวลก็อย่าซื้อใช้จบนี่ครับ ทำไมต้องมีคนคิดร้องเรียนอะไรกันด้วยเพราะของมันก็ไม่ได้จำเป็นมาก
แล้วถ้าอยากใช้แต่ไม่อยาก always-on ล่ะครับ?
ก็จะได้แว่นตายี่ห้อ google ไงล่ะครับ ;p
จริงๆ อยากได้กล้องติดแว่นของกูเกิลอ่ะครับ แต่ผมเดาว่า storage มันน่าจะยัดลงแว่นไม่ได้ จึงต้อง always on ครับ แล้วก็คงเป็นส่วนของ voice recognization ด้วยแหละ
ประเด็นในข่าวคือหากใช้ Glass "ทุกอย่าง" ต้องเปิดให้กูเกิลรับรู้ครับ
เราเปิดเผยข้อมูลบางส่วนกับผู้ให้บริการอยู่เป็นเรื่องปกติ แต่อย่างโทรศัพท์มือถือเราสามารถเลือกผู้ให้บริการรายอื่น (เช่น Chat ผ่าน LINE) ทำให้ไม่มีผู้ให้บริการใดรู้ข้อมูลทั้งหมดในรายเดียว
ผมยังไม่เห็นใครคิดร้องเรียนอะไรนะครับ แต่การใช้อุปกรณ์ที่มีผลต่อความเป็นส่วนตัวสูงคนใช้ควรรู้ว่ากำลังเปิดเผยข้อมูลให้ใครบ้างครับ ก็ศึกษา รู้ข้อจำกัดและเงื่อนไข ที่เหลือตัดสินใจกันเอง
lewcpe.com, @wasonliw
เวลาใส่ Google Glass คนรอบๆ เค้าจะมองว่าเราเป็นพวกโรคจิตหรือเปล่าครับ
เท่ดี